krirk

30.วิบากกรรมสื่อเสี้ยม บิดเบือน ทำลายพระพุทธศาสนา

วิบากกรรมสื่อเสี้ยม บิดเบือน ทำลายพระพุทธศาสนา มีคำถามว่า ผู้ที่จงใจเสนอข่าวบิดเบือน เกี่ยวกับเรื่องพระพุทธ ศาสนา ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าไม่เป็นความจริง กับผู้ที่ไม่ได้ตั้งใจบิดเบือนข่าวพระพุทธ ศาสนา แต่เพราะตนเองเข้าใจผิดจริง ๆ แต่ก็มีผลสร้างความเสียหายให้กับ พระพุทธศาสนาเหมือนกัน ทั้งสองประเภทนี้จะได้รับวิบากกรรมเหมือน หรือต่างกันอย่างไร ทั้งสองประเภทนี้ จะได้รับวิบากต่างกัน คือ พวกแรกจะหนักกว่า เพราะมีอกุศลเจตนาอย่างแรงกล้า ซึ่งก็จะมีวิบากกรรมให้ไปมหานรก นี่แค่ตัวอย่างนะ จะถูกนายนิรยบาลจับบิดตัว ถลกหนังออก แล้ว เอาปากกาเหล็กร้อนเขียนไปบนเนื้อ แล้วถูกทิ่มแทงด้วยอุปกรณ์การเขียน ที่เป็นเหล็กร้อน หรือฝนตัวอักษรที่เคยบิดเบือนเอาไว้ เขียนไว้เป็นล้าน ๆ คำตกใส่ เป็นตัวอักษรเหล็กร้อน ทุกข์ทรมานมาก เป็นต้น ส่วนรายละเอียด ศึกษาดูได้เพิ่มเติมในมินิซีรีส์ของวิบากกรรมบิดเบือนนะ ส่วนพวกหลัง จะมีวิบากกรรมน้อยลงมาหน่อยหนึ่ง คือ แทนที่จะไป มหานรกขุม ๔ ก็ไปแค่ยมโลก ของมหานรกขุม ๔ จะถูกเจ้าหน้าที่ลงทัณฑ์ ทรมาน คล้าย ๆ กับพวกแรกที่อยู่ในมหานรกขุม ๔ …

30.วิบากกรรมสื่อเสี้ยม บิดเบือน ทำลายพระพุทธศาสนา Read More »

29.วอนสื่อมวลชนได้โปรดอย่าทำลายหัวใจชาวพุทธ

วอนสื่อมวลชน ได้โปรดอย่าทำลายหัวใจชาวพุทธ นักข่าวมีเสรีภาพในการนำเสนอข่าว อันนี้ถูก แต่ต้อง “พอดี” ต้องอย่าเหลิงเจิ้งเรื่อยเปื่อย จนกระทั่งเกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง กับบุคคลที่พาดพิงถึง หรือกับสังคม พอดี ดูตรงไหน ดูว่า มันเหมาะ มันควรไหม ถ้าเหมาะควรก็ทำไปเลย ถ้าเรื่องจริง มีประโยชน์…เขียนไป เรื่องจริง แต่ไม่เกิดประโยชน์…ไม่เขียน เรื่องจริง มีโทษ…ไม่เขียน ถ้ายิ่งเรื่องไม่จริง…ยิ่งไม่ควรเขียน ดูว่าอะไรถูกผิด อาจดูได้ไม่ยาก แต่เหมาะควร เราจะเอาอะไรมา เป็นเกณฑ์ พระสารีบุตรได้กล่าวเรื่องนี้ไว้ว่า สิ่งไรที่เราคิด พูด หรือทำ น้อมไปในทางกุศลธรรม คือยังกุศลธรรม ที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น หรือที่เกิดขึ้นแล้วทำให้เจริญยิ่งขึ้น อย่างนี้เรียกว่า เหมาะควร แต่สิ่งไรตรงกันข้ามกัน น้อมไปทางอกุศลธรรม ทำให้เกิดเป็นภาพ ลบติดในใจ เกิดปัญหาสังคม เกิดความทุกข์ หรือเกิดวิบากกรรมอย่างนั้น ไม่เหมาะไม่ควร เพราะฉะนั้น สิ่งใดที่น้อมไปทางกุศลธรรม ยกระดับจิตใจให้สูงส่งขึ้น สิ่งนั้นควรทำ โดยเฉพาะเรื่องพระศาสนา เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก เพราะ ทุกชีวิตที่เกิดมามีความทุกข์นะ ตั้งแต่ทุกข์จากการเกิด …

29.วอนสื่อมวลชนได้โปรดอย่าทำลายหัวใจชาวพุทธ Read More »

28.วัดพระธรรมกาย..พุทธดั้งเดิม ไม่ใช่นิกายใหม่

วัดพระธรรมกาย..พุทธดั้งเดิม ไม่ใช่นิกายใหม่ ในสมัยพุทธกาลไม่มีนิกายนะ มีแต่ “ธรรมกาย” เพราะสมัยนั้นเขาปฏิบัติ จนกระทั่งเข้าถึงธรรมกายกันเป็นเรื่องปกติ แค่ได้ยินได้ฟังธรรมก็บรรลุธรรมาภิสมัย บรรลุธรรมกันแล้ว แต่ต่อมาก็ย่อหย่อนในการปฏิบัติ ไม่ให้ความสำคัญกับการปฏิบัติ ธรรม พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ การศึกษาอะไรเหล่านี้ เป็นต้น เพราะ ฉะนั้นคำสอนก็เลยเลอะเลือนเลือนรางไป มีแต่คำว่า ธรรมกาย ยังปรากฏ อยู่ในคัมภีร์ต่าง ๆ ในพระพุทธศาสนาซึ่งกระจัดกระจายไปตามนิกายต่าง ๆ แล้วก็มีนักคิดเกิดขึ้น ก็คิดกันไปตามเรื่องตามราวเท่าที่ตัวเองจะ เข้าใจ โดยใช้จินตามยปัญญา มีบางพวกเจริญภาวนาเหมือนกัน แต่ปฏิบัติไป ไม่ถึงจุดตรงนั้น เพราะฉะนั้นความเห็นจึงแตกต่างกันไป นิกายก็เลยเกิดขึ้น ในภายหลัง เมื่อพระเดชพระคุณหลวงปู่บังเกิดขึ้น แล้วก็ได้มีการค้นพบวิชชา ธรรมกายเกิดขึ้นมา เราจึงปฏิบัติได้ถูกต้อง แต่ว่าผู้ที่มาภายหลังนั้นไม่เคย ได้ยินได้ฟังมาก่อน ไม่ได้ปฏิบัติ หรือได้ปฏิบัติแต่ปฏิบัติไม่ได้ ก็เลยเข้าใจ ว่าธรรมกายคือนิกายใหม่ เพราะมีคำว่า “กาย” เพราะฉะนั้น ดั้งเดิมมีแต่ธรรมกาย ไม่มีนิกายอะไรต่าง ๆ นิกายเพิ่ง มาเปลี่ยนแปลงภายหลัง และมาเหมาเข้าใจว่า …

28.วัดพระธรรมกาย..พุทธดั้งเดิม ไม่ใช่นิกายใหม่ Read More »

27.วิชชาธรรมกาย

วิชชาธรรมกาย คำว่า “วิชชาธรรมกาย” ประกอบด้วย ๒ คำ คือ คำว่า “วิชชา” กับคำว่า “ธรรมกาย” คำว่า “วิชชา” แตกต่างจากคำว่า “วิชา” ในทางโลกที่เราได้เคย ศึกษาเล่าเรียนกัน วิชาทางโลกนั้นเป็นความรู้ที่เกิดขึ้นใน ๒ ระดับ คือ ระดับสุตมยปัญญา กับ จินตามยปัญญา สุตมยปัญญา คือ ความรอบรู้ที่เกิดจากการได้ยิน ได้ฟัง ได้อ่าน ได้ศึกษาเล่าเรียนมา เป็นการรู้จำ คือ จำในสิ่งที่ผู้รู้ ไม่ว่าจะมีความรู้ สมบูรณ์หรือไม่สมบูรณ์ก็ตาม ได้บันทึกเรื่องราวสิ่งที่รู้เห็นเอาไว้เป็น วิทยาทานให้ได้ศึกษากันสืบต่อมา จินตามยปัญญา คือ ความรู้ที่เกิดจากการนำมาคิดพิจารณา หาเหตุผลแบบนักคิดทั่วไป ความคิดบางครั้งถูกบ้าง ผิดบ้าง นี่เป็นปัญญาใน ๒ ระดับ แต่ปัญญาในพระพุทธศาสนามี ๓ ระดับ ระดับที่ ๓ คือ ภาวนามยปัญญา เป็นปัญญาที่เกิดจากการฝึกฝน ลงมือปฏิบัติแล้ว …

27.วิชชาธรรมกาย Read More »

26.พุทธบุตรต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน

พุทธบุตรต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน พระทุกวัดจะต้องรักกัน อย่าแบ่งแยกกัน เป็นวัดนั้น วัดนี้ นิกายนั้น นิกายนี้ เราได้ทดลองทำ อย่างนั้นมาแล้ว ลองแยกนิกายแล้ว นึกว่ามันจะดี ปรากฏว่าจนถึงปัจจุบันนี้มันไม่ดี มีปัญหากันเรื่อยมา หมดเวลาที่จะแบ่งแยกแล้ว ถึงเวลาแล้วที่พระต้องรวมเป็นหนึ่ง คิดเหมือนกัน พูดเหมือนกัน ทำเหมือนกัน คิดถูก พูดถูก ทำถูก ไปพร้อม ๆ กันเหมือนในสมัยพุทธกาล ถ้ารวมกันเป็นหนึ่งเป็นนิกายเดียว “พุทธนิกาย” ไม่มีนิกายนั้น นิกายนี้ แล้วมีความรักสมัครสมานสามัคคีกัน มุ่งทำพระนิพพานให้แจ้ง ดังวาทธรรมที่ว่า พุทธบุตรต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนดวงตะวันที่มีดวงเดียว ดวงตะวันไม่มีข้างแรม ไม่มีแหว่ง ไม่มีเว้า เหมือนพระจันทร์ มีอยู่ดวงเดียวทำหน้าที่ส่องแสงสว่างให้แก่โลก พุทธบุตรเช่นเดียวกัน ต้องรวมกันเป็นหนึ่ง เพราะเป็นผู้ให้แสงสว่างส่องทางชีวิตให้ชาวโลก เหมือนดวงตะวันอย่างนั้น ถ้าต่างคนต่างทำ แล้วไม่รักกัน มันก็ไม่มีพลัง ไม่มีประโยชน์ เพราะ ฉะนั้นถึงเวลาแล้วที่จะต้องรวมกัน แล้วไปศึกษาคำสอนดั้งเดิมของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ทรงสอนอย่างไร มีข้อวัตรปฏิบัติอย่างไร จะได้ทำเหมือน ๆ กัน …

26.พุทธบุตรต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน Read More »

25.วัดพระธรรมกาย..ไม่ใช่นิกายใหม่

วัดพระธรรมกาย..ไม่ใช่นิกายใหม่ “วาทกรรม” คือ ถ้อยคำที่พูดซ้ำ ๆ บ่อย ๆ ไม่ว่าดีหรือชั่วก็ตาม จริงหรือโกหกก็ตาม พูดบ่อย ๆ จนคนเชื่อว่า เป็นความจริง ครูไม่ใหญ่เจอวาทกรรมเรื่อยเลย สมัยก่อนตอนสร้างวัดใหม่ ๆ มีคน ไปให้ข้อมูลสื่อ แล้วก็คุยต่อ ๆ กันว่า ใต้ถุนโบสถ์มีอาวุธ ตอนแรกก็เหมือน พูดเล่นสนุก ๆ แต่พอกระทุ้งกันไปเรื่อย ๆ ก็มีคนเชื่อนะ ในยุคนั้น ใครมาเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี จะต้องแวะเวียน มาเยี่ยมวัดพระธรรมกาย โดยมีวัตถุประสงค์จะไปดูใต้ถุนโบสถ์ ต้องมุด ลงไปดู ลำบากทีเดียว ปรากฏว่าไม่มีอาวุธ พอหมดวาระ คนใหม่มารับ ตำแหน่ง ก็มาดูอีกแล้ว หรือท่านนายอำเภอคลองหลวงก็มาเยี่ยมเยียน ใต้ถุนโบสถ์ รู้สึกว่าที่นั่นเป็นที่รับแขกอย่างดี หมดยุคนั้น ก็มายุคคอมมิวนิสต์ เขาก็แต่งตั้งให้เป็นคอมมิวนิสต์ อีกแล้ว ต่อมาว่า วัดพระธรรมกายเป็นนิกายใหม่ ตอกย้ำซ้ำเดิมไปเรื่อย ๆ เป็นนิกายใหม่ ๆ เพราะสอนเรื่องธรรมกาย คือ …

25.วัดพระธรรมกาย..ไม่ใช่นิกายใหม่ Read More »

24.อย่าวางเงียบ ! ถ้ารักสงบตอนนี้ ต่อไปจะไม่สงบ

อย่าวางเงียบ ! ถ้ารักสงบตอนนี้ ต่อไปจะไม่สงบ ชาวพุทธนี่แปลก เวลามีเรื่องราวอะไรมากระทบถึงพระศาสนา มักจะอยู่กันเฉย ๆ วางอุเบกขา แล้วก็ชอบมาลุยกันเอง ถนัดนักลุยกันเอง แต่ความจริงแล้ว ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวให้วางอุเบกขา ถ้าเป็นเรื่องพระศาสนา ให้เอาอุเบกขาวาง แล้วลุยกันเลยตามหลักวิชชา ลุยในที่นี้ ไม่ใช่เอาไม้ไปตีหัวเขานะ แต่หมายถึง ให้รวมพลังสร้างความดี และอะไรที่เขาเข้าใจไม่ถูกต้อง เราก็ต้องชี้แจง อย่าให้เขาคิดเอง เพราะถ้าให้เขาคิดเอง เขาก็คิดอย่างนั้น พูดอย่างนั้น แล้วมันก็กระทบ แล้วจะกระเทือนไปทั่วสังฆมณฑลไปหมด ดังนั้น ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัว วางอุเบกขาได้ แต่ถ้าเรื่องพระศาสนา ต้องเอาอุเบกขาวาง แล้วรวมตัวไปชี้แจงด้วยเหตุผล เป็นต้น ต้องตื่นตัว ไม่ใช่วางเงียบกัน ถ้ารักสงบตอนนี้ ต่อไปมันจะไม่สงบ ! ๒๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๗ พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา https://www.dhamma01.com/book/43 ต้นฉบับ หนังสือ คำสอนคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม 2 …

24.อย่าวางเงียบ ! ถ้ารักสงบตอนนี้ ต่อไปจะไม่สงบ Read More »

23.เรื่องส่วนตัวให้วางอุเบกขา

เรื่องส่วนตัวให้วางอุเบกขา เรื่องส่วนตัวให้วางอุเบกขา เรื่องพระศาสนาให้เอาอุเบกขาวาง ต้องจำวาทธรรมนี้เอาไว้ให้ดี เราจะได้ช่วยกันรักษาพระพุทธศาสนา เอาไว้ให้เป็นที่พึ่งต่อชาวโลก ลูกหลาน เหลน โหลนของเรา เหมือนอย่าง ที่บรรพบุรุษของเราได้รักษาสืบทอดกันมาเพื่อตัวเรานี่แหละ บรรพบุรุษของเรา ท่านปกป้องผองภัยพระพุทธศาสนาด้วยชีวิต ไม่ว่าจะเป็นคฤหัสถ์ หรือบรรพชิตก็ตาม ซึ่งก็มีวิธีปกป้องพระพุทธศาสนา ด้วยชีวิตที่แตกต่างกัน ที่เป็นคฤหัสถ์ก็เอาชีวิตเป็นเดิมพันเลย ที่เป็นบรรพชิตก็เอาชีวิตเป็นเดิมพัน คือ ตายในผ้าเหลือง เพราะถือว่า การตายในผ้าเหลืองนี้ เป็น เกียรติยศอันสูงสุดของพระภิกษุ สามเณร เหมือนทหารที่เข้าสู่สมรภูมิ ตายในสมรภูมิ กลับมาก็จะได้รับการอัญเชิญมาอย่างสมเกียรติ มีธงชาติ คลุมร่างกาย มีเกียรติ มีคุณค่า ได้รับการยกย่องเทิดทูนไปทั้งประเทศ นักรบกองทัพธรรมก็เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะกำลังรบหลัก คือ ภิกษุ สามเณร ก็จะต้องตายในผ้าเหลือง ความคิดว่าจะสึก อย่าให้มีอยู่ในใจ จะต้องคิดอย่างเดียวว่า ทำอย่างไร…เราจะทำพระนิพพานให้แจ้ง ทำอย่างไร…เราจะเป็นเนื้อนาบุญ ทำอย่างไร…เราจะเป็นอายุพระศาสนา ทำอย่างไร…เราจะให้ความกระจ่าง ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องราวความ เป็นจริงของชีวิตให้ชาวโลกทั้งหลายได้รู้แจ้งเห็นจริง จะได้ดำเนินชีวิต ที่ถูกต้อง มีสุคติโลกสวรรค์และนิพพานเป็นที่ไป นี่ก็เป็นสิ่งที่พุทธบุตร ทุก ๆ …

23.เรื่องส่วนตัวให้วางอุเบกขา Read More »

22.ทำบุญแล้วอธิษฐาน..เป็นการค้ากำไรเกินควรหรือไม่?

ทำบุญแล้วอธิษฐาน..เป็นการค้ากำไรเกินควรหรือไม่? ทุกครั้งที่ทำบุญ เราต้องอธิษฐาน เป็นอธิษฐานบารมีของเรา อธิษฐานบารมี พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ก็ทำมาตลอดนะ จะทำบุญอะไร พระองค์ก็อธิษฐานขอเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเป็นภูมิที่ ยิ่งใหญ่กว่าการเป็นพระเจ้าจักรพรรดิที่ปกครองทวีปทั้งสี่ รอบเขา พระสุเมรุอันเป็นที่ตั้งของสวรรค์ ฉะนั้น เราทำบุญอะไร เราต้องอธิษฐาน เซ็ตโปรแกรมภายในตัว เป็นเป้าหมายของชีวิตเอาไว้ จะทำบุญเล็ก บุญปานกลาง บุญใหญ่ จะต้องอธิษฐานจิตให้ดี ทีนี้เราเคยได้ยินคำว่า “ค้ากำไรเกินควร” ขอทำความเข้าใจว่า นี่ไม่ใช่การค้า ไม่ใช่ธุรกิจแต่เป็นเรื่องจิตใจ เราทำตามคำสอนของพระ สัมมาสัมพุทธเจ้า สิ่งที่เราตั้งความปรารถนาที่จะเป็น จุลเศรษฐี มหาเศรษฐี บรมเศรษฐี ถ้าไปเทียบกับความปรารถนาที่จะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มันนิดเดียว เพราะฉะนั้นการอธิษฐานไม่ได้เป็นการค้ากำไรเกินควร ของ พระองค์แม้ให้อาหารกับคนที่มีศีลเพียงเล็กน้อย หรือแม้ให้สัตว์เดรัจฉาน ก็ยังตั้งความปรารถนาเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ดังนั้นเราจะไป ใช้คำว่า “ค้ากำไรเกินควร” ให้อาหารนก แต่ตั้งความปรารถนาเป็นพระ สัมมาสัมพุทธเจ้า มันไม่ถูก ดังนั้น การที่เราทำบุญอะไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นใส่บาตร นั่งสมาธิ เรา อย่าดูหมิ่นว่า เป็นบุญเล็กบุญน้อย ให้เราตั้งเป้าไปเลยในสิ่งที่เราปรารถนา เช่น …

22.ทำบุญแล้วอธิษฐาน..เป็นการค้ากำไรเกินควรหรือไม่? Read More »

21.ความทุกข์ของนักบุญ !

ความทุกข์ของนักบุญ ! บุญในตัวจะคอยปรุงแต่งชีวิต ให้เราประสบความสุขความสำเร็จในชีวิต ในธุรกิจการงาน และในทุกสิ่งที่เราปรารถนา เคยสังเกตไหม ทำไมคนเราถึงต่างกัน บางคนประสบความสำเร็จ ในชีวิต แต่บางคนก็ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต ทั้ง ๆ ที่ใช้ความเพียร หนึ่งสมองสองมืออย่างมากเหมือนกัน ที่ประสบความสำเร็จ เพราะเขามีสายบุญที่ทำอย่างสม่ำเสมอ ต่อเนื่อง ไม่มีสายวิบัติมาคั่นระหว่างกลาง เพราะฉะนั้นทำอะไรก็ราบรื่น ยิ่งขยัน ก็ยิ่งรวย แต่บางคนขยัน แต่ก็เหนื่อยฟรี เพราะสายสมบัติมัน ขาดตอน เหตุเพราะทำบุญไม่สม่ำเสมอนั่นเอง บุญจะเชื่อมติดกันอยู่ในกลางกายของเรา บางคนในอดีตทำบุญ มาไม่สม่ำเสมอ ก็ต้องอาศัยบุญที่ทำในปัจจุบันนี้แหละ แต่บุญปัจจุบัน ก็เหมือนปลูกกล้าไม้ กว่าจะเจริญเติบโตออกดอกออกผลก็ต้องใช้เวลา ต้องให้เวลาบุญได้ทำงานบ้าง บางทีมันก็ไม่ได้ดั่งใจ เช่น เรามีความรู้สึกว่า บุญไม่ช่วย แต่จริง ๆ บุญกับบาปทำงานอยู่ตลอด ๒๔ น. บาป ทำให้เราเกิดความทุกข์ทรมานในชีวิต อุปสรรคของชีวิต มีทุกข์ โศกโรคภัย สิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายเกิดขึ้น บุญ เขาก็แก้ไขอยู่ ๒๔ น. เหมือนกัน …

21.ความทุกข์ของนักบุญ ! Read More »

20.เราใช้บุญเก่าทุกวัน

เราใช้บุญเก่าทุกวัน เราใช้บุญเก่าทุกวัน ตั้งแต่ตื่นนอนกระทั่งเข้านอน จะเรียกว่า ทุกอนุวินาทีก็ได้ ที่ยังมีเรี่ยวมีแรงสูดลมหายใจเข้าออกอยู่ได้ ก็เพราะยังมีบุญเก่าปรนเปรอให้ชีวิตเป็นไป เราใช้บุญเก่าตลอดเวลา แต่บุญใหม่นาน ๆ ทำที มันจะไม่พอกัน ในฐานะที่เราได้มาถึงความรู้อันบริสุทธิ์ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว เข้าใจชีวิตได้ดีขึ้นกว่าเดิม ก็ควรจะใช้ชีวิตในการสร้างบุญบารมีให้เต็มที่ เพราะบุญคือทุกสิ่งที่เราปรารถนา และบุญให้ผลเกินควรเกินคาด อย่างที่เรานึกไม่ถึง ๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๕ พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา https://www.dhamma01.com/book/43 ต้นฉบับ หนังสือ คำสอนคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม 2 กลับสู่ สารบัญ หนังสือคำสอนครูไม่ใหญ่

19.อย่าเบื่อสร้างบุญ

อย่าเบื่อสร้างบุญ บุญทุกบุญเราต้องทำ จึงจะได้ ไม่ทำก็ไม่ได้ บุญมีตั้งแต่ บุญประจำเทศกาล บุญประจำปี บุญประจำเดือน บุญประจำอาทิตย์ บุญประจำวัน และบุญที่ต้องทำตลอดเวลา บุญที่ต้องทำตลอดเวลา และบุญประจำวัน ก็อยู่ในการบ้าน ๑๐ ข้อที่ให้ บุญประจำอาทิตย์ อาทิตย์หนึ่งเราก็มารวมกันประพฤติปฏิบัติธรรม ให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ไปวัดใกล้บ้าน ใครเป็นแฟนวัดพระธรรมกาย ก็มาวัดพระธรรมกาย บุญประจำเดือน อาทิตย์ต้นเดือนก็มาบูชาข้าวพระร่วมกัน บุญประจำปี ก็ทอดกฐินปีละครั้ง บุญตามเทศกาล มีงานบุญพิเศษตอนไหน เราก็ทำตอนนั้น นี่คือสิ่งที่เราจะต้องทำ เพราะเราเกิดมาทำพระนิพพานให้แจ้ง แสวงบุญ สร้างบารมีก็ต้องสร้างกันให้เต็มที่ เพราะเราใช้บุญเก่าทุกวัน ก็ต้องสั่งสมบุญใหม่ให้เกิดขึ้นทุกวัน เช่นเดียวกับที่บุญเก่าหมดไปทุกวัน เพราะบุญเป็นพลังงานพิเศษที่จะทำให้เรามีความสุขและความสำเร็จ ในชีวิตทั้งในมนุษยโลกและในเทวโลก รวมทั้งในสังสารวัฏนี้ ๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา https://www.dhamma01.com/book/43 ต้นฉบับ หนังสือ คำสอนคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม …

19.อย่าเบื่อสร้างบุญ Read More »

18.ทำไมต้องชวนทำบุญบ่อย ๆ (๒)

ทำไมต้องชวนทำบุญบ่อยๆ (๒) เราเกิดมาสร้างบารมี ก็ต้องทำบุญบ่อย ๆ เหมือนเราหายใจ ยังต้องหายใจบ่อย ๆ รับประทานอาหารกันบ่อย ๆ อาบน้ำกันบ่อย ๆ ฝนยังตกบ่อย ๆ ทุกอย่างต้องทำบ่อย ๆ ทั้งนั้น บุญก็ต้องทำบ่อย ๆ ถ้านาน ๆ ทำที บุญเราก็น้อย บุญน้อย ๆ จะสู้กับบาปไม่ได้ เพราะบาปเราก็ทำบ่อย ๆ ถ้าไม่ทำบุญบ่อย ๆ เดี๋ยวบาปจะได้ช่อง ทรัพย์เขามีไว้สำหรับเป็นอุปกรณ์ในการสร้างบารมี ดังนั้นจะมาตระหนี่ถี่เหนียวเสียดายแล้วไม่ให้…ไม่ได้ จึงต้องทำบุญถี่เหนียว คือ ทำบุญบ่อย ๆ ทำบุญถี่ ๆ ให้บุญเหนียวแน่น บาปจะได้ไม่ได้ช่อง ๒๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๖ พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา https://www.dhamma01.com/book/43 ต้นฉบับ หนังสือ คำสอนคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม …

18.ทำไมต้องชวนทำบุญบ่อย ๆ (๒) Read More »

17.ทำไมต้องชวนทำบุญบ่อย ๆ (๑)

ทำไมต้องชวนทำบุญบ่อย ๆ (๑) ทานเป็นบ่อเกิดแห่งโภคทรัพย์ ช่วงไหนทำ…ก็ได้ ช่วงไหนไม่ทำ…ก็ไม่ได้ ถ้าทำตลอดชาติ…ก็ได้ตลอดชาติ ตรงนี้สำคัญ เพราะฉะนั้น จึงต้องทำบุญบ่อย ๆ มีคนชอบมาถาม วัดพระธรรมกาย ทำไมต้องชวนทำบุญบ่อย อ้าว ! แล้วจะให้ชวนทำบาปหรือไง ชวนทำบุญ ก็เพราะอยากให้เขาได้บุญเยอะ ๆ เพราะบุญเท่านั้นถึง จะไปสู้กับบาปได้ เราจะไปเอารถถัง เครื่องบิน อาวุธยุทโธปกรณ์ไปสู้กับ บาปไม่ได้ บุญกับบาปมันคู่ต่อสู้กัน เพราะฉะนั้น มันต้องหยิบอาวุธยุทโธปกรณ์ให้ถูกต้อง ที่จะสู้กับเขา ไม่ใช่เขาถือปืนมา เราถือฟืนมาอย่างนี้ จะไปสู้กันได้อย่างไร ๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๖ พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา https://www.dhamma01.com/book/43 ต้นฉบับ หนังสือ คำสอนคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม 2 กลับสู่ สารบัญ หนังสือคำสอนครูไม่ใหญ่

16.ทำบุญเยอะแล้ว..ขอพักแป๊บ

ทำบุญเยอะแล้ว..ขอพักแป๊บ อย่าเบื่อหน่ายในการสร้างบุญ อย่าเกียจคร้านในการทำความเพียร อย่าประมาทชะล่าใจว่า เราทำบุญมาเยอะแล้ว ขอพักก่อน แล้วค่อย ไปทำบุญต่อไปในบุญข้างหน้า เพราะมีความคิดว่า จะทำทุก ๆ บุญเท่าที่ ปัจจัยจะอำนวย ดังนั้นก็คอย project หน้า ถ้ามีบุญก็จะทำ อย่างนี้ถือว่าประมาท เพราะวันพรุ่งนี้จะมีสำหรับเราหรือไม่ ยังไม่ ทราบ เพราะมีตัวอย่างมากมายที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ในโลก โดยเฉพาะเพื่อน สหธรรมิกที่ได้จากพวกเราไปในวัยที่เราคาดไม่ถึง พบเห็นกันอยู่หลัด ๆ ก็มาพลัดพรากกันไป เพราะฉะนั้นทุกบุญที่เกิดขึ้นทำไว้เถิด สิ่งที่เราทำนั่นแหละ คือของ ๆ เราอย่างแท้จริง สิ่งที่เรายังไม่ได้ทำ ก็ยังไม่ใช่ของเรา การชิงช่วงช่วงชิงเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ทรัพย์อาจจะถูกช่วงชิงไปทำอย่างอื่นให้หมดสิ้นไปก็ได้ หรือ…เราอาจตายก่อนก็ได้ เพราะฉะนั้น…อย่าประมาท ๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๕ พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา https://www.dhamma01.com/book/43 ต้นฉบับ หนังสือ คำสอนคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม 2 กลับสู่ สารบัญ …

16.ทำบุญเยอะแล้ว..ขอพักแป๊บ Read More »