วิธีนั่งสมาธิ ง่ายแต่ลึก สุขใดๆ ก็ไม่เท่าเข้าถึงพระธรรมกาย

วิธีทำสมาธิ จากหนังสือ ง่ายแต่ลึก ๓ บทที่ ๑๖ สุขใดๆ ก็ไม่เท่าเข้าถึงพระธรรมกาย
รัก กายธรรมล่วงพ้น สิ่งใด
ลูก หากหยุดนิ่งไซร้ ถึงได้
ที่ ฐานเจ็ดภายใน กายแก้ว
สุด สุขโปรดจำไว้ อย่าให้ลืมหลง
ตะวันธรรม

          ตั้งใจหลับตาเจริญสมาธิภาวนากันนะ หลับตาเบาๆ พอ
สบายๆ ขยับเนื้อขยับตัวของเราให้ดี ให้รู้สึกสบายๆ ทำใจ
ของเราให้เบิกบาน แช่มชื่น สะอาด บริสุทธิ์ ผ่องใส ไร้กังวล
ในทุกสิ่ง แล้วก็รวมใจไปหยุดนิ่งๆ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗
ซึ่งอยู่ในกลางท้องของเรา ในระดับที่เหนือจากสะดือขึ้นมา
๒ นิ้วมือนะ หรือจำง่ายๆ ว่า อยู่ในกลางท้องของเราบริเวณ
นั้น แล้วก็ตรึกนึกถึงดวงใสๆ ใสเหมือนกับเพชร เรานึกถึง
เพชรสักเม็ดหนึ่ง ที่กลมรอบตัว ใส อย่างสบายๆ หรือนึกถึง
องค์พระแก้วขาวใส อย่างใดอย่างหนึ่ง นึกไปเรื่อยๆ นึกให้
ติดเป็นนิสัยเลย
          แล้วก็ประคองใจของเรา ด้วยการบริกรรมภาวนา สัมมา
อะระหัง ทุกครั้งที่ภาวนา จะต้องไม่ลืมตรึกนึกถึงดวงใสๆ
หรือพระแก้วใสๆ อย่างใดอย่างหนึ่ง ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ
อย่างสบายๆ

หยุดนิ่งคือบรมสุข

          อย่าลืมตอกย้ำซ้ำเดิมทุกวันว่า นี่คือกรณียกิจ เป็นกิจ
ที่ต้องทำ เพราะเป็นงานที่แท้จริงของการเกิดมาเป็นมนุษย์
ในแต่ละภพแต่ละชาติ แม้ตายแล้วก็ยังเป็นกิจที่แท้จริงอยู่ดี
คือ กิจในการทำใจให้หยุดนิ่งๆ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗

          แล้วเราจะพบกับความสุขที่แท้จริงที่ยิ่ง
ใหญ่ ยิ่งใหญ่ในระดับเทวดาชาวสวรรค์ทั้ง ๖
ชั้น ที่ไม่ได้เป็นพระอริยเจ้า มัวเพลิดเพลินใน
กามของทิพย์ ยังถือว่าสุขธรรมดานะ ยังสุขไม่
เท่ากับใจหยุดนิ่งเลย ถ้าไม่ฝึกใจให้หยุดนิ่งมัว
แต่สนุกสนานเพลิดเพลินในทิพยสมบัติ ก็ยัง
ไม่มีความสุขเท่ากับหยุดกับนิ่งที่ศูนย์กลางกาย
ฐานที่ ๗ จนกระทั่งเข้าถึงพระธรรมกาย ซึ่งเป็น
พระรัตนตรัยในตัว

          แม้เป็นพรหมอยู่ในพรหมโลกที่ไม่ใช่เป็นพระอริยเจ้า ได้
รูปฌานสมาบัติธรรมดานั้น สุขยังไม่เท่ากับที่เราได้เข้าถึงพระ
ธรรมกายในตัวเลย อรูปภพก็เหมือนกัน ได้อรูปฌานสมาบัติ
สุขก็ยังไม่เท่ากับที่เราได้เข้าถึงพระธรรมกายในตัว ถ้าเว้น
จากพระอริยเจ้าล่ะก็ สุขอย่างนี้แหละ แล้วที่ใช้คำว่า ยกเว้น
พระอริยเจ้า เพราะพระอริยเจ้าท่านก็หยุดใจของท่านได้แล้ว

ในกายธรรม ตั้งแต่พระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี
พระอรหันต์อย่างนั้น ถ้าอยู่ในภพก็ถึงพระอนาคามี
          ใจหยุดจึงเป็นที่สุดแห่งความสุขทั้งปวง ซึ่งเป็นคำยืนยัน
ของท่านผู้รู้แจ้งเห็นแจ้งแทงตลอดในธรรมทั้งปวง ในเรื่องราว
ความเป็นจริงของชีวิต คือพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ท่านเวียน
ว่ายตายเกิดซ้ำๆ ในภพสามนี้นับครั้งไม่ถ้วน โดยเฉพาะใน
เมืองมนุษย์นี้ก็นับครั้งไม่ถ้วน เป็นตั้งแต่ชนชั้นล่าง ชั้นกลาง
แล้วก็ชั้นสูงในระดับพระเจ้าจักรพรรดิก็เป็นมาแล้ว
          พระเจ้าจักรพรรดิซึ่งปกครองทวีปทั้ง ๔ มีชมพูทวีป
คือโลกของเราใบนี้ ในยุคที่มีผืนแผ่นดินเดียว เป็นเกาะที่มี
น้ำล้อมรอบ คล้ายๆ เกาะอย่างนั้นนะ ชนในยุคนั้นนับถือศีล
๕ เป็นประเทศเดียว ท่านปกครองได้ทั่วชมพูทวีป อุตตรกุรุ
ทวีป ปุพพวิเทหทวีป อมรโคยานทวีป เป็นทวีปที่มีมนุษย์อยู่
รอบๆ เขาพระสุเมรุ หรือเขาพระสิเนรุ ไปมาได้ด้วยรัตนะ ๗
ด้วยอานุภาพของจักรแก้ว ท่านก็เป็นมาแล้ว ก็ยังยืนยันว่า
ใจหยุดนี่แหละมีความสุขกว่าเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ
          เมื่อพระเจ้าจักรพรรดิ เป็นสุดยอดของการมาเกิดเป็น
มนุษย์ในฐานะเป็นปุถุชนแล้วล่ะก็ นอกนั้นก็ถือเป็นเรื่องรอง
ลงมา จะเป็นพระราชาผู้ยิ่งใหญ่ พระราชาธรรมดา พระราชา
ประเทศราช บรมเศรษฐี มหาเศรษฐี หรือจุลเศรษฐีอะไรต่างๆ
เหล่านั้น ที่มีทรัพย์มาก ก็ยังไม่ได้ชื่อว่า มีความสุขเท่ากับ
ใจที่หยุดนิ่งนี้เลย นั่นคือคำยืนยันของท่านผู้รู้แจ้งเห็นแจ้ง
แทงตลอดในธรรมทั้งปวงที่หมดกิเลสอาสวะแล้ว

ฝึกใจหยุดนิ่ง คืองานหลักของชีวิต

          เมื่อเราได้ยินได้ฟังอย่างนี้แล้ว เราก็จะต้องให้โอกาสกับ
ตัวเราเองฝึกใจให้หยุดนิ่ง แล้วให้ยึดถือว่าสิ่งนี้เป็นหลักของ
ชีวิต นอกนั้นเป็นเรื่องรองลงมา แม้มันจะมีความจำเป็น อย่าง
เช่น การทำมาหากิน ก็ยังเป็นเรื่องรองลงมา ซึ่งเราสามารถ
ทำสองอย่างนี้ควบคู่กันไปได้
          ฝึกกันไปทุกวัน ให้ใจคลอเคลียอยู่ที่ศูนย์กลางกายฐาน
ที่ ๗ พอถูกส่วนแล้วมันก็นิ่ง แล้วก็จะถูกดึงดูดให้ตกศูนย์ลง
ไปสู่ภายใน แล้วดวงปฐมมรรคก็จะปรากฏเกิดขึ้น นี่ก็เป็น
ขั้นตอนของการทำสมาธิภาวนา
          เรามีเป้าหมายจะไปสู่ที่สุดแห่งธรรม พักระหว่างทางที่
ดุสิตบุรี เราก็จะต้องขวนขวายในการสั่งสมบารมีทุกรูปแบบ
ทั้งทาน ศีล ภาวนา เป็นต้น อย่าให้ตกๆ หล่นๆ
          ตอนนี้เราก็ฝึกหยุดใจนิ่งๆ นุ่ม เบาๆ สบายๆ ด้วยใจที่
ชื่นบาน ให้สบายๆ ฝึกกันไปทุกวัน อย่าเกียจคร้าน แล้วสิ่งนี้
นอกเหนือจากให้ความบันเทิงกับชีวิต ในระหว่างที่เรายังแข็ง
แรง ยังมีความสำคัญสำหรับชีวิตตอนก่อนที่เราจะถูกถอดกาย
ไปสู่ปรโลก ซึ่งเราก็ต้องฝึกกันให้เป็น เราจะได้ตายก่อนตาย
ได้ คือถอดกายออกไปก่อนจะถึงช่วงหมดอายุขัย หรือตาย
พร้อมกับการหมดอายุขัยของเรา ด้วยใจที่ใสบริสุทธิ์ แล้วก็
ไปสู่เทวโลก ดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ

ฝึกให้ได้ดวงปฐมมรรคเป็นอย่างน้อย

          นี่เป็นเรื่องที่เราจะต้องฝึกฝน และสอนตัวเราเองให้ได้
ทุกวัน ให้เราขยันทำความเพียรนะ อย่าเกียจคร้าน ต้องสอน
ตัวเอง บอกกับตัวเองทุกวัน ที่ต้องสอนอย่างนี้ เพราะมีเรื่องที่
จะดึงใจให้หลุดจากกลางได้เยอะ ใจมักจะแวบออกไปในเรื่อง
ราวต่างๆ เพราะฉะนั้นก็จะต้องฝืนไว้ ฝืนใจฝึกไปเรื่อยๆ จน
กระทั่งถึงในระดับที่ใจหยุดนิ่งได้สนิท ติดในกลาง เข้าถึงดวง
ปฐมมรรคเป็นอย่างน้อย ถึง ณ ตรงนั้นความขยันก็จะมาเอง
จนมีความรู้สึกว่าอยากนั่งต่อไปอย่างนี้เรื่อยๆ อยากศึกษา
อยากเรียนรู้ความรู้ภายในให้ยิ่งไปกว่านี้ ด้วยความรู้ที่มีอยู่ใน
พระไตรปิฎก เราก็อยากจะศึกษาด้วยตัวของตัวเอง เพราะว่า
เมื่อใจนิ่งแน่นถูกส่วนเข้าถึงปฐมมรรคแล้ว จะเกิดแรงบันดาล
ใจ อยากจะเข้าไปศึกษาเอง
          ความเพียรก็จะเป็นอัตโนมัติ ใจของเราจะขยาย จากสติ
ก็เป็นมหาสติ ปัญญาก็เป็นมหาปัญญา แล้วการเรียนรู้ความ
รู้ภายในก็จะเริ่มต้นขึ้นเมื่อเข้าถึงปฐมมรรคอย่างแนบแน่น
แล้วนะ ดวงก็จะใสสว่าง แล้วก็จะเคลื่อนเข้าไปสู่ภายใน เข้า
ถึงดวงธรรมต่างๆ ถึงกายภายใน กายมนุษย์ละเอียด ทิพย์
พรหม อรูปพรหม แล้วก็กายธรรม ซึ่งรอคอยเราอยู่ เป็นชีวิต
ระดับละเอียด ที่ยกระดับขึ้นไปเรื่อยๆ
          ทีนี้มันยากตอนแรก ตอนที่จะประคองใจให้หยุดให้นิ่ง
ที่ยากเพราะขี้เกียจนั่ง ถ้าขยันนั่งต้องได้ทุกคน ที่ไม่ได้ก็จะมี

ประเภทเป็นบ้า เป็นโรคประสาท ปัญญาอ่อน อะไรประเภท
อย่างนั้น ถ้าขยันนั่งจะต้องได้
          ใหม่ๆ มันก็ฟุ้ง มืด เมื่อย ถ้านั่งไปนานๆ แล้วสิ่งเหล่า
นั้นก็จะค่อยๆ หมดไป จิตก็จะค่อยๆ บริสุทธิ์เพิ่มขึ้น ยิ่ง
บริสุทธิ์ก็ยิ่งมีความสุขมาก แล้วมันจะโล่ง โปร่ง เบา สบาย
ใจจะขยาย บุญจะไหลผ่านเข้ามาในตัวเรา ยิ่งกระแสธารแห่ง
บุญไหลผ่านเข้ามา จะยิ่งมีความสุขเพิ่มขึ้น ความบริสุทธิ์เพิ่ม
กำลังใจที่จะสั่งสมความดีงาม โดยไม่คำนึงถึงอุปสรรคเกิดขึ้น
เลย มันจะเกิดขึ้นเป็นอัตโนมัติ เพราะฉะนั้นก็อยู่ที่เราขยัน
แล้วก็ปรับปรุงวิธีการให้ดีทีเดียว
วันอาทิตย์ที่ ๒๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๘

โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่)

ที่มา หนังสือง่ายแต่ลึก ๓ บทที่ ๑๖ www.dhamma01.com

1 thought on “วิธีนั่งสมาธิ ง่ายแต่ลึก สุขใดๆ ก็ไม่เท่าเข้าถึงพระธรรมกาย”

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *