ทำไมวัดพระธรรมกายถึงไม่มีการเดินจงกรม

คำถาม:
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อเจ้าค่ะ ลูกเคยชวนเพื่อนมานั่งสมาธิที่วัด เขาสงสัยว่าทำไมวัดเราไม่มีการสอนให้เดินจงกรม และทำไมเวลานั่งสมาธิต้องมีเสียงนำนั่งด้วย แทนที่จะนั่งกันเงียบๆ เจ้าค่ะ

คำตอบ:
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกับคำว่า “จงกรม” เสียก่อน คำว่าจงกรม จริงๆ แล้วก็คือการเดินทำสมาธินั่นเอง ซึ่งก็มีวิธีในการเดินจงกรมอยู่หลายวิธีด้วยกัน โดยทั่วไปแล้วในการฝึกสมาธิ ผู้ที่ฝึกสมาธิใหม่ๆ ดีที่สุดคือการฝึกสมาธิในท่านั่ง ถ้าฝึกในท่าอื่น มือใหม่จะแย่หน่อย เดี๋ยวใจไม่ค่อยจะรวม
            สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มฝึกสมาธิ เมื่อนั่งใหม่ๆ ก็นั่งไม่ค่อยได้นาน เมื่อนั่งไม่ได้นานแล้ว พระอาจารย์ก็เกรงว่าจะเบื่อเสียก่อน ก็เลยฝึกให้เดินจงกรมไปด้วย คือทำสมาธิสลับกันไประหว่างการนั่งและการเดิน โดยทั่วๆ ไปก็มีทำกันอย่างนี้สำหรับมือใหม่ ส่วนมือเก่าบางท่านที่นั่งชำนาญแล้ว รวดเดียว ๕ ชั่วโมง แน่นอน พอเลิกนั่งก็เมื่อย ก็เลยต้องเดินบ้าง เดินจงกรมหรือเดินทำสมาธิไป มืออาชีพเขาทำอย่างนี้
            สำหรับที่วัดพระธรรมกายเราก็เหมือนกัน ที่ฝึกกันอยู่ที่วัด ตอนเช้าวัดเรา ๙ โมงครึ่งถึง ๑๑ โมง ก็นั่งกันชั่วโมงครึ่ง ชั่วโมงครึ่งสำหรับพวกเราที่มาวัดกัน มีความรู้สึกว่านั่งประเดี๋ยวเดียว เพราะฉะนั้นในระหว่างนั้นก็เลยไม่มีการลุกออกมาเดินจงกรม หรือบางครั้งที่พวกเราไปกันเป็นหมู่คณะ แล้วก็ไปทำจงกรม ไปทำสมาธิกัน ในกรณีอย่างนี้นั่งที ๓ ชั่วโมงบ้าง ๔ ชั่วโมงบ้าง อย่างนี้เราก็เตรียมที่เอาไว้ให้สำหรับเดินจงกรม
            แต่ว่าในกรณีที่วัดพระธรรมกายนี้ เนื่องจากเราสอนคนจำนวนมาก เป็นพันเป็นหมื่น บางทีเป็นแสน แล้วก็นั่งแค่ชั่วโมงครึ่ง การที่จะมาทำทางเดินจงกรมให้โดยเฉพาะก็เลยไม่มี แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่มีการเดินจงกรม สำหรับวิธีเดินจงกรมมีอยู่หลายวิธีด้วยกัน คือบางสำนักก็กำหนดสมาธิจิตเอาไว้ ที่อิริยาบถในการเคลื่อนไหว เช่น กำหนดไว้ที่เท้าขณะที่ก้าวไป นั่นก็เป็นวิธีหนึ่ง
            แต่ว่าของวัดพระธรรมกายเรา เราไม่ได้ทำอย่างนั้นหรอก การเดินจงกรมของเรา เราใช้กำหนดจิตเอาไว้ที่ศูนย์กลางกายอยู่ตลอดเวลา แล้วก็กำหนดรู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลา เหมือนแมงมุม แมงมุมมันชักใยไว้รังใหญ่ แต่แมงมุงไม่ได้วิ่งอยู่ตามขอบรัง แมงมุมอยู่ที่ตรงกลางรัง มีอะไรมาโดนรังมัน มันก็รู้ตัวหมดเลย วัดพระธรรมกายฝึกลูกศิษย์ให้ทำสมาธิในท่าเดินหรือจงกรมนี้ ด้วยการเอาใจจรดไว้ที่ศูนย์กลางกายอย่างสม่ำเสมอ เราเดินจงกรมกันแล้ว แต่คนอื่นมองไม่ออกต่างหาก
            เพราะฉะนั้นที่บอกว่าวัดพระธรรมกายไม่สอนให้เดินจงกรมนั้น ไม่ถูกต้อง วัดพระธรรมกายสอนให้เดินจงกรมอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว ตั้งแต่เดินจากปากประตูวัดเข้ามาถึงตัววัด ต้องทำสมาธิหรือจงกรมอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว
            สำหรับเรื่องที่วัดของเราสอนสมาธิแล้ว ขณะที่ผู้ฝึกนั่งทำสมาธิอยู่ ก็มีพระอาจารย์ มีพูด มีการกล่าวนำอยู่เป็นช่วงๆ ซึ่งไม่เหมือนจากสำนักอื่นที่พอถึงเวลานั่งก็เงียบกันไปเลย ตรงนี้คืออะไรกัน?
            คำตอบสั้นๆ ก็คือผู้ที่มาใหม่ เรามีความจำเป็นที่ต้องให้คำแนะนำเขาให้ครบทุกแง่ทุกมุม แต่ว่าเทคนิคในการที่จะให้รู้ทุกแง่ทุกมุม ควรจะเป็นในลักษณะว่า ขณะที่นั่งไป ช่วงจังหวะ ๑๐ นาทีแรกนี่เขาจะติดปัญหาอะไร เรารู้อยู่ ไม่ต้องลืมตาขึ้นมาหรอก เราบอกเลย แนะนำไปเลย เมื่อช่วง ๑๐ นาทีที่เขานั่ง เมื่อสัก ๑๕ หรือ ๒๐ นาที เขาจะเจอปัญหาอีกปัญหาหนึ่ง มันเรื่องของการปรับระดับใจ ไม่ต้องลืมตาขึ้นมาถาม หรือว่าเสร็จแล้วค่อยมาถาม แนะนำเขาไปเลย เมื่อตอนครบ ๒๐ นาทีว่าเรื่องนั้นเรื่องนั้น เมื่อใกล้จะครบชั่วโมง ระดับใจของเขา จะมี จะเป็นอย่างไรเรารู้ เพราะฉะนั้นเราก็ให้คำแนะนำเขาอีกแหละ ในระหว่างที่ใกล้จะครบชั่วโมง เพื่อเขาจะได้ไม่ต้องมีปัญหามาถามเราอีก ตอบตรงนั้น บอกกันตรงนั้น ชัดเจน ทันกาลดี
            นี่ก็เป็นเทคนิคในการสอนสมาธิ ของวัดพระธรรมกาย อีกอย่างหนึ่งการที่ให้คำแนะนำไป ขณะที่เขาหลับตาทำสมาธิ เสียงของผู้ที่สอน หรือของพระอาจารย์ เป็นเสียงที่อยู่ในสมาธิ มีอำนาจ มีพลังที่จะโน้มนำให้ลูกศิษย์ที่ฝึกใหม่ สามารถยกใจให้เข้าสู่ความสงบได้เร็ว วัดพระธรรมกายจึงมีการนำนั่งสมาธิ ด้วยการให้พระอาจารย์พูดนำเป็นช่วงๆ อย่างพอเหมาะพอสม นี่คือเทคนิคของเรา

โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก)
วันที่
ที่มา
เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC
บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *