แค่เฉยๆ
จับหลักให้ได้ คือ เฉยๆ หยุดกับนิ่งอย่างเดียว
เฉยๆ แบบที่เราไม่ไปตั้งใจว่า เราจะเฉยๆ นึกเหมือนไม่ได้นึก สบายๆ เฉยๆ นะ แล้วมันเกิดขึ้นมาเอง ใจหยุดเกิดขึ้นเอง แสงสว่างเกิดขึ้นเอง ดวงเกิดขึ้นเอง กายเกิดขึ้นเอง ธรรมกายเกิดขึ้นเอง ตลอดเส้นทาง นิ่งอย่างเดียว สบายๆ
ที่จริงไม่เห็นต้องไปรำคาญอะไร หลวงพ่อยังแปลกใจ พอเราหลับตา มีเรื่องอะไรที่ผ่านมาในใจ เราก็เฉยๆ กับมัน เหมือนเราเดินไปซื้อส้มในตลาด ระหว่างทางในตลาดจะสับสนวุ่นวาย เดี๋ยวคนเข้า เดี๋ยวคนออก ในตลาดไม่ได้ขายส้มอย่างเดียว ขายสารพัด ขายปลาทู ขายเนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อเป็ด เสียงตะโกนคุยกันโหวกเหวก คนเดินไปเดินมา คนขนของก็มี เราเดินไปบางคนก็เดินชนเรา บางคนก็ชวนเราให้ซื้อของ แต่เราก็เฉยๆ ไม่สนใจ ใครเดินชนก็ชนไป เราก็เดินของเราไป ใครเชิญชวนให้เราซื้ออะไร เราก็เฉยๆ ใจเรามุ่งไปซื้อส้มอย่างเดียว สุดท้ายเราก็ไปซื้อส้มได้
การนั่งสมาธิก็เช่นเดียวกัน ความสับสนวุ่นวายมีอยู่ในใจตลอดเวลาที่เราเริ่มต้นใหม่ เมื่อใจยังไม่หยุด มันไม่ใช่เป็นของอัศจรรย์ หรือเกิดกับเราคนเดียว แล้วมันก็ไม่ได้เป็นสัญลักษณ์ของความผิดหวัง หรือไม่สมหวังในการเข้าถึงธรรมกาย เราไม่เห็นจะต้องไปกังวล ไปกลุ้มใจ มันมาก็มา เราแค่เพียงทำเฉยๆ ของเราไป
ความคิดชนิดไหนมา เราก็เฉยๆ พอเราไม่สนใจ เดี๋ยวมันก็ค่อยๆ หดหายไปเรื่อยๆ ในที่สุดใจก็จะหยุดนิ่ง ใส เบาสบาย ถ้าทำได้อย่างนี้ หลวงพ่อว่า เราจะไม่กลุ้ม ไม่เครียดกับมัน แล้วจะหยุดได้ง่าย นี่ในกรณีที่มันยังไม่ยอมหยุด
เพราะความกังวลเป็นเหมือนภูเขาหิมาลัยใหญ่ขวางทางเข้าถึงศูนย์กลางกาย เราแก้ด้วยวิธีการอย่างนี้ แล้วเดี๋ยวเราก็ได้ผล สบาย ไม่ยาก เรื่องนี้มันยากอยู่ที่เราไปกังวลไปวิตกมากไป
๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๕
พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่)
ที่มา https://www.dhamma01.com/book/92
ต้นฉบับ หนังสือ เล่ม 3 ชีวิตสมณะ ผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร
กลับสู่
สารบัญ หนังสือคำสอนครูไม่ใหญ่