วิธีนั่งสมาธิ ง่ายแต่ลึก ต้องฝึกบ่อยๆ ให้ชำนาญ

ง่ายแต่ลึก เล่ม ๓ บทที่ ๑๑ ต้องฝึกบ่อย ๆ ให้ชำนาญ

ตื่นนอนต้องนิ่งไว้ กลางกาย
มั่นศึกษ์วิชช์ธรรมกาย ใฝ่รู้
ยิ่งกว่าท่านกำทราย ให้ได้
จึงจักกรำศึกสู้ ขุดเหง้ารากดำ
ตะวันธรรม

ตั้งใจหลับตาเจริญสมาธิภาวนากันนะ หลับตาของ
เราเบาๆ พอสบายๆ ทำใจให้เบิกบาน แช่มชื่น ให้สะอาดบริสุทธิ์
ผ่องใส แล้วก็เอาใจหยุดนิ่งๆ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ อย่างสบายๆ

จะตรึกนึกถึงดวงใส หรือองค์พระใสๆ ก็ได้ หรือจะวางใจ
เฉยๆ ก็ได้ ให้นิ่งๆ นุ่มๆ ละมุนละไม ให้หยุดในหยุด นิ่งใน
นิ่งลงไปตรงกลางเบาๆ นะ สบายๆ

ขึ้นอยู่กับการฝึกฝน

ฝึกบ่อยๆ ทำบ่อยๆ แล้วอีกหน่อยเราจะคล่อง จะชำนาญ
แล้วใจจะอยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ เป็นส่วนใหญ่ทีเดียว ไม่
ว่าเราจะมีภารกิจอะไรก็ตาม ใจจะไม่ค่อยห่างจากศูนย์กลาง
กาย ส่วนใหญ่จะอยู่

ถ้าคนทำเป็นแล้ว เขาเข้าถึงดวงธรรม ถึงกายภายใน
หรือองค์พระ ทั้งหลับตาลืมตาเขาก็จะเห็นได้ชัดเจนพอๆ กัน

ใหม่ๆ บางท่านลืมตาชัดกว่าหลับตา บางท่านหลับตาชัดกว่า
ลืมตา ฝึกบ่อยๆ มันก็จะชัดทั้งหลับตาและลืมตา คล้ายๆ กับว่า
เรื่องของลูกนัยน์ตาไม่ได้มีปัญหาหรือเป็นอุปสรรคต่อการหยุด
ใจในกลางกาย แล้วยิ่งเข้าถึงพระธรรมกายก็จะชัดใสสว่าง

ก็ต้องอาศัยการฝึกฝน ไม่มีใครเก่งมาก่อน ฝึกเอาทั้ง
นั้น แต่บางคนทำได้ง่ายกว่าบางคน เพราะเขาสั่งสมมาข้าม
ชาติ เขาทำบ่อยๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็ชำนาญกว่าคนที่นานๆ
ทำที ก็เป็นเรื่องปกติธรรมดา เหมือนกับการทำของหยาบนั่น
แหละ ทำ บ่อยๆ ก็ชำนาญ นานๆ ทำ ทีก็ไม่ค่อยคล่อง ไม่ค่อย
ชำนาญ ใจหยุดก็เหมือนกัน ต้องทำบ่อยๆ และที่สำคัญมันมี
ความสำคัญต่อชีวิตของเราเสียด้วย

ถ้าเราปรารถนาที่จะเข้าถึงความสุขที่แท้จริง เราก็ต้อง
ฝึกหยุดใจให้ได้ทุกวัน อยากจะทำใจให้ใสเพื่อเตรียมตัวเอา
ไว้ถ้าหากเกิดอะไรฉุกเฉิน อยากจะได้เรียนรู้ความจริงของ
ชีวิต เรื่องราวต่างๆ ก็ต้องอาศัยทำบ่อยๆ หยุดใจบ่อยๆ ฝึก
กันให้มากๆ

จริงๆ แล้วเราเกิดมาเพื่อการนี้ แต่เรามักให้เวลากับสิ่ง
อื่นมากกว่า สิ่งอื่นยั่วยวนใจเรามากกว่าสิ่งนี้ แต่ความจริงถ้า
เข้าถึงจริงๆ แล้ว เราจะเห็นว่าภายในเป็นเรื่องที่น่าสนใจ น่า
ติดตาม น่าเรียนรู้กว่ามากทีเดียว เพราะฉะนั้นตอนนี้เราฝึก
หยุดไปเรื่อยๆ นะ แม้ว่าอากาศตอนบ่ายจะสู้ตอนเช้าไม่ได้
เราก็ต้องฝึกให้ชำนาญทุกสภาวะอากาศ ฝึกไปเรื่อยๆ หยุด
ในหยุด นิ่งในนิ่งลงไป ให้ใจใสๆ ให้ใจสว่างไสว

อย่าตั้งใจมากเกินไป

ถ้านั่งแล้วมันทึบ มันตื้อ มันแคบ แสดงว่า
เราได้ตั้งใจมากเกินไปแล้ว ได้ไปบังคับใจ หรือ
พยายามทำให้สมาธิมันเกิด ควบคุมมันมากเกิน
ไป อย่างนี้ไม่ถูกหลักวิชชานะ

ถ้าถูกหลักพอวางใจแล้วมันต้องขยาย ต้องกว้าง ไม่
แคบ นิ่งแต่ไม่แคบ นิ่งแล้วต้องขยาย สบาย โล่ง ต้องโปร่ง
โล่งใจ โปร่งใจ จนกระทั่งกลืนไปกับบรรยากาศ แล้วความ
รู้สึกที่ร่างกายก็หมดไป เหมือนกับเราไม่มีตัวตน เหลือแต่ใจ
ที่หยุดกับนิ่ง แล้วก็หยุดในหยุด นิ่งในนิ่งลงไป ทำอย่างนี้ไป
เรื่อยๆ เดี๋ยวก็จะชัดจะใสจะสว่างขึ้นมาเอง ถ้าตั้งใจทำเป็น
ทุกคน ไม่เป็นเป็นไม่มีหรอก ฝึกฝนกันไป

ให้มีสติ สบาย สม่ำเสมอ แล้วก็หมั่นสังเกต
ว่า เรามีสติกับสบายไหม คือรู้ตัวอยู่ ณ กลางกาย
หรือ ณ จุดที่เรารู้สึกสบายตรงนั้นไปก่อน แล้ว
ทำให้สม่ำเสมอ คือให้ได้อารมณ์นั้นต่อเนื่อง สติ
กับสบายให้ต่อเนื่อง แม้ยังไม่เห็นอะไรก็ตาม

จนกระทั่งถึงจุดๆ หนึ่ง ใจจะนิ่งๆ นุ่มๆ ละมุนละไม แล้ว
มันจะขยาย แล้วก็จะค่อยๆ ใส เหมือนใจตกตะกอน คล้ายๆ กับ
เราเอาสารส้มไปแกว่งในตุ่มน้ำ ตะกอนมันก็นอนก้น หรือน้ำ
ที่ใสๆ เราฝึกหยุดใจก็เช่นเดียวกัน ตะกอนของใจก็ตกลงไป
เหลือแต่ใจที่ใสๆ แล้วเราก็รักษาสภาพนั้นไปเรื่อยๆ ไม่ต้อง
ไปพยายามปรุงแต่งหรือไปเปลี่ยนแปลงอะไร นิ่งๆ เดี๋ยวมัน
สว่างขึ้น ชัดขึ้น ใสขึ้น เหมือนไปอยู่ในที่สว่าง แล้วก็เห็นจุด
ใสๆ ดวงใสๆ หรือองค์พระใสๆ มาให้เห็น

อย่าตื่นเต้น…ทำเฉยกับทุกสิ่งที่เห็น

ซึ่งเราจะต้องระงับความตื่นเต้นให้ได้ เมื่อเห็นของที่
ต้องใจ ของที่อยากได้ ถูกใจเรา เป็นดวง เป็นองค์พระ ก็ต้อง
ทำใจให้เป็นปกติ เก็บความรู้สึกยินดีปรีดาเอาไว้ให้ได้ ใจจะ
ได้นิ่งๆ นุ่มๆ เดินทางต่อไป

ทำเฉยๆ กับทุกสิ่งที่เราเห็น เดี๋ยวภาพนั้นก็จะ
เปลี่ยนแปลงไป คล้ายๆ กับเรานั่งไปในรถ มองดูรถที่สวน
มา ภาพสองข้างทาง เป็นทิวทัศน์บ้าง ตึกรามบ้านช่อง เสา
ไฟฟ้า ผู้คน เราก็เฉยๆ เดี๋ยวเราก็ไปถึงจุดหมายจนได้

ภาพที่เกิดขึ้นมาก็เหมือนกัน เราก็เฉยๆ นิ่งๆ เอาไว้
จนกระทั่งถึงจุดๆ หนึ่ง มันรวมหยุดสนิท ก็จะตกศูนย์วูบไป
เลย ดวงปฐมมรรคก็ลอยเกิดขึ้นมา ซึ่งตอนนี้เราจะตื่นตาตื่น
ใจมาก มีความสุขมากๆ เบิกบานทีเดียวแหละ มันมีอารมณ์
ที่อยู่เหนือคำว่า ความสุข มันมีมากกว่านั้น แต่เราก็ยังอับจน
ถ้อยคำว่าจะใช้คำอะไร คือมันจะสบายมากๆ เบิกบานมากๆ
ประเดี๋ยวใจก็จะแล่นเข้าไปข้างใน

ดวงก็ขยาย ดวงศีล สมาธิ ปัญญา วิมุตติ วิมุตติญาณ
ทัสสนะ ที่เราได้ยินได้ฟังก็จะผุดขึ้นมา เกิดขึ้นสว่างไสว นำ
ความบันเทิงใจ เบิกบานใจเราเพิ่มขึ้น ใจของเราก็จะเกลี้ยง
เกลาเพิ่มขึ้นไป สะอาดเพิ่ม บริสุทธิ์เพิ่ม ยิ่งเข้าไปถึงกายใน
กาย ถึงองค์พระ ถึงกายธรรม ก็จะยิ่งบริสุทธิ์สะอาดสว่างสุกใส
เพิ่มไปเรื่อยๆ สว่างไปเรื่อยๆ ใจก็สบ๊าย สบาย
วันอาทิตย์ที่ ๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๖

โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่)

ที่มา หนังสือง่ายแต่ลึก ๓ บทที่ ๑๑ www.dhamma01.com

1 thought on “วิธีนั่งสมาธิ ง่ายแต่ลึก ต้องฝึกบ่อยๆ ให้ชำนาญ”

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *