ข้อวัตรปฏิบัติต่างๆ อย่าได้ทอดทิ้ง แม้ว่าจะห่างไกลจากหลวงพ่อ ห่างไกลจากหมู่คณะ เราตกเป็นเป้าสายตาของมนุษย์และเทวดาทั้งหลายตลอดเวลา ๒๔ น.
ทั้งเพื่อนสหธรรมิกที่พักอยู่ตึกเดียวกัน พระอาจารย์ที่มาสอน ผู้ปกครอง
ที่เราไปอยู่อบรม รวมทั้งสาธุชนที่นั่น ดูเราอยู่ตลอดเวลา
แล้วที่สำคัญ เราดูตัวของเราเอง
ถ้าอยากให้ชาวโลกเข้าถึงสันติสุข อยากให้พระพุทธศาสนาเป็นที่พึ่งให้แก่ชาวโลก อยากให้ประเทศไทยเป็นหลักของพระพุทธศาสนา อยากให้เพื่อนสหธรรมิกมีกำลังใจที่จะเป็นนักบวช และอยากเห็นสาธุชนมีความปีติที่ได้ทำบุญกับเนื้อนาบุญ
ให้ลูกรักษาข้อวัตรปฏิบัติของเราไว้ให้เคร่งครัด แต่อย่าถึงกับเคร่งเครียดไปอวดเคร่งกับเขาก็ไม่ใช่
ให้ทำอย่างมีความสุขในการประพฤติข้อวัตรปฏิบัติของเรา มีความสุขกับการสวดมนต์ไหว้พระ ทำภาวนา และรักษาสิกขาบทต่างๆ
ไม่ให้บกพร่องเลย
คนเราถ้าหากทำอะไรที่ไม่ฝืนใจ ทำแล้วมีความสุข
แต่เราจะรู้สึกเป็นทุกข์ถ้าฝืนใจ
ข้อวัตรปฏิบัติของเรา ถ้าหากเราปฏิบัติเพื่อจะขัดเกลา กลั่นกรองจิตใจเราให้สะอาดบริสุทธิ์ ให้ได้บรรลุมรรคผลนิพพานแล้ว มันเป็นความสุขและนำมาซึ่งความปีติยินดี เพราะฉะนั้นเราไม่ได้ฝืนใจทำ
เมื่อเราทำอย่างนี้เป็นกิจวัตร เพื่อนสหธรรมิกเห็นแล้วก็จะเกิดความเกรงใจและเกิดกำลังใจ
ในใจลึกๆ ของเพื่อนสหธรรมิก ที่มาร่วมศึกษาและร่วมพำนักอยู่ที่ตึกเดียวกัน เขาก็อยากเห็นเนื้อนาบุญเหมือนกัน
อยากเห็นนักบวชในยุคนี้ มีชีวิตและจิตวิญญาณของนักบวชอย่างแท้จริง
ไม่ใช่มีเฉพาะในสมัยพุทธกาลที่ได้ศึกษาร่ำเรียนมาในพระไตรปิฎกเท่านั้น เขาเห็นแล้วจะได้เกิดกำลังใจให้บวชต่อไปได้อีก
ถ้าหากว่าลูกของหลวงพ่อทุกรูปทำได้อย่างนี้
บุญใหญ่ก็จะเกิดขึ้นกับเราก่อน
กำลังใจเกิดขึ้นกับเพื่อนสหธรรมิก
เราจะยกสังฆมณฑลให้สูงขึ้น
ญาติโยมก็สมหวังที่ได้ทำบุญกับเนื้อนาบุญ
พระพุทธศาสนาก็จะเป็นที่พึ่งแก่ชาวโลก
ทุกสิ่งเกี่ยวพันกันไปหมดเลย เหมือนกับการรดน้ำที่โคนต้นไม้เพียงขันเดียวมีผลไปถึงลำต้น กิ่ง ก้าน ใบ ดอก ผล นกกา รุกขเทวา
ตลอดจนกระทั่งช่วยสร้างบรรยากาศร่มเย็น ให้เกิดขึ้นแก่โลก
โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่)
วันที่ วันพฤหัสบดีที่ ๒๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๐
ที่มา
หนังสือ ผ้าสีสุดท้าย
อ่านในรูปแบบ EBook ที่นี่