การรับแขก

  เรื่องรับแขกเป็นของยาก  จะต้องทำตัวให้ดี ถึงเราทำตัวดีแล้ว  ก็ต้องระวังรักษาความดีไว้อีก โดยเฉพาะเรื่องของธรรมะ แขกที่มาหา  บางคนมีแต่เรื่องมาให้แก้ไข มาปรับทุกข์ด้วย  นำเรื่องครอบครัวมาเล่าให้ฟัง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องดึงใจเราออกจากธรรมะ ออกจากศูนย์กลางกาย เราอยู่ทางธรรม ก็ต้องพูดเรื่องที่ดึงใจเขาเข้าหาธรรมะ

     ถ้าเราคุยไม่ดี  ไม่มีสติ  จะถูกเขาดึงใจเราออกไป แต่ถ้าคุยดี  มีสติ  เราจะต้องค่อย ๆ ตะล่อมดึงใจ เขาเข้ามา  พูดง่าย ๆ  เหมือนเล่นชักเย่อกัน  ใครมีกำลัง มากก็ชนะ การรับแขก  ต้องระวังตัวไว้ให้ดีเพราะแขกมีหลายประเภท ที่สำคัญจะต้องทำตัวเราให้ดีก่อนจะต้องดูตัวเองให้เข้าใจ  ให้แจ่มแจ้งเสียก่อน  ถ้าเราเข้าใจตัวเราดีแล้วเราก็เข้าใจคนอื่นได้ที่เรียกว่า  รู้เขา  รู้เรา  รู้ทั้งหมดได้

     พอรู้อย่างนี้แล้ว เราก็จะเข้าใจปัญหาที่เขามาพูด  มาคุยด้วยได้ ต้องทำใจให้อยู่ในบุญมาก ๆ  อยู่ในความเมตตา แล้วมองดูตัวเอง  ระลึกชาติของตัวเองในอดีต ดูในธรรมะระลึกไปเรื่อย ๆ ว่าเราสร้างบารมีมามากเท่าไร แล้วมองดูในปัจจุบันว่า เรามีความพยายามทำตัวเองให้บริสุทธิ์ได้มากแค่ไหน ดูด้วยว่า เราอยู่ในฐานะอย่างไร อยู่ในฐานะที่ต้องฉุดเขาขึ้นมาหรือไม่ คนนี้ฉุดได้  ก็ฉุดขึ้นมา  คนนี้ฉุดไม่ได้  ก็ปล่อยไป ถ้าขืนมัวไปฉุดก็จะเอาตัวเราไม่รอด เขาจะฉุดเราลงไปเสียเอง

     แล้วมองดูในอนาคตว่า เราต้องการจะเป็นอะไร  ไปถึงไหน มองดูทั้งอดีต  ปัจจุบัน  อนาคตให้ดีในเวลารับแขก เราจะได้ไม่เผลอตัว  จะได้ไม่เสียเวลาเปล่า ๆ ถ้าเราทำอย่างนี้แล้วจะทำหน้าที่ได้ดี  และใจไม่ตกด้วย  ที่สำคัญที่สุดต้องนั่งธรรมะมาก ๆ  จึงจะทำใจอย่างนี้ได้  ถ้าไม่เช่นนั้นแล้วก็ยาก

     โบราณท่านว่า สวดมนต์เป็นยาทา  ภาวนาเป็นยากินถ้าทั้งกิน  ทั้งทา  โรคก็หายเร็วขึ้น  คนเรามีทุกข์ก็เหมือนกับมีโรคเราต้องแนะนำเขาไป  คนที่มีปัญหาหนัก ๆก็ต้องพยายามให้เขาทั้งสวดมนต์และนั่งธรรมะ เขาจะได้มีบุญช่วยตัวเองได้

โอวาท คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง

ที่มา หนังสือคำสอนยาย

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *