วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ สถานที่ทำวิชชาสู้รบกับพญามาร

วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ สถานที่ทำวิชชาสู้รบกับพญามาร
พระเดชพระคุณหลวงปู่ พระผู้ปราบมาร เมื่อมาเป็นเจ้าอาวาสปกครองวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ท่านก็เป็นทั้งครูและนักเรียน
เป็นครู คือ สอนสมาธิไปด้วย ในที่สุดก็มีผู้บรรลุธรรมเข้าถึงธรรมกายเพิ่มขึ้นอีกมาก
เป็นนักเรียน คือ ท่านศึกษาค้นคว้าวิชชาธรรมกายต่อไปด้วย
จนกระทั่งพบเรื่องราวเกี่ยวกับหน้าที่ของท่านและทีมงานของท่าน ที่ท่านจะต้องลงมาเกิด มาทำงานที่สำคัญที่จะมุ่งไปสู่ ที่สุดแห่งธรรม ที่จะไปขจัดต้นตอของกิเลสอาสวะให้หมดสิ้นไป
ตรวจตรามองกันไปเรื่อย ศึกษาไปเรื่อย โดยเข้ากลางของกลางไปตามลำดับ
ในที่สุดก็รวบรวมธาตุธรรมพิเศษที่มาเกิดเพื่อการนี้
ที่จะศึกษาค้นคว้าวิชชาธรรมกาย รวมกันได้เป็นกลุ่มเป็นก้อน ตั้งแต่ท่านอายุได้ ๔๗ ปี
ก็เริ่มที่จะทำสงครามภายใน ซึ่งเป็นสงครามที่แท้จริง
เป็นสงครามที่ไม่ได้ใช้ศาสตราอาวุธยุทโธปกรณ์ ไม่มีการพลัดพราก
มีแต่ความสุขและความบันเทิงทุกขั้นตอนของการทำสงครามที่แท้จริงกับกิเลสอาสวะและพญามารภายใน
ศึกษาค้นคว้ากันเรื่อยไป โดยแบ่งเป็น ๒ กะ
กลางวัน ๖ ชั่วโมง กลางคืน ๖ ชั่วโมง
ค้นคว้ากันเรื่อยไป
จนกระทั่งถึงยุคที่คุณยายอาจารย์ฯ ของเรามีส่วนอย่างสำคัญในการได้เข้าสู่สมรภูมิรบที่แท้จริง
รบกันด้วยธรรมาวุธ ด้วยธรรมกาย ไม่มีการสูญเสียใด ๆ ทั้งสิ้น นอกจากบุญบันเทิง มีความสุขทุกขั้นตอนเรื่อยไป
กระทั่งเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่๒ที่เกิดการรบราฆ่าฟันกันไปทั่วโลก
ท่านก็ศึกษาค้นคว้ากันไปด้วย แก้ไขทุกข์มนุษย์ไปด้วย
ศึกษาไป ค้นคว้าไป แก้ไขไม่ให้มนุษย์รบกันเอง
เพราะว่า มนุษย์ไม่รู้ว่าเกิดมาทำไม อะไรคือเป้าหมายของชีวิต ถูกเขาจับปั่นเหมือนจิ้งหรีดให้กัดกัน
โดยเอากิเลสอาสวะมาบังคับ และบดบังไม่ให้รู้เป้าหมายชีวิตของตัว
ไม่ให้รู้ว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน เป็นพี่เป็นน้องกัน
ไม่ให้รู้เรื่องราวว่าจะต้องมุ่งไปสู่ที่สุดแห่งธรรมด้วยกัน
ให้รบกันไปเองอย่างนั้น
ท่านก็พยายามแก้ไขเหตุในเหตุกันเรื่อยไป โดยทำทั้งกลางวันและกลางคืน
มีทีมงานซึ่งเป็นธาตุธรรมพิเศษอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งอุบาสิกาและพระ-เณร ได้ประกอบวิชชาธรรมกายกัน
คุณยายอาจารย์ฯ ของเรา ท่านก็เป็นหนึ่งในนั้น ท่านเป็นหัวหน้าเวรขาดรู้
ซึ่งจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องเหตุผลที่จะตอบกับพระเดชพระคุณหลวงปู่ที่ซักถามตามหลักวิชชา ทั้งหยาบและละเอียด
หยาบก็ถามเกี่ยวกับเรื่องสงครามโลก ละเอียดก็สงครามภายใน
ก็แก้ไขกันไปจนกระทั่งสงครามโลกสงบลง

คุณยายของเราได้รับการยกย่องจากปากคำของพระเดชพระคุณหลวงปู่ว่า “เป็นหนึ่งไม่มีสอง”
คือสู้อย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพันทีเดียว โดยไม่คำนึงถึงสิ่งใดเลย มุ่งไปสู่ที่สุดอย่างเดียวเท่านั้น
พูดครั้งเดียว… มีพยานที่เป็นหลักฐานหลายท่านรับรองในคำพูดของพระเดชพระคุณหลวงปู่
ซึ่งคุณยายท่านก็รับฟังด้วยใจที่เป็นปกติ
การศึกษาวิชชาธรรมกายเป็นเรื่องที่ละเอียดลึกซึ้ง จิตต้องบริสุทธิ์และ ไม่มีอะไรเหนี่ยวรั้ง ไม่เกาะเกี่ยวกับเรื่องคน สัตว์สิ่งของ จึงจะไปรู้เรื่องราวเหล่านี้ได้
เพราะเรื่องราวเหล่านี้ มันเหลือวิสัย และยากต่อการเข้าใจด้วยวิธีการให้เหตุผลธรรมดา
จะไปหาหลักฐานอ้างอิงหรือจะใช้ความนึกคิดด้นเดาเอานั้นไม่ได้
แล้วมันเป็นสิ่งที่นอกเหนือจากนักการศึกษาพระพุทธศาสนา หรือปราชญ์ทางพระพุทธศาสนาได้ศึกษาค้นคว้า เหมือนใบไม้ในป่าประดู่ลาย
ซึ่งสมัยหนึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านกอบใบไม้มากำมือหนึ่ง
ถามพระภิกษุว่า “ใบไม้ในกำมือกับใบไม้ในป่าประดู่ ส่วนไหนมีมากกว่ากัน”
ภิกษุก็บอกว่า “ใบไม้ในป่าประดู่มีมากกว่าใบไม้ในกำมือ”
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านได้กล่าวเอาไว้ว่า สัพพัญญุตญาณของเรานั้น รู้แจ้งเห็นแจ้งแทงตลอดในสรรพสัตว์และสรรพสิ่งทั้งปวง โดยไม่มีขอบเขตจำกัด
แต่ว่าสิ่งที่เราเอามาสอนเธอนี้เพียงนิดเดียว เพื่อเป็นทางหลุดทางพ้นจากกิเลสอาสวะ จากภพทั้งสาม จากกฎแห่งกรรม เพื่อทำพระนิพพานให้แจ้งเท่านั้น
วิชชาธรรมกายเหมือนใบไม้ในป่าใหญ่ ซึ่งปราชญ์ในทางพระพุทธศาสนานั้นไม่ได้ให้โอกาสกับตัวเองในการศึกษาธรรมปฏิบัติให้ลึกซึ้งขึ้นไป ก็ยากต่อการที่จะเข้าใจ
แม้แต่นักวิชาการพระพุทธศาสนาในระดับโลก เมื่อไม่ได้ให้โอกาสตัวเองศึกษาก็ยากจะเข้าใจสิ่งนี้ได้

เพราะฉะนั้นคำว่า “วิชชาธรรมกาย” จึงรู้กันอยู่ในขอบเขตจำกัดสำหรับธาตุธรรมที่พิเศษ คือ ในโรงงานทำวิชชาเท่านั้น
นอกนั้นก็รู้แต่เพียงว่า ธรรมกาย คือ พระรัตนตรัยภายใน เป็นที่พึ่งที่ระลึก
ไปนรกก็ได้ไปสวรรค์ก็ได้แม้ไปนิพพานก็ยังได้
ไปนรก สวรรค์ ไปจับมือถือแขนสัตว์นรก หรือชาวสวรรค์ได้ ไปพูดจาโต้ตอบกันได้
ญาติ บิดา มารดา ปู่ย่า ตายาย ไปตกนรก พระธรรมกายไปช่วยได้ด้วยอานุภาพพระธรรมกายที่ไม่มีประมาณ
นี้คือสิ่งที่ทุกคน ที่อยู่นอกโรงงานทำวิชชาเข้าใจได้เพียงแค่นี้เท่านั้น
แต่ลึกซึ้งไปกว่านั้นก็รู้กันในขอบเขตจำกัด
จริง ๆ วิชชาธรรมกายนี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ที่จะเอาชนะพญามารได้ ที่จะทำให้สันติสุข และสันติภาพของโลกที่แท้จริงบังเกิดขึ้น
นอกเหนือจากนี้แล้ว สันติภาพของโลกและสันติสุขที่แท้จริงของโลกไม่อาจที่จะเกิดขึ้นได้ไม่ว่าด้วยวิธีการใด ๆ ทั้งสิ้น

สุดท้ายนี้ด้วยบุญที่ทุกคนได้มาพร้อมใจกันประกาศคุณบูชาธรรมพระเดชพระคุณหลวงปู่ พระผู้ปราบมาร ธรรมยาตราเส้นทางพระผู้ปราบมาร ด้วยความเคารพเลื่อมใส
ก็จะทำให้เราได้รับอานิสงส์ให้เกิดในตระกูลสูง จะเป็นผู้ที่ได้รับการเคารพนับถือกราบไหว้ จะเป็นที่ยกย่องของมหาชน เป็นที่รักของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย
กิตติศัพท์อันดีงามของเราจะฟุ้งขจรขจายไปทั่ว
เราจะได้เกิดในร่มเงาพระพุทธศาสนา วิชชาธรรมกาย จะเป็นผู้มีศรัทธาตั้งมั่น เป็นสัมมาทิฐิบุคคล
จะได้มนุษย์สมบัติอันเลิศ ถึงพร้อมทั้งรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ คุณสมบัติ
จะมีสมบัติตักไม่พร่อง สมบัติอัศจรรย์ในภพชาติที่มาบังเกิด
เมื่อมีทรัพย์แล้วก็จะไม่ตระหนี่ จะมีโอกาสได้ทำบุญในบุญเขตอันเยี่ยมกับทักขิไณยบุคคล
จะมีสุคติโลกสวรรค์เป็นที่ไป และก็จะได้บรรลุมรรคผลนิพพานโดยเร็วพลัน

ทบทวนโอวาทเรื่องสถานที่ค้นคว้าและเผยแผ่วิชชาธรรมกาย
วันพฤหัสบดีที่ ๒๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๔
ถ่ายทอดโดยพระครูสังฆรักษ์รังสฤษดิ์ อิทฺธิจินฺตโก
เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย

โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่)
วันที่
ที่มา
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๒๑๗ ประจำเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๔ หน้า 33 จัดทำโดย สำนักสื่อธรรมะ
https://dhamma-media.blogspot.com/2021/01/ynb218.html

1 thought on “วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ สถานที่ทำวิชชาสู้รบกับพญามาร”

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *