หลวงพ่อทัตตชีโว

การกรวดน้ำหลังทำบุญใส่บาตร ลืมแล้วกรวดน้ำทีหลัง ผู้รับจะได้ผลบุญบ้างหรือไม่?

คำถาม: ทราบว่าเวลาใส่บาตรแล้วควรกรวดน้ำ แต่ถ้าลืมกรวดน้ำในเช้าวันนั้น  มากรวดใหม่ในตอนกลางคืน ผู้รับจะได้ผลบุญบ้างหรือไม่? คำตอบ: เรื่องนี้ก็ได้รับบ้าง แต่ไม่เหมือนกับตอนที่ใส่บาตรใหม่ๆ นะเหมือนตีเหล็กให้ได้รูป ถ้าจะให้ดีต้องตีตอนเหล็กร้อนจัดสีแดงๆ เหมือนเปลวไฟ ถ้าปล่อยให้เหล็กเย็นแล้วจึงตี บางทีดัดให้เข้ารูปไม่ได้เลย ถึงพอจะได้บ้างก็ต้องออกแรงตีจนเจ็บมือ การกรวดน้ำควรจะทำทันทีในขณะที่ใจยังปีติอยู่ในบุญในทานที่ได้กระทำแล้ว ผลของทานจะได้ถึงผู้รับอย่างรวดเร็วและเต็มเม็ดเต็มหน่วย โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

การเลือกพระใส่บาตรเป็นความคิดที่ถูกหรือผิดอย่างไร

คำถาม: การใส่บาตร ถ้ามีความคิดว่าใส่ให้กับพระองค์ไหนก็เหมือนกัน เพราะถือว่าผ้าเหลืองเป็นสัญลักษณ์ของพระพุทธศาสนา ความคิดนี้ผิดถูกอย่างไรครับ? คำตอบ: เรื่องนี้ก็ไม่ผิด ตามสะดวก แต่ว่าถ้าอยากจะได้ผลเป็นบุญมากๆ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า ทานที่มีผลเป็นบุญต้องประกอบด้วยเหตุ 4 ประการ คือ         1. วัตถุบริสุทธิ์ คือไม่ได้ไปโกงใครมา เป็นของที่ได้มาด้วยน้ำพักน้ำแรงของเราเอง         2. เจตนาบริสุทธิ์ คือตั้งใจให้ทานเพื่อเป็นบุญเป็นกุศล การให้ของคนเราต่างกัน เช่น บางคนไปรักสาวคนไหนก็ซื้อแหวนให้ นั่นเป็นการให้ที่มีเจตนาไม่เป็นบุญเป็นกุศล แต่เจตนาให้เขารัก หรือไปรักสาวคนไหน ก็ซื้อของขวัญให้น้องสาวของสาวคนนั้น เป็นการติดสินบนให้เปิดทางให้อีกต่อหนึ่ง นั่นก็เป็นเจตนาที่ไม่เป็นบุญกุศล ถือว่าเป็นเจตนาไม่บริสุทธิ์ ไม่ใช่เพื่อบุญล้วนๆ         3. ผู้ให้บริสุทธิ์ อย่างน้อยมีศีล 5 ถ้าหากตักบาตรไป เมาเหล้าไป บุญส่วนนี้ก็หย่อนไป         4. ผู้รับบริสุทธิ์ คือพระภิกษุรักษาศีลได้ครบถ้วน ไม่ด่างพร้อย มีความบริสุทธิ์กาย วาจา ใจ ยิ่งหมดกิเลสเป็นพระอรหันต์ด้วย เรายิ่งได้บุญมาก หรือแม้ที่สุดท่านยังไม่หมดกิเลสเป็นพระอรหันต์ด้วย เรายิ่งได้บุญมาก หรือแม้ที่สุดท่านยังไม่หมดกิเลสเป็นพระอรหันต์ อย่างน้อยท่านก็ตั้งใจประพฤติตนอยู่ในพระธรรมวินัย แค่นี้ก็ยังดีที่ไม่ใช่เป็นพระเกเร         หากผู้รับบริสุทธิ์มาก …

การเลือกพระใส่บาตรเป็นความคิดที่ถูกหรือผิดอย่างไร Read More »

ให้ตัวแทนเป็นคนกรวดน้ำ จะได้ผลเหมือนกับการที่เรากรวดน้ำด้วยตัวเองหรือไม่

คำถาม: การกรวดน้ำอุทิศแผ่ส่วนบุญ ในงานพิธีบุญที่มีสาธุชนมาก ถ้าหากจะให้ตัวแทนเป็นผู้กล่าวนำคำอุทิศ แล้วเรากล่าวตาม และให้ตัวแทนเป็นผู้กรวดน้ำแทนด้วย จะได้ผลเหมือนทำเองไหมครับ? คำตอบ: การกรวดน้ำในงานพิธีโดยทั่วไป กำหนดให้มีตัวแทนทำหน้าที่กรวดน้ำอยู่แล้ว และขณะกรวดน้ำก็ไม่จำเป็นจะต้องมีคำกล่าวอะไร เพราะว่าขณะที่กำลังกรวดน้ำนั้นเป็นเวลาเดียวกับที่พระสงฆ์กำลังให้พร ถ้าเรากล่าวอะไรเสียงดังออกไป เท่ากับไปขัดจังหวะ ไปส่งเสียงแข่งกับพระภิกษุ         เพราะฉะนั้นใครๆ ก็ไม่จำเป็นต้องไปกล่าวอะไรทั้งนั้น ใครทำหน้าที่กรวดน้ำ ก็หลั่งน้ำทันทีที่พระสงฆ์ผู้เป็นประธานกล่าวขึ้นต้นคาถาว่า ยถา วาริวหา ปูรา…และให้หยุดหลั่งน้ำ เมื่อพระภิกษุรูปที่สองรับขึ้นว่า สัพพีติโย…         คนอื่นนอกนั้นก็นึกน้อมอธิษฐานจิตนึกถึงบุญและแผ่ส่วนบุญส่วนกุศลไปยังผู้ที่เราต้องการส่งบุญไปให้ ทำแค่นี้ก็เหมือนกับเราลงมือกรวดน้ำด้วยตนเองนั่นแหละ มันสำคัญอยู่ที่ใจนะลูกนะ         บทกรวดน้ำ ที่ขึ้นต้นว่า อิทังเม ญาตินัง โหตุฯ นั้นใช้ท่องตามลำพังของเรา หลังจากที่พระให้พรจบแล้ว โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

ในนิทานเรื่องดาวลูกไก่การฆ่าสัตว์เพื่อเอาเนื้อมาทำอาหารถวายพระจะได้บุญหรือบาปอย่างไร

คำถาม: หลวงพ่อคะ ถ้าเขาเจาะจงฆ่าสัตว์เอาเนื้อมาทำอาหารถวายพระ อย่างนี้พระจะพลอยบาปด้วยไหมคะ ถ้ารู้ว่าโยมเจตนาฆ่าสัตว์เพื่อท่าน อย่างเรื่องดาวลูกไก่ ตากับยายอุตส่าห์ตั้งใจแกงไก่มาถวายพระ ส่วนแม่ไก่จะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม รวมทั้งลูกๆ ของมันด้วย ได้ไปเกิดเป็นดาว แสดงว่าไก่ได้บุญ แล้วตากับยายจะได้บุญบ้างไหมคะ? คำตอบ: คุณโยมเอ๊ย…ทำไมไปเอานิทานที่เขาเล่ากล่อมเด็กมาเป็นจริงเป็นจัง เอาเรื่องคนฆ่าสัตว์มาทำอาหารถวายพระในปัจจุบัน มาพิจารณากันก็ได้ หรือจะเอาตากับยายมาเป็นตัวละครก็ไม่ว่ากัน         คำถามนี้หลวงพ่อขอแยกเป็น 2 ข้อ คือเรื่องของคนทำอาหารข้อหนึ่ง กับเรื่องของพระที่ฉันอาหารของญาติโยมอีกข้อหนึ่ง         ข้อแรก ตากับยาย ที่ฆ่าไก่มาแกงถวายพระ ถามว่าแกได้บาปหรือได้บุญ ตอบว่าแกได้บาปตั้งแต่คิดจะฆ่าไก่แล้ว พอลงมือฆ่าด้วยตนเอง ยิ่งบาปใหญ่เลย และที่แน่ๆ ก่อนจะลงมือฆ่าแกมีบาปก้อนแรกค้างอยู่ในใจก่อนแล้ว คือบาปที่มีความหลงผิด คิดว่าฆ่าสัตว์ถวายให้พระฉันจะได้บุญ         ข้อสอง สำหรับพระภิกษุ ขอให้รับทราบไว้ด้วยว่าเนื้อสัตว์ที่มีผู้ทำอาหารถวายพระนั้น มีพระวินัยอยู่ว่า ถ้าเนื้อนั้น พระได้เห็นหรือได้ยิน ว่าเขาเฉพาะเจาะจงฆ่าสัตว์สำหรับท่านละก็ ท่านฉันไม่ได้นะ         แม้ที่สุดไม่เห็นการฆ่า ไม่ได้ยินตอนเขาฆ่า และไม่รู้เรื่องด้วยว่าเขาฆ่ามาเฉพาะเพื่อท่าน แต่สงสัยว่าเขาฆ่าเฉพาะเพื่อท่าน แม้อย่างนั้นในพระวินัย ก็กำหนดว่าฉันไม่ได้ เช่น สมมุติว่าพระธุดงค์เดินธุดงค์ไปในป่าเจอบ้านโยมหลังหนึ่งก็เข้าไปปักกลดอยู่ห่างๆ พอเช้าขึ้นมาโยมแกงไก่มาถวาย รู้โดยอัตโนมัติเลยว่าเขาฆ่าไก่มาเพื่อท่าน …

ในนิทานเรื่องดาวลูกไก่การฆ่าสัตว์เพื่อเอาเนื้อมาทำอาหารถวายพระจะได้บุญหรือบาปอย่างไร Read More »

เราเกิดมาทำไม

คำถาม: คนเราเกิดมาทำไมกันครับหลวงพ่อ คำตอบ:   ก่อนอื่นคุณควรเข้าใจให้ถูกในเรื่องโลกและชีวิต เสียก่อนว่า         ๑. คนเราตายแล้วไม่สูญ ตายแล้วยังต้องเกิดอีกนับชาติไม่ถ้วน ตราบใดยังปราบกิเลสในตัวไม่หมด ก็ยังต้องเกิด         ๒. กรรมดีกรรมชั่ว ทำแล้วมีผลแน่นอน และจะส่งผลทั้งในชาตินี้และชาติหน้า ไม่หายไปไหน         ๓. นรก สวรรค์มีอยู่จริง เมื่อทำความเข้าใจถูกต้องถึงจุดนี้แล้ว เรื่องแรกที่เราควรนึกถึงก็คือ  ทำอย่างไรจึงจะปิดนรกให้ตัวเองได้ หรือมีทางใดบ้างที่เมื่อตายไปแล้ว จะทำให้ไม่ตกนรกและมีแต่สุคติเป็นที่ไป         คุณถามว่าคนเราเกิดมาทำไม  ตอบแบบรวบรัดว่าคนเราเกิดมาเพื่อพัฒนาตนเอง เพื่อยกระดับจิตใจของตนให้สูงขึ้น และเพื่อสั่งสมบุญบารมีให้ยิ่งๆ ขึ้นไปตามลำดับ  เมื่อบุญบารมีเต็มส่วนแล้วก็จะสามารถปราบกิเลสในตัวได้หมด พ้นจากทุกข์อย่างถาวร เข้านิพพานตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในที่สุด เป้าหมายสุดท้ายของมนุษย์ทุกคนเป็นอย่างนี้ แต่คนเราโดยมากนักจะไม่ค่อยรู้กัน         คุณเองก็เช่นกัน  ในขณะนี้คุณยังไม่ได้บวช  ยังต้องทำมาหาเลี้ยงชีพ ดูแลครอบครัวอยู่  จึงจำเป็นจะต้องมีแนวทาง หรือหลักในการดำรงชีวิตอยู่ในโลก ซึ่งมีอยู่ ๔ ประการ ดังนี้         ๑. มีสัจจะ  คือ  ต้องเป็นคนจริง คนตรง ซื่อสัตย์ คนส่วนมากในสังคมปัจจุบันมีนิสัยชอบโกหก  …

เราเกิดมาทำไม Read More »

ทำไมพระเวสสันดรให้บุตรธิดาเป็นทานแก่ชูชก

คำถาม: กราบเรียนถามหลวงพ่อว่าพระเวสสันดรให้บุตร-ธิดา เป็นทานแก่ชูชก แล้วบุตร-ธิดาก็ได้รับความลำบาก การให้ทานแบบนี้เป็นเรื่องที่ถูกต้องไหม ผมควรจะตอบคนที่ถามมาอย่างไรครับ? คำตอบ:  เรื่องที่พระเวสสันดรให้พระโอรส พระธิดาเป็นทานไปนั้น หลวงพ่ออยากจะให้ข้อคิดว่า เวลาเรามองการกระทำของใคร ขอให้มองให้ถึงฐานะของคนคนนั้นด้วย อย่าเอาฐานะของเราเข้าไปเปรียบไปเทียบ          ตัวอย่างเช่น ทหารที่ออกไปรบ เขาทิ้งลูกทิ้งเมีย ทิ้งพ่อทิ้งแม่ไป บางครั้งทำให้คนที่อยู่ข้างหลังเหล่านั้น ต้องได้รับความลำบาก         ถามว่า ทหารเขาไม่ห่วงครอบครัวหรือ? ตอบว่า ความจริงเขาก็ห่วง แต่ตัดใจไป เพราะเห็นว่าประเทศชาติสำคัญกว่า ถ้าประเทศชาติเป็นอะไรไป อย่าว่าแต่ลูกแต่เมียเลย แม้แต่ตัวเขาเองก็อยู่ไม่ได้ เพราะฉะนั้นไม่ใช่เขาไม่รักลูกเมีย แต่เพราะว่าเขามีความจำเป็น เขามีความรับผิดชอบในหน้าที่ที่จะต้องปกป้องผืนแผ่นดินไทย เขาจึงต้องออกรบ         ใครที่ทราบก็สรรเสริญว่าเขาทำถูก เขาทำตามหน้าที่ของชายชาติทหาร ไม่มีใครด่าทหารประเภทนี้สักคน ทุกคนยอมรับและสรรเสริญว่าเขาเป็นคนดี         ถ้าใครด่าทหาร ประเภทที่ยอมสละลูกสละเมียไปรบว่าเป็นคนเลว คนๆ นั้นก็จะถูกตำหนิ จริงอยู่ในฐานะเป็นผัวเป็นเมียกัน หรือ เป็นพ่อเป็นลูกกัน ถ้าเอาแค่ฐานะนี้มาพิจารณาละก็ คนที่ทิ้งลูกทิ้งเมียออกไปรบ ก็จะถูกตำหนิว่าผิด เพราะมีหน้าที่จะต้องดูแลครอบครัว ใครไม่ดูแลนี่ถือว่าผิด แต่คิดให้กว้างออกไปว่านอกจากเขาจะเป็นคนมีลูกมีเมีย มีหน้าที่ดูแลครอบครัวแล้ว เขายังเป็นทหาร …

ทำไมพระเวสสันดรให้บุตรธิดาเป็นทานแก่ชูชก Read More »

เมื่อทำบุญแล้วควรอธิษฐานอย่างไรและควรอุทิศให้แก่เจ้าที่เจ้าทางเจ้ากรรมนายเวรหรือไม่

คำถาม: เมื่อทำบุญแล้ว จะอุทิศส่วนกุศลควรอธิษฐานอย่างไร และควรอุทิศให้แก่เจ้าที่เจ้าทาง เจ้ากรรมนายเวรหรือไม่ ? คำตอบ: อธิษฐานอุทิศส่วนกุศลให้แก่หมู่ญาติและผู้ที่มีพระคุณของเราขอให้ได้มาอนุโมทนารับบุญไปตามส่วน ใครที่เราเคยล่วงเกินไว้ ก็ขอให้มาอนุโมทนาบุญด้วย และขอให้อโหสิกรรมแก่เรา แคนี้ก็พอแล้ว โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

ทำบุญใส่ชื่อคนตาย เขาจะได้รับหรือไม่

คำถาม: การทำบุญถ้าจะใส่ชื่อคนตาย โดยเราประสงค์จะอุทิศส่วนกุศลให้ เขาจะได้รับหรือไม่ ? คำตอบ: เราจะเขียนหรือไม่เขียนชื่อก็ได้ การทำบุญผู้ที่ได้บุญแน่นอนคือตัวผู้ทำบุญนั้นเอง เมื่อเราได้บุญจะอุทิศส่วนกุศลให้ใคร ก็เพียงแต่นึกในใจว่า ขอให้บุญจงถึงแก่ท่านผู้นั้น ถ้าท่านผู้นั้นอยู่ในฐานะที่จะรับได้ ท่านก็ได้รับทันที         อย่างเช่น โยมพ่อของหลวงพ่อนั่งสมาธิ(Meditation) จนกระทั่งใจใสสว่างดีแล้ว ก็นึกให้โยมพ่อมาอนุโมทนาเอาบุญถึงที่นั่งสมาธิ ให้มารับบุญไปมาก ๆ ให้สมกับที่เลี้ยงเจ้าลูกดื้อคนนี้มาอย่างลำบากยากเย็น ก็นึกอย่างนี้ทุกครั้งถ้าเราต้องการอุทิศกุศลให้ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ท่านไม่เคยทำบุญให้ทานเลย ท่านจะสามารถรับส่วนกุศลที่เราอุทิศไปให้ได้หรือไม่ ?         ถ้าท่านไปตกนรกลึก ๆ ก็ไม่สามารถจะรับได้ แต่ไม่เป็นไร ญาติคนอื่นอาจจะรับต่อได้ ขอให้ทำต่อไป การอุทิศส่วนกุศลนี้ บางคนก็ได้รับ บางคนก็ไม่ได้รับ อุปมาเหมือนคนป่วยหนักในโรงพยาบาล มีคนเอาผลไม้ไปเยี่ยม แต่เนื่องจากป่วยหนักเข้าจึงไม่สามารถกินผลไม้เหล่านั้นได้ผู้ที่ได้กินแทนก็คือคนเฝ้าไข้ พอเขาอิ่มหนำสำราญ เขาก็ดูแลคนไข้อย่างดีเป็นผลทางอ้อม แต่ถ้าคนป่วยไข้เพียงเล็กน้อย เราเอาผลไม้หรืออาหารไปเยี่ยม ก็คงจะพอกินได้บ้าง         เปรียบเทียบได้เช่นเดียวกับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ถ้าตกนรกลึก ๆ ก็เหมือนคนป่วยหนักจะอุทิศส่วนกุศลไปให้เท่าไรก็ไม่ถึง แต่จะถึงกับญาติคนอื่น ๆ ที่อยู่ในฐานะจะรับได้ แต่ถ้าผู้ที่เราอุทิศส่วนกุศลให้ทำบาปเพียงเล็กน้อย ก็เหมือนคนป่วยอาการเล็กน้อย คงจะพอได้รับส่วนกุศลที่เราอุทิศได้บ้าง         …

ทำบุญใส่ชื่อคนตาย เขาจะได้รับหรือไม่ Read More »

ถ้าจบอาหารก่อนใส่บาตร แล้วไม่ได้กรวดน้ำ คนที่เราอุทิศให้จะได้รับผลบุญไหม

คำถาม: ถ้าจบอาหารก่อนใส่บาตร แล้วไม่ได้กรวดน้ำ คนที่เราอุทิศให้จะได้รับผลบุญไหมคะ ? คำตอบ:   จบก็คือจบ อุทิศก็คืออุทิศ คนละอย่างกัน จบ คือการอธิษฐาน โดยยกของหรือถาดใส่ของที่จะถวายพระขึ้นเหนือศีรษะหรือจรดหน้าผาก แล้วตั้งจิตอธิษฐานว่า “ด้วยอำนาจบุญที่ข้าพเจ้าได้กระทำนี้ ขอให้หมดกิเลสไปพระนิพพาน”         แต่เวลากรวดน้ำเขาขอว่า “ทานที่ข้าพเจ้าทำดีแล้วนี้ ขอให้ถึงแก่ญาติคนนั้น ๆ”         การอธิษฐานเป็นการสร้างอธิษฐานบารมี ตั้งความปรารถนามุ่งผลอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อตนเอง ส่วนการกรวดน้ำเป็นอาหารแสดงการอุทิศส่วนกุศลให้ผู้อื่น ถ้าให้แก่คนที่อายุน้อยกว่าเรา ก็เป็นลักษณะของ เมตตาบารมี ถ้าให้กับผู้ที่เป้นผู้ใหญ่กว่าเรา มีพระคุณแก่เรา นั่นเป็นการแสดงกตัญญูกตเวที         เพราะฉะนั้นการจบอาหารก่อนใส่บาตร กับการกรวดน้ำหลังตักบาตรนี่ต่างกันนะ         การกรวดน้ำนั้นเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้แก่หมู่ญาติ เป็นอุบายวิธีทำให้ใจสงบ เยือกเย็นและกว้างขวาง พร้อมที่จะอุทิศผลบุญให้ผู้อื่นอย่างเต็มที่ คนที่ฝึกสมาธิ(Meditation)มาดีแล้ว สามารถเข้าสมาธิแผ่ส่วนบุญส่วนกุศลได้เลย ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำเป็นสื่อ เพราะฉะนั้นถ้าหาน้ำไม่ทันหรือโอกาสไม่อำนวย ทำบุญแล้วก็ควรนึกอุทิศส่วนกุศลทันที ในขณะที่ใจยังปีติอิ่มอยู่ในบุญ         ในทำนองเดียวกัน เมื่อจะตักบาตร ทำทานก็ควรจบหรือนึกอธิษฐานบุญ ตั้งผังกำหนดทิศทางการส่งผลของบุญให้ถูกต้องก่อนด้วย         ส่วนที่ถามว่าผู้ที่เราอุทิศให้ด้วยใจ แต่ไม่ได้กรวดน้ำให้ จะได้ส่วนบุญหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับผู้รับเองว่าเขาอยู่ในฐานะที่จะรับได้หรือไม่ ถ้าตกนรกลึกนัก …

ถ้าจบอาหารก่อนใส่บาตร แล้วไม่ได้กรวดน้ำ คนที่เราอุทิศให้จะได้รับผลบุญไหม Read More »

การเอาอาหารไปเซ่นไหว้บรรพบุรุษนั้นท่านจะได้รับหรือไม่

คำถาม: การเอาอาหารไปเซ่นไหว้ หน้าศพของบรรพบุรุษนั้น อยากทราบว่าท่านจะรับอาหารที่เราเซ่นไหว้ได้หรือไม่คะ ? คำตอบ:   ไม่ได้หรอกนะ อาหารที่ไปตั้งหน้าศพ จะให้ศพลุกขึ้นมากินได้อย่างไร มีแต่ว่าเราทำบุญไปแล้ว อุทิศส่วนกุศลไปให้จึงจะได้ ขนาดตอนยังมีชีวิตอยู่ยังกินไม่ค่อยจะได้ ตายแล้วจะลุกขึ้นมากินได้อย่างไร โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

การถวายสังฆทานคืออะไร และต้องทำอย่างไรบ้าง

คำถาม: การถวายสังฆทานคืออะไร และต้องทำอย่างไรบ้างครับ ? คำตอบ:   การถวายสังฆทาน คือ การถวายทานแด่คณะสงฆ์ โดยไม่จำเพาะเจาะจงรูปหนึ่งรูปใด เราสามารถทำได้ ๒ ลักษณะ คือ ๑. ไปที่วัดใดวัดหนึ่งแล้วนิมนต์พระตั้งแต่ ๔ รูปขึ้นไป มานั่งพร้อมกัน แล้วนำของถวายท่าน หรือ ๒. ไปพบพระรูปใดรูปหนึ่ง แล้วตั้งใจกล่าวถวายเป็นสังฆทานให้ท่านนำไปถวายต่อแก่พระรูปอื่นด้วย ให้ท่านแบ่งปันกันเองในหมู่สงฆ์ไม่เฉพาะเจาะจงรูปใดรูปหนึ่ง โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) วันที่ ที่มา เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

เราควรมีหลักในการให้พรอย่างไรบ้าง

คำถาม: ยังไม่ทันแก่ก็มีลูกศิษย์ลูกหามาอวยพรปีใหม่ มากันหลายคน หลายกลุ่มไม่รู้จะให้พรอย่างไร ถ้าให้เหมือนกันทุกคนอย่างกับท่องจำคงไม่ดี หลวงพ่อมีหลักในการให้พรอย่างไรคะ ? คำตอบ:   การให้พรเป็นการให้ความประเสริฐ ถ้ามองแล้วตัวเราไม่ได้มีความดีความประเสริฐอะไรเลย แต่พรุ่งนี้ลูกศิษย์ลูกหาจะมาขอพรจะเอาอะไรให้ ให้พรปาว ๆ เป็นนกแก้วนกขุนทอง พรก็ไม่ศักดิ์สิทธิ์ ปู่ ย่า ตายายของเราเวลาท่านให้พร เรารู้สึกว่าพรของท่านศักดิ์สิทธิ์ มีความขลังอยู่ในคำให้พรนั้นด้วย         ถามว่าพรศักดิ์สิทธิ์ตรงไหน ? พรศักดิ์สิทธิ์ พรขลัง ให้ผลจริงจังตรงสัจจะของผู้ให้ บอกอย่างนี้บางคนนึกไม่ออก ถ้านึกไม่ออกก็ต้องให้ย้อนไปดูเรื่องเก่า ๆ ดูตำรับตำราโบราณ ดูเรื่องพระองคุลิมาลก็แล้วกัน         พระองคุลิมาล ก่อนบวชท่านเป็นโจรฆ่าคนมาเป็นพัน ภายหลังเมื่อได้พบพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วจึงสำนึกบาปได้ ขอบวชเป็นพระภิกษุตั้งใจบำเพ็ญเพียรอยู่ในสำนักของพระพุทธองค์ แต่เนื่องจากท่านเคยเป็นโจรที่มีชื่อเสียง ลือกระฉ่อนเรื่องฆ่าคนไม่เลือกหน้าระยะแรก ๆ เวลาออกบิณฑบาต ท่านไม่ค่อยได้อาหาร เพราะพอชาวบ้านจำหน้าได้ว่า คือโจรรองคุลิมาลก็ตกใจ เผ่นหนีกันไปหมด บางวันก็ถูกรุมขว้างปาจนเลือดอาบ         วันหนึ่ง ท่านออกบิณฑบาตไปพบผู้หญิงท้องแก่กลางทางผู้หญิงคนนั้นพอจำได้ว่าเป็นโจรองคุลีมาล ก็ตกใจ วิ่งหนีล้มลุกคลุกคลาน ในที่สุดก็หมดเรี่ยวแรงจะหนี ได้แต่อ้าปากผะงาบ ๆ ร้องไม่ออก ทำ …

เราควรมีหลักในการให้พรอย่างไรบ้าง Read More »

การอุทิศร่างกายให้กับโรงพยาบาล เพื่อการศึกษาของแพทย์หลังจากเราตายแล้ว มีอานิสงส์อย่างไรบ้าง

คำถาม: การอุทิศร่างกายให้กับโรงพยาบาล เพื่อการศึกษาของแพทย์หลังจากเราตายแล้ว มีอานิสงส์อย่างไรบ้างคะ ? คำตอบ:   สำหรับเรื่องนี้ได้อานิสงส์ไม่มากนัก แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้ เพราะอะไร? เพราะให้ร่างกายหลังตายแล้ว นักศึกษาแพทย์ก็เอาศพไปศึกษาหาความรู้เรื่องโรคต่าง ๆ เพื่อหาทางรักษาคนไข้คนอื่น ๆ เจ้าของร่างกายจะได้บุญ ก็คงประมาณเท่า ๆ กับให้หนังสือเล่มหนึ่ง ตามหลักถ้าอยากจะได้บุญมาก ๆ ต้องให้ขณะเป็น ๆ คือยังมีชีวิตอยู่ จะได้บุญมหาศาล เพราะเหมือนกับให้ชีวิตเป็นทาน         ถ้าให้หลังตายแล้ว อานิสงส์ที่ได้อาจเข้าทำนองว่าทุกภพทุกชาติหลังจากตายแล้ว จะมีผู้จัดงานศพ ให้อย่างเอิกเกริก ให้คนทั่วไปเข้าใจเอาเองว่า คงทำความดีไว้มาก หรือมีลูกหลานดี แต่จริง ๆ แล้วขณะที่ยังมีชีวิตอยู่อาจจะลำบากยากแค้นก็ได้ ถ้าไม่ได้สร้างกุศลอย่างอื่นไว้ด้วย         เพราะฉะนั้นใครจะอุทิศ หรือทำบุญสิ่งของใด ก็จงอุทิศให้ในขณะที่ตัวเองยังมีชีวิตอยู่ จะได้ชื่นชมผลของการให้ด้วย         เพราะบุญที่เกิดจากการให้ทานเกิดถึง ๓ วาระ คือก่อนให้ กำลังให้ และหลังจากให้แล้ว บุญจะได้มากขึ้นอีกงบหนึ่ง ที่หลวงพ่อว่าให้ชีวิตเป็นทานนั้น หมายถึงให้เลือก ให้เนื้อ ให้อวัยวะเป็นทานนะลูกนะ ไม่มีใครตายแทนกันได้หรอก …

การอุทิศร่างกายให้กับโรงพยาบาล เพื่อการศึกษาของแพทย์หลังจากเราตายแล้ว มีอานิสงส์อย่างไรบ้าง Read More »

ต้องดื่มเหล้าแค่ไหนถึงถือว่าขาดสติ

คำถาม: คนดื่มเหล้าขนาดไหนจึงจะถือว่าขาดสติครับ ? คำตอบ:   ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจคำว่า “สติ” เสียก่อน สติ แปลว่าความระลึกได้ หมายถึงระลึกได้ก่อนจะทำ จะพูดและสามารถจำสิ่งที่ทำ คำที่พูดแล้วได้อีกด้วย         เรามักใช้คำนี้คู่กับคำว่า สัมปชัญญะ แปลว่ารู้ตัว หรือระลึกได้ชัดถึงการปฏิบัติและการพูดที่เหมาะสม ทำให้จิตอยู่ในสภาพที่พร้อมจะทำงานได้อย่างดี         โดยทั่วไปคนเราแม้ยังไม่ได้ดื่มสุรา ก็เมาอยู่แล้ว คือ         ๑. เมาอยู่ในความเป็นหนุ่มเป็นสาว คือคิดว่ายังมีเวลาสนุกอยู่อีกนาน         ๒. เมาในความเป็นผู้ไม่มีโรค คือเผลอสติคิดว่าตัวเองจะเป็นคนที่แข็งแรงต่อไปอีกนาน หารู้ไม่ว่าโรคร้ายจะมาเยือนตัวเมื่อไรก็ได้         ๓. เมาในชีวิต คือ เผลอสติคิดว่าความตายยังอยู่ห่างไกล อีกนานกว่าความตายจะมาถึงตัว หารู้ไม่ว่าความตายนั้นไม่มีเครื่องหมายอะไรบอกล่วงหน้า         ในทัศนะของพระอริยเจ้าทั้งหลาย พวกเราชาวโลกคือคนประมาทขาดสติแล้วทั้งสิ้น ดังนั้นคนที่ดื่มเหล้าจึงล้วนแต่เพิ่มความขาดสติให้แก่ตนมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นการดื่มเหล้ายังให้โทษอีกมากมายแก่ตนเองและคนรอบข้างอีกด้วย         คนส่วนมากเข้าใจว่า คนที่ดื่มเหล้าเมาจนเดินไม่ไหว หรือพูดไม่รู้เรื่องแล้ว คือคนขาดสติ แต่จริง ๆ แล้วในทางธรรม ถือว่าเขาขาดสติแล้วตั้งแต่คิดจะดื่ม คิดจะซื้อ ยิ่งลงมือเปิดขวดรินเหล้าใส่แก้ว แล้วดื่มล่วงลำคอเข้าไป เขาก็ยิ่งขาดสติมากยิ่งขึ้นตามลำดับ         ยิ่งดื่มมาเท่าไร …

ต้องดื่มเหล้าแค่ไหนถึงถือว่าขาดสติ Read More »

การใส่บาตร ถ้าไม่ได้อธิษฐาน เพราะถือว่าใส่บาตรไม่ได้หวังผล จะได้บุญหรือไม่

คำถาม: การใส่บาตร ถ้าไม่ได้อธิษฐาน เพราะถือว่าใส่บาตรไม่ได้หวังผล จะได้บุญหรือไม่คะ? คำตอบ:   ความจริงเวลาใส่บาตรแล้วจะอธิษฐาน หรือไม่อธิษฐานก็ได้บุญอยู่แล้ว แต่ที่โบราณท่านสอนให้เราอธิษฐานกันนั้น เป็นการตั้งเจตนาแน่วแน่ลงไป คนที่ทำอย่างนี้เมื่อถึงคราวบุญสงผล จะได้ผลตรงตามที่เราปรารถนา เช่น สมมติเราเป็นคนที่ให้ทาน ถึงคราวบุญส่งผลก็จะทำให้เราเป็นคนร่ำรวย แต่ว่าถ้าเราเป็นคนที่มีความเห็นผิด เป็นคนเจ้าโทสะ ถึงคราวบุญส่งผล เราก็รวย แต่เราก็ยังเจ้าโทสะอยู่         เพราะฉะนั้น เราจึงมีโอกาสที่จะเอาความรวยไปใช้ในทางที่ผิด คือใครขวางทางก็เล่นงานเขาถึงเป็นถึงตายเลยทีเดียว ท่านจึงสอนให้อธิษฐานด้วยเมื่อทำบุญ เพื่อเป็นการเตือนสติตัวเองไว้ จะได้ไม่ถลำไปในทางที่ไม่ดีไม่งาม เช่น อธิษฐานว่า ด้วยอำนาจทานที่ข้าพเจ้าทำดีแล้วนี้ ขอให้บุญกุศลนี้ส่งให้ข้าพเจ้าเป็นผู้ที่ไม่มีโทสะ         ถ้าทำอย่างนี้ถึงคราวบุญส่งผล บุญก็จะคอยเตือนเราให้ไม่เป็นคนเจ้าโทสะได้ แม้แต่ในปัจจุบันนี้ ถ้าเราหมั่นอธิษฐานอย่างนี้บ่อยๆ ก็เป็นการเตือนตัวเอง ไม่ให้มีโทสะเข้าครอบงำ หรือเวลาเกิดโทสะก็สามารถยับยั้งตัวเองมีสติได้เร็วขึ้น         การอธิษฐานมีส่วนดีอย่างนี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงจัดให้การอธิษฐานเป็นบารมีอย่างหนึ่ง ในบารมี 10 ทัศ เรียกว่า อธิษฐานบารมี แม้การที่พระองค์มาเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ พระองค์มาด้วยอำนาจแรงอธิษฐาน คือทรงตั้งจิตมั่น แล้วพยายามทำตามเส้นทางที่หวังไว้         การอธิษฐาน คือการตั้งโครงการนั่นเอง …

การใส่บาตร ถ้าไม่ได้อธิษฐาน เพราะถือว่าใส่บาตรไม่ได้หวังผล จะได้บุญหรือไม่ Read More »