ชาวลับแล 07/10/53

เรียบเรียงโอวาท (21.51)

ลับแลแปลว่ามีชาวลับแลอยู่ที่นั่นน่ะ ชาวลับแลก็เป็นมนุษย์อย่างนี้ แต่ว่าเขามีศีลมีธรรมอย่างเคร่งครัด

ที่มีครอบครัวก็มี ไม่มีก็มี มันกึ่งนักบวชอะไรอย่างนี้เนี่ยนะ เขาจะมีศีลมีธรรม เพราะฉะนั้นตัวเขาจะหอม เขาจะไม่อยากเข้าใกล้มนุษย์ ที่ไม่ค่อยมีศีลมีธรรม เพราะว่าไม่มีความหอมของกลิ่นศีลกลิ่นธรรมเลย

อยู่รวมกันเป็นขอบเขต ยิ่งห่างๆผู้คนเท่าไรยิ่งดี จะเป็นหมู่บ้านนะ มีศีลมีธรรมมีศีล 5 ศีล 8 อย่างนี้แหละ เขาจะอยู่กันเป็นชุมชน รักการปฏิบัติธรรมแล้วก็เพราะมีศีลมีธรรมจึงมีอานุภาพที่แตกต่างจากมนุษย์ทั่วไป

อาหารก็จะเป็นผักผลไม้ จิ้มพริกเกลือ ข้าวจิ้มพริกเกลือ แล้วแต่ละภูมิภาค ที่แต่งงานก็จะรักเดียวนะ ผัวเดียวเมียเดียว แต่จะแบบกึ่งนักบวช แบบผู้มีศีลมีธรรม

เวลาเขาเดินทางในป่า เขาอยากจะอยู่ห่างไกลจากมนุษย์นี่นะ ก็จะมีช่องทางสำหรับเขาที่ไปได้ มนุษย์ไปไม่ได้ ยกเว้น เขาพิสูจน์แล้วว่ามีศีลมีธรรมและยินดี

เขาก็มีหัวหน้าหมู่บ้าน แต่งตัวเหมือนชาวบ้านๆ นี่แหละ อยู่กันเป็นชุมชน ในสังคมของเขา แล้วก็ต่างคนต่างปลูกผักผลไม้ไปอย่างนี้นะ แข็งแรง อายุยืน

เวลาเดินทางในป่า ต้นไม้มันจะหลีกทางให้เป็นหนทางเดิน พอเดินผ่านพ้น ต้นไม้จะกลับไปที่เดิม นึกออกไม๊

แข็งแรงอายุยืน หน้าตาสดใส แล้วก็จะมีพระผู้ทรงคุณธรรมคุณวิเศษไปโปรด เป็นเนื้อนาบุญ ก็จะมีวัดวาอารามให้ หรือไม่ก็เป็นถ้ำ ต้อนรับพระผู้ทรงคุณธรรมคุณวิเศษที่อายุยืนมากๆ ล้วนแล้วแต่ได้ผ่านการฟังธรรมจากพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างน้อยก็พระองค์นี้ แปลว่าที่ยังอยู่นี้อายุอย่างน้อยก็…

แต่อายุของท่านก็ราวๆ 20 3 รอบ ก็จะไปเข้าวัดฟังธรรมปฏิบัติธรรมและบำเพ็ญบุญ เป็นปกติ อย่างพรุ่งนี้วันพระ เข้าวัดฟังธรรมปฏิบัติธรรมบำเพ็ญ ถืออุโบสถศีล เพราะฉะนั้นเราสามารถปฏิบัติตามแบบชาวลับแลได้

อย่างวันนี้วันพระแรม 15 ค่ำเดือน 10 ถือศีออุโบสถศีล ถือศีล 8 เคร่งครัดทีเดียว จนกว่ากลิ่นศีลกลิ่นธรรมมันจะออกนี่นะ เวลาอารมณ์ดีแล้วปฏิบัติธรรมเนี่ย แสงมันจะพุ่ง แตกตัว ซึ่งเขาเห็น เขาก็จะอนุโมทนาสาธุการ

23 กันยายน พุทธศักราช 2553 ก็มาร่วมพิธีด้วย แต่ยืนอยู่ห่างๆ แถวๆมหารัตนวิหารคต ผู้ที่รู้จักกับชาวลับแลเขาเล่าให้ครูไม่ใหญ่ฟัง เอาแต่หัวหน้าหมู่บ้านมา นี่นะ อีกหน่อยเราจะมา joint กัน ถ้าเรามีศีลมีธรรม จะได้ joint กันได้ เขาแต่งตัวเป็นชาวบ้านๆ นี่แหละ

ถ้าเดินทางไกลแว๊ปไปเลย ถ้าเดินทางใกล้ อย่างที่เล่าใหฟัง สิ่งกีดขวางก็จะแหวกเอง แล้วปิดเอง

อำเภอลับแลที่ไม่ไกลจากเมืองมาก ใช้เวลาเดินทางแค่ 20 นาที
แต่ชาวลับแลที่มาเนี่ย เป็นชุมชนที่ห่างไกลจาก ที่ประกอบพิธีกรรมแค่ ประมาณถ้ารถวิ่งก็ 2 ชั่วโมง และก็ท่านมากับพุทธบุตรรูปหนึ่ง เป็นชาวจังหวัดสุพรรณ แต่ว่าหน้าคล้ายพม่า เพราะท่านอยู่มานานแล้ว ท่านชอบอยู่ที่สุพรรณ เพราะว่าก่อนหน้านี้ ยุคนั้นนะ จังหวัดสุพรรณนี่รื่นรม แล้วก็ท่านก็บำเพ็ญ แต่เดิมท่านก็เป็นคนธรรมดานี่แหละ ต่อมามีศรัทธาบวช และก็ตั้งความปรารถนา ด้วยการปฎิบัติธรรม เนื่องจากได้ไปพบ พระผู้ทรงคุณธรรมคุณวิเศษ อยากเป็นอย่างนั้นบ้าง สั่งสมไปเรื่อยๆ จนกระทั่งก่อนจะเป็น ได้เคยมาอยู่จังหวัดสุพรรณบุรี ในยุคโน้นนะ แต่ท่านเป็นชาวพม่า

ท่านเห็นเรา แต่ไม่อยากให้เราเห็นท่าน นี่เนาะ ดีนะ สักวันหนึ่ง ถ้าเราได้ถวายมหาทาน กราบอาราธนาท่านมาเป็นเนื้อนาบุญ

ขอขยายความนิดหนึ่ง ชาวลับแลไม่ใช่ภุมเทวา ก็เป็นมนุษย์อย่างเรานี่แหละ แต่เพราะความมีศีลมีธรรม จึงทำให้กายของเขากึ่งหยาบกึ่งละเอียด มาปนอยู่มนุษย์ ให้เห็นก็ได้ ไม่เห็นก็ได้ บางทีชื่อก็เรียกบังบด คือบดบังไม่ให้ใครเห็น เพราะกายมนุษย์เหม็นมาก เพราะว่าไม่มีศีลมีธรรม มีศีลมีธรรม แต่ไม่ได้เอามาใช้ นี่นะ เมื่อใจไม่หอม กายก็เลยเหม็นมาก เพราะฉะนั้นเขาก็เลยออกห่างมนุษย์ให้มากที่สุด ยิ่งป่าลึก ชุมชนยิ่ง(ขยาย) ใหญ่ๆ

เวลาพระออกธุดงค์ มีศีลมีธรรมนี่นะ จะเจอชาวบ้าน ก็จะเอะ ทำไมอยู่ป่าลึกอย่างนี้นะ มาใส่บาตรก็มี เทวดามาใส่บาตรก็มี ชาวลับแล บังบดก็มี เราต้องแยกให้ออกหนา ถ้าเราอยากจะเจอเขา เราต้องเป็นคนมีศีลมีธรรม อย่างน้อย ศีล 5 ศีล 8

ศีลก็เป็นปกติของมนุษย์ ที่ไม่ยอมแพ้กิเลส แม้มีกิเลสอยู่แต่ไม่ยอมแพ้ ก็จะเว้นจากสิ่งเหล่านี้ได้ เว้นจากการฆ่าสัตว์หรือมนุษย์ เว้นจากการลักทรัพย์ ฉ้อฉลอะไรต่างๆ ด้วยวิธีการต่างๆ เว้นจากการประพฤติผิดในกาม เว้นจากการพูดปด เขาจะซื่อๆใสๆนะ พูดตรงไปตรงมา คือปากกับใจนี่นะ ตรงกัน

แล้วเวลาพระมหาเถระ ท่านจะชอบเข้าไปชุมชนชาวบังบด หรือลับแล ๑ไปเป็นเนื้อนาบุญ ๒ สิ่งแวดล้อมนี่สัปปายะมาก

พวกเขาจะเป็นคนเรียบง่าย ชอบพุทธบุตรที่เป็นพระแท้ ฝึกตน ทนหิว บำเพ็ญตบะ เป็นพระแท้ และบำเพ็ญสมณธรรม เขาจะเข้าใกล้ เพราะแสงรัศมีแห่งธรรม ของพุทธบุตรนั้น ที่ประพฤติธรรมจะสว่่าง ซึ่งเขาเข้าใกล้แล้วจะม่วนอกม่วนใจ๋ เย็นอกเย็นใจ แล้วอยากทำบุญ อยากอุปัฐฐากพระ อยากปฎิบัติธรรม อยากฟังธรรม เรียบง่ายในระดับที่ อาหารก็เป็นอาหารฤาษี พืชผักผลไม้ จิ้มพริกกับเกลือ ข้าวก็จิ้มพริกกับเกลือ คือไม่มีอาหารเหลือเฟือ ที่ฟุ้งเฟ้อ

โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่)

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *