อานิสงส์สร้างพระธรรมจักร

อานิสงส์สร้างพระธรรมจักร (ธัมมจักกิกเถระ)
 
     ภารกิจทั้งหลายที่มีอยู่ในโลกนี้ ส่วนใหญ่แล้วเป็นภาระที่เกี่ยวข้องกับการทำมาหาเลี้ยงชีพ มวลมนุษย์ทั้งหลายล้วนติดข้องกันอยู่อย่างนี้มายาวนาน ทำให้ลืมเลือนภารกิจหลักที่แท้จริงของชีวิตว่า เกิดมาเพื่อสร้างบารมี  ทำความบริสุทธิ์บริบูรณ์ให้เกิดขึ้นกับตนเอง กลั่นจิตกลั่นใจให้ใสบริสุทธิ์  จนกระทั่งเข้าถึงธรรมะภายใน เข้าถึงกายในกายเรื่อยไปจนกระทั่งถึงกายธรรมอรหัต ทำกิเลสอาสวะให้หมดสิ้นไป นี่คือเป้าหมายในการที่เราเกิดมาแต่ละภพแต่ละชาติ มีความปรารถนาที่จะทำกันอย่างนี้เท่านั้น เมื่อเรารับทราบกันอย่างนี้ดีแล้ว ก็ควรที่จะตั้งใจทำความบริสุทธ์บริบูรณ์ให้กับตัวของเรา ด้วยการปฏิบัติธรรมเจริญสมาธิภาวนา

มีวาระแห่งภาษิตที่มาใน ธัมมจักกิกเถราปทาน ความว่า
     “เราได้ตั้งธรรมจักร ทำอย่างสวยงาม อันวิญญูชนชมเชย ไว้ข้างหน้าอาสนะอันประเสริฐ แห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าสิทธัตถะ เราย่อมรุ่งเรืองกว่าวรรณะทั้งสี่ มีบริวาร พลทหารและพาหนะ คนเป็นอันมากย่อมติดตามห้อมล้อมเราเป็นนิตย์ เรามีปกติแวดล้อมด้วยดนตรีหกหมื่นชนิด ย่อมงามด้วยบริวาร นี้เป็นผลแห่งบุญ  ในกัปที่ ๙๔ แต่กัปนี้ เราได้ตั้งธรรมจักรบูชา ด้วยกรรมนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการตั้งธรรมจักรบูชา เราได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิหลายครั้ง มีพละมาก มีพระนามว่า สหัสสราชา ผู้เป็นใหญ่กว่าชนทั้งหลาย ปรากฏอยู่ตลอด ๑๑ กัป คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทาญาณ ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้าเราได้ทำเสร็จแล้ว”

     คำกล่าวนี้ เป็นของพระอรหันตสาวกองค์หนึ่ง ที่ท่านได้ย้อนอดีตกลับไป และพบเห็นการสร้างบารมีของตนเองในภพชาติที่แล้วๆ มา  ท่านได้พบว่าบุญที่ตนได้สั่งสมเอาไว้นั้น มิได้สูญหายไปไหน เมื่อสร้างบุญเอาไว้อย่างไร ผลแห่งบุญนั้นก็ตามส่งผลไปทุกภพทุกชาติ การที่หลวงพ่อได้นำเอาประวัติการสร้างบารมีของพระสาวกแต่ละองค์ๆ มาเล่าให้พวกเราฟังกันนั้น  ก็เพราะหลวงพ่อพิจารณาแล้วว่า เป็นเรื่องที่พวกเราควรรับทราบเอาไว้ จะได้เกิดความเชื่อมั่นในการสร้างบารมี และมีกำลังใจยิ่งขึ้นไปว่า สิ่งที่เรากำลังทำอยู่นี้ เป็นสิ่งที่ถูกต้องดีงามแล้วควรทำต่อไป และถ้าฟังแล้วพบว่า บุญอันใดที่เรายังไม่ได้สร้าง เราจะได้เกิดแรงบันดาลใจที่จะทำให้เต็มที่ ทำให้สมบูรณ์ เหมือนกับนักสร้างบารมีในอดีตทุกๆ ท่าน  ที่เราได้รับทราบถึงการสร้างความดีของท่านเหล่านั้น

     ชีวประวัติการสร้างบารมีของพระอรหันตเถระรูปนี้ น่าสนใจมาก หลวงพ่ออยากจะนำประวัติการสร้างบารมีของท่านมาเล่าให้พวกเราทั้งหลายได้ฟังกัน เรื่องราวที่หลวงพ่อจะนำมาเล่าในครั้งนี้ คือเรื่องของพระเถระที่ท่านมีนามว่า พระธัมมจักกิกเถรเจ้า   หมายถึง พระเถระผู้สร้างธรรมจักรไว้บูชา

     * พระเถระรูปนี้สร้างบารมีมาหลายภพหลายชาติ ท่านได้บำเพ็ญบุญญาธิการในพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ สั่งสมบุญทั้งหลายอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานในภพนั้นๆ ตามวาระโอกาส แต่ก็ไม่ได้สั่งสมบุญพิเศษอะไร ท่านทำบุญทั่วๆ ไปและทำอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีอุปนิสัยน้อมไปในการให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา วนเวียนสร้างบารมีในสังสารวัฏอยู่อย่างนี้มายาวนานแล้ว

     จนกระทั่งในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า สิทธัตถะ ท่านได้บังเกิดในเรือนมีตระกูลแห่งหนึ่ง เมื่อเจริญวัยแล้วก็ได้ดำรงตนเฉกเช่นชาวโลกทั้งหลาย แต่งงานมีครอบครัว มีบุตรธิดาสมบูรณ์ด้วยโภคทรัพย์สมบัติมากมาย ในยุคนั้น คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากำลังรุ่งเรือง มวลมนุษยชาติมีโอกาสได้ฟังธรรม ทำให้มีดวงตาเห็นธรรมไปตามกำลังแห่งบุญของตนอย่างมากมาย  

     กุลบุตรนี้ก็เช่นกัน วันหนึ่งได้มีโอกาสฟังธรรม รู้สึกซาบซึ้งในรสพระธรรม และเห็นภัยในวัฏสงสาร จึงคิดว่า การที่เราเกิดมาพบพระพุทธศาสนา ได้ฟังพระดำรัสของพระบรมศาสดาและได้รู้คุณค่าของการเกิดมาสร้างบารมี ควรที่เราจะเป็นผู้ไม่ประมาทในชีวิต เราควรจะทำที่พึ่งให้แก่ตนด้วยการสร้างบุญบารมีให้ยิ่งๆ ขึ้นไป จะได้สั่งสมบุญเอาไว้เป็นเสบียงติดตัวไปข้ามภพข้ามชาติ เดินตามรอยพระอริยเจ้าทั้งหลาย เมื่อคิดได้อย่างนี้ ก็พยายามหาโอกาสให้กับตัวเองด้วยการทำบุญสมํ่าเสมอ และคิดว่าจะสร้างบุญพิเศษอะไรสักอย่างหนึ่ง จึงสร้างรูปธรรมจักรขึ้นมา เพราะจักรแห่งธรรมมีความหมายกับมวลมนุษย์ทั้งหลาย เป็นสัญลักษณ์ของพระธรรมที่เคลื่อนไปสู่ใจชาวโลก เป็นสิ่งที่บ่งชี้ให้เห็นถึงธรรมอันเลิศของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  ฉะนั้นจึงได้สร้างธรรมจักรไว้ให้มนุษย์และเทวดาได้บูชา

     เมื่อคิดที่จะทำอย่างนี้ ก็มีหัวใจที่เบิกบานเต็มเปี่ยมด้วยความเลื่อมใสในพระรัตนตรัย เกิดมหาปีตินึกถึงบุญที่ตนเองจะได้สร้าง จึงรวบรวมรัตนะที่มีค่าที่สุดมาสร้างธรรมจักร ธรรมจักรที่ท่านสร้างนี้มีความพิเศษอีกอย่างหนึ่งคือ ได้สร้างรูปสีหะทั้งสองข้าง ตั้งบูชาไว้ที่หลังธรรมาสน์ อาสน์ที่พระสงฆ์ใช้แสดงธรรม ตั้งตระหง่านอยู่ในท่ามกลางธรรมสภา ใครที่ได้เห็นธรรมจักรและสีหะคู่นี้ ต่างก็พากันสรรเสริญชื่นชมว่างามเหลือเกิน

     คนเป็นจำนวนมากที่ได้ฟังเรื่องราวการสร้างธรรมจักรของท่าน มีไม่น้อยที่ได้เดินทางมาเพื่อตั้งใจมาดู เมื่อมาแล้วก็ได้มีโอกาสฟังธรรมไปด้วย นับว่าตัวท่านได้มีส่วนในการชักชวนคนให้มาฟังธรรมโดยทางอ้อม ตัวท่านเองเวลามาฟังธรรม เห็นสัญลักษณ์คือธรรมจักรที่ตนเองสร้างเอาไว้นั้น ก็ทำให้เกิดมหาปีติที่ไม่เสื่อมคลาย จนกระทั่งละจากอัตภาพนั้นไป ด้วยผลแห่งบุญนั้น ส่งให้ท่านได้เสวยทิพยสมบัติเป็นท้าวสักกะ ได้จักกวัตติสมบัติ คือได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิผู้สมบูรณ์ด้วยมหาสมบัติจักรพรรดิ มีสมบัติตักไม่พร่องนับชาติไม่ถ้วนทีเดียว

     เมื่อมาเกิดในเมืองมนุษย์ ก็เป็นผู้ที่รุ่งเรืองด้วยมนุษย์สมบัติ มีวรรณะดังทองคำ ประกอบด้วยยานมีวอทองเป็นต้น มีหมู่พลเสนาบดีและอำมาตย์เป็นอันมาก มีบริวารก็เชื่อฟังและซื่อสัตย์ แวดล้อมด้วยมิตรแท้อยู่เนืองนิตย์ ท่านสมบูรณ์ด้วยมหาสมบัติอยู่อย่างนี้ทุกภพทุกชาติ จนกระทั่งมาถึงพุทธกาลนี้ ได้ลงมาเกิดในเรือนมีตระกูลแห่งหนึ่ง ที่สมบูรณ์ด้วยโภคทรัพย์สมบัติ มีความเป็นอยู่ที่สะดวกสบายในทุกๆ เรื่อง

     เมื่อท่านทราบข่าวการบังเกิดขึ้นของพระผู้มีพระภาคเจ้า ด้วยอำนาจแห่งบุญเก่าที่เคยสั่งสมเอาไว้นั้น เพียงแค่ได้ฟังว่า พระพุทธศาสนาเกิดขึ้นแล้ว ก็เกิดศรัทธาอย่างแรงกล้า ทำให้ท่านได้มองโลกไปตามความเป็นจริง ในที่สุดจึงตัดสินใจว่า การที่เราเกิดมาพบพระบรมศาสดาผู้เลิศที่สุดในโลก  เราควรดำเนินตามรอยบาทของพระองค์ท่าน มุ่งแสวงหาหนทางของพระนิพพาน จึงสละทุกอย่างในทางโลก ออกบวชในพระศาสนา ครั้นบวชแล้วท่านตั้งใจปฏิบัติธรรมอย่างเต็มที่ ใช้เวลาไม่นานก็ได้บรรลุพระอรหัต หลังจากที่บรรลุแล้วจึงปรากฏโดยนามเหมือนกับนามแห่งกุศลที่ท่านได้บำเพ็ญเอาไว้ในกาลก่อนว่า ธัมมจักกิกเถระ   ท่านได้ระลึกถึงบุพกรรมของตน เกิดปีติโสมนัสว่า ที่เราได้มหาสมบัติทั้งที่เป็นโลกิยและอริยะนี้ ก็ด้วยอานุภาพแห่งบุญที่ได้สร้างเอาไว้ดีแล้วในพระพุทธศาสนา

     เราจะเห็นว่า อานุภาพแห่งบุญมีความสำคัญอย่างยิ่งกับทุกๆ ชีวิต ไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นใคร จะเป็นคนธรรมดาหรือพระเจ้าจักรพรรดิ จะเป็นปุถุชนหรือเป็นพระอริยเจ้า ทุกๆ ชีวิตที่ประสบความสำเร็จ ต้องมีบุญอยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น ผู้ที่มีบุญน้อยความสำเร็จก็น้อย ผู้ที่มีบุญมากความสุขความสำเร็จก็มีมาก มหาสมบัติทั้งที่เป็นโลกิยะและอริยะ ล้วนบังเกิดขึ้นด้วยอานุภาพแห่งบุญเท่านั้น เมื่อเราได้รับทราบถึงบุพกรรมที่พระเถรเจ้าท่านได้สั่งสมไว้ ก็จงดูท่านเป็นตัวอย่าง แล้วก็ตั้งใจสั่งสมบุญของเราไปให้เต็มที่ทุกๆ วัน  สักวันหนึ่งเราจะสมปรารถนากันทุกๆ คน

* มก. เล่ม ๗๑ หน้า ๑๖๒
   

พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่)

ที่มา https://buddha.dmc.tv/dhamma/12557
ต้นฉบับ หนังสือ ธรรมะเพื่อประชาชน ฉบับอานิสงส์แห่งบุญ ๒

กลับสู่
สารบัญ หนังสือธรรมะเพื่อประชาชน ๑๘ เล่ม 1080 เรื่อง

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *