อานิสงส์เป่าสังข์เป็นพุทธบูชา
อานิสงส์เป่าสังข์เป็นพุทธบูชา (พระมธุสสรเถระ และภิกขทายกเถระ) เราทุกคนเกิดมาได้คติสมบัติที่ดีเลิศ คือ ได้ความเป็นมนุษย์ ที่ไม่พิกลพิการ บ้า ใบ้ ปัญญาอ่อน ได้อุปธิสมบัติที่สมบูรณ์พร้อมทั้งความคิดความเห็น คือ ทิฏฐิสมบัติของเราก็มีความเห็นถูกต้อง เห็นว่าเกิดมาแล้วต้องสร้างบารมี เพราะว่าโลกนี้เป็นเหมือนตลาดกลางในการค้าบุญค้าบาป เราจึงเร่งสร้างบุญสร้างบารมีกันอย่างเต็มที่ นักสร้างบารมีที่แท้จริง จะต้องมีใจจดจ่ออยู่กับการสร้างบารมีอย่างเดียว ไม่ปล่อยให้วันหนึ่งๆ ผ่านไปโดยไม่ได้สร้างบุญอะไรเลย จะต้องคิดอยู่ในใจตลอดเวลาว่า ทำอย่างไรบารมีของเราจึงจะเต็มเปี่ยมบริบูรณ์ จะมีดวงบุญในตัวใหญ่โตขึ้นไปเรื่อย ๆ เพราะบุญน้อย ๆ ไปถึงที่สุดแห่งธรรมไม่ได้ ดังนั้นจงคิดอยู่เสมอว่า ทำอย่างไรใจของเราจะสะอาดบริสุทธิ์ผ่องใสอยู่ตลอดเวลา และก็หยุดใจได้สนิท จนกระทั่งสามารถเข้าถึงธรรมภายในได้ จะได้มีที่พึ่งที่ระลึกภายใน มีวาระแห่งพระบาลีตอนหนึ่งปรากฏอยู่ใน โอวาทปาฏิโมกข์ ว่า “สจิตฺตปริโยทปนํ เอตํ พุทฺธานสาสนํ การทำจิตของตนให้ผ่องใส นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย” การทำจิตให้ผ่องใสอยู่เสมอ มีความจำเป็นอย่างยิ่ง หากใจผ่องใสแล้ว ไม่ว่าจะทำบุญอะไรก็แล้วแต่ ก็จะบังเกิดอานิสงส์ยิ่งใหญ่ไพศาล ส่งผลให้ชีวิตมีแต่ความสุขความเจริญรุ่งเรือง เพราะฉะนั้นผู้ที่รู้จักทำใจให้ผ่องใสแล้วสร้างบุญจึงได้ชื่อว่า …