ถ้าตั้งใจปฏิบัติธรรมอย่างเต็มที่แล้ว จะบวชหรือไม่ก็คงได้ผลไม่แตกต่างกัน ใช่หรือไม่

คำถาม: 
คนเราถ้าตั้งใจปฏิบัติธรรมอย่างเต็มที่แล้ว จะบวชหรือไม่ก็คงได้ผลไม่แตกต่างกัน ใช่หรือไม่ครับ?

คำตอบ: 
ต่างกันแน่ๆ เพราะการตัดสินใจว่าจะบวชนี่ ไม่ใช่เรื่องง่าย ชีวิตพระชีวิตสามเณร เป็นชีวิตที่เรียกว่า บำเพ็ญเนกขัมมบารมี คือ ปลีกตัวออกจากครอบครัว เพราะเรื่องของครอบครัวนี้เป็นเรื่องยุ่ง

        พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ว่า “ชีวิตฆราวาสนั้นคับแคบเป็นทางมาแห่งธุลี คือกิเลส บรรพชาเป็นทางปลอดโปร่ง” มันยุ่งอย่างไรหรือ? แล้วทำไมจึงต้องปลีกตัว ขอให้ทุกคนมองอย่างนี้ ในแต่ละวันที่ชาวโลกเขาอยู่กัน เขามีเรื่องเยอะแยะ บ้างก็ก่อกรรมดีและกรรมชั่วปนๆ เปๆ กันไป ทั้งวัน ถ้าจะอุปมาว่ากรรมที่ก่อไว้เปรียบเหมือนอย่างกับเส้นด้าย ถ้าทำกรรมดีก็เปรียบเหมือนด้ายที่เป็นเส้นตรงทั้งเรียบ ทั้งเหนียว ถ้าทำกรรมชั่วก็เปรียบเหมือนกับไปขมวดปมที่เส้นด้ายไว้ตรงโน้นตรงนี้ ด้ายเส้นนั้นก็เป็นปุ่มเป็นปมไปทั้งเส้น ไม่น่าใช้
        ชาวโลกโดยทั่วไปมีใจขึ้นๆ ลงๆ ทั้งวัน เดี๋ยวทำดี เดี๋ยวทำชั่ว ตื่นขึ้นมาแต่เช้าตรู่ ตั้งใจทำความดี ตั้งใจที่จะตักบาตรพระ ครั้นใส่บาตรแล้วใจก็ชุ่มชื่นเบิกบานแจ่มใส แต่พอสายสักหน่อย ออกจากบ้านจะไปทำงาน ไปเจอรถติดเข้าก็อารมณ์เสีย ด่ารถที่มันแซงซ้าย ด่ามอเตอร์ไซด์ที่มันขับปาดหน้า ที่มันเฉี่ยว กว่าจะไปถึงที่ทำงานก็หน้าหงิกหน้างอทีเดียว
        พอถึงที่ทำงานได้คุยเล่นกับเพื่อนๆ จนกระทั่งใกล้เพลใกล้เที่ยงอารมณ์ชักดี คิดทำโครงการโน้นโครงการนี้ ที่มันดีๆ พอตกบ่ายตกเย็นไปกระทบเรื่องนั้นเรื่องนี้เข้าอีกแล้ว ก็ออกงิ้วออกโขน ทะเลาะทุ่มเถียงกันไป ตกลงวันหนึ่งๆ นี่กรรมที่เขาทำเอาไว้มีทั้งดีทั้งชั่ว เปรียบเหมือนเส้นด้ายเส้นยาวๆ ที่ผูกปมเอาไว้ตรงโน้นตรงนี้ เมื่อรวมเส้นด้ายแห่งกรรมที่เขาทำเอาไว้ละก็ สางกันไม่ไหว มันยุ่งไปหมด ไม่รู้จะจับต้นชนปลาย เริ่มแก้ที่ปมไหน บางปมแก้ไม่ออก และเพราะแก้ไม่ออกนี่แหละ ชีวิตของชาวโลกจึงทุกข์ร้อน วุ่นวาย สับสนกันอย่างนี้
        เจ้าชายสิทธัตถะทรงเห็นว่าชีวิตทางโลกยุ่งยากอย่างนี้ ขืนอยู่ครองเมืองคงแก้ปมชีวิตที่ยุ่งๆ ไม่ออกแน่ จึงไม่ยอมอยู่ในวังวนทรงขึ้นมากัณฐกะ เสด็จออกจากวังไปทีเดียว ออกผนวชแสวงทางพ้นทุกข์ จนกระทั่งตรัสรู้ แล้วจึงย้อนกลับมาโปรดชาวโลก สอนพระญาติของพระองค์ให้รู้จักถอนตัวออกจากวังวน ออกจากปมยุ่งๆ เหล่านั้น ด้วยการออกบวช มาอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีกว่า ไม่ต้องไปก่อกรรมเลวร้ายใดๆ อีกแล้ว มีแต่เรื่องทำความดี ทั้งฝึกตัวเอง แล้วก็ฝึกผู้อื่นให้ทำดี ละความชั่วทั้งหลายตามไปอีกด้วย
        ถ้าบวชเป็นสามเณรก็รักษาศีล 10 ข้อ บวชเป็นพระภิกษุก็รักษาศีล 227 ข้อ ความระมัดระวังก็มากขึ้นตามส่วน ทำให้ใจจดจ่ออยู่ที่ศูนย์กลางกายได้นานขึ้น สติก็ดีขึ้น บุญก็เลยได้มากขึ้น ใครอยากได้บุญมากๆ อยากไปนิพพานได้เร็วๆ ก็ตามหลวงพ่อมาบวชกันนะ

โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก)
วันที่
ที่มา
เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC
บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *