krirk

20.เข้าวัดสร้างบุญ

๒๐. เข้าวัดสร้างบุญ วันพระ ในฐานะที่เราเป็นชาวพุทธ เราจะต้องเข้าวัดไปสั่งสม บุญกันดีกว่า เวลาเข้าวัดต้องเข้าให้เป็นนะ เข้าวัดให้เป็นทำอย่างไร คือต้องให้เป็นทางมาแห่งบุญ อะไรที่เป็นทางมาแห่งบุญ เราเอาหมด จะจัดเรียงรองเท้า ทำความสะอาดเสนาสนะ ถวายภัตตาหาร ฟังธรรม ปฏิบัติธรรม เวลาฟังธรรม อย่าไปคุยแข่งกับพระ ต้องให้ความเคารพในธรรม เคารพในทาน เพราะท่านเป็นตัวแทนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กำลังนำ ความรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาสอนให้เรารู้ว่า จะต้องดำเนินชีวิต อย่างไร การเคารพในธรรม เคารพในทาน มีอานิสงส์ คือ เราจะได้รับความเคารพยกย่องในทุกสถานที่ จะมีสามีภรรยา สามีภรรยานั้นก็เกรงใจ จะมีบุตรธิดา บุตรธิดาก็จะเคารพเชื่อฟัง จะมีบริวาร ในบ้าน นอกบ้าน ที่ทำงาน ทุกหนทุกแห่ง จะได้รับ การยกย่อง ให้เกียรติ ได้รับการชื่นชม ให้ความสำคัญแก่เรา เพราะฉะนั้น เมื่อเรามาวัดแล้ว ต้องฉลาดในการสั่งสมบุญ เห็น อะไรที่เป็นทางมาแห่งบุญ ในบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ เราทำหมด และทำ ด้วยความเคารพ ด้วยจิตใจที่เบิกบานว่า …

20.เข้าวัดสร้างบุญ Read More »

19.เวลาสร้างบุญในโลกนี้มีจำกัด

๑๙. เวลาสร้างบุญในโลกนี้มีจำกัด เรามีเวลาอยู่ในโลกนี้จำกัด จะต้องใช้เวลาในการสร้างบารมีให้มาก ๆ เพราะความตายไม่มีนิมิตหมาย เราต้องเสียเวลาในการนอนหลับพักผ่อนไปถึงหนึ่งในสามของ ชีวิต โดยไม่ได้บุญกุศลอะไรเลย ทำมาหากินอีกหนึ่งในสาม อาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน รับประทานอาหาร ขับถ่าย เข้าสังคม เดินทาง ไกลอีกตั้งเยอะ เพราะฉะนั้นเวลาที่สร้างบารมีจริง ๆ เหลือนิดเดียว อย่านึกว่า เราสร้างบุญกันมากมาย อย่าคิดอย่างนั้น ถ้าเราอายุ ๖๐ ปี ลองเอา ๓ หาร นอนไปฟรี ๆ ๒๐ ปี ทำงานหมดไปอีก ๒๐ ปี อีก ๒๐ ปี เหลือสำหรับบริหารขันธ์ ๕ อาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน รับประทานอาหาร ขับถ่าย เดินทางไกล เข้าสังคม อีกกี่ปีก็ไม่รู้ เหลือเวลาสร้างบารมีกันจริง ๆ นิดเดียว เพราะฉะนั้นใครที่ความเพียร ไม่สม่ำเสมอ …

19.เวลาสร้างบุญในโลกนี้มีจำกัด Read More »

18.ธรรมเทศนาในยุคโซเชียลมีเดีย

๑๘. ธรรมเทศนาในยุคโซเชียลมีเดีย สงครามข่าวในยุคโซเชียลมีเดีย ปัจจุบันมีผู้ไม่หวังดี โจมตี ด่าว่าพระ ด่าว่าวัดเยอะ ลงข่าวเป็นประเด็นทุกวัน เพื่อมุ่งหวังทำลาย ศรัทธาของชาวพุทธให้คลอนแคลน และหวังบ่อนทำลายพระพุทธ ศาสนาและสังฆมณฑล ถึงเวลาแล้ว ที่เราจะต้องชี้แจงแสดงความจริงให้โลกรู้ และ กระจายออกไปให้มากที่สุด เราไม่ชี้แจงไม่ได้…ขนาดขึ้นศาลยังต้องฟัง ข้อมูลทั้งสองฝ่าย ถ้าเราไม่ชี้แจงความจริงไปให้มาก ๆ จะปล่อยให้ เขาให้ข้อมูลข้างเดียวหรือ? สิ่งที่เราช่วยกันกระจายข้อมูลที่ถูกต้อง ชี้แจงสัมมาทิฐิให้เกิดขึ้นนี้ ไม่ผิดหลักวิชชา ที่บอกว่า..“ไม่สู้ ไม่หนี ทําดีเรื่อยไป” คำว่า “ไม่สู้” หมายถึง ไม่สู้แบบมิจฉาทิฐิ คือ ไม่ได้ให้ไปสู้แบบ รบราฆ่าฟัน ส่วนการชี้แจงให้ชาวโลกรับรู้สิ่งที่ถูกต้องให้มาก ๆ คือ ปลูกสัมมาทิฐิให้เขา นี่แหละคือการ “ทำดีเรื่อยไป!” การทำดี ต้องทำทั้งตนเองและเป็นกัลยาณมิตรให้ผู้อื่นด้วย ให้เขาได้มีความเห็นถูก เป็นกัลยาณมิตรให้เขาเพราะ “โลกขาดดวงตะวันไม่ได้ฉันใด โลกก็ขาดกัลยาณมิตรไม่ได้ฉันนั้น” แม้เราไม่เก่งเทคโนโลยี ก็ไม่เห็นจะมีปัญหา ที่ไหนมีที่ให้กด เราก็แค่เอานิ้วไปกด บวกไปกับความคิดที่เป็นสัมมาทิฐิและความรักใน เพื่อนมนุษย์ที่ไม่ต้องการให้เขาไปอบาย ให้เขามีสัมมาทิฐิ แล้วทุกอย่าง …

18.ธรรมเทศนาในยุคโซเชียลมีเดีย Read More »

17.ท่านมาเพราะเห็นความสำคัญ ของพระพุทธศาสนา

๑๗. ท่านมาเพราะเห็นความสำคัญ ของพระพุทธศาสนา มีบางคนคิดว่า ที่พระมาวัดพระธรรมกายเยอะ ๆ เพราะเราไปจ้างท่านมา? โปรดรับทราบว่า พระมหาเถรานุเถระ พระสังฆาธิการ ๓๐,๐๐๐ กว่าวัดทั่วประเทศ ไม่ใช่ว่าท่านมาวัดเรา เพราะอยากได้ เครื่องไทยธรรม อย่าไปคิดตื้น ๆ อย่างนั้น ท่านบวชแล้ว ไม่ต้องการอะไรแล้ว หวังทำพระนิพพานให้แจ้ง เท่านั้น แต่ท่านเห็นแก่การคณะสงฆ์ เห็นว่าในคราวนี้ถึงคราวที่ทุกวัด จะต้องรวมกัน เพื่อความเป็นปึกแผ่นแน่นแฟ้นของพระพุทธศาสนา เพราะว่าในยามนี้หรือที่ผ่านมา พระพุทธศาสนาถูกโจมตีขึ้นหน้าหนึ่ง อยู่เรื่อย ๆ ท่านมาเพื่อที่จะมาทำความคุ้นเคยกัน รู้จักกัน แล้วก็จะได้ ร่วมงานกัน ช่วยกันแก้ปัญหา ปัญหาบางอย่างแก้ตามลำพังได้ แต่ ปัญหาใหญ่นั้นต้องมาช่วยกันแก้ ท่านถึงได้มา อีกประการหนึ่ง ท่านเอ็นดูหลวงพ่อ สงสาร อยากจะมาให้กำลังใจ เพราะฉะนั้น ท่านถึงได้ทิ้งทุกอย่าง วางทุกสิ่ง ทั้ง ๆ ที่ท่านมีภารกิจมาก ต้อง สงเคราะห์เพื่อนมนุษย์และมีกิจอย่างอื่นอีกหลาย ๆ อย่างที่จะต้องทำ กิจบางอย่างท่านยอมเลื่อนออกไปเพื่อจะมาร่วมงานนี้ ๒๗ …

17.ท่านมาเพราะเห็นความสำคัญ ของพระพุทธศาสนา Read More »

16.จดหมายจากพระกัลยาณมิตร

๑๖. จดหมายจากพระกัลยาณมิตร มีพระกัลยาณมิตรรูปหนึ่งเขียนจดหมายมา ท่านใช้คำว่า “ขอแสดงอาบัติ” กับคุณครูไม่ใหญ่ ที่จริงอยากอ่านตามลำพัง แต่มี หลายข้อที่ท่านเขียนมาอาจจะไปตรงกับใจใครบางคน จะได้ถือโอกาส ตรงนี้ชี้แจง ทำความเข้าใจกันสักนิด ที่จริงถึงไม่ได้แสดงอาบัติ หรือมาขอขมาอะไร ก็ให้ไปหมด แล้ว เพราะครูไม่ใหญ่อยากจะจากโลกนี้ไปอย่างใจใส ๆ ไม่มีเวรมีภัย กับใคร แต่นี่ก็เป็นความงามของพุทธบุตรที่เมื่อท่านมีความรู้สึกที่ดี เกิดขึ้นแล้ว ท่านจะแสดง ไม่ปกปิด จะเปิดเผย เพื่อความบริสุทธิ์ บริบูรณ์ เพราะท่านมีพระนิพพานเป็นเป้าหมาย ท่านเขียนมาย่อ ๆ ว่า ท่านเคยมีอคติในใจ ที่ยังไม่กล้าบอกกับใครในส่วนลึกก้นบึ้ง หัวใจ ซึ่งอาจจะไปตรงกับความคิดของคนอื่น ๆ ที่มีต่อวัดพระธรรมกาย พูดง่าย ๆ กับครูไม่ใหญ่นั่นแหละ แต่เขามักจะเหมารวม ๆ เป็น วัดพระธรรมกาย ไม่รู้เป็นยังไง ที่จริงว่าครูไม่ใหญ่โดยตรงจะดีกว่า เพราะว่าพระธรรมกาย บาปนะ เพราะคำว่า “ธรรมกาย” เป็นคำสูง หมายถึงพระพุทธเจ้า ที่อยู่ภายในตัว หมายถึง พระรัตนตรัย …

16.จดหมายจากพระกัลยาณมิตร Read More »

15.มหาธรรมกายเจดีย์

๑๕. มหาธรรมกายเจดีย์ ความปรารถนาของหลวงพ่อ คือ ตั้งใจอยากจะให้ทุกคน มานั่งสมาธิ ได้เข้าถึงธรรม อยากให้เขาเข้าถึงพระรัตนตรัยในตัว ซึ่งยังไม่สมหวังเลย ที่สร้างศาสนสถานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นมหาธรรมกายเจดีย์ มหารัตนวิหารคด สภาธรรมกายสากล มหาวิหารพระมงคลเทพมุนี ก็เพื่อวัตถุประสงค์นี้แหละ คือจะให้เป็นจุดรวมของผู้มีบุญได้มา ประพฤติปฏิบัติธรรมร่วมกัน เพราะจู่ ๆ จะชวนเขาให้มานั่งหลับตา เขายังไม่เห็นประโยชน์ มักจะบอกว่า ไม่มีเวลาบ้าง ไม่ว่างบ้าง คอยให้พร้อมก่อนบ้าง ดูเหมือน จะเป็นสูตรสำเร็จเลย ไปที่ไหนก็จะได้ยินอย่างนี้ หลวงพ่อก็ต้องมองหาโครงการที่จะรวมคนรวมผู้มีบุญที่ลงมา เกิดตั้งเยอะแยะให้มารวมกัน เพื่อกระตุ้นให้เกิดความตื่นตัวในการ ประพฤติปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกาย ก็ต้องหาสิ่งที่เขาสามารถ ทำได้ง่าย ๆ ก่อน มีความรู้สึกว่าง่าย ไม่อย่างนั้นจะถูกครอบงำด้วย การทำมาหากิน กับการสนุกสนานเพลิดเพลิน จนกระทั่งมองไม่เห็น การสร้างบารมี ทุก ๆ โครงการที่ตั้งขึ้น จุดประสงค์ก็เพื่อต้องการให้เขาปฏิบัติธรรม โดยเริ่มต้นจากการสร้างมหาทานบารมีก่อน ซึ่งเขาจะมีความ รู้สึกว่าง่าย และพอมาถึงแล้ว ก็จะได้รับการแนะนำเรื่องการรักษาศีล ได้ฟังธรรมะในพระไตรปิฎก สิ่งที่ควรรู้ และที่สำคัญคือการปฏิบัติธรรม …

15.มหาธรรมกายเจดีย์ Read More »

14.สิ่งที่วัดพระธรรมกายทำคือนำคำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปสู่ใจชาวโลก

๑๔. สิ่งที่วัดพระธรรมกายทำ คือ นำคำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไปสู่ใจชาวโลก ไม่มีวิธีการใดที่จะทำให้มวลมนุษยชาติ พ้นจากความทุกข์ทรมานของชีวิตได้ นอกจากพุทธวิธี คือวิธีของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่พระองค์ทรงพัฒนาฝึกฝน ตนเองอย่างไร จนกระทั่งดับทุกข์ได้ หลุดพ้นจากกิเลสอาสวะได้ มีความสุขตั้งแต่วันที่บรรลุธรรม จนกระทั่งดับขันธปรินิพพาน และ มีชีวิตได้เสวยเอกันตบรมสุขเป็นนิรันดร เพราะฉะนั้น มีวิธีการเดียวเท่านั้น คือ นำคำสอนของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าขยายไปยังเพื่อนมนุษย์ทุก ๆ คนในโลก ให้เขาได้มาศึกษาเรียนรู้แล้วก็ปฏิบัติจะได้เข้าถึงสันติสุขภายใน เข้าถึงพระรัตนตรัยในตัว แล้วหลังจากนั้นสิ่งดี ๆ ก็จะเกิดขึ้นกับโลก ใบนี้ ๒๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา https://www.dhamma01.com/book/42 ต้นฉบับ หนังสือ คำสอนคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม 1 กลับสู่ สารบัญ หนังสือคำสอนครูไม่ใหญ่

13.วัดอยู่เหนือความรวยความจน

วัดอยู่เหนือความรวยความจน เป็นพระนี่ อยู่เหนือความรวยความจนนะ พระไม่ได้คิดเรื่องรวย และไม่ได้คิดเรื่องจน มันเหนือตรงนั้นไปแล้ววัดก็เหมือนกันอยู่เหนือคำว่า “วัดรวย” หรือ “วัดจน”“วัด” เป็นเครื่องวัดของคนเข้าวัดว่า กิเลสหรือสิ่งไม่ดีนั้นหมดไปแค่ไหน ยังเหลืออีกแค่ไหน และเป็นสถานที่ตักตวงบุญเป็นแหล่งเนื้อนาบุญ เป็นแหล่งแห่งความรู้อันบริสุทธิ์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่จะทำให้เราดำเนินชีวิตได้ถูกต้อง ไม่ผิดพลาด มีสุคติเป็นที่ไป มีเป้าหมายคือ พระนิพพาน เราจะมองที่ถาวรวัตถุ หรือจำนวนคนเข้าวัดว่า วัดนี้รวย วัดนี้จนไม่ถูกต้องวัดหลวงปู่หลวงตาในหลาย ๆ วัดที่ต่างจังหวัด ท่านมีแค่กุฏิหลังเล็ก ๆ มีทางจงกรม มีที่พักกลางวัน มีศาลาอเนกประสงค์ ที่ท่านทำอย่างนั้น เพราะท่านมีวัตถุประสงค์ต้องการปลีกวิเวก เพื่อให้กายสงัด ใจจะได้สงัด กิเลสจะได้หมดไป นั่นวัตถุประสงค์ของท่าน ไม่ใช่ท่านจน ถ้าท่านจะสร้างให้ใหญ่โตท่านก็ทำได้ แต่ท่านไม่มีวัตถุประสงค์อย่างนั้น ใครมีบุญอยากได้บุญก็มาฟังธรรม ไม่มีใครมา ท่านก็ปฏิบัติธรรมทำความเพียรของท่านไป มันแล้วแต่วัตถุประสงค์การสร้างวัด อย่างวัดใหญ่ ๆ หลาย ๆ วัด โดยเฉพาะวัดพระธรรมกายที่สร้างใหญ่ก็มีวัตถุประสงค์เพื่อเอาไว้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมให้สาธุชนผู้มีบุญทั้งหลายได้มาปฏิบัติธรรมรวมกัน เป็นพลังหมู่ในการปฏิบัติธรรม ในการศึกษาธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะฉะนั้นจะให้ไปตากแดด ตากลม ตากฝน ก็ทำไม่ได้ …

13.วัดอยู่เหนือความรวยความจน Read More »

12.ต้องยอยกพระพุทธศาสนาให้เฟื่องฟู

๑๒. ต้องยอยกพระพุทธศาสนาให้เฟื่องฟู หลวงพ่อคิดว่า พวกเราคงมีจิตใจเช่นเดียวกับหลวงพ่อ คือ อยากจะเห็นพระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง เรามาเกิดในยุคนี้ ที่มี พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ และเป็นประโยชน์ต่อเรา และโลกนี้ เราจะให้มันถล่มทลายในยุคของเรา หาควรไม่ ยุคของเรา พระพุทธศาสนาจะต้องเฟื่องฟูที่สุด เหมือนย้อนยุคพุทธกาล หลวงพ่อมีความคิดว่า อะไรก็ตามที่มีบันทึกในพระไตรปิฎก จะต้องเป็นสิ่งที่พิสูจน์และสามารถยืนยันได้ว่า “มีจริง” ในยุคปัจจุบัน ของพวกเรานี่แหละ อย่างเช่น ในพระไตรปิฎกมีการบันทึกว่า มีการเลี้ยงพระ แสนรูป ผ่านมาพันปี คนชักไม่ค่อยเชื่อแล้วว่า มันจะเป็นไปได้อย่างไร แต่ในที่สุดเราก็พิสูจน์แล้วว่า มีจริง แล้วก็ดีจริง สามารถทำได้ ถวาย จีวรแสนผืน ถวายยารักษาโรคแสนชุด เราก็ได้ทำแล้วในยุคของเรา เพราะฉะนั้น แทนที่จะมองว่า พระพุทธศาสนาเรียวลง เราจะต้องพยายามทำพระพุทธศาสนาให้เฟื่องฟูยิ่งขึ้นไป เวลา เราเดินทางออกจากร่างกายไปสู่สุคติ เราจะได้ปลื้มปีติว่า เราได้ใช้ ร่างกายและทรัพยากรที่เรามีอยู่นี้ ช่วยกันยกยอพระพุทธศาสนา เวลา ชาวสวรรค์ถาม เราจะตอบเขาด้วยความปีติภาคภูมิใจว่า ได้ช่วยยอยก พระพุทธศาสนาให้สูงเด่นยิ่ง ๆ ขึ้นไป รัศมีกายของเราจะได้สว่างโพลง …

12.ต้องยอยกพระพุทธศาสนาให้เฟื่องฟู Read More »

11.สัมมาอาชีพ…อาชีพที่ปลอดภัย

๑๑. สัมมาอาชีพ…อาชีพที่ปลอดภัย จะประกอบอาชีพอะไร ต้องเลือกให้ดี เพราะมันมีผล กับความใสความหมองของใจ เราจะเห็นภาพนั้น ได้ยินเสียงนั้น และถูกบันทึกเป็นภาพเอา ไว้ในใจ มันจะปรุงให้ใจเราใสหรือหมองตลอดเวลาเลย จะถูกบันทึก อย่างนี้ไปเรื่อย ๆ และจะไปฉายเป็นภาพให้เห็นตอนใกล้จะละโลก ที่ เรียกว่า “กรรมนิมิต” เหมือนเราดูหนังอยู่คนเดียว ซึ่งมีตัวเองเป็นพระเอกหรือเป็น ผู้ร้ายอยู่ตรงนั้น มีผลทำให้ใจหมองหรือใส คตินิมิตก็จะไปตามความใสความ หมองของใจ แล้วนำไปสู่ปรโลก คือ สุคติ หรือทุคติ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเห็นตรงนี้ ถึงสอนว่าให้ประกอบ สัมมาอาชีวะเท่านั้น งดเว้นมิจฉาอาชีวะ ๕ อย่าง คือ ค้าอาวุธ ค้ามนุษย์ ค้ายาพิษ ค้าสุรายาเสพติด และค้าสัตว์นำไปฆ่า เพราะฉะนั้น เรื่องอาชีพไม่เลือกไม่ได้ ต้องเลือกให้ดี ไม่อย่างนั้นจะมีคำว่า สัมมาอาชีวะได้อย่างไร ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๘ พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา https://www.dhamma01.com/book/42 …

11.สัมมาอาชีพ…อาชีพที่ปลอดภัย Read More »

10.ใช้สื่อผิด ใส่ร้ายบิดเบือนผู้อื่น…กรรมหนัก

๑๐. ใช้สื่อผิด ใส่ร้ายบิดเบือนผู้อื่น…กรรมหนัก บุคคลที่ใช้สื่อ ในการใส่ร้ายบิดเบือนผู้อื่น มักจะมีจิตใจที่ขุ่นมัว คิดแต่ว่าจะเอาความผิดไปใส่เขาอย่างไร และก็คิดหาผลประโยชน์เป็นปกติ เพราะฉะนั้นในใจจะมีแต่สิ่งชั่วร้ายตลอดเวลา ผ่านกระบวนความคิด คำพูด และการกระทำ คนพวกนี้ เมื่อตายไปแล้ว… ด้วยจิตเศร้าหมอง ก็จะไปบังเกิดในมหานรก ขุมที่ ๔ จะถูกดึงดูดวูบลงไปเลย จะไม่ไปโดนพิพากษาแบบในยมโลก ซึ่งเป็นลหุโทษ และจะถูกทรมานในรูปแบบต่าง ๆ ทุกข์ทรมานมาก ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๘ พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา https://www.dhamma01.com/book/42 ต้นฉบับ หนังสือ คำสอนคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม 1 กลับสู่ สารบัญ หนังสือคำสอนครูไม่ใหญ่

9.สิ่งที่สูติแพทย์ต้องรู้ (๒)

สิ่งที่สูติแพทย์ต้องรู้ (๒) ในกรณีที่คนท้องมีความผิดปกติบางอย่าง ที่คุณหมอยืนยันว่า ต้องทำแท้งเด็กออกเพื่อรักษาชีวิตแม่ไว้หากเป็นกรณีนี้ต้องตัดสินอย่างไร คุณครูไม่ใหญ่ ในกรณีที่คนท้องมีความผิดปกติบางอย่าง ที่คุณหมอยืนยันว่าต้องทำแท้งออกเพื่อรักษาชีวิตแม่ไว้ หากเป็นกรณีนี้ก็ให้ทำตามหลักวิชชา คือในกรณีที่ลูกยังไม่ตายในท้อง ให้ใจอยู่ในบุญ นึกถึงบุญ นึกถึงพระรัตนตรัยไปเรื่อยๆ ทำบุญทุกบุญ แล้วอธิษฐานจิตให้เด็กรอดปลอดภัยถึงอย่างไรก็ตาม ครูไม่ใหญ่มีความเห็นว่า ไม่ควรทำแท้ง ให้หมั่นสั่งสมบุญดังกล่าว แต่ถ้าลูกตายในท้อง จึงค่อยเอาออก ๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา https://www.dhamma01.com/book/42 ต้นฉบับ หนังสือ คำสอนคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม 1 กลับสู่ สารบัญ หนังสือคำสอนครูไม่ใหญ่

8.สิ่งที่สูติแพทย์ต้องรู้ (๑)

สิ่งที่สูติแพทย์ต้องรู้ (๑) แพทย์บางสาขาต้องเสี่ยงต่อการทำกรรมเช่น สูติแพทย์ ถ้าสงสัยว่าเด็กในครรภ์จะพิการหรือไม่สมประกอบ ในทางการแพทย์เห็นว่าควรทำแท้งได้อย่างนี้ในทางกฎแห่งกรรมผิดหรือไม่ และจะแก้ไขอย่างไรครับ คุณครูไม่ใหญ่ การทำแท้ง ไม่ว่ากรณีใด ตามหลักกฎแห่งกรรมล้วนมีวิบากกรรมทั้งสิ้น แต่ว่ากรรมมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับเจตนา เช่น รับทำแท้งเพราะผู้ท้องไม่พร้อม ด้วยเหตุอะไรก็แล้วแต่ ถ้าเกิดจากความรักสนุกอย่างนี้บาปมากแต่ถ้าพิจารณาว่า เด็กคนนี้คงจะพิการ หรืออาจจะไม่สมประกอบจึงทำแท้ง ตามหลักพระพุทธศาสนาอย่างนี้ก็บาป แต่น้อยลงมาหน่อยหนึ่ง ซึ่งจะมีวิบากกรรมทำให้อายุไม่ยืนในภพชาติต่อไป หรือถ้ากรรมทำแท้งมากก็จะถูกทำแท้งบ้างเช่นเดียวกันถ้าใครอยู่ในประเภทหลัง คือ สมมติว่า เป็นสูติแพทย์ จะต้องตัดสินใจอย่างนี้ก่อน ก็อย่าลืมทำบุญเยอะ ๆ เพราะกรรมทำแท้งทำให้อายุไม่ยืน เราก็ไปทำบุญให้อายุยืน ๆ เช่น ถวายกองทุนยารักษาโรคเป็นสังฆทาน หรือไปเลี้ยงพระ ก็จะมีอานิสงส์ได้อายุ วรรณะ สุขะพละ ปฏิภาณ ให้อายุพระศาสนา หรือบวชพระสืบอายุพระศาสนาอย่างนี้หนักก็จะเป็นเบา เบาก็จะหาย ถ้าบุญนี้ให้ผลก่อน อายุจะยืนถ้าบาปทำแท้งด้วยการพิจารณาของสูติแพทย์ หนักก็จะเป็นเบา หรือตามไม่ทัน แต่ถ้าทันมันก็ต้องยอมเขาเพราะฉะนั้น ต้องทำบุญเยอะ ๆ เพื่อหนีกรรม เพราะเรามีอาชีพนี้ก็ต้องทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ ไปตัดสินใจเอาเองนะ ๑๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๘ …

8.สิ่งที่สูติแพทย์ต้องรู้ (๑) Read More »

7.รู้ไหม การฆ่าตัวตายเป็นกรรมหนัก บาปมาก

๗. รู้ไหม การฆ่าตัวตาย เป็นกรรมหนัก บาปมาก การฆ่าตัวตายเป็นกรรมที่หนักมาก… เพราะการที่ใครสักคน คิดทำร้ายตัวเอง…ด้วยการฆ่าตัวตาย ซึ่งเป็นการทำลายชีวิตที่พ่อแม่ให้มาสร้างบารมีได้นั้น ใจของผู้นั้นจะต้องหดหู่และเศร้าหมองเป็นอย่างมาก คือ มากแบบสุด ๆ (มืดมาก) อีกทั้งจะต้องตั้งใจและคิดหาวิธีที่จะฆ่าตัวตายด้วย ดังนั้นบาปที่เกิดขึ้นจากการฆ่าตัวตายจึงมีกำลังมาก มากกว่าการที่เราไปฆ่าผู้อื่นมากมาย (แต่ฆ่าผู้อื่นก็ไปมหานรกเหมือนกัน) ๒๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา https://www.dhamma01.com/book/42 ต้นฉบับ หนังสือ คำสอนคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม 1 กลับสู่ สารบัญ หนังสือคำสอนครูไม่ใหญ่

6.นรก…ภพภูมิแห่งการเสวยผลบาป

๖. นรก…ภพภูมิแห่งการเสวยผลบาป นรก… เป็นที่เสวยผลแห่งบาป ที่กระทำไว้เมื่อตอนเป็นมนุษย์ นรก… เป็นสิ่งสากล ไม่ได้เป็นของชาติไหน ภาษาไหน หรือศาสนาไหน ไม่ใช่ของคริสต์ พุทธ มุสลิม หรือของความเชื่อใด นรก… เป็นอีกโลกหนึ่ง สำหรับรองรับผู้ไปสู่ปรโลก ด้วยใจที่เศร้าหมอง เพราะบาปกรรมที่ทำไว้ นรก… แออัดไปด้วยอดีตมนุษย์ผู้กระทำกรรมชั่ว ไม่ละเว้นแม้แต่อดีตผู้ยิ่งใหญ่ อดีตมหาเศรษฐี นรก… ดินแดนแห่งความมืดมิด อบอวลไปด้วยบรรยากาศที่ร้อน ทึม มืด ความเจ็บปวด ทุกข์ทรมาน มีแต่เสียงร้องโหยหวนของสัตว์นรกอยู่ตลอดเวลา นรก… นายนิรยบาลบังเกิดขึ้นจากวิบากกรรมของสัตว์นรก พร้อมเครื่องทัณฑ์ทรมานที่หลากหลาย จนจินตนาการไปไม่ถึง ทั้งสัตว์นรกและนายนิรยบาล มีกายโตใหญ่เป็นภูเขาเลากา ขนาดลูกเล็กบ้าง ปานกลางบ้าง ใหญ่บ้าง นรก… มีไฟอันร้อนแรง สามารถทำลายนัยน์ตาของผู้ยืนดูอยู่ ที่ห่างออกไป ๑๐๐ โยชน์ ก้อนหินน้อย ๆ ทิ้งลงไปในไฟปกติ ไฟเผาลนอยู่ตลอดวันไม่ย่อยยับ แต่ว่าหินก้อนโตเท่าปราสาท ทิ้งลงไปในไฟนรก ก็ย่อยยับไปในทันที แม้ดวงอาทิตย์ใส่ลงไปในไฟนรก ก็แวบละลายหายไปในทันที …

6.นรก…ภพภูมิแห่งการเสวยผลบาป Read More »