หลวงพ่อทัตตชีโว

✍️”มัวแต่รอ ไม่แน่ว่าจะได้ทำ”

✍️”มัวแต่รอ ไม่แน่ว่าจะได้ทำ” . “อย่ารอทำบุญทำความดี แต่ละวันผ่านไป คือ แต่ละก้าวที่ใกล้หลุมฝังศพเข้าไปทุกคน เพราะฉะนั้น สองข้างทางเห็นโอกาสอะไรที่จะเป็นบุญเป็นความดีได้ คว้ามาเถอะลูก อย่ารอ” . 4 เมษายน 2562 โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา

✍️”ตัดไฟเสียแต่ต้นลม

✍️”ตัดไฟเสียแต่ต้นลม❗️” . ไฟกับลมนี้มีความสัมพันธ์กันในลักษณะแปลกๆ อยู่อย่างหนึ่ง พอไฟติดที่ไหน ลมจะมาที่นั้นทุกทีไป แรกๆลมอาจยังไม่ค่อยรุนแรง แต่พอไฟติดมากเข้า ลมจะยิ่งโหมยิ่งทำให้ไฟลุกฮืออย่างรวดเร็ว โบราณจึงบอกว่าให้ดับไฟเสียแต่ต้นลม . เพราะฉะนั้นเมื่อมีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้นแล้ว ถ้าเราไม่รีบแก้ไขเสียตั้งแต่ต้น ต่อไปจะเกิดความยุ่งยากตามมา แถมทำให้เพาะนิสัยมักง่ายตามมาด้วย . ความผิดพลาดอะไรก็ตาม เมื่อเริ่มเกิดแล้วต้องรีบแก้ไข ถ้าไม่รีบแก้แล้วมันจะลาม โบราณจึงกำชับว่า “ตัดไฟเสียแต่ต้นลม” . หน้า๕๔ หนังสือแด่นักสร้างบารมี ๓(เผด็จ ทตฺตชีโว) โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา หน้า๕๔ หนังสือแด่นักสร้างบารมี ๓(เผด็จ ทตฺตชีโว)

✍️”อยากก้าวหน้า ต้องเข้าหาครูอาจารย์”

✍️”อยากก้าวหน้า ต้องเข้าหาครูอาจารย์” . ถ้าใครอยากให้ความรู้ ความสามารถก้าวหน้า อยากจะให้ภูมิรู้ภูมิธรรมสูงยิ่งขึ้น จำไว้นะต้องเข้าไปหาครูบาอาจารย์ ไปซักถามปัญหา ไปอาสาช่วยงานท่าน แล้วก็ทำงานของท่านให้ดีที่สุด ถ้าทำได้ครบถ้วน คุณธรรมของเราจะเพิ่มพูนขึ้นทันตาเห็นไม่ต้องรอปีหน้า ชาติหน้า ทำเดี๋ยวนั้นก็ได้เดี๋ยวนั้น . หน้า๒๖ หนังสือแด่นักสร้างบารมีเล่ม ๒ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา หน้า๒๖ หนังสือแด่นักสร้างบารมีเล่ม ๒

✍️”พระเดชพระคุณ”

✍️”พระเดชพระคุณ” . หลวงพ่อปฏิบัติเช่นนี้จึงมีเพื่อนค่อนข้างมาก เพื่อนร่วมงานและลูกน้องมักเกรงใจ เพราะเราไม่ไปซ้ำเติมเขา เรามีทั้งพระเดชและพระคุณ เปรียบเสมือนเป็นทั้งพระอาทิตย์และพระจันทร์ . เป็นพระอาทิตย์ คือ ให้ความคุ้มครองแก่เขาได้ สิ่งใดที่จะเป็นอันตรายน่าหวาดกลัว เราป้องกันภัยนั้นได้ เป็นที่น่าเกรง คือมีพระเดช . เป็นพระจันทร์ คือ ให้ความอบอุ่นใจ เขาขาดแคลนสิ่งใด เช่น อาหาร เสื้อผ้า เราสามารถให้เขาได้ เป็นที่น่ารัก คือ มีพระคุณ . บุคคลที่เป็นทั้งพระอาทิตย์และพระจันทร์ หรือมีทั้งพระเดชและพระคุณ จึงเป็นผู้นำได้ . ตรงกันข้ามกับผู้ที่ใช้อำนาจมาข่มขู่ เขาก็เกรงเพียงชั่วครู่ชั่วยาม อำนาจประเภทนี้ไม่ยั่งยืน วันใดหมดอำนาจก็รังแต่จะมีคนเขาสมน้ำหน้า . หน้า ๑๔๙ หนังสือตำรับยอดเลขา โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา หน้า ๑๔๙ หนังสือตำรับยอดเลขา

✍️”ให้อย่างเหมาะสม”

✍️”ให้อย่างเหมาะสม” . การสงเคราะห์ช่วยเหลือใดๆ ก็ตาม ต้องให้ถูกคน ให้ในสิ่งที่เขาขาดแคลน ให้อย่างเหมาะสม ให้แล้วผู้รับสามารถนำไปพัฒนาต่อได้ ไม่สูญเปล่า . เข้าทำนอง ถ้าให้ข้าวเขาไป กินได้ไม่กี่มื้อก็หมด แต่ถ้าสอนวิธีปลูกข้าวให้ เขาก็จะมีข้าวกินตลอดชีวิต หรือเขาปลูกข้าวเป็นอยู่แล้ว แต่ขาดพันธุ์ข้าว ก็รับจัดหาพันธุ์ข้าวให้เขาเร็วๆ แล้วจะดีเอง . หน้า131 หนังสือรัฐศาสตร์เชิงพุทธ(เผด็จ ทตฺตชีโว) โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา หน้า131 หนังสือรัฐศาสตร์เชิงพุทธ(เผด็จ ทตฺตชีโว)

✍️”คนเราถ่ายทอดนิสัยซึ่งกันและกันได้”

✍️”คนเราถ่ายทอดนิสัยซึ่งกันและกันได้” . “คบคนเช่นใด ก็เป็นเช่นบุคคลนั้น” เพราะคนเราจะถ่ายทอดนิสัยซึ่งกันและกัน . ถ้าเราคบคนดีก็ย่อมจะมีโอกาสถ่ายทอดนิสัยและศีลธรรมของคนดีมาใส่ตัวเรา แต่ถ้าเราคบคนชั่วเป็นมิตร นิสัยชั่วของมิตรย่อมจะมีอิทธิพลครอบคลุมจิตใจของเรา ทำให้เราเสียผู้เสียคนโดยฝ่ายเดียว . ดังนั้นการคบคนหรือคบเพื่อนฝูงจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง จำเป็นต้องพิจารณาไตร่ตรองให้รอบคอบ และยึดภาษิตเตือนใจว่า “คบคนพาล พาลไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล” . หน้า ๕๖ คัมภีร์กู้วิกฤตชาติ(เผด็จ ทตฺตชีโว) โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา หน้า ๕๖ คัมภีร์กู้วิกฤตชาติ(เผด็จ ทตฺตชีโว)

✍️”ก่อนจะโกหกคนอื่น ต้องโกหกใจตัวเองก่อน”

✍️”ก่อนจะโกหกคนอื่น ต้องโกหกใจตัวเองก่อน” . คนที่พูดโกหก ก่อนอื่นเข้าจะต้องล้มภาพความจริงที่เกิดขึ้นในใจทิ้งเสีย แล้วสร้างภาพลวงขึ้นมาใหม่ เหมือนอย่างทีวี เวลาเครื่องเสีย ภาพในจอจะล้ม แม้ยังมีเสียงชัดเจน แต่ดูภาพไม่ออก . คนที่โกหกบ่อยๆ ภาพในใจก็จะล้มบ่อยๆ ในที่สุดความจริงคืออะไรก็แยกไม่ออก แล้วความเสียหายต่างๆ จะตามมาอีกมากมาย ทั้งด้านส่วนตัวและด้านสังคม . หน้า ๖๓ หนังสือแด่นักสร้างบารมีเล่ม ๒(เผด็จ ทตฺตชีโว) โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา หน้า ๖๓ หนังสือแด่นักสร้างบารมีเล่ม ๒(เผด็จ ทตฺตชีโว)

✍️ “ฝึกทนแดดทนฝนนั่นเรื่องเล็ก แต่ที่ต้องฝึกให้มาก คือ ฝึกทนกระทบกระทั่งกับทนกิเลส อันนี้ยากขึ้นมา”

✍️ “ฝึกทนแดดทนฝนนั่นเรื่องเล็ก แต่ที่ต้องฝึกให้มาก คือ ฝึกทนกระทบกระทั่งกับทนกิเลส อันนี้ยากขึ้นมา” . โดนด่าแล้วไม่โกรธอันนี้ไม่ยาก แต่โดนชมแล้วไม่ยิ้มนี้แหละยาก เพราะโดนชมแล้วยิ้มนี้แหละ เดี๋ยวเหลิง แล้วจะเสียผู้เสียคนไป . แล้วพอทำงานเราจะเจอกับเงิน เงินนี้แหละทำให้เสียคนไป . ถ้าไม่ทนกิเลส เราก็จะพังกันตรงนี้แหละ ทนคน ทนกิเลส เป็นสิ่งที่เราจะได้จากการทำงาน . ๗ ก.พ. ๒๕๖๒ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา

✍️”อย่าโกหกแม้เพียงพูดล้อเล่นสนุกๆ”

✍️”อย่าโกหกแม้เพียงพูดล้อเล่นสนุกๆ” . พระพุทธองค์ตรัสกับพระราหุลว่า “ราหุล กะลาที่คว่ำแล้ว ย่อมไม่มีน้ำติดอยู่เลยฉันใด คนโกหกทั้งๆ ที่รู้นะราหุล คุณความดีไม่เหลือหรอกเหมือนอย่างกับกะลาคว่ำ ไม่มีน้ำติดอยู่ฉันนั้นแหละ” . “เพราะฉะนั้นราหุล จำไว้นะ อย่าโกหกแม้เพียงพูดล้อเล่นสนุกๆ” . ฟังให้ดีนะลูก แม้เพียงล้อเล่นสนุกๆ อำเพื่อนกันสนุกๆ ก็อย่าทำ เพราะมันมีวิบากกรรม . หน้า ๖๒ หนังสือแด่นักสร้างบารมีเล่ม ๒(เผด็จ ทตฺตชีโว) โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา หน้า ๖๒ หนังสือแด่นักสร้างบารมีเล่ม ๒(เผด็จ ทตฺตชีโว)

✍️”พูดไปแล้วต้องให้บาปลดบุญเพิ่ม”

✍️”พูดไปแล้วต้องให้บาปลดบุญเพิ่ม” . สิ่งใด เรื่องใดที่ได้ฟังได้เห็น ตรวจสอบแล้ว ถ้าพูดถึงแล้ว ทำให้บาปลด ทำให้บุญเพิ่มตรงนี้ควรพูด ยิ่งต้องพูด เพราะยิ่งพูด บุญยิ่งเพิ่ม . ถึอหลักเอาไว้เลย บาปลดบุญเพิ่มรีบเอาไปขยายให้มากๆ บุญจะได้เพิ่มต่อๆ กันไป เช่นไปทำบุญที่นั้นที่โน้น ก็เอาบุญมาฝากบอกต่อๆ กันไป เห็นตัวอย่างคุณธรรมความดี นิสัยดีๆ บอกต่อๆ กันไป เพราะบอกแล้วบาปลดบุญเพิ่มอย่างนี้ควรพูดต่อๆ กันไป . 23 กุมภาพันธ์ 2558 โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา

clip ลูกเกเร.. แก้ด้วยเรื่องกิจวัตรและการใช้เงิน

ลูกเกเร.. แก้ด้วยเรื่องกิจวัตรและการใช้เงิน “หมู่ญาติมาปรารภว่า.. ลูกเขาเกเร เกะกะเกเรไม่เอาไหน เข้ามาถาม มาปรึกษาโยมพ่อ ว่าจะทำยังไง…พ่อก็สรุปอย่างที่ว่า จะแก้ไขคนน่ะเรื่องใหญ่ มีอยู่ ๒ เรื่อง เวลา แล้วก็ เงิน…” โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา

✍หลวงพ่อเองเมื่อถึงคราวครบรอบวันคล้ายวันเกิดของตัวเองในแต่ละปีก็ชอบที่จะนึกทบทวนถึงความหลัง รำพึงถึงตัวเอง ถามตัวเอง…

✍หลวงพ่อเองเมื่อถึงคราวครบรอบวันคล้ายวันเกิดของตัวเองในแต่ละปีก็ชอบที่จะนึกทบทวนถึงความหลัง รำพึงถึงตัวเอง ถามตัวเอง… . ว่าทำไมเราจึงได้สร้างบุญสร้างบารมีมาได้ยืดเยื้อถึงวันนี้ ทั้งๆ ที่มีอุปสรรคขวากหนามรอบด้านขนาดนั้น . โดยเฉพาะงานสร้างวัดสร้างธุดงคสถานนี่ เป็นงานใหญ่มาก . ลูกเอ๋ย อุปสรรคทำไมจะไม่รู้ว่ามาก แต่หลวงพ่อก็ไม่เคยคิดท้อถอย เดินหน้าเรื่อยไป . ที่มา : หนังสือมองอย่างนักคิดทำอย่างนักสู้ หน้า ๓ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา หนังสือมองอย่างนักคิดทำอย่างนักสู้ หน้า ๓

✍ผิด-เกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์เพราะปัญญามันหย่อน พลาด-เกิดจากความเผลอสติเพราะสติมันหย่อนไป

✍ผิด-เกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์เพราะปัญญามันหย่อน พลาด-เกิดจากความเผลอสติเพราะสติมันหย่อนไป . แต่ที่ถึงขั้นชั่วขั้นเลวนั้น เพราะรู้ว่าผิด รู้ว่าจะเกิดความเสียหายแล้วยังขืนทำ ทำผิดทั้งรู้เรียกว่าทำชั่ว-ทำเลว . ผู้ที่จะเจริญงอกงามในพระพุทธศาสนาได้ ต้องมีลักษณะอย่างหนึ่งคือ เป็นคนประเภทที่ไม่ยอมทำความชั่ว ไม่ยอมเป็นคนเลว . ผิดก็ยอมรับว่าผิด พลาดก็ยอมรับว่าพลาด แต่ว่าเมื่อผิดเมื่อพลาดแล้วครั้งหนึ่ง จะไม่ยอมให้ผิดซ้ำพลาดซ้ำอีก เพราะรู้ว่าจะกลายเป็นชั่วเป็นเลว . ถ้าพระภิกษุสามเณรรูปใดสำนึกในเรื่องนี้อยู่เสมอ ความใฝ่ใจในการศึกษาพระธรรมวินัยจะมีมาก . ใจจะยกสูงขึ้นตามลำดับ ความบริสุทธิ์กาย วาจาใจ ก็จะเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว มีกำลังใจที่จะสร้างบุญสร้างบารมีแบบเอาชีวิตเป็นเดิมพันทีเดียว จากหนังสือ มองอย่างนักคิดทำอย่างนักสู้ หน้า ๒ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา หนังสือ มองอย่างนักคิดทำอย่างนักสู้ หน้า ๒

ใจประดุจแผ่นดิน

ใจประดุจแผ่นดิน ก็คือ ใจของคนเราส่วนใหญ่ ไม่เหมือนแผ่นดิน แต่เหมือนขี้ผึ้งลนไฟ มันอ่อนปวกเปียกๆ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เคยตรัสเรื่องใจเหมือนแผ่นดิน กับพระราหุลว่า.. . “แผ่นดินนี้ ใครเอาน้ำหอมไปรดไปราดมัน มันดีใจไหม ไม่ดีใจ มันก็เฉยๆ เอาของเหม็นไปรดไปราด มันทุกข์ใจไหม มันก็เฉยๆ ราหุล…เธอทำใจให้ได้อย่างนั้นแหละ ใครมาทำอะไร เธอก็อย่าไป เอาเรื่องเอาราวกับเขา ตั้งใจปฏิบัติธรรมของเธอไป แล้วเธอจะหมดกิเลสได้เร็ว” . ถ้าทำใจเหมือนแผ่นดินได้อย่างนี้ ธรรมะต่างๆ ที่จะงอกงามขึ้นมาในใจก็อยู่แค่เอื้อม แต่เพราะคนเราใจไม่หนักแน่น เขาด่า เขาว่าเข้าหน่อย เจ็บใจ ทั้งๆ ที่มันก็แค่ลมมากระทบหู พัดลมเป่า ยังแรงกว่านั้นอีก ลมปากเป่าเบาๆ หน่อยเดียว อุ๊ย! เจ็บใจ ถ้าอย่างนี้ก็คงมีเรื่องเจ็บช้ำน้ำใจไปตลอดชาติ . เพราะฉะนั้น ใครทำใจหนักแน่นเหมือนแผ่นดินได้ ก็จะเป็นฐานรองรับคุณธรรมความดีต่างๆ ให้งอกงามในจิตใจอย่างสูงส่งยิ่งขึ้นไป พาให้ใจสงบสุขได้ เป็นชั้นที่ 4 และจะส่งต่อให้ใจสงบสุข ยิ่งๆ ขึ้นไป . ครอบครัวใดก็ตาม ที่ทั้งสามีภรรยา หรือพ่อแม่ลูกต่างก็ถือหลักร่วมกันอย่างนี้ …

ใจประดุจแผ่นดิน Read More »