เรียบเรียงโอวาท (15:26)
ทุกวันเบื่อกันหรือเปล่าเนี่ย หลวงพ่อยังไม่เบื่อที่จะเล่าเลย แต่ว่าฟังๆดูเหมือนหลวงพ่อยกย่องยายเกินไปนะ นี่หลวงพ่อยังไม่ได้พูดถึงจุดที่เป็นยายอย่างแท้จริงนะ อ้ายที่พูดๆมาก็ผิวๆเผินๆอะไรกันไป ลองประเมินผลดูว่า ฟังยายแล้วจะรู้สึกยังไงกันบ้าง ถ้าพูดถึงจุดของความเป็นยายนะ ถ้าถึงจุดตรงนั้นนะ เราจะอัศจรรย์ถึงมนุษย์คนหนึ่ง ที่ไม่รู้หนังสือ เดินทางไกลมาจากท้องไร่ท้องนา ได้ทิ้งสมบัติพัสถาน ที่พอจะเลี้ยงชีวิตตัวเองได้ ด้วยความไม่เป็นหนี้ มีชีวิตอย่างสะดวกสบาย แต่มายอมตนเป็นคนรับใช้ เพื่อที่จะให้เป็นสะพานทอดข้ามมาถึงพระเดชพระคุณหลวงปู่ ผู้ค้นพบวิชชา เพื่อจะได้ศึกษาวิชาธรรมกาย และจะได้ไปตามไปหาพ่อ พบพ่อแล้วช่วยท่านได้ และก็อุทิศชีวิต ศึกษาวิชชาธรรมกาย ทั้งศึกษาด้วยทั้งสั่งสอนด้วย จนกระทั่งหมดอายุขัย และก่อนหมดอายุขัยก็ไปสร้างวัดๆหนึ่งสร้างวัดให้เป็นวัด สร้างพระให้เป็นพระขึ้นมา แล้วก็วางระเบียบแบบแผนเอาไว้ ก่อนจะเดินทางกลับดุสิตบุรี ก็ไม่ใช่เรื่องธรรมดานะ
สำหรับผู้ที่ไม่รู้หนังสือ ทำภารกิจได้ถึงขนาดนี้ ไม่ธรรมดา ที่รู้หนังสือมากกว่าท่านตั้งเยอะแยะยังทำไม่ถึงท่านเลย ก่อนท่านละสังขารก็บวชพระตั้งเยอะ แม้ละสังขารไปแล้วเนี่ย การจัดงานของท่านในการที่ประชุมเพลิงหรือถวายเพลิงได้รับเกียรติจากพระมหาเถรานุเถระ พระสังฆาธิการทั่วประเทศถึง 3 หมื่นกว่าวัดทั่วประเทศ เป็นการชุมนุมของคณะสงฆ์ที่ยิ่งใหญ่ อย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย ยากนะ
ลองนึกทบทวนเป็นคนจากคนไม่รู้หนังสือมา ถ้ามาจากฐานะที่มั่งคั่ง สมบูรณ์พร้อมทุกอย่าง มีปริญญาบัตรเรียงกันเยอะแยะหลายใบ คนนับหน้าถือตา หลวงพ่อว่าก็น่าชื่นชมแต่ว่ามันยังง่ายกว่าที่แบบของคุณยาย ดูท่านได้รับความรักความเคารพนับถือจากลูกหลานท่าน ศิษยานุศิษย์ ดูเรือนทองของท่านซิ หลายชั้นทีเดียวนะ ร่างของท่านเนี่ย ห่อหุ้มด้วย พันผ้าเนี่ย เอาน้ำหอม ผ้าสลับสำลี ผ้าสำลีๆๆ ม้วน 43 ชั้น พอดีหมดผ้า มันหมดพอดี ไม่ได้ตั้งใจให้ไปลง 43 แล้วก็น้ำหอมตลบ นอนอยู่ในเรือนทอง ข้างในก็เป็นเรือนไม้สัก ถัดมาก็เป็นเงิน แล้วก็เป็นทองคำ ยังไม่พอลูกหลานท่านยังทำ ผ้าอะไรนะ มหาสุวรรณรัตนภูษาทองคำประดับด้วยเพชรพลอยคลุมร่าง คลุมเรือนทอง อัญเชิญไปอย่างนี้หลังจากสลายร่างท่านแล้ว รัตนอัฐิธาตุของท่าน เป็นไง มันน่าอัศจรรย์จริงๆนะ ยิ่งหลวงพ่อเห็นกับตา จะๆก่อนคนอื่น ก็ไม่ได้ไปแตะต้องอะไรเลย เปิดฝามา โอ้ มีแต่เถ้าคนเฒ่าธรรมดา ขี้เถ้า อัฐิก็ธรรมดา ดูก็ธรรมดา
บอกยาย รำพึงอยู่ต่อหน้าอัฐินะ ที่ครูบาอาจารย์อื่นของเขาเนี่ย ของเขายังมี ธาตุเป็นก้อน เป็นอะไรต่างๆ ดูแล้วน่าเลื่อมใส ถึงไม่เป็นหมดก็ยังเป็นบางชิ้น แต่เพิ่งมาทราบภายหลังว่านานๆเป็นที แต่ต้องใช้เวลาหลายปีเหมือนกันกว่าจะเป็น เป็นบางชิ้น บางองค์ท่านก็เป็นแก้วก็มีนะ แล้วยายเป็นธรรมดาอย่างนี้ได้อย่างไร อื้อหือ ต่อหน้าเลย ทองคำขึ้นนะ ขึ้นมันไม่ใช่พรึบเป็นทองคำอย่างนี้นะ ค่อยๆก่อตัวทีละน้อย ต่อหน้าต่อตาอย่างนี้แหละ ต่อๆๆๆๆ ดูจนจุใจ ไม่พรึบเนี่ยไม่ถูกใจ เดี๋ยวจะไปรำพึงกับยาย เป็นเร็วจัง ไม่ได้อีก ต้องมีท่าหน่อยใช่ไม๊ ท่านก็รู้อัธยาศัยมั๊ง ให้ค่อยๆดูจนจุใจ บางชิ้นที่เป็นเกล็ดเหมือนเกล็ดเพชรนะ ก็ค่อยๆเปลี่ยนๆๆๆ พรึบ ทั้งชิ้นเลย ที่เป็นทองคำ ตอนแรกมันเป็นแผ่นบางๆของขี้เถ้านะ นึกถึงขี้เถ้าบางๆ เหมือนกระดาษได้ไหมจ๊ะ ตรงนี้น่าทึ่งจริงเทียว ต่อหน้าต่อตาเลยนะ ค่อยๆเป็นทองครึ่งแผ่นแต่อีกครึ่งเป็นเถ้า
เพื่อให้ชัวร์ว่าใช่ เดี๋ยวไปเอาแผ่นทองเปลวอะไรมาใส่อะไรอย่างนั้นไง คือท่านรู้ว่าหลวงพ่อเป็นคนขี้สงสัย เพราะซักเรื่อย อยู่กับท่านซักทุกวัน เจอเป็นถามๆ แต่ท่านไม่หนี แล้วก็ไม่เบื่อ ไม่รำคาญ เพราะฉะนั้นเถ้าของท่านจะค่อยๆกลาย สามในสี่ส่วนมั่ง ครึ่งหนึ่งมั่ง และก็เหลือไว้นิดหนึ่งให้หายสงสัย และก็บางชิ้นก็เป็นพรึบหมด ตอนหลังท่านเป็นหมดนะ เป็นทองก็เยอะ บางชิ้นเป็นทับทิม ค่อยๆขึ้นนะ เป็นทับทิมเลยล่ะ แหมถ้าใสซักหน่อยก็ดีนะ จะได้เอามาเจียระไน ท่านก็คงรู้ เลยเป็นอัฐิอย่างนั้นแหละ แต่ก็เป็นทับทิม เอ้อ เป็นรัตนชาติได้ น่าอัศจรรย์ ตอนหลังก็ค่อยๆพรึบหมด ทุกๆโถเลย แล้วก็ทิ้งไว้ก็หลายเดือน หลังจากอัญเชิญมาให้พวกเราดูแล้วเนี่ย ก็เอาไปเก็บไว้ นึกว่ายายให้ดูแล้วคงคืนเหมือนเดิม ก็เปิดไปดู เอ้า ยังไม่คืน กลับเพิ่มขึ้น เพิ่มไปเรื่อยๆ
แปลกอยู่อย่างอัฐิธาตุของท่าน ข้างในนี่นะ เราไม่ได้เอาอะไรไปคุ้ย ไม่อยากถูกต้องอะไรท่าน ที่คุ้ยมีแต่หลวงพ่อทัตตะชีโวนี่แหละ แหมเอาคีมคีบ หลวงพ่อยังไม่กล้าเลย ได้แต่ดูไม่แตะ ถ้าเราสงสัย อย่างหลวงพ่อสงสัย ยายมักจะทำให้หลวงพ่อหายสงสัย ตั้งแต่ท่านมีชีวิตอยู่ ตั้งแต่ตอบคำถาม หรือทักเรา พูดก่อน ตั้งแต่ก่อนที่เราจะไปถามท่าน จนกระทั่งเป็นเถ้าแล้วเนี่ย ท่านก็ยังทำลายความสังสัยของหลวงพ่อเลย เอ๊ะอ้ายตรงกลาง เพราะเราเข้าไปไม่ถึงใช่ไหม ไม่อยากเอาอะไรไปถูก อยากจะรู้ว่ามันเป็นเฉพาะข้างนอก ข้างในเป็นไหม เท่านั้นแหละออกมาเลยข้างนอกผลุบข้างใน ข้างในออกมาข้างนอก อย่างนี้จะเรียกว่าอะไร โดยเราก็ไม่ได้ไปถูกอะไร ก็ต่อหน้าต่อตา ไม่ใช่ลับหลังเป็น เป็นต่อหน้าอย่างนี้ กับหลวงพ่อเรื่องอะไรที่ทำให้หลวงพ่อไม่สบายใจไม่ทำ แต่เรื่องอะไรที่ทำให้หลวงพ่อสบายใจทำ เช่นขจัดความสงสัยที่มีอยู่ในใจ เรื่องทุกๆเรื่อง เรื่องภพเรื่องชาติ วิชชาธรรมกายเรื่องอะไรต่างๆเหล่านั้น เพราะฉะนั้นเรื่องอะไรต่างๆ ยังไม่ได้เล่าถึงจุดที่ เป็นจริงของยาย แม้กระทั่งวันนี้ก็ยังไม่ใช่ แค่ยังเป็นผิวๆ จะรู้จักความเป็นจริงของยายก็ต่อเมื่อ เราได้ศึกษาวิชชาธรรมกายกับท่านนั่นแหละ หือทำไมนั่งได้ เป็นปีๆหลายๆปี โดยไม่มีเบื่อหน่ายกลับยิ่งชอบ ยิ่งสนุกสนานนั่งตัวตรง ดิ่งไปเลยนี่ เวลาคุยกับท่านเรื่องนี้ทีไรล่ะก็ หลวงพ่อจะลืมวันลืมคืนแม้กระทั่ง ท่านป่วยหลวงพ่อยังลืมว่าท่านป่วยเลย
โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่)