krirk

5.สวรรค์…ภพภูมิแห่งการเสวยผลบุญ

๕. สวรรค์…ภพภูมิแห่งการเสวยผลบุญ สวรรค์…ภพภูมิแห่งการเสวยผลบุญ สวรรค์… เป็นที่เสวยผลบุญ ที่เรากระทำเมื่อตอนเป็นมนุษย์ สวรรค์… เขาไม่ได้ดูว่า ตอนเป็นมนุษย์ใครมียศถาบรรดาศักดิ์ สูงต่ำแค่ไหน จะหล่อรวยสวยฉลาดแค่ไหน… เขาดูที่ใครสั่งสมบุญมามากแค่ไหน สวรรค์… เขาไม่ได้ดูว่าใครอายุยืนยาว หรืออยู่มานาน จึงจะให้เป็นผู้มียศใหญ่ มีความเป็นใหญ่ แต่เขาดูที่ใครมีบุญมาก เขาก็ให้โอกาสผู้นั้น เป็นผู้มียศใหญ่ มีความเป็นใหญ่ สวรรค์… เทพบุตรเทพธิดาผู้มีบุญมาก รัศมีที่ออกจากกาย จากเครื่องประดับก็มาก บริวารสมบัติก็มาก วิมานใหญ่โตโอฬาร สวรรค์…มีพื้นที่ใหญ่โตโอฬาร มีการปกครองแบ่งออกเป็นเขต ๆ ประชากรชาวสวรรค์ในแต่ละชั้น มีจำนวนมากกว่าในเมืองมนุษย์มาก สวรรค์…มีฤดูเดียว คือ ฤดูสบาย ไม่มีฤดูร้อน ฤดูฝน ฤดูหนาว ฤดูใบไม้ผลิ สวรรค์…ไม่มีความมืด มีแต่ความสว่างไสว แม้วัตถุสิ่งของก็สว่างไสว สวรรค์…มีแต่ความเป็นหนุ่มเป็นสาว เทพธิดาอายุ ๑๖ – ๑๘ ปี เทพบุตรอายุ ๑๘ – ๒๐ ปี สวรรค์…มีแต่เกิดกับตาย ไม่มีแก่ …

5.สวรรค์…ภพภูมิแห่งการเสวยผลบุญ Read More »

4.นรกสวรรค์มีจริง

๔. นรกสวรรค์มีจริง เรื่องบุญต้องทำไว้ ถ้าตายแล้วสูญก็เจ๊ากันไป แต่ถ้าตายแล้วไม่สูญ เราจะมีความสุขในสุคติโลกสวรรค์ Law of Kamma หรือ กฎแห่งการกระทำ ทั้งทางกาย วาจา ใจ เป็นเรื่องที่เราควรศึกษาอย่างยิ่ง เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเรา เราคิด เราพูด เราทำ ล้วนมีผลทั้งสิ้น ศึกษาเอาไว้เราจะได้ดำเนินชีวิต ได้อย่างถูกต้อง ปิดอบาย ไปสวรรค์ มีสุขในปัจจุบัน ดังนั้น อย่าไปสรุปว่า นรกสวรรค์เป็นเรื่องไกลตัว ไม่มีจริง มันไม่ใช่เรื่องไกลตัวนะ แต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับตัวเลย เพราะทุก การกระทำมีผลโยงไปถึงภพภูมิหลังความตายทั้งสิ้น กฎหมายเรายังหลีกเลี่ยงได้บางครั้ง แต่กฎแห่งกรรมหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ในน้ำ บนบก ยอดเขา ในอวกาศ ดวงดาวต่าง ๆ ตราบใดที่เรายังมีกายและใจ มันจะติดตามตัวเราไปเหมือนเงาตามตัว ซึ่งจำเป็นต้องศึกษาเรียนรู้เอาไว้ อย่าไปสรุปว่า นรกสวรรค์ไม่มี เพราะเราไม่เคยเห็น แล้วก็ ไม่เคยเห็นใครเห็น แล้วสรุปว่าไม่มี ไม่ได้ เพราะบางอย่างที่เราไม่เห็น ไม่ได้แปลว่า ไม่มี …

4.นรกสวรรค์มีจริง Read More »

3.ปรโลก…มีจริง

๓. ปรโลก…มีจริง โลกยังขาดแคลนความรู้ที่แท้จริง จึงไม่ได้ทำงานที่แท้จริงเสียที มีความรู้แค่เพียงการดำรงชีพ เพื่อความอยู่รอด แต่ความรู้ที่จะเอาตัว ให้รอด ยังไม่ได้ให้ความสำคัญเลย อาจเป็นเพราะไม่เคยได้ยินได้ฟัง และไม่มีการขยายความรู้นี้ออกไป เพราะฉะนั้น โลกตอนนี้แม้อยู่ท่ามกลางแสงอาทิตย์ที่เจิดจ้า แต่ความจริงแล้วยังมืดภายในอยู่ ยังไม่รู้วิธีการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง ชาวโลกอาจจะเข้าใจดี มีความรู้อย่างสมบูรณ์ในเรื่องโลกนี้ แต่เรื่องปรโลกนั้นยังไม่ค่อยเข้าใจ รู้สึกเขายัง innocent ยังไร้เดียงสา กับความรู้เรื่องปรโลก ซึ่งเป็นโลกที่ทุกคนหลีกเลี่ยงไม่ได้ ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก เราปฏิเสธการไปได้ แต่ปรโลกเราปฏิเสธไม่ได้ ดังนั้น เมื่อเราจำเป็นต้องไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงควรศึกษาไว้ก่อนว่า ชีวิตในปรโลกนั้น เขามีความเป็นอยู่กันอย่างไร ถ้าไม่รู้แล้วอันตราย ถ้าจะเอาแต่รวย แต่เอาตัวไม่รอด ถ้าจะเอาตัวรอด อย่าเอาแต่รวยอย่างเดียว ๒๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๕ พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา https://www.dhamma01.com/book/42 ต้นฉบับ หนังสือ คำสอนคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม 1 กลับสู่ สารบัญ …

3.ปรโลก…มีจริง Read More »

2.กฎแห่งกรรม…สิ่งที่ทุกคนต้องศึกษา

๒. กฎแห่งกรรม…สิ่งที่ทุกคนต้องศึกษา การศึกษาเรื่องกฎแห่งกรรม มีความจำเป็นมาก เราจะต้องศึกษา ให้เข้าใจ โดยเฉพาะพระภิกษุ สามเณร ซึ่งเป็นกองรบหลักของ กองทัพธรรม จะต้องมีความเชื่อหรือเข้าใจเรื่องกฎแห่งกรรมให้ได้ มากที่สุด เมื่อเข้าใจแล้ว เราก็กล้าที่จะยืนยันให้ญาติโยมเชื่อเรื่องบาปบุญ คุณโทษ ซึ่งถ้าพระเชื่อ เณรเชื่อ โยมเชื่อ ความชั่วก็จะไม่เกิดขึ้นในโลก หิริโอตตัปปะก็จะตั้งขึ้นได้ จะมีความละอายต่อการทำบาป คล้าย ๆ เสียศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ คนอย่างเราต้องไม่ทำบาป หรือไม่ก็ เกรงกลัวว่าจะมีผลไปอบาย ซึ่งมีความทุกข์ทรมานยาวนานมาก ถึงเวลาแล้วที่พุทธบริษัท ๔ จะต้องมาศึกษาเรื่องกฎแห่งกรรม ให้เข้าใจ ให้แจ่มแจ้ง เพื่อจะได้ปฏิบัติให้ถูก เพราะถ้าไม่ได้ศึกษา พอถึงเวลาเราเดินทางจากโลกนี้ไป มันอันตราย ๒๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๗ พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา https://www.dhamma01.com/book/42 ต้นฉบับ หนังสือ คำสอนคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม 1 กลับสู่ สารบัญ หนังสือคำสอนครูไม่ใหญ่

1.กฎที่ต้องรู้…ไม่รู้อันตราย

๑. กฎที่ต้องรู้… ไม่รู้อันตราย กฎแห่งกรรมเป็นกฎที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่รู้ก็ไม่ได้ ไม่รู้ก็ดำเนินชีวิตผิดพลาด ต้องศึกษาให้รู้ เป็นเรื่องสำคัญ เพราะเราตกอยู่ภายใต้ Law of Kamma กฎแห่งการกระทำ ทางกาย ทางวาจา ทางใจ ไม่ว่าดีหรือชั่วล้วนมีผลทั้งสิ้น ถ้าชั่วก็มีผลไปอบาย ถ้าดีก็มีผลไปสุคติ ที่ไปอบาย อุปมาเหมือนฝุ่นในผืนปฐพี ไปสวรรค์ อุปมาเหมือนฝุ่นในเล็บมือ เพราะไม่มีความรู้เรื่องกฎแห่งกรรม จึงดำเนินชีวิตผิดพลาดไปอบาย ไปถึงตรงนั้น ไม่มีสิทธิ์คิดอะไร ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะพูดว่า รู้อย่างนี้ ไม่รู้ด้วยว่า ทำไมถึงมาอยู่ตรงนี้ พอลงมา ก็ตุ้บ ลุยกันเลย ไม่ได้พูดคุยกันก่อน ไม่มีการผลักอก หรือเจรจาให้เกิดอารมณ์ ไม่มีนะ มาถึงก็ลุยกันเลย และอย่างยาวนานทีเดียว เพราะฉะนั้น เมื่อชีวิตเสี่ยงอยู่แล้ว เราไม่ควรจะเสี่ยงกันต่อไป ด้วยการมาศึกษาความรู้สากลที่ทุกคนศึกษาได้ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติ ศาสนา หรือเผ่าพันธุ์ใด นั่นคือ Law of Kamma ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๘ …

1.กฎที่ต้องรู้…ไม่รู้อันตราย Read More »

๗๐. ลาสิกขาไปแล้ว อย่าให้เสียผ้าเหลือง

ลาสิกขาไปแล้ว อย่าให้เสียผ้าเหลือง ตั้งใจเลยว่า ต่อจากนี้ไป เมื่อเราอยู่ในเพศของคฤหัสถ์แล้ว จะตั้งใจรักษาศีล ๕ ให้เป็นปกติ จะไม่ฆ่า ไม่ลักทรัพย์ จะเว้นจากการประพฤติผิดในกาม ไม่พูดปด เว้นจากการดื่มสุราเมรัย บุหรี่ ยาเสพติด สิ่งไม่ดีทั้งหลาย เราจะเป็นต้นบุญต้นแบบที่ดีของโลก เราจะเป็นแสงสว่างให้กับทุกๆ คนที่เข้าใกล้ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ก่อนบวชเราจะเป็นอย่างไร ชีวิตที่ผิดพลาดมันผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป แต่ว่าต่อจากนี้ไป เราได้ผ่านการบวชมาแล้ว แม้ช่วงสั้นก็ตาม หล่อหลอมกันมาแล้ว อย่าให้บวชเสียผ้าเหลืองนะลูกนะ อย่าให้ใครเขาพูดตำหนิ หรือเย้ยหยันได้ว่า โอ้ นี่บวชมาแล้ว ทำไมหลังลาสิกขาถึงแย่กว่าเดิมอีก อย่านะลูกนะ โลกกำลังขาดแคลนตัวอย่างดีๆ เขาอยากเป็นคนดีกันทุกคนแหละ แต่เขาไม่รู้ว่า ทำอย่างไรถึงจะเรียกว่า เป็นคนดีที่โลกต้องการ อยู่ก็เป็นสุข นั่ง นอน ยืน เดินเป็นสุข เขาไม่รู้กัน ลูกได้ผ่านการอบรมช่วงสั้นมาแล้ว เข้าใจธรรมปฏิบัติในระดับหนึ่ง คือ มีฐานของใจที่จะศึกษาเรียนรู้ หรือทำความดีให้ยิ่งๆ ขึ้นไปได้ ก็ให้ทำความดีนะลูกนะ อย่าถอยหลังกลับไปทำในสิ่งที่ไม่ดี เหมือนก่อนที่เราจะมาบวช ถ้าลูกทำได้อย่างนี้ก็จะได้ชื่อว่าเป็นกัลยาณมิตรของชาวโลก เป็นผู้ให้แสงสว่างให้กับเพื่อนมนุษย์ …

๗๐. ลาสิกขาไปแล้ว อย่าให้เสียผ้าเหลือง Read More »

๖๙. สูตรการทำงาน

สูตรการทำงาน ในการทำงานทุกอย่าง อย่าหวังว่าต้องวางแผนให้ดีเยี่ยม รอให้สมบูรณ์พร้อมก่อนแล้วจึงลงมือทำ อย่างนี้ไม่ได้เพราะว่ามันจะไม่ทันเวลา และจริงๆ แล้ว แม้จะวางแผนไว้ดีอย่างไร เมื่อถึงคราวลงมือปฏิบัติจริง ก็ยังต้องปรับแผนให้เข้ากับสถานการณ์จริงอยู่ดี ดังนั้น จึงอย่ารีรอ จงลงมือทำ แล้วปรับไปพร้อม ๆ กัน เล็งให้ตรงเป้า แล้วยิงออกไป ตรวจสอบว่า ตรงเป้า หรือไม่ ถ้ายัง ก็ปรับศูนย์เสียใหม่ให้เข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้น ถ้าหลุดไปทางซ้ายมาก ก็ปรับคืนมาทางขวา เมื่อยิงออกไปแล้ว จึงจะรู้ว่า ยังไม่ตรง แค่ไหน อย่างไร หากยังไม่ยิง มัวแต่เล็ง ก็ไม่รู้ผล และถึงจะเล็งดีอย่างไร ก็ยังต้องปรับศูนย์เวลายิงไป แล้วอยู่นั่นเอง “เล็ง ยิง ปรับศูนย์ คือ สูตรการทำงาน” พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา https://www.dhamma01.com/book/92 ต้นฉบับ หนังสือ เล่ม 3 ชีวิตสมณะ ผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร กลับสู่ สารบัญ …

๖๙. สูตรการทำงาน Read More »

๖๘. ทำไมต้องเร่งฟื้นฟูพระพุทธศาสนา

ทำไมต้องเร่งฟื้นฟู พระพุทธศาสนา ถ้าเราสังเกตกันให้ดี เราจะพบว่า โลกของเราในยุคปัจจุบันไม่เหมือนโลกในยุคพุทธกาลหรือยุคอดีต เพราะในยุคนี้ได้มีโรคภัยไข้เจ็บที่เป็นสายพันธุ์ใหม่ๆ และมีความรุนแรงเกิดขึ้นมาอย่างมากมาย แม้วิทยาการทางการแพทย์จะเจริญก้าวหน้ามากมายขนาดไหน แต่สำหรับโรคบางโรคก็ยังหายาหรือวิธีการรักษาโรคไม่ได้แม้ในขณะนี้ ที่เป็นแบบนี้ เราอาจจะไม่เชื่อเลยว่า โรคทุกอย่างล้วนเป็นผลมาจากการกระทำของมนุษย์ทั้งสิ้น เพราะเมื่อมนุษย์ในยุคนี้ ได้ประกอบอกุศลกรรมกันมากขึ้นเรื่อยๆ ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม พูดโกหก เพ้อเจ้อ คำหยาบ ส่อเสียด ดื่มสุราเมรัย สูบเสพอะไรต่างๆ อบายมุขเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ พญามารก็จะได้ช่องเอาบาปของมนุษย์ทั้งหลายทั่วโลกมาประมวลรวมกัน จากนั้นก็จะซ้อนบาปศักดิ์สิทธิ์นี้เข้าไปประกอบในโอกาสโลก ขันธโลก และสัตวโลก โอกาสโลก คือ สิ่งแวดล้อม ตั้งแต่ร่างกายเราออกไป รวมไปถึงบรรยากาศภายนอก จนกระทั่งถึงดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาว จักรวาลต่างๆ ขันธโลก คือ ขันธ์ ๕ ร่างกายของเรา ของมวลมนุษยชาติ และสรรพสัตว์ทั้งหลาย สัตวโลก คือ จิตใจของเรา ของมวลมนุษยชาติ และสรรพสัตว์ พญามารจะเอาบาปนี้ซ้อนประกบตั้งแต่โอกาสโลก ขันธโลก สัตวโลก คือ จิตใจ จากข้างนอกมาหาข้างใน …

๖๘. ทำไมต้องเร่งฟื้นฟูพระพุทธศาสนา Read More »

๖๗. ยุคของเรา พระพุทธศาสนา จะต้องเฟืองฟู

ยุคของเรา..พระพุทธศาสนา จะต้องเฟื่องฟู อยากให้ลูกทุกคนรักษาใจใสๆ คิดดี พูดดี ทำดี ทำใจเหมือนชาวสวรรค์ ในยุคที่เราเกิดมาสร้างบารมี ถ้าพระพุทธศาสนาจะมาล่มสลายในยุคของเรา มันอายฟ้าอายดิน ยุคของเรามีแต่พระพุทธศาสนาจะขยายไปทั่วโลก ผังเดิมเป็นอย่างนี้ทุกยุคเลย ไม่ว่าจะมีอุปสรรคมากหรือน้อยมองข้ามกันไปหมดเลย และเราสามารถทำยุคนั้นให้เป็นยุคแห่งความสว่างได้ เพราะฉะนั้น เรื่องส่วนตัวให้วางอุเบกขา เรื่องพระศาสนาให้เอาอุเบกขาวาง แล้วก็ลุยอย่างถูกหลักวิชชา คือ รักษาใจใสๆ คิดดี พูดดี ทำดี ต้องอย่างนี้นะ ๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๙ พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา https://www.dhamma01.com/book/92 ต้นฉบับ หนังสือ เล่ม 3 ชีวิตสมณะ ผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร กลับสู่ สารบัญ หนังสือคำสอนครูไม่ใหญ่

๖๖. พุทธบริษัท ๔ ต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน

พุทธบริษัท ๔ ต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน หลวงพ่อฝันอยู่เรื่อยๆ ว่า สักวันหนึ่งพุทธบริษัท ๔ ทั่วโลกจะรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน โดยเริ่มต้นจากในประเทศไทยของเราก่อน แล้วก็ค่อยๆ ขยายกันไป อยากให้รวมกันได้จริงๆ คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะยั่งยืน หรือจะล่มสลายก็ขึ้นอยู่กับพุทธบริษัท ๔ ไม่ใช่ใครหรอก คนอื่นยังทีหลัง ถ้าภายในยังไม่เข้มแข็งอะไรมาปะทะนิดเดียวมันก็พังได้ หลวงพ่อเสียดายคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กว่าพระองค์จะไปเอาความรู้นี้มาได้ต้องสั่งสมบ่มบารมีกันมายาวนาน ตั้งแต่คิดในใจ เปล่งวาจา ได้รับพุทธพยากรณ์ อย่างน้อยก็ต้อง ๒๐ อสงไขยกับอีกแสนมหากัป ถึงจะไปค้นความรู้นี้มาได้ด้วยพระองค์เอง เพราะว่าพญามารเขาบดบังนัก บารมี ๓๐ ทัศ ต้องเต็มเปี่ยมบริบูรณ์ เขาถึงกันไม่อยู่ บังไม่อยู่ แล้วถึงได้ค้นพบความรู้เหล่านี้มาแก้ไขตัวเองกระทั่งหลุดพ้นจากการเป็นบ่าวเป็นทาสของพญามาร แล้วอาศัยมหากรุณาของท่าน นำความรู้มาถ่ายทอดแก่มนุษย์และเทวดาทั้งหลายจะได้หลุดพ้นตามท่านไปด้วย การตกเป็นบ่าวเป็นทาสของพญามารนั้น อันตรายมาก ชีวิตในสังสารวัฏอันตรายมากๆ อันตรายตรงที่ตกไปในอบาย หรือแม้แต่เป็นมนุษย์ก็ลำเค็ญ ทุกข์เข็ญ ทำอะไรก็ไม่ได้ดังใจเท่าไร เผลอพลาดพลั้งลงไปอบายอีกแล้ว เพราะฉะนั้นคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงควรจะอยู่ยั้งยืนยงคู่โลกกันตลอดไป เท่าที่เราศึกษาประวัติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ก่อนๆ ก็อยู่กันได้ชั่วครั้งชั่วคราว บางพระองค์ก็ยาวนาน บางพระองค์ก็ช่วงสั้น หลักหลายพันปีบ้าง หมื่นปีบ้าง หลายหมื่นปีบ้าง แล้วก็หมุนวนย้อนกลับไปทางเดิม …

๖๖. พุทธบริษัท ๔ ต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน Read More »

๖๕. พระต้องชวนโยมเลิกเหล้า เลิกบุหรี่

พระต้องชวนโยมเลิกเหล้า เลิกบุหรี่ หลวงพ่อปลื้มใจสามเณรหลายวัด โดยเฉพาะที่วัดบ้านขุน ที่มีความอุตสาหะเดินทางข้ามภูเขาหลายลูก เพื่อไปโปรดโยมพ่อ โยมแม่ ให้เลิกผลิต เลิกดื่ม เลิกขายเหล้า แล้วโยมพ่อโยมแม่ก็เกิดกุศลศรัทธาทำตามคำแนะนำของลูกเณร ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมอนุโมทนา ถ้าหากว่า พระภิกษุสามเณรทุกวัด ทั่วประเทศ ทั่วโลก ชวนโยมเลิกเหล้า เลิกบุหรี่ ในไม่ช้าสุราเมรัย บุหรี่ ยาเสพติด ทั้งหลายก็จะค่อยๆ ลดน้อยถอยลงไปเรื่อยๆ เพราะมีตัวอย่างดีๆ ให้โลกได้ดู ความจริงสิ่งนี้เป็นหน้าที่ของพระภิกษุสามเณร ที่จะต้องให้คำแนะนำแก่โยมพ่อ โยมแม่ หมู่ญาติ และญาติโยมทั้งหลาย ให้เลิกดื่มสุราเมรัย เพราะว่าเราจะต้องให้ศีล ๕ แก่ญาติโยม ไม่ใช่ให้ศีล ๔ ให้ศีลอย่างเดียวก็ยังไม่พอ ต้องบอกอานิสงส์ของศีล แล้วยังต้องบอกเขาให้เลิกสิ่งที่ไม่ดีทั้งหมดเพื่อตัวเขาเอง ญาติโยมจะได้รู้เรื่องและปฏิบัติได้ถูก เมื่อปฏิบัติได้ถูกก็จะได้ปิดประตูอบาย เปิดประตูสวรรค์ สิ่งนี้เป็นหน้าที่ของพระภิกษุสามเณรที่จะต้องทำ อย่าไปกลัวหรือเกรงใจว่า ถ้าบอกให้โยมเลิกเหล้าที่นำมาดื่มในวัดหรือดื่มที่บ้านหรือที่ไหนก็ตาม เดี๋ยวโยมจะโกรธ แล้วไม่มาทำบุญที่วัด จะทำให้พระเณรอดตาย ก็ให้มันรู้ไป ถ้าพระเณรวัดไหนอดตายเพราะไปบอกโยมให้เลิกเหล้า แล้วโยมไม่มาเลี้ยงพระ โยมไม่มาทำบุญ ดูตัวอย่างวัดพระธรรมกาย ยิ่งชวนให้ญาติโยมเลิกเหล้า เลิกบุหรี่ทุกวัน …

๖๕. พระต้องชวนโยมเลิกเหล้า เลิกบุหรี่ Read More »

๖๔. ต้นบุญต้นแบบที่ดีของโลกและจักรวาล

ต้นบุญต้นแบบที่ดีของโลกและจักรวาล หลวงพ่อหวังเอาไว้ว่า ใน ๓๐,๐๐๐ กว่าวัด ทั่วประเทศ ซึ่งยังมีหลายวัดที่พระภิกษุสามเณรยังสูบบุหรี่อยู่ ถ้าพระเณรทุกวัดที่ยังสูบบุหรี่ตัดใจเลิกได้ ญาติโยมจะได้กำลังใจอย่างมากที่จะเลิกสูบบุหรี่ตามพระ เพราะพระภิกษุสามเณร คือ ต้นบุญต้นแบบที่ดีของโลก เป็นหัวใจของโลกและจักรวาล ชีวิตนักบวช คือชีวิตของผู้ที่ดำเนินชีวิตได้ถูกต้อง ไม่มีชีวิตใดในสังสารวัฏที่จะประเสริฐเลิศเท่ากับชีวิตของการเป็นพระเป็นเณร ไม่ว่าจะเป็นพระเจ้าจักรพรรดิก็สู้ชีวิตพระชีวิตเณรไม่ได้ ดูอย่างพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ทรงสละตำแหน่งพระเจ้าจักรพรรดิออกมาเป็นนักบวช เพราะเห็นว่าชีวิตของนักบวชคือชีวิตที่ดีและถูกต้องที่สุด มนุษย์ส่วนใหญ่ที่เกิดมา ต่างขาดความรู้ว่า จะดำเนินชีวิตอย่างไรจึงจะถูกต้องและดีงาม ต้องมีผู้รู้มาเป็นต้นแบบต้นบุญให้มนุษย์ทั้งหลายได้เห็น เขาจะได้ดำเนินรอยตาม พระภิกษุสามเณรนี่แหละ เป็นต้นแบบต้นบุญที่สืบทอดมาจากพระบรมศาสดา คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ควันบุหรี่ที่พ่นออกมา จะไปบดบังความสง่างามของพระของเณร และของญาติโยมด้วย ที่ยกคำขวัญหรูๆ ว่า สูบแล้วเท่ เก๋ นั่นคิดกันไปเอง ปากเขามีไว้สำหรับดื่มกินสิ่งที่ดีมีประโยชน์เข้าไปสู่ร่างกาย สิ่งที่ไม่ดีไม่ให้นำเข้าไป และสิ่งที่จะนำออกมาก็ต้องเป็นวาจาสุภาษิต เป็นธรรมภาษิต ที่จะเป็นแสงสว่างส่องทางชีวิตให้เกิดขึ้นแก่ผู้ฟัง แก่ชาวโลกเท่านั้น ถ้าหากว่า พระภิกษุสามเณรทุกวัดที่ยังสูบบุหรี่เลิกกันหมด สังฆมณฑลนี้ก็จะสะอาด บริสุทธิ์ สาธุชนจะมีสุขภาพที่แข็งแรงทั้งกายและใจ จะสดชื่น เบิกบาน ไปที่ไหนก็จะมีแต่กลิ่นสะอาด ปราศจากกลิ่นของบุหรี่ ของยาสูบยาเส้นต่างๆ และนอกจากสิ่งเหล่านี้ เราจะเห็นสิ่งดีๆ …

๖๔. ต้นบุญต้นแบบที่ดีของโลกและจักรวาล Read More »

๖๓. รวมพลังพุทธบุตร ชวนโยมเทเหล้าเผาบุหรี่

รวมพลังพุทธบุตร ชวนโยมเทเหล้าเผาบุหรี่ ทุกวัดมีกำลังอย่างมหาศาล เพราะมีพระภิกษุสามเณรเป็นกำลังรบหลักของกองทัพธรรม ๓๐๐,๐๐๐ กว่ารูปจาก ๓๐,๐๐๐ กว่าวัดทั่วประเทศ ถ้าหากว่า ทุกวัดพร้อมใจกันชวนโยมเทเหล้าเผาบุหรี่ โดยไม่เกรงใจโยม หลวงพ่อเชื่อว่าไม่ถึงเดือนสิ่งเหล่านี้ ก็จะสูญหายหมดสิ้นไป แต่ตอนนี้เรามัวไปเกรงใจกัน ความเกรงใจเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าจะชวนคนทำความดี ไม่ต้องเกรงใจ ที่จริงโยมต้องการฟังเสียงพระ อยากฟังมากๆ เพราะเป็นเสียงสวรรค์ ถ้าทุกวัดทั่วประเทศพร้อมใจกันชักชวนญาติโยมเทเหล้าเผาบุหรี่โดยไม่เกรงใจใคร มีแต่ความรักและปรารถนาดีต่อญาติโยมอย่างแท้จริง สิ่งไม่ดีเหล่านี้ก็จะหมดสิ้นไป เพราะฉะนั้นถ้ากำลังหลักของกองทัพธรรม ๓๐๐,๐๐๐ กว่ารูป ๓๐,๐๐๐ กว่าวัดทั่วประเทศ พร้อมใจกันสู้ หลวงพ่อว่าใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน ทุกคนจะได้อยู่ในเส้นทางที่ดีร่วมกัน และมันเป็นหน้าที่ของนักรบกองทัพธรรม ของพุทธบริษัท ๔ ทั้งพระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ที่จะต้องช่วยกันขจัดสิ่งที่เป็นอุปสรรคต่อความแข็งแรงของเพื่อนมนุษย์กับโรคภัยไข้เจ็บ แล้วก็อีกหลายๆ สิ่งที่ไม่ดีให้ออกไปจากร่างกายมวลมนุษยชาติ ถ้าสู้ ๑ วัด ก็ชนะ ๑ วัด สู้ ๑๐ วัด ก็ชนะ ๑๐ วัด สู้ ๑๐๐ …

๖๓. รวมพลังพุทธบุตร ชวนโยมเทเหล้าเผาบุหรี่ Read More »

๖๒. นักบวชที่แท้จริง

นักบวชที่แท้จริง หมั่นฝึกใจเราให้หยุดนิ่งอยู่ภายใน ตั้งใจบำเพ็ญสมณธรรมให้ดี ถ้าทำได้อย่างนี้ ไม่ว่าจะบวชสั้นหรือบวชยาวก็ตาม ก็ได้ชื่อว่า “เป็นนักบวชที่แท้จริง” เป็นสมณะผู้มีความสงบกาย วาจา ใจ เพราะใจหยุดอยู่ภายใน มีความแตกต่างจากคฤหัสถ์ ต่างจากชาวโลกทั้งหลาย ได้ชื่อว่า เป็นบุตรแห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่แท้จริง นึกเมื่อไรเราก็ปลื้ม มีปีติสุขหล่อเลี้ยงใจ บุญก็จะเกิดขึ้นกับตัวเรา ถึงโยมพ่อโยมแม่ ปู่ย่าตายาย บรรพบุรุษทั้งหลาย กระทั่งแผ่ไปถึงสรรพสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงก็จะมีส่วนแห่งบุญนี้ ไม่ว่าเราจะบวชสั้น บวชยาวก็ตาม นึกถึงเมื่อไรก็ปลื้มภาคภูมิใจในตัวของเราเอง ก่อนหน้านี้เราจะเป็นอะไรก็ช่างเถิด แต่เดี๋ยวนี้เราเป็นสมณะ เป็นบรรพชิต เป็นพุทธบุตร บุตรแห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เรามีความรู้สึกว่า เราเป็นบุตรของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่แท้จริง ด้วยชีวิตจิตวิญญาณแห่งนักบวช พออารมณ์นี้เกิดขึ้น การเดินธรรมยาตราทุกย่างก้าวก็เป็นย่างแก้ว คือใจจะใส จะสะอาด จะบริสุทธิ์ จะองอาจ สง่างาม ปีติและภาคภูมิใจในตัวเอง จะมองแต่กลางกายของเรา และมองหนทางที่เราจะก้าวเดินไป > เดินตามพระเดชพระคุณหลวงปู่ พระผู้ปราบมารไป ท่านไปทางไหน เราก็ไปทางนั้น ในเส้นทางแห่งพระอริยเจ้า เส้นทางที่ท่านเดินตอนสมัยมีชีวิตอยู่ก็เดินทางในเส้นทางนี้ เราก็เดินตามรอยเท้าท่านไปอย่างองอาจ สง่างาม สมกับเป็นพุทธบุตรที่แท้จริง ถ้าเป็นสามเณรก็เป็นเทือกเถาเหล่ากอของสมณะ มีเชื้อสายของสมณะ …

๖๒. นักบวชที่แท้จริง Read More »

๖๑. ประดุจพระอาทิตย์ พระจันทร์

ประดุจพระอาทิตย์ พระจันทร์ บวชแล้วต้องให้เป็นประดุจพระอาทิตย์และพระจันทร์รวมอยู่ในตัวของเรานะ เป็นประดุจพระอาทิตย์พระจันทร์รวมอยู่ในตัวของเราเป็นอย่างไร ก็จากข้อวัตรปฏิบัติที่เราฝึกตน ทนหิว บำเพ็ญตบะ เป็นพระแท้ ใจหยุดนิ่งที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ตรงนี้ ให้ความสว่างภายในเป็นรัศมีธรรมแผ่ขยายมาถึงกายหยาบของเรา ลูกต้องฝึกให้ได้อย่างนี้นะ ให้ญาติโยม หรือใครๆ เขาดูเราจากที่ไกลๆ เหมือนเห็นดวงอาทิตย์ในยามเที่ยงวัน คือ สว่างจ้ามาเลย แต่พอเขาเข้าใกล้มาคุยกับเราแล้ว ให้เขารู้สึกเย็นฉ่ำเหมือนอยู่กับพระจันทร์ในคืนวันเพ็ญ ลูกจะต้องเอาทั้งพระอาทิตย์ทั้งพระจันทร์รวมอยู่ในตัว ดูแต่ไกลต้องให้สว่างเหมือนดวงอาทิตย์ แต่พอเข้าใกล้ๆ ทำไมเย็นฉ่ำเหมือนพระจันทร์ในคืนวันเพ็ญ จะเป็นอย่างนี้ได้ ลูกต้องเชื่อมใจของเราให้ไปติดที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ให้ได้ โดยนึกถึงความปลื้มที่เราได้มาบวชในคราวนี้ ในทุกๆ เรื่องที่จะทำให้ใจเราปลื้มปีติจนกระทั่งทำให้ดวงธรรมในตัวปรากฏเกิดขึ้น องค์พระใสๆ เกิดขึ้นอย่างนี้นะ ๑๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๔ พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา https://www.dhamma01.com/book/92 ต้นฉบับ หนังสือ เล่ม 3 ชีวิตสมณะ ผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร กลับสู่ สารบัญ หนังสือคำสอนครูไม่ใหญ่