กุศโลบายให้รักษาศีล 5 ได้อย่างมั่นคง

คำถาม:
นอกจากนี้ กระผมอยากจะกราบเรียนถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อว่า เรามีวิธีการรักษาศีลห้าให้ถูกต้องอย่างไรครับ และพระเดชพระคุณหลวงพ่อมีกุศโลบายและยุทธวิธีอย่างไรหรือไม่ ในการที่จะทำให้เรารักษาศีลห้าได้มั่นคงตลอดไปครับ

คำตอบ:
เจริญพร…จำหลักง่ายๆก็แล้วกันว่าในการรักษาศีลให้ถูกวิธีก็คือ ต้องตั้งใจ ถ้าไม่ตั้งใจล่ะก็ ไม่ถือว่าเป็นการรักษาศีล
ถ้าตั้งใจว่าจะไม่ละเมิด แล้วเมื่อมีโอกาสที่จะละเมิดก็ไม่ละเมิดตามที่ตั้งใจเอาไว้ นั่นคือการรักษาศีลตัวจริง
ทำไมจึงต้องใช้คำว่า ต้องตั้งใจ
ตั้งใจว่าจะไม่ฆ่า หัวเด็ดตีนขาดไม่ว่าจะอย่างไรก็ไม่ฆ่า
ตั้งใจว่าจะไม่ลัก หัวเด็ดตีนขาดไม่ว่าจะอย่างไรก็ไม่ลักไม่ขโมย
ตั้งใจว่าจะไม่ประพฤติผิดในกาม หัวเด็ดตีนขาดไม่ว่าจะอย่างไรก็ไม่ประพฤติผิดในกาม ไม่เจ้าชู้
ตั้งใจว่าจะไม่พูดเท็จ หัวเด็ดตีนขาดไม่ว่าจะอย่างไรก็ไม่โกหก ไม่พูดเท็จ
ตั้งใจว่าจะไม่ดื่มสุรา หัวเด็ดตีนขาดไม่ว่าจะอย่างไรก็ไม่กินเหล้า กินเบียร์ บรรดาแอลกอฮอล์ทั้งหลายแหล่ ยาเสพติดทั้งหลายแหล่ ที่ให้โทษ เลิก…ไม่ต้องมาพูดกัน
ใครจะเอามีดมาจ่อคอ เอาปืนมาจ่อหัวให้ละเมิดศีลทั้ง 5ข้อนี้ ตายก็ให้มันตายไปเถอะ เราไม่ทำหรอก
ที่ต้องพูดอย่างนี้ เพราะว่ามีหลายคนเข้าใจผิด เมื่อมีคนชวนเข้าวัด เขาว่าอย่างไร เขาว่า…ผมไม่ได้ไปทำความชั่วอะไร ทำไมจะต้องเข้าวัดด้วย นั่นแน่ะ ผมไม่ได้ทำชั่วก็ต้องถือว่าผมเป็นคนดีแล้ว โอ…อันตรายแล้วลูกเอ๊ย
ต้องมองใหม่ มองอย่างไร คนดีที่ได้มาตรฐาน คือ คนอย่างไร…คือ คนที่ตั้งใจทำความดี อย่างนี้เรียกว่าคนดี
ส่วนอีกพวกหนึ่ง ไม่ได้ทำความดีอะไรหรอก อยู่เฉยๆเลยไม่ได้ทำความชั่ว การไม่ได้ทำความชั่วแล้วจะถือว่าเป็นคนดีนั้น หาใช่ไม่
นักโทษที่ถูกขังอยู่ในคุกมืด มันร้ายกาจนัก เขาจึงเอาไปขังเดี่ยวอยู่ในห้องมืด เลยไม่มีโอกาสทั้งจะฆ่า จะลัก จะประพฤติผิดในกาม จะโกหก จะกินเหล้า ไม่มีเลย ถามว่า เจ้านักโทษคนนี้มีศีลห้าหรือไม่
คำตอบ คือ แล้วแต่
ทำไม…
ถ้าในใจเขาตั้งเอาไว้เลย ถึงมดสักตัว ยุงจะไต่ไรจะตอมอย่างไร ไม่บี้ไม่ตบกันล่ะนะ ถ้าอย่างนี้ก็ถือว่าเขามีศีล
แต่ว่าถ้าในใจเขานึกว่าใครแหลมเข้ามาล่ะก็ พ่อบี้พ่อฆ่ากันหมด เมื่อเป็นอย่างนี้ก็แสดงว่าเขายังไม่ได้ตังใจที่จะรักษาศีล เพราะฉะนั้นเขาไม่ใช่คนมีศีล
ต้องตีประเด็นไว้ก่อนว่า คนที่ยังไม่ละเมิดศีล ไม่ได้หมายความว่าเป็นคนมีศีล เป็นแต่เพียงว่าเขายังไม่ได้ละเมิดต่างหาก
ส่วนคนมีศีล คือ คนที่ตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะรักษาศีล จะไม่ล่วงละเมิดความประพฤติทางกายทางวาจา แล้วเมื่อถึงเวลาก็ไม่ล่วงละเมิดจริงๆ นั่นแหละ คือ คนมีศีล อย่างนี้คงชัดเจนนะ
ทีนี้ ก็มาถึงว่าเราจะมีกุศโลบาย จะมียุทธวิธีอย่างไร ที่จะรักษาศีลให้ได้ตลอดไป
ตรงนี้อยากฝากนิดหนึ่ง ถ้าจะเอาคนอื่นมาอ้าง มันก็คนอื่นนะ เอาว่าหลวงพ่อทำอย่างไรมาเองดีกว่าเมื่อเป็นฆราวาส
เมื่อสมัยยังเป็นฆราวาสอยู่ หลวงพ่อใช้วิธีง่ายๆ คือ ตั้งใจรักษาศีลไปทีละวัน ทำอย่างไร…
เช้าจะออกจากบ้าน ก็พระที่ห้อยคออยู่นั่นแหละ อาราธนาใส่มือเลย อาราธนาใส่มือตั้งนะโมสามจบ เสร็จเรียบร้อยก็สัญญากับหลวงพ่อในมือเลย
หลวงพ่อ วันนี้ปาณาติปาตา เวรมณี หัวเด็ดตีนขาดไม่ฆ่า ไม่ว่าสัตว์เล็กสัตว์ใหญ่ มดสักตัวยุงสักตัว เลิก ไม่บี้ไม่ตบจบกันแค่นี้ สัญญากับหลวงพ่อในมือเลย
อทินนาทานา เวรมณี วันนี้หัวเด็ดตีนขาดไม่ลัก ไม่ขโมย ทั้งนั้นแหละ ส่วนพรุ่งนี้ยังไม่ได้สัญญานะ เพราะเดี๋ยวสัญญาแล้วทำไม่ได้มันจะยุ่ง
กาเมสุมิจฉาจารา เวรมณี วันนี้หัวเด็ดตีนขาดไม่ยุ่งกับใครล่ะ ภรรยาใคร ลูกสาวใครไม่ยุ่ง ให้มันจบลงไปตรงนี้
มุสาวาทา เวรมณี วันนี้ถ้าพูดต้องพูดเรื่องจริง เรื่องไม่จริงไม่พูด พูดแล้วจะเสียหายคนโน้นคนนี้ สู้ไม่พูดดีกว่าพูดไม่จริง ให้มันเด็ดขาดกันลงไปอย่างนี้
สุราเมรยะ มัชชะ ปมาทัฏฐานา เวรมณี วันนี้หัวเด็ดตีนขาด ไม่ว่าเหล้า ไม่ว่าเบียร์ ไม่ว่ากระแช่ ไม่ว่าสาโท อะไรไม่เอาทั้งนั้น
พรุ่งนี้ยังไม่รู้ สัญญากับตัวเองไปวันๆ ทำอย่างนี้ทุกวัน พอข้ามวันแล้วก็ชื่นใจ วันนี้ฝ่าอุปสรรคมาได้หนึ่งวัน เพราะว่าก็ต้องยอมรับกันนะ โลกทุกวันนี้ความวุ่นวายมันเยอะ สิ่งบีบคั้นที่จะทำให้เราละเมิดศีลมันมีพอแรงอยู่เหมือนกัน แต่ว่าเมื่อเราตั้งใจว่าจะรักษาศีลให้ข้ามไปทีละวันอย่างนี้ มันไม่หนักแรง หากินไปวันหนึ่งก่อน ไม่หนักแรงไม่ต้องวางแผนเยอะ
ทำอย่างนี้ไปทุกวันก็ได้ชื่นใจไปทุกวันทุกวัน พอครบปีเข้า มันกลายไปเป็นนิสัยไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ มันกลายเป็นนิสัยไปแล้ว มีอะไรจะยั่วยุให้เราผิดศีลขึ้นมานี่ ใจมันไม่ยอมรับที่จะละเมิด เพราะว่ามันมีศีลเป็นนิสัยไปเสียแล้ว มันซึมซับเข้าไปในใจ
เพราะฉะนั้น ตรงนี้อยากจะฝากเอาไว้ว่า คำว่ามีศีลมันมีเป็นขั้นเป็นตอนนะ รักษาศีลทีแรกน่ะ พอยุงมากัดปั๊บ มือมันเงื้อปุ๊บเลยนะ พอจะตบลงไปเท่านั้นนึกได้ว่าวันนี้มีศีล ก็เลยไม่ไปตบมัน นี้คือศีลแบบจิ้ม จิ้มน้ำตาล เหมือนมะขามจิ้มน้ำตาล ทีแรกมันก็เป็นอย่างนี้มันง่อนแง่นอยู่ แต่รักษาศีลจนเคย หนักเข้า หนักเข้า ผ่านไปหนึ่งเดือน สองเดือน สามเดือน มันเริ่มเป็นศีลเชื่อมแล้วนะ ยุงกัดเข้าก็…เอ๊ย…เอ็งรีบไปๆซะไป ไอ้เงื้อมือจะตบนี้ไม่มีแล้ว เจ็บแล้ว แล้วไป
เมื่อรักษาศีลมากเข้ามากเข้าเป็นปี เมื่อยุงกัด ก็ได้คิดว่าตราบใดเรายังเวียนว่ายในวัฏสงสาร ไม่แคล้วเบียดเบียนกันอย่างนี้แหละ หมดกิเลสเมื่อไหร่ล่ะก็ จะได้ไม่ต้องมาเจอกับสิ่งเหล่านี้ ยุงกัดแต่คิดจะไปนิพพานโน่นแน่ะ อย่างนี้ล่ะศีลแช่อิ่มเลย
เพราะฉะนั้น การรักษาศีล ไม่ใช่ว่ามันเป็นเรื่องพอดีพอร้าย มันต้องเอาชีวิตเป็นเดิมพันนะลูกนะ

โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก)
วันที่
ที่มา
เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC
บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *