คำถาม:
ผู้เข้าถึงธรรมกายทุกคนจะสามารถรู้วันตายของสัตว์โลกได้หรือไม่ ?
คำตอบ:
เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละคน คือถ้าใครหมั่นฝึกทำซ้ำแล้วซ้ำอีก จนกระทั่งเข้าถึงธรรมกายในตัวได้ชำนาญ ก็จะได้ฌาณทัศนะในระดับที่รู้เห็นการเกิดการตายของสัตว์โลก ที่เรียกว่าจุตูปปาตญาณ ได้ แต่ในการทำซ้ำอีก ยังมีอีกว่าตนเองมีความชำนาญในระดับไหน
หลวงพ่อยากจะอธิบายความแตกต่างของความชำนาญให้เข้าใจอีกนิดหนึ่งว่า ผู้ที่ฝึกสมาธิอยู่ทุกวันนี่แหละ บางคนว่ากำหนดได้ ๆ แต่ก็แค่กำหนดได้ ใจสงบไหม ก็สงบตามส่วน แต่ว่าบางคนนอกจากสว่างของดวงแก้วในตัวคนนี้จะมีมากกว่าอีกคนหนึ่ง
เพราะฉะนั้น คน ๒ คน กำหนดดวงแก้วเหมือนกัน แต่ก้าวไม่เท่ากัน คนหนึ่งพอเห็นดวงแก้วแล้วเอาใจสอดเข้ากลางลึกเข้าไปเรื่อย ๆ เห็นดวงใหม่ชัดขึ้น ใสขึ้น สว่างขึ้น จนกระทั่งสว่างยิ่งกว่าดวงอาทิตย์ยามเที่ยงวัน สว่างจนกระทั่งเหมือนอย่างเอาดวงอาทิตย์เป็นพัน ๆ ดวงมาเรียงเต็มท้องฟ้าในกลางท้อง อย่างนี้คนแรกกับคนหลังก็มีการรู้การเห็นไม่เท่ากัน
แม้ผู้ที่เข้าถึงธรรมกายแล้วก็มีความสามารถไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับการฝึกฝน บางท่านอาจจะรู้วันตายของตัวเอง บางท่านอาจจะรู้วาระจิตผู้อื่น พระอรหันต์ในสมัยพุทธกาลมีมากมายนับไม่ถ้วน แต่เพราะแต่ละท่านมีความรู้ความสามารถไม่เท่ากัน เราจึงรู้จักไม่ทั้งหมดที่เรารู้จักชื่อมีเพียงประมาณ ๘๐ รูป และรูปที่เราคุ้นมากคือ พระโมคคัลลาน์ พระสารีบุตร พระอานนท์
ที่เรารู้จักท่านกันมาก ก็เพราะว่าท่านมีความสามารถมากท่านฝึกมากกว่าคนอื่น เมื่อเข้าถึงธรรมกายในตัวแล้ว ท่านยังฝึกซ้ำแล้ว ท่านยังฝึกซ้ำแล้วซ้ำอีก ซ้ำหนักเข้า ๆ จนกระทั่วเกิดความชำนาญ ธรรมกายของท่านมีความสว่างไสวมากกว่าคนอื่น เพราะฉะนั้นปัญญาของท่าน ฤทธิ์ของท่านจึงมากกว่าผู้อื่น เราก็เลยรู้จักท่าน ยิ่งกว่าท่านยังทำประโยชน์ไว้ในพระพุทธศาสนามากมาย
ส่วนพระอรหันต์องค์อื่น เมื่อเข้าถึงธรรมกายปราบกิเลสในตัวเองหมด เป็นพระอรหันต์แล้ว ท่านก็เอาแค่นั้นแหละ การรู้การเห็นของท่านก็เอาแค่ตัวรอดไปได้
แม้พระอรหันต์ยังรู้เห็นไม่เท่ากันเลย
ฉะนั้นผู้ที่ยังไม่ได้เป็นพระอรหันต์ เพิ่งเข้าถึงธรรมกายใหม่ ๆ ก็รู้เห็นไม่เท่ากันแน่นอน
โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก)
วันที่
ที่มา
เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC
บทความหลวงพ่อตอบปัญหา