คำถาม:
หลวงพ่อเคยสอนว่าทำบุญมากเข้า กรรมชั่วจะค่อยๆ จางไป แล้วเปรียบเทียบเรื่องน้ำกับเกลือ หนูฟังแล้วเข้าใจว่าทำกรรมดีมากเข้า กรรมชั่วจะตามไม่ทัน เพราะกรรมดีมีมากกว่า แล้วได้ฟังเรื่องของพระโมคคัลลานะ ที่ถูกโจรฆ่าตาย เพราะกรรมตามมาสนอง สงสัยว่าทำไมคนที่มีบุญสูงมากเช่นนี้ จึงยังต้องชดใช้กรรมที่เคยทำมาคะ ?
คำตอบ:
ธรรมดากรรมชั่วที่เราทำไว้ ถึงเวลากรรมนั้นก็ตามให้ผลเป็นความเดือดร้อน ทำนองเดียวกัน กรรมดีที่เราทำไว้ ถึงเวลากรรมดีก็ตามให้ผลเป็นความร่มเย็นเป็นสุข และการให้ผลก็อยู่ในลักษณะดอกเบี้ยทบต้นด้วย เหมือนอย่างเราเอาข้าวเปลือกเมล็ดหนึ่งมาปลูก ปลายปีก็ได้ข้าวกอเบ้อเร่อ ได้รวงข้าว ไม่รู้กี่รวงต่อกี่รวง ถ้าเอาหญ้าคาสักเมล็ดมาปลูก ปลายปีหญ้าก็งามได้เมล็ดเป็นกอบเลย ดอกเบี้ยมันทบต้นอย่างนี้
การกระทำใดๆ ก็ตาม ไม่ว่าฝ่ายบุญฝ่ายบาป เมื่อทำแล้วไม่ไร้ผล และยังตามให้ผลไปอีกนานทีเดียว ในลักษณะต่างฝ่ายต่างให้ เพราะฉะนั้นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงได้ตรัสไว้ว่า “ขึ้นชื่อว่าความชั่วไม่ทำเสียเลยดีกว่า” ทำแต่ที่ดีๆ เข้าไว้ แล้วจะรอดตัว
พระโมคคัลลานะท่านเคยทำร้ายทุบตีพ่อแม่ ซึ่งถือว่าเป็นผู้ที่มีพระคุณมาก เมื่อภพชาติในอดีต จึงเป็นกรรมหนัก เพราะฉะนั้นภพชาติสุดท้าย ถึงแม้ว่าท่านจะเป็นพระอรหันต์แล้ว บาปกรรมนั้นก็ยังตามท่านอยู่ แต่ว่าเมื่อท่านเข้าพระนิพพานแล้วไม่ต้องเกิดอีก บาปเวรจะชดใช้หมดหรือไม่หมด ถึงเวลานั้นก็ต้องยกเลิก เหมือนข้าศึกไม่มีสนามรบ บาปที่ทำร้ายพ่อแม่มีฤทธิ์มากนัก อุปมาเป็นเกลือเม็ดเดียวไม่ได้ บุญขนาดพระอรหันต์ยังเจือจางฤทธิ์บาปที่ทำร้ายพ่อแม่ไม่ได้ทั้งๆ ที่ชดใช้มาหลายชาติแล้วก็ตาม
โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก)
วันที่
ที่มา
เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC
บทความหลวงพ่อตอบปัญหา