ใจประดุจแผ่นดิน ก็คือ ใจของคนเราส่วนใหญ่ ไม่เหมือนแผ่นดิน แต่เหมือนขี้ผึ้งลนไฟ มันอ่อนปวกเปียกๆ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เคยตรัสเรื่องใจเหมือนแผ่นดิน กับพระราหุลว่า..
.
“แผ่นดินนี้ ใครเอาน้ำหอมไปรดไปราดมัน มันดีใจไหม ไม่ดีใจ มันก็เฉยๆ เอาของเหม็นไปรดไปราด มันทุกข์ใจไหม มันก็เฉยๆ ราหุล…เธอทำใจให้ได้อย่างนั้นแหละ ใครมาทำอะไร เธอก็อย่าไป
เอาเรื่องเอาราวกับเขา ตั้งใจปฏิบัติธรรมของเธอไป แล้วเธอจะหมดกิเลสได้เร็ว”
.
ถ้าทำใจเหมือนแผ่นดินได้อย่างนี้ ธรรมะต่างๆ ที่จะงอกงามขึ้นมาในใจก็อยู่แค่เอื้อม แต่เพราะคนเราใจไม่หนักแน่น เขาด่า เขาว่าเข้าหน่อย เจ็บใจ ทั้งๆ ที่มันก็แค่ลมมากระทบหู พัดลมเป่า
ยังแรงกว่านั้นอีก ลมปากเป่าเบาๆ หน่อยเดียว อุ๊ย! เจ็บใจ ถ้าอย่างนี้ก็คงมีเรื่องเจ็บช้ำน้ำใจไปตลอดชาติ
.
เพราะฉะนั้น ใครทำใจหนักแน่นเหมือนแผ่นดินได้ ก็จะเป็นฐานรองรับคุณธรรมความดีต่างๆ ให้งอกงามในจิตใจอย่างสูงส่งยิ่งขึ้นไป พาให้ใจสงบสุขได้ เป็นชั้นที่ 4 และจะส่งต่อให้ใจสงบสุข
ยิ่งๆ ขึ้นไป
.
ครอบครัวใดก็ตาม ที่ทั้งสามีภรรยา หรือพ่อแม่ลูกต่างก็ถือหลักร่วมกันอย่างนี้ การกระทบกระทั่งก็จะไม่เกิด แล้วต่างคนก็จะมีจิตใจที่สูงขึ้นไป แล้วถ้าทำได้กันอย่างนี้ทุกครอบครัว
ในประเทศไทย ปัญหาการหย่าร้างก็จะลดลง
.
ที่มา : หนังสือครอบครัวอบอุ่น หน้า ๓๐-๓๑
โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก)
ที่มา หนังสือครอบครัวอบอุ่น หน้า ๓๐-๓๑