อานิสงส์ถวายผ้าไตร ๑ แสนผืน

อานิสงส์ถวายผ้าไตร ๑ แสนผืน (การตั้งความปรารถนาของมหาโกฏฐิตเถระผู้เลิศในด้านปฏิสัมภิทา)

     ชีวิตของเราเกิดมาเพื่อสร้างบารมี  และเป็นความโชคดีอย่างยิ่ง ที่ได้เกิดมาภายใต้ร่มเงาบวรพระพุทธศาสนา ได้พบหลักธรรมอันประเสริฐของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำให้เรามีหลักในการดำเนินชีวิตอย่างถูกต้อง  เพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายอันสูงสุดของชีวิตคืออายตนนิพพาน และขณะกำลังสร้างบารมีเพื่อไปสู่เป้าหมายนั้น  เราต้องอดทนต่อสู้ เอาชนะกิเลสอาสวะที่มาครอบงำจิตใจ ซึ่งเป็นอุปสรรคในการสร้างบารมี  ดังนั้น ตราบใดที่ยังมีลมหายใจอยู่  ขอให้ทุกลมหายใจเป็นไปเพื่อการสร้างบารมี  อย่าได้ท้อแท้และเบื่อหน่ายในการสร้างบารมี ต่อเมื่อเราหมั่นฝึกฝนอบรมใจให้ใสสะอาดบริสุทธิ์หยุดนิ่งเป็นประจำสม่ำเสมอ  เราก็จะไม่เพลี่ยงพลํ้าต่อกระแสกิเลสทั้งหลายดังนั้น  การเจริญสมาธิภาวนาจึงเป็นหนทางที่ดีที่สุดเพื่อมุ่งสู่ความหลุดพ้นจากทุกข์ ไปสู่อายตนนิพพาน

มหาโกฏฐิตเถระได้เปล่งอุทานในผลแห่งทานที่ท่านได้รับว่า
     “เราได้เสวยสมบัติในเทวโลกถึง ๓๐๐ ครั้ง  ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๕๐๐ ครั้ง และเป็นพระราชาประเทศราชอันไพบูลย์ โดยเวลาสุดจะคณานับ  เพราะการถวายทานด้วยศรัทธานั้น  เราจึงเป็นผู้ถึงความสุขในทุกภพ  เราท่องเที่ยวไปในสองภพเท่านั้น คือในเทวดาและมนุษย์ คติอื่นเราไม่รู้จัก  นี้เป็นผลแห่งกรรมที่สั่งสมไว้ดี  เราเกิดแต่ในสองตระกูล คือตระกูลกษัตริย์ และตระกูลพราหมณ์ หาเกิดในตระกูลต่ำทรามไม่ นี้เป็นผลแห่งกรรมที่สั่งสมไว้ดีแล้ว”

     ผลแห่งบุญที่ทำถูกเนื้อนาบุญและทำถูกหลักวิชานั้น เป็นเรื่องอจินไตย ส่งผลยิ่งใหญ่ไพศาล แม้ผู้มีรู้มีญาณทั้งหลายก็ยากจะคำนวณว่า บุญที่ได้ทำถูกทักขิไณยบุคคลนั้นมีประมาณเท่าใด จะส่งผลเป็นความสุขและความสำเร็จให้อย่างไรบ้าง  ดังนั้น ในครั้งนี้เราจะมารับฟังเรื่องราวการสร้างบารมีของท่านมหาโกฏฐิตเถระ ว่าท่านได้ทำบุญใหญ่อะไรไว้ในอดีต  ชีวิตในสังสารวัฏจึงได้เป็นใหญ่  เป็นจอมจักรพรรดิ์ที่ปกครองทวีปทั้ง ๔  ได้เวียนว่ายตายเกิดเฉพาะในโลกมนุษย์และโลกสวรรค์เท่านั้น

     * เรื่องมีอยู่ว่า  ย้อนหลังไป ๑๐๐,๐๐๐ กัปจากภัทรกัปนี้  ในสมัยของพระปทุมุตตรพุทธเจ้า  มนุษย์ในยุคนั้นมีอายุ ๑๐๐,๐๐๐ ปี พระพุทธองค์สูงประมาณ ๕๘ ศอก ด้วยบุญบารมีที่ได้สั่งสมมา ๘๐ อสงไขยและแสนมหากัปทำให้พระองค์สามารถแนะนำเหล่าเดียรถีย์ทุกคนที่มาเข้าเฝ้าให้ดำรงอยู่ในเบญจศีล  เพราะฉะนั้น พุทธศาสนาจึงรุ่งเรืองดุจพระอาทิตย์ในยามเที่ยงวัน และเพียบพร้อมไปด้วยเหล่าพระอรหันต์ทังหลาย

     พระเถระท่านนี้ได้บังเกิดในตระกูลที่มีโภคะมากในเมืองหงสาวดี  เมื่อเจริญวัยก็ได้รับมรดกจากบิดามารดา วันหนึ่งท่านเห็นชาวเมืองถือของหอมและดอกไม้ไปบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านจึงไปพร้อมกับมหาชน ในขณะที่ฟังธรรมอยู่นั้น ท่านเห็นพระบรมศาสดาทรงแต่งตั้งภิกษุรูปหนึ่ง เป็นเอตทัคคะเลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้บรรลุปฏิสัมภิทา จึงคิดว่า “ทำอย่างไรหนอ เราจะได้เป็นผู้เลิศด้วยปฏิสัมภิทาญาณเหมือนภิกษุรูปนี้ ในศาสนาของพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคตกาลบ้าง”

     เมื่อฟังธรรมเสร็จ ท่านรีบตรงไปเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า เพื่อกราบอาราธนาพระภิกษุสงฆ์ทั้ง ๑๐๐,๐๐๐ รูป มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข ไปฉันภัตตาหารที่บ้าน  เมื่อได้รับพุทธานุญาตแล้ว ก็รีบกลับบ้าน ประดับตกแต่งที่นั่งของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและภิกษุสงฆ์ จัดแจงภัตตาหารหวานคาวอย่างประณีตตลอดคืนยันรุ่งโดยไม่ได้พักผ่อน เพื่อให้ทันถวายมหาสังฆทานในวันรุ่งขึ้น

     ท่านได้ประเคนภัตตาหารแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า และหมู่ภิกษุทั้ง ๑๐๐,๐๐๐ รูป พระพุทธองค์ทรงเสวยโภชนะที่มีข้าวสาลีอันหอมกรุ่น มีแกงและกับข้าวหลากรส  อีกทั้งข้าวยาคูและของเคี้ยวหลากหลาย ครั้นเสร็จภัตตกิจแล้ว ท่านคิดว่า “เราปรารถนาตำแหน่งใหญ่มากหนอ การถวายทานเพียงวันเดียวแล้วปรารถนาตำแหน่งนั้น คงไม่สมควร  เราควรถวายทาน ๗ วัน  แล้วจึงปรารถนาตำแหน่งสาวกผู้เลิศในด้านปฏิสัมภิทา”

     คิดดังนั้นแล้วท่านจึงตัดสินใจขออนุญาตถวายมหาทานตลอด ๗ วัน  และสั่งให้เปิดคลังผ้า หาผ้าเนื้อละเอียด เพื่อทำจีวรเนื้อดีมีราคาสูงสุดมาถวายพระพุทธเจ้า พร้อมถวายไตรจีวรแด่ภิกษุอีก ๑๐๐,๐๐๐ รูป  จากนั้นได้แจ้งความจำนงของตนต่อพระตถาคตเจ้าว่า “ขอให้ข้าพระองค์ได้บวช และได้ตำแหน่งภิกษุผู้เลิศในด้านปฏิสัมภิทาในพระศาสนาของพระพุทธเจ้า ผู้จะเสด็จอุบัติในอนาคตกาลภายภาคเบื้องหน้าด้วยเถิด”

     พระบรมศาสดาทรงเห็นความสำเร็จแห่งความปรารถนาของท่านจึงพยากรณ์ว่า “ในอนาคตกาล นับจากนี้ไป ๑๐๐,๐๐๐ กัป ความปรารถนาของท่านจะสำเร็จในยุคสมัยของพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า โคดม”  ท่านได้ฟังเช่นนั้นก็ปลื้มอกปลื้มใจ และได้ทุ่มเทสั่งสมบุญไปจนตลอดชีวิต และหาโอกาสไปฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าบ่อยๆ  ธรรมะจึงเต็มเปี่ยมอยู่ภายในใจของท่านตลอดเวลา  

     ท่านได้สั่งสมบุญมาตลอดแสนปี และเพระบุญที่ได้บริจาคทานด้วยความศรัทธา  ทำให้ท่านได้ไปบังเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์  เสวยทิพยสมบัติเป็นเวลายาวนานมากโดยได้เสวยสมบัติในเทวโลก ๓๐๐ ครั้ง แต่ละครั้งท่านได้เสวยทิพยสมบัติจนตลอดอายุขัย  ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๕๐๐ ครั้ง และเป็นพระราชาประเทศราชอันไพบูลย์นับครั้งไม่ถ้วน ท่านท่องเที่ยวไปในสองภพ คือในเทวดาและมนุษย์เท่านั้น

     ครั้นท่านเกิดมาเป็นมนุษย์ก็เกิดในสองตระกูล คือตระกูลกษัตริย์ และตระกูลพราหมณ์เท่านั้น ซึ่งมหาชนในยุคสมัยนั้นต่างยกย่องว่าเป็นวรรณะที่ประเสริฐสุด ท่านไม่เคยเกิดในตระกูลต่ำเลย  นี่เป็นผลแห่งกรรมที่มีความเคารพบูชาบุคคลผู้ควรบูชา  และท่านมีผิวพรรณวรรณะงดงาม  เพราะได้ถวายผ้าไตรจีวรถึง ๑๐๐,๐๐๐ไตร  ในภพชาติสุดท้าย ท่านได้เกิดในตระกูลพราหมณ์ที่มีทรัพย์สมบัติมากในพระนครสาวัติถี

     เมื่อเติบโตเป็นหนุ่ม ทันทีที่รู้ว่าเจ้าอุบัติขึ้นแล้วในโลก  ท่านตัดสินใจสละทรัพย์สมบัติทั้งหมด ทิ้งสมบัติอันเป็นโลกิยทรัพย์  เพื่อมุ่งหาโลกุตตรสมบัติ เพราะรู้ว่า สมบัติเหล่านี้ท่านได้เป็นเจ้าของมานับภพนับชาติไม่ถ้วนแล้ว จึงได้ตัดสินใจออกบวชเป็นบรรพชิตทันที  โดยมีพระมหาโมคคัลลานะเถระเป็นอาจารย์  และพระสารีบุตรเป็นอุปัชฌาย์ ซึ่งถือว่าได้รับเกียรติอย่างสูงทีเดียว  ที่พระอัครสาวกทั้งสองเป็นทั้งอุปัชฌาย์และอาจารย์

     ขณะที่ท่านกำลังครองผ้ากาสาวพัสตร์ ท่านพยายามทำใจหยุดใจนิ่ง ในที่สุดก็ได้บรรลุพระอรหัตตผล เป็นผู้แตกฉานในปฏิสัมภิทาญาณ ๔  แตกฉานในอรรถและธรรม เชี่ยวชาญในภาษาต่างๆ และมีไหวพริบปฏิภาณเป็นเยี่ยม  เพราะฉะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงทรงแต่งตั้งท่านไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะ เป็นภิกษุผู้เลิศทางด้านปฏิสัมภิทา  ความปรารถนาที่ท่านตั้งเอาไว้เมื่อแสนกัปที่แล้วได้สำเร็จสมดังปรารถนาทุกประการ

     เราจะเห็นว่า  ผลแห่งบุญนั้นเป็นอจินไตย ให้ความสุขสมหวังดังใจปรารถนาทุกอย่าง  การที่พระเถระสมปรารถนาเพราะกำลังแห่งบุญอย่างเดียว  พวกเราก็มีสิทธิ์ที่จะได้สั่งสมบุญใหญ่เช่นนั้น  เพราะแม้พระบรมศาสดาจะทรงดับขันธปรินิพพานไปนานแล้ว แต่เมื่อมีจิตเลื่อมใส ทานนั้นก็ย่อมมีผลมากเช่นเดียวกัน  และพระสงฆ์ในเมืองไทยก็มีมากกว่า ๓ แสนรูป  ท่านก็พร้อมที่จะเป็นเนื้อนาบุญให้กับเรา

     ที่ผ่านมา หลวงพ่อได้อาราธนานิมนต์ท่านมาเป็นเนื้อบุญให้กับพวกเรา จะได้ถวายมหาสังฆทานกันอย่างเต็มที่ ท่านเคยมามากที่สุดถึง ๓ หมื่นกว่าวัด โดยมีมากันเรือนแสน  ทั้งภายในและต่างประเทศ  เพราะฉะนั้น บุญที่เราได้ทำแต่ละครั้งนั้น อย่าคิดว่ามีปริมาณน้อย เพราะนั่นเป็นบุญใหญ่ เป็นมหัคคตกุศล ที่จะส่งผลข้ามชาติจนกว่าจะถึงที่สุดแห่งธรรม  ดังนั้นให้เราหมั่นนึกถึงบุญกุศลที่ได้ร่วมกันถวายมหาสังฆทาน ถวายปัจจัยไทยธรรม และหลวงพ่อจะหาโอกาสนิมนต์ท่านมาเป็นเนื้อนาบุญให้กับพวกเราบ่อยๆ  ให้ตั้งใจตักตวงบุญให้เต็มที่กันทุกคน 

* มก. เล่ม ๕๐ หน้า ๕๕

พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่)

ที่มา https://buddha.dmc.tv/dhamma/11744
ต้นฉบับ หนังสือ ธรรมะเพื่อประชาชน ฉบับอานิสงส์แห่งบุญ ๑

กลับสู่
สารบัญธรรมะเพื่อประชาชน สำหรับไฟล์เสียง, วีดีโอ และ Article

1 thought on “อานิสงส์ถวายผ้าไตร ๑ แสนผืน”

  1. ✨น้อมกราบหลวงพ่อธัมมชโย #คุณครู
    ไม่ใหญ่ด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่งครับ
    🌟✨🌟✨🌟✨🌟✨🌟✨🌟✨🌟

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *