1.จากใจคุณครูไม่ใหญ่

จากใจคุณครูไม่ใหญ่

..แต่เดิมนั้น ที่คิดตั้งโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ก็เพราะเห็นว่า ตัวเองอายุเยอะแล้วเวลาข้างหน้าก็เหลือน้อยเต็มที มีความรู้อะไรก็อยากจะมาแบ่งปันให้กับลูก ๆ ทุกคน ทั้งความรู้ที่ได้ศึกษาเรียนรู้มาจากพระไตรปิฎกบ้าง จากคุณยายอาจารย์*บ้าง โดยเฉพาะที่สำคัญที่สุด คือ จากวิชชาธรรมกายที่พระเดชพระคุณหลวงปู่พระมงคลเทพมุนี(สด จนฺทสโร) พระผู้ปราบมารที่ท่านได้ถ่ายทอดผ่านคุณยายอาจารย์อีกประการ คือ ต้องการที่จะตอบแทนลูก ๆทุกคน ที่ได้ให้ข้าว ให้น้ำ ให้อาหารเป็นกำลังแก่ครูไม่ใหญ่ และแก่ลูกพระลูกเณรทั้งหลาย ทำให้มีเรี่ยวมีแรงในการศึกษาธรรมวินัยของพระสัมมา-สัมพุทธเจ้า*คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง(ผู้ให้กำเนิดวัดพระธรรมกาย)
อีกเหตุผลหนึ่ง คือ ช่วงนี้คนยังเข้าใจพระพุทธ-ศาสนาคลาดเคลื่อนกันไปเยอะ โดยเฉพาะหลักสำคัญเกี่ยวกับเรื่องกฎแห่งกรรม ซึ่งไม่ค่อยนำมาพูดกัน จนกระทั่งเป็นเหตุทำให้เกิดความรู้สึกคลางแคลงเกี่ยวกับเรื่องกฎแห่งกรรม หรือกฎแห่งการกระทำ ทั้งทางกาย วาจา ใจ ซึ่งเป็นกฎของเหตุและผล คือ ประกอบเหตุอย่างนี้ จะต้องมีผลอย่างนั้น มีผลในปัจจุบันอย่างนี้ ก็เพราะได้ประกอบเหตุในอดีตอย่างนั้น

ความเชื่อหรือความเข้าใจในสิ่งเหล่านี้ได้ลดลงไปเรื่อยๆ เพราะว่าเหตุผลบางอย่างไม่ปรากฏทันตา หรือเหตุผลบางอย่างที่ปรากฏอยู่ในปรโลกก็ไม่อาจที่จะไปรู้ไปเห็นกันได้ เพราะว่าไม่ให้โอกาสตัวเองในการศึกษาเรียนรู้ แต่ถ้าให้โอกาสตัวเอง ทุกคนก็สามารถเรียนรู้ได้ ยกเว้นคนบ้า คนตายเท่านั้นด้วยแรงบันดาลใจหลายๆ อย่างดังกล่าว จึงทำให้เปิดโรงเรียนนี้ขึ้นมา อีกทั้งก็มีความสุขทุกครั้งที่ได้มาทำหน้าที่เป็นครูไม่ใหญ่ ได้มาถ่ายทอด

ความรู้ตรงนี้ ทั้งๆ ที่แต่เดิมที่เข้าวัดปฏิบัติธรรมกับคุณยายอาจารย์ ท่านม่งุ ในการปฏิบัติธรรมเป็นหลักโดยอัธยาศัยส่วนตัวของครูไม่ใหญ่นั้น จะตรงข้ามกับภาพที่เห็นในโรงเรียน คือ จะชอบเงียบ ๆชอบอยู่ตามลำพัง คุณยายอาจารย์ท่านก็มีอัธยาศัยเช่นนี้เหมือนกัน คือ มักน้อย สันโดษ ไม่คลุกคลีด้วยหมู่คณะ ยินดีปัจจัยตามมีตามได้ ท่านก็พร่ำสอนอย่างนี้เรื่อยมา และก็ได้ปฏิบัติตามโอวาทของท่านเป็นเวลากว่า ๓๐ ปี คือ จะชอบอยู่ตามลำพัง อย่างมากก็เจอในช่วงวันอาทิตย์ต้นเดือนกับวันอาทิตย์ธรรมดา ที่ออกมาชวนลูก ๆ ทั้งหลายปฏิบัติธรรมเป็นหลัก ส่วนใหญ่ก็จะชวนหมู่คณะส่วนหนึ่งไปปฏิบัติธรรมบนดอยสุเทพ-ปุย เพราะว่าอากาศดีและวิเวก มีป่า มีเขา อัธยาศัยชอบอย่างนั้นมาก ถ้าจะให้เลือก ก็อยากจะกลับไปมีชีวิตเงียบๆ อย่างนั้นแต่ว่าเมื่อกาลเวลาผ่านมา จนกระทั่งอายุเยอะแล้ว ก็คิดอย่างที่ได้เล่าให้ฟังข้างต้น จึงได้เริ่มฝึกหัดสอน เป็นการฝึกหัดเทศน์สอนจริง ๆ แต่จะให้เทศน์แบบพระผู้ที่มีความชำนาญ เป็นบัณฑิตนักปราชญ์ในทางพระพุทธศาสนาก็ทำไม่ได้ เพราะว่าภูมิรู้ภูมิธรรมก็จบแค่นักธรรมตรี แม้จะอ่านพระไตรปิฎกตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นนักเรียน ยังไม่เข้ามหาวิทยาลัย มันก็ ๔๐ กว่าปีผ่านมาแล้ว แต่เวลาส่วนใหญ่จะใช้อยู่กับการปฏิบัติธรรม เพราะฉะนั้นจึงไม่กล้าเปิดเป็นโรงเรียนมัธยม เป็นวิทยาลัย หรือมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เหล่านั้น เอาแค่ว่า เป็นโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา เพื่อจะได้ง่ายต่อการสอนการแนะนำ การพูด การคุย เพราะไปสังเกตโรงเรียนอนุบาลทั่วๆ ไป เขาก็ง่ายๆ เพราะนักเรียนอนุบาลก็คือเด็ก มีเพลง มีภาพ มีพูด ซึ่งคุณครูท่านก็ไปยืนอยู่หน้าชั้น ดุนักเรียนบ้าง ชมกันบ้าง ก็ว่ากันไป ชอบอย่างนี้ จึงได้เปิดเป็นโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาก็เป็นบุญที่ว่า ตั้งแต่เปิดโรงเรียนมา พลาดพลั้งอะไรไป ก็ยังไม่ได้รับการติติงจากนักปราชญ์ในทางพระพุทธศาสนาเลย ก็ยิ่งทำให้มีกำลังใจฝึกสอนกันต่อไป แม้กระทั่งปัจจุบันนี้ ก็ยังฝึกสอนอยู่ และจะฝึกกันต่อไป

แม้ยังมีอะไรขลุกๆ ขลักๆ กันอยู่ แต่ก็ได้กำลังใจจากนักเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาที่คอยส่งยิ้มผ่านทางหน้าจอบ้าง ในโรงเรียนบ้าง คอยเป็นกองเชียร์ ทำให้มีเรี่ยวแรงที่จะพัฒนาปรับปรุงการสอนเพิ่มขึ้น จากเริ่มต้นฟังทางโทรศัพท์ก็พัฒนามาเป็นอินเทอร์เน็ต จนเปลี่ยนมาเป็นจานดาวธรรม จากภาพแห้ง ๆ ก็เริ่มมีภาพเคลื่อนไหว และนำเรื่องราวที่ฝันเป็นตุเป็นตะมาเล่าให้ฟัง ตั้งใจจะให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรา แต่ว่าเป็นนิยายที่มีคติธรรมได้รับความร่วมมือจากเจ้าของ Case Studyที่ได้กรุณาเล่าเรื่องราวชีวิตของตัวเองมาเป็นธรรมทานแก่เพื่อนนักเรียน ก็ได้สอนกันมาอย่างนี้อยากใช้คำว่า พูดคุยกันมากกว่า เพราะว่านักเรียนมีอยู่ชั้นเดียว แล้วก็มีทุกเพศ ทุกวัย และมีศาสนิกอื่นๆ ทั้งนอกจากมาเป็นนักเรียน มาฟังธรรมยังมาปฏิบัติธรรมแล้วก็เข้าถึงธรรม และมาสร้างมหาทานบารมีร่วมกัน โดยลืมกันไปชั่วขณะว่า แต่เดิมนั้น ตนเองเริ่มต้นชีวิตจากคำสอนใด และได้มาศึกษาความรู้สากลกันอย่างนี้เรื่อยมา

จาก Case Study ที่ผ่านมา กับเรื่องราวต่าง ๆซึ่งทยอยเล่ากันไป ก็ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของนักเรียน บ้างก็เปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งใหญ่บ้างก็ค่อย ๆ เปลี่ยนแปลง และเสียงเหล่านี้สะท้อนกลับมาที่ครูไม่ใหญ่ ทำให้มีความปลื้มปีติยินดีกับการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นของนักเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาทั่วโลก

จากเดิมที่เคยติดเหล้าติดบุหรี่ก็เลิก เคยติดการพนันก็เลิก เคยประกอบมิจฉาอาชีวะโดยไม่รู้ว่ามันเป็นสิ่งที่จะทำให้ไปอบาย ก็เลิกได้ ที่ขี้เกียจนั่งธรรมะก็ขยันนั่ง จากครอบครัวอบอ้าวก็เป็นครอบครัวอบอุ่น ลูกๆ อยู่ในโอวาท เป็นเด็กเก่งและดี ที่ไม่เคยรู้จักการทำบุญก็เริ่มทำบุญ ที่ทำบุญตามอารมณ์ก็เปลี่ยนมาเป็นทำบุญสม่ำเสมอ ที่ทำตามกำลังก็ทำเต็มกำลัง
การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่เหล่านี้ คือสิ่งที่ทำให้ครูไม่ใหญ่ชื่นใจมาก ๆ และทำให้มีเรี่ยวมีแรงสอนกันต่อไป…๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๘

พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่)

ที่มา https://www.dhamma01.com/book/11
ต้นฉบับ หนังสือ ที่นี่มีคำตอบ ๑

กลับสู่
สารบัญ หนังสือที่นี่มีคำตอบ

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *