ธรรมะเพื่อประชาชน

พระปิยทัสสีพุทธเจ้า (๓)

พระปิยทัสสีพุทธเจ้า (๓) วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ทุกชีวิตย่างสู่วัยเสื่อมและวัยชรา หากเรามองย้อนไปพิจารณาการกระทำของเรามาแล้วพบว่า เราได้ใช้วันเวลาของเราอย่างมีคุณค่า ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์เป็นที่พึ่งแก่ตน ด้วยการบำเพ็ญทาน รักษาศีลและเจริญภาวนา เราย่อมจะมีแต่ความปลื้มปีติเป็นเครื่องตอบแทน เพราะทาน ศีล ภาวนาที่เราประพฤติปฏิบัติจนเป็นอาจิณกรรมนั้น จะกลั่นกาย วาจา ใจของเราให้ใสสะอาดบริสุทธิ์ และดึงดูดแต่สิ่งที่ดีงามเข้ามาหาตัวเรา โดยเฉพาะการฝึกฝนใจให้บริสุทธิ์หยุดนิ่งเสมอ จะทำให้เราไม่กลัวต่อมรณภัย ซึ่งเสมือนระเบิดเวลาของชีวิตที่ติดตัวเรามา และเกิดขึ้นกับเราได้ทุกเวลาเพราะความตายไม่มีนิมิตหมาย มีวาระพระบาลีที่ปรากฏใน ปสาทสูตร ว่า “ความเลื่อมใสในวัตถุอันเลิศ ๔ ประการนี้ คือ ๑. สัตว์ทั้งหลาย ไม่มีเท้าก็ดี สองเท้าก็ดี สี่เท้าก็ดี มีเท้ามากก็ดี เป็นผู้มีรูปก็ดี ไม่มีรูปก็ดี เป็นผู้มีสัญญาก็ดี ไม่มีสัญญาก็ดี มีสัญญาก็มิใช่ ไม่มีสัญญาก็มิใช่ มีประมาณเท่าใด พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ปราชญ์กล่าวว่าเป็นยอดแห่งสัตว์ทั้งปวงนั้น สัตว์เหล่าใด เลื่อมใสในพระพุทธเจ้า สัตว์เหล่านั้นชื่อว่าเลื่อมใสในวัตถุอันเลิศ  เมื่อเลื่อมใสในวัตถุอันเลิศ ก็ย่อมได้ผลอันเลิศ ๒. ธรรมทั้งหลายที่เป็นสังขตะมีประมาณเท่าใด อริยมรรคมีองค์ ๘ ปราชญ์กล่าวว่าเป็นยอดแห่งธรรมทั้งปวงนั้น สัตว์เหล่าใดเลื่อมใสในอริยมรรคมีองค์ ๘ …

พระปิยทัสสีพุทธเจ้า (๓) Read More »

พระปิยทัสสีพุทธเจ้า (๔)

พระปิยทัสสีพุทธเจ้า (๔) พระรัตนตรัยเป็นรัตนะอันประณีต เป็นสิ่งประเสริฐเลิศลํ้าที่สุดที่ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือน เป็นอริยทรัพย์เครื่องปลื้มใจแก่ผู้ได้เข้าถึง เราจะเข้าใจได้แจ่มแจ้ง และซาบซึ้งก็ต่อเมื่อได้เข้าถึงพระรัตนตรัยแล้วเท่านั้น พระรัตนตรัยมีอยู่ในกลางกายของเรา เป็นที่พึ่งที่ระลึกอันสูงสุด  เมื่อใดที่เรามีความทุกข์ หากนำใจหยุดเข้าไปถึงท่านได้ ความทุกข์ทั้งหลายย่อมจะดับไป และเปลี่ยนมาเป็นความสุขที่แท้จริง เป็นสุขที่ไม่มีประมาณยิ่งถ้าเราเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับพระรัตนตรัยตลอดเวลา ความสุขจะยิ่งเพิ่มพูนขึ้น เป็นสุขทั้งวันทั้งคืนทุกทิวาราตรี มีวาระแห่งพระพุทธวจนะที่ท่านกล่าวไว้ใน รัตนะสูตร ว่า “ทรัพย์เครื่องปลื้มใจอย่างใดอย่างหนึ่งในโลกนี้หรือโลกอื่น หรือรัตนะใดอันประณีตในสวรรค์ ทรัพย์และรัตนะนั้น เสมอด้วยพระตถาคตไม่มี พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ เป็นรัตนะอันประณีต” พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า นอกจากพระองค์จะเป็นบรมศาสดา ผู้สั่งสอนเหล่าเวไนยสัตว์ที่เป็นมนุษย์แล้ว ยังทรงสอนให้เทวดาทั้งหลายได้บรรลุธรรมตามพระองค์อีกมากมายนับไม่ถ้วน พระพุทธองค์ทรงสอนทางรอดในสังสารวัฏให้มนุษย์และเทวดาทั้งหลายได้รอดพ้นจากความทุกข์ และปลอดจากภัยทั้งในโลกนี้และในสัมปรายภพ ทรงนำหมู่สัตว์ให้ข้ามพ้นทะเลทุกข์ไปสู่ฝั่งพระนิพพานอันเป็นบรมสุข เกษมจากโยคะ คือ กิเลสเครื่องร้อยรัดทั้งหลาย ด้วยพระพุทธองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ที่ไม่มีใครเปรียบ และเป็นรัตนะกายแก้วบริสุทธิ์ จึงได้ชื่อว่าเป็นรัตนะเครื่องปลื้มใจที่ประณีตที่สุด เลิศที่สุดและลํ้าค่าที่สุด ยิ่งกว่าอัญมณีที่เป็นเครื่องปลื้มใจของมนุษย์ และรัตนะในสวรรค์ที่เป็นสมบัติอันเป็นทิพย์ของชาวสวรรค์ การอุบัติขึ้นของพระพุทธเจ้า จึงเป็นการอุบัติขึ้นมาเพื่อยังโลกนี้ และเทวโลกให้สว่างไสวด้วยแสงแห่งธรรม ทำให้มนุษย์ได้พบพระรัตนตรัยซึ่งเป็นทางรอด และเป็นที่พึ่งที่ระลึกได้อย่างแท้จริง การที่พระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ มีความสามารถในการสั่งสอนเวไนยสัตว์ ให้ตรัสรู้ธรรมตามพระองค์ได้ไม่เท่ากันนั้น เนื่องจากการสร้างบารมีมายาวนานไม่เท่ากัน แม้ทุกพระองค์จะบรรลุพระสัพพัญญุตญาณเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นบรรลุวิชชา ๓ …

พระปิยทัสสีพุทธเจ้า (๔) Read More »

มหาโควินทสูตร ตอนที่ ๑ (เทวสันนิบาต)

มหาโควินทสูตรตอนที่ ๑ (เทวสันนิบาต) การสร้างบารมีเป็นหน้าที่ของทุกๆคนเป็นการก้าวตามเส้นทางของพระบรมโพธิสัตว์ทั้งหลาย และเป็นสิ่งที่ประเสริฐสุดของชีวิต พระบรมโพธิสัตว์ทั้งหลายต่างตั้งใจสั่งสมบารมีทุกรูปแบบ ทั้งทาน ศีลและภาวนา ไม่เคยขาดตกบกพร่องในการสั่งสมบุญ การที่เราสามารถบรรลุเป้าหมายอันสูงสุดของชีวิต คือบรรลุมรรคผลนิพพาน กระทั่งได้ถึงที่สุดแห่งธรรม เราต้องดำเนินตามรอยบาทของท่านผู้รู้เหล่านั้น มุ่งหน้าสร้างบารมีจนกว่าบารมี ๓๐ ทัศจะเต็มเปี่ยมบริบูรณ์ มีวาระพระบาลีที่ปรากฎใน พระวินัยปิฎก จุลวรรค ว่า “สุขา สงฺฆสฺส สามคฺคี      สมคฺคานญฺจนุคฺคโห สมคฺครโต ธมฺมฏฺโฐ      โยคกฺเขมา น ธํสติ ฯ สงฺฆํ สมคฺคํ กตฺวาน     กปฺปํ สคฺคมฺหิ โมทติ ความพร้อมเพรียงของหมู่เป็นเหตุแห่งสุข และการสนับสนุนผู้พร้อมเพรียงกัน ก็เป็นเหตุแห่งสุข ภิกษุผู้ยินดีในความพร้อมเพรียงกัน ตั้งอยู่ในธรรม ย่อมไม่เสื่อมจากธรรมอันเกษมจากโยคะ ภิกษุสมานสงฆ์ให้พร้อมเพรียงกันแล้ว ย่อมบันเทิงในสรวงสวรรค์ตลอดกัป” ที่ใดมีความสามัคคี ที่นั่นย่อมมีความสุขความเจริญ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสรรเสริญความพร้อมเพรียงของหมู่ เพราะทำให้เกิดสุข  ดังนั้น พระองค์จะตรัสถึงความสามัคคีอยู่เนืองๆ แม้แต่ในเรื่องอปริหานิยธรรม ธรรมที่จะทำให้ไม่เสื่อมจากความเจริญ พระองค์จะตรัสถึงความพร้อมเพรียงในการทำกิจร่วมกันของสงฆ์ ตั้งแต่เริ่มประชุมก็พร้อมเพรียงกัน  …

มหาโควินทสูตร ตอนที่ ๑ (เทวสันนิบาต) Read More »

มหาโควินทสูตร ตอนที่ ๒ (พุทธคุณ ๘ ประการ)

มหาโควินทสูตรตอนที่ ๒ (พุทธคุณ ๘ ประการ) บุญ คือ สิ่งที่อยู่เบื้องหลัง ที่ทำให้เกิดความสำเร็จในทุกๆ เรื่อง ทำให้เป็นผู้ที่สมบูรณ์ด้วยโลกียสมบัติและอริยสมบัติ ถ้ามีบุญมากเราจะสร้างบารมีได้สะดวกสบาย และบรรลุมรรคผลนิพพานได้อย่างง่ายดาย ด้วยอานุภาพแห่งบุญที่ได้สั่งสมไว้ดีแล้ว การสั่งสมบุญจึงเป็นกิจที่เราทั้งหลายต้องกระทำกันทุกวัน ทุกเวลาและทุกสถานที่ มีวาระบาลีที่ปรากฎใน อรรถกถาขุททกนิกาย ชาดก ว่า “บุคคลจะเป็นอุบาสกหรืออุบาสิกาก็ตาม ผู้ถึงพระรัตนตรัยอันประกอบด้วยคุณอันอุดมอย่างนี้ ชื่อว่าจะเป็นผู้บังเกิดในนรกเป็นต้น ย่อมไม่มี อนึ่งพ้นจากการบังเกิดในอบายแล้ว ยังจะเกิดขึ้นในเทวโลกได้เสวยมหาสมบัติ” พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นที่พึ่งที่ระลึกของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย การบังเกิดขึ้นของพระองค์ เป็นสิ่งที่มวลสรรพสัตว์ทั้งหลายต่างรอคอยด้วยใจที่จดจ่อ เพื่อจะได้มีโอกาสฟังพระสัทธรรม อันเป็นเครื่องนำออกจากทุกข์ เข้าถึงบรมสุขอันเป็นอมตะ เป็นความสุขที่อิสระไม่มีทุกข์เจือปนแม้แต่น้อย เมื่อคราวที่แล้ว หลวงพ่อได้นำเรื่องราวในมหาโควินทสูตรมากล่าวเอาไว้ในเบื้องต้น เป็นเรื่องราวการสร้างบารมีของปัญจสิขเทพบุตร ที่ไปเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ และได้กล่าวถึงมหาเทวสันนิบาต ซึ่งการประชุมใหญ่ในแต่ละครั้งของเหล่าเทวดาในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ปัญจสิขเทพบุตรได้ทูลเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นบนสวรรค์ชั้นนั้นถวายพระศาสดาว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เทวดาทั้งหลายในชั้นดาวดึงส์  เมื่อประชุมกันในวันธรรมสวนะก็จะทบทวนถึงบุญที่ตนเองได้สร้าง” ใครที่ได้สร้างบุญในพระพุทธศาสนา เป็นสาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กายทิพย์ของเทพเหล่านั้นจะสว่างไสวมากกว่าเทพองค์อื่นๆ สังเกตได้จากรัศมีที่เกิดขึ้นด้วยอำนาจบุญ ท้าวสักกะจอมเทพที่ดูแลปกครองเทพทั้งหลายในดาวดึงส์จะเสด็จไปอนุโมทนาด้วยคาถาว่า “โอหนอ ผู้เจริญทั้งหลาย พวกเราเหล่าเทพชั้นดาวดึงส์ย่อมบันเทิงไหว้พระตถาคต เคารพพระธรรม พวกเทพใหม่ที่มีรัศมี มียศ ได้ประพฤติพรหมจรรย์ในศาสนาของพระสุคต  …

มหาโควินทสูตร ตอนที่ ๒ (พุทธคุณ ๘ ประการ) Read More »

มหาโควินทสูตร ตอนที่ ๓ (สนังกุมารพรหม)

มหาโควินทสูตรตอนที่ ๓ (สนังกุมารพรหม) การประพฤติปฏิบัติธรรม ทำใจหยุดใจนิ่ง จะนำความบริสุทธิ์ให้กับชีวิต และจะเป็นทางแห่งความสำเร็จ ใจที่หยุดนิ่งดีแล้วจะถูกจุดแห่งความสำเร็จ และความสุขที่ไม่มีประมาณ เป็นสุขที่ละเอียดประณีต ซึ่งเกิดจากการเข้าถึงดวงปฐมมรรคอันเป็นเบื้องต้น จนถึงสุขที่เกิดจากการเข้าถึงกายในกายที่ละเอียดขึ้นไป กระทั่งเข้าไปถึงพระธรรมกายซึ่งเป็นพุทธรัตนะในตัว  เมื่อเราตระหนักถึงพระรัตนตรัยเช่นนี้แล้ว ต้องหมั่นหยุดใจให้ได้ทุกๆวันอย่างสม่ำเสมอ มีวาระพระบาลีใน ขุททกนิกายธรรมบทความ ว่า “อนฺธภูโต อยํ โลโก      ตนุเกตฺถ วิปสฺสติ สกุโณ ชาลมุตฺโตว       อปฺโป สคฺคาย คจฺฉติ ชาวโลกนี้ เป็นผู้มืดบอด มีน้อยคนที่เห็นแจ้งในโลกนี้ น้อยคนเหลือเกินที่จะไปสู่สุคติโลกสวรรค์ เหมือนนกน้อยตัวที่รอดพ้นจากตาข่ายมีน้อยเหลือเกินฉะนั้น” สังสารวัฏมีภัยมากมาย ซึ่งเกิดจากบาปอกุศลที่ส่งผลให้ไปสู่อบายภูมิ ทำให้มีแต่ความทุกข์ทรมาน มีชาวโลกไม่มากนักที่จะใช้โอกาสในการเกิดมาเป็นมนุษย์ให้คุ้มค่า เป็นสัมมาทิฏฐิบุคคลที่ดำรงตนอยู่ในความไม่ประมาท ส่วนใหญ่มักใช้ชีวิตอยู่ไปวันหนึ่งๆ โดยไม่รู้เป้าหมายของการเกิดมา น้อยคนนักที่สามารถประคับประคองตนให้รอดพ้นอบายภูมิได้ ผู้ที่สามารถนำชีวิตไปสู่จุดหมายอันสูงสุดได้ จะต้องรู้จักพระธรรมคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น คราวที่แล้ว หลวงพ่อได้นำเรื่องราวที่เหล่าเทวดาทั้งหลายมาประชุมกัน ฟังท้าวสักกะจอมเทพตรัสถึงพระคุณ ๘ ประการของพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นเรื่องราวที่ปัญจสิขเทพบุตรได้ประมวลเหตุการณ์ต่างๆ มาเล่าถวายพระผู้มีพระภาคเจ้า ครั้งนี้หลวงพ่อจะได้มาเล่าต่อ ขณะที่เหล่าเทวดาฟังพระคุณของพระศาสดาและพากันปีติโสมนัส ทันใดนั้น ทางทิศเหนือปรากฏแสงสว่างเจิดจ้า ครอบงำรัศมีของเหล่าทวยเทพ ท้าวสักกะจอมเทพจึงตรัสว่า เพื่อนทั้งหลาย …

มหาโควินทสูตร ตอนที่ ๓ (สนังกุมารพรหม) Read More »

มหาโควินทสูตร ตอนที่ ๔ (โชติบาลกุมาร)

มหาโควินทสูตรตอนที่ ๔ (โชติบาลกุมาร) อายตนนิพพาน เป็นที่อยู่ของพระนิพพาน ของพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระอรหันตสาวกทั้งหลาย เป็นที่ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยสุขอันเป็นอมตะ ไม่มีเกิด แก่ ตาย ไม่มีการไป ไม่มีการมา ไม่มีการเคลื่อนย้ายอีกต่อไป เป็นจุดสุดท้ายของทุกๆ ชีวิต สรรพสัตว์ทั้งหลายที่เกิดมาในแต่ละภพแต่ละชาติต่างมีเป้าหมายเช่นนี้เหมือนกัน การเข้าถึงพระนิพพานได้ ต้องหมั่นปฏิบัติธรรมให้หยุดนิ่งไปตามลำดับ อย่างพระอริยเจ้าทั้งหลายในกาลก่อน มีวาระพระบาลีใน ขุททกนิกาย ธรรมบทความ ว่า “สุกรํ สาธุนา สาธุ        สาธุ ปาเปน ทุกฺกรํ ฯ ปาปํ ปาเปน สุกรํ         ปาปมริเยหิ ทุกฺกรํ ความดี คนดีทำง่าย ความดี คนชั่วทำยาก ความชั่ว คนชั่วทำง่าย ความชั่ว อริยบุคคลทำได้ยาก” คนดี หมายถึงผู้ที่มีใจสะอาด บริสุทธิ์ ปราศจากอกุศล มีศีล ๕ เป็นปกติ ผู้ที่มีใจเช่นนี้  เมื่อกระทำความดีก็จะทำได้ง่าย คนดีจะอยู่รวมกันเป็นหมู่ ไม่ว่าจะอยู่สถานที่ใด …

มหาโควินทสูตร ตอนที่ ๔ (โชติบาลกุมาร) Read More »

มหาโควินทสูตร ตอนที่ ๕ (พบมหาพรหม)

มหาโควินทสูตรตอนที่ ๕ (พบมหาพรหม) มนุษย์ทุกคนล้วนแสวงหาความสุขกันทั้งสิ้น แต่ความสนุกสนานเพลิดเพลินภายนอกนั้น ไม่ใช่เป็นการแก้ทุกข์ที่ต้นเหตุ ความสุขที่แท้จริงต้องเป็นความสุขที่เที่ยงแท้ถาวร เป็นสุขล้วนๆ ไม่มีทุกข์เจือปน สุขอย่างนี้เกิดจากการเข้าถึงพระรัตนตรัยภายในเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งต้องเริ่มจากการนำใจมาหยุดนิ่งไว้ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ทำอย่างต่อเนื่องและถูกวิธี จึงจะพบกับความสุขที่แท้จริงได้ มีวาระพระบาลีใน ขุททกนิกายธรรมบทความ ว่า “ยสฺส ปาปํ กตํ กมฺมํ        กุสเลน ปีถียติ โส อิมํ โลกํ ปภาเสติ       อพฺภา มุตฺโตว จนฺทิมา บุคคลใด ละบาปกรรมที่ตนทำไว้แล้วได้ด้วยกุศล บุคคลนั้นย่อมยังโลกนี้ให้สว่าง ดุจดวงจันทร์พ้นแล้วจากหมอก ฉะนั้น” การใช้ชีวิตในโลกนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก จะต้องมีสติประคับประคองตนให้ดี ตัวเราเท่านั้นจะเป็นที่พึ่งได้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นความขยันหมั่นเพียรในการพัฒนาให้ชีวิตดำรงอย่างมีความสุข คำว่าตนเอง มีทั้งหยาบและละเอียด หยาบๆก็คือหมั่นพัฒนาตนเอง ให้เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยความรู้ความสามารถ ส่วนความหมายที่ละเอียดลึกซึ้ง คือต้องหมั่นปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกายภายในตัวให้ได้ พระธรรมกายเป็นตัวตนที่แท้จริง สามารถเป็นที่พึ่งให้กับเราทั้งในโลกนี้ และโลกหน้า  ดังนั้น เราต้องลงมือปฏิบัติธรรมด้วยตัวของเราเอง ผู้อื่นไม่สามารถทำให้เราได้ เช่นเดียวกับชีวิตของมหาโควินทพราหมณ์รักในการฝึกตนอย่างมาก เป็นผู้ที่ไม่ยอมหยุดในการฝึกฝนตนเองเลย คราวที่แล้ว ได้นำเรื่องราวที่มหาโควินทพราหมณ์โพธิสัตว์ใช้อัจฉริยปัญญา แบ่งแว่นแคว้นออกเป็น …

มหาโควินทสูตร ตอนที่ ๕ (พบมหาพรหม) Read More »

มหาโควินทสูตร ตอนที่ ๖ (ขอลาบวช)

มหาโควินทสูตรตอนที่ ๖ (ขอลาบวช) ชีวิตหลังความตาย เป็นชีวิตที่ยาวนานกว่าตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ การศึกษาในทางพระพุทธศาสนามีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง ที่เราจะต้องเรียนรู้เพื่อความปลอดภัยในชีวิต ซึ่งหลักที่สำคัญอยู่ที่การฝึกฝนอบรมจิตใจของเราให้สะอาดบริสุทธิ์ เพื่อให้เข้าถึงแหล่งแห่งความสุข และความรู้ที่สมบูรณ์ เป็นความรู้ที่ทำให้พ้นทุกข์ ทั้งในปัจจุบันและทุกข์หลังความตาย ตลอดไปจนกระทั่งถึงที่สุดแห่งกองทุกข์ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ใน อุตตรสูตร ความว่า “อุปนียติ ชีวิตมปฺปมายุ ชรูปนีตสฺส น สนฺติ ตาณา เอตํ ภยํ มรเณ เปกฺขมาโน โลกามิสํ ปชเห สนฺติเปกฺโข ชีวิตมีอายุน้อย ถูกชราต้อนเข้าไป ชีวิตที่ถูกชราต้อนเข้าไปแล้ว ย่อมต้านทานไม่ได้ ผู้เห็นภัยในความตายนี้มุ่งต่อสันติ พึงละโลกามิสเสีย” ผู้ใดดำรงชีวิตอยู่บนความประมาทพระศาสดาตรัสว่า การเกิดมาของผู้นั้น มีชีวิตอยู่ก็เหมือนกับคนที่ตายไปแล้ว ไม่มีคุณค่าประโยชน์ใดๆ ส่วนผู้ที่เห็นภัยในวัฏสงสาร ย่อมใช้เวลาที่มีอยู่ให้มีคุณค่าที่สุด เช่นเดียวกับชีวิตของพระบรมโพธิสัตว์ในอดีตที่หลวงพ่อได้เล่าค้างไว้ คือ เรื่องราวการสร้างบารมีของมหาโควินทพราหมณ์ ภายหลังที่ได้ถามปัญหาท่านสนังกุมารพรหม เกี่ยวกับการที่จะเข้าถึงพรหมโลกได้นั้น ต้องทำอย่างไร สนังกุมารพรหมตอบว่า ต้องละความยึดมั่นถือมั่นในตัวตนของเรา ให้รู้ว่ากายมนุษย์นั้นไม่ใช่อัตตาที่แท้จริง ละทิ้งความเป็นอัตตา ตั้งใจปฏิบัติธรรมเจริญฌานสมาบัติก็จะเข้าถึงพรหมโลกได้ ท่านมหาโควินทพราหมณ์ถามปัญหาต่อไปว่า “ข้าพเจ้ารู้จากท่านว่า ละความยึดถืออัตตาเป็นของเราได้แล้ว คนบางคนในโลกนี้ …

มหาโควินทสูตร ตอนที่ ๖ (ขอลาบวช) Read More »

มโหสถบัณฑิต ตอนที่ ๑๘ ( ผดุงคุณธรรม )

มโหสถบัณฑิต ตอนที่ ๑๘ ( ผดุงคุณธรรม )                  สรณะสูงสุดอันเกษมของพวกเราทั้งหลาย คือ พระรัตนตรัย ได้แก่พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ และสังฆรัตนะ ที่ประชุมรวมอยู่ภายในตัวของเราทุกคน ไม่ได้อยู่นอกตัว เมื่อเราแสวงหา สรณะหรือที่พึ่งชนิดนี้ ต้องรู้จักวิธีที่จะเข้าให้ถึง โดยการทำใจให้หยุดให้นิ่ง ให้ใสสะอาดบริสุทธิ์ หยุดลงไปตรงที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ อย่างเบาสบาย ฝึกทำบ่อยๆ ทำให้สม่ำเสมอ ยิ่งใจของเราสะอาดบริสุทธิ์ จะเข้าไปพบกับพระรัตนตรัย ซึ่งเป็นผู้รู้ผู้บริสุทธิ์ภายในได้เร็วยิ่งขึ้น เมื่อเราประสบทุกข์ เราก็พึ่งท่านได้ จะทำให้มีแต่ความสุข สดชื่นเบิกบาน    นี้คือที่พึ่งที่ระลึกอย่างแท้จริงของเรา และมวลมนุษยชาติตลอดจนสรรพสัตว์ทั้งหลาย พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัสไว้ใน ขุททกนิกาย ชาดกว่า         ” บัณฑิตทั้งหลายไม่ประพฤติความชั่ว เพราะเหตุแห่งความสุขของตน ถึงถูกความทุกข์กระทบแล้ว พลาดจากสมบัติ ก็สงบ ย่อมไม่ละทิ้งธรรมเพราะความรักและความชัง ”            ผู้คนส่วนใหญ่เมื่อถูกความทุกข์เข้าครอบงำ ไม่ว่าจะเป็นจากเสื่อมลาภสักการะที่เคยได้ …

มโหสถบัณฑิต ตอนที่ ๑๘ ( ผดุงคุณธรรม ) Read More »

ศาสดาเอกของโลก (๔) – พุทธประวัติ

ศาสดาเอกของโลก (๔) พุทธประวัติ ตลอดระยะเวลาอันยาวนาน….มนุษย์… ชาติล้วนปรารถนาให้… โลกมีสันติสุขที่แท้จริง…แต่… ไม่มีใครรู้ว่าสันติสุขที่แท้จริงนั้นอยู่ที่ไหน จะเข้าถึงได้อย่างไร จนกระทั่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงค้นพบว่า การที่จะทำให้เกิดสันติสุขที่แท้จริงนั้น มนุษย์ทุกคนจะต้องปฏิบัติให้เข้าถึงสันติสุขภายใน คือ เข้าถึงพระธรรมกาย อันเป็นต้นแหล่งกำเนิดแห่งความสุขที่แท้จริง และเป็นสิ่งที่มีอยู่ในตัวของมนุษย์ทุกคน ไม่ว่าจะมีความแตกต่างกันโดยเชื้อชาติ ศาสนา หรือเผ่าพันธุ์ หากได้ลงมือปฏิบัติอย่างถูกวิธี ย่อมสามารถเข้าถึงพระธรรมกายกันทุกคน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ในอังคุตตรนิกาย ทุกนิบาตว่า “สุปฺปพุทฺธํ ปพุชฺฌนฺติ  สทา โคตมสาวกาเยสํ ทิวา จ รตฺโต จ  นิจฺจํ พุทฺธคตา สติสุปฺปพุทฺธํ ปพุชฺฌนฺติ  สทา โคตมสาวกาเยสํ ทิวา จ รตฺโต จ  นิจฺจํ ธมฺมคตา สติสุปฺปพุทฺธํ ปพุชฺฌนฺติ  สทา โคตมสาวกาเยสํ ทิวา จ รตฺโต จ  นิจฺจํ สงฺฆคตา สติ        สติของชนเหล่าใดไปแล้วในพระพุทธเจ้าเป็นนิตย์ ทั้งกลางวันและกลางคืน …

ศาสดาเอกของโลก (๔) – พุทธประวัติ Read More »

มโหสถบัณฑิต ตอนที่ ๑๙ ( แก้ปัญหาเทพ )

มโหสถบัณฑิต ตอนที่ ๑๙ ( แก้ปัญหาเทพ )                 งานสำคัญอันยิ่งใหญ่ของมวลมนุษยชาติ ที่ติดตัวมา  ตั้งแต่เกิด คือ งานสร้างบารมี ขจัดกิเลสอาสวะให้หมดสิ้นจากใจ ส่วนการประกอบธุรกิจการงาน การทำมาหากินเป็นเรื่องรอง เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ เพราะเราต่างดำรงอยู่ได้ด้วยอาหาร ต้องอาศัยปัจจัยสี่มาคอยหล่อเลี้ยงตัวเอง และครอบครัว ให้ดำรงชีวิตโดยไม่ลำบาก จะได้เอื้ออำนวยต่อการสร้างบารมีอย่างสะดวกสบาย งานขจัดกิเลสอาสวะซึ่งเป็นงานทางใจ และเป็นงานหลักของชีวิต เราจะทอดธุระไม่ได้ ต้องเอาใจใส่ด้วยการหมั่นฝึกฝนอบรมใจให้หยุดให้นิ่งให้สะอาดบริสุทธิ์ ถ้าทำกันอย่างสม่ำเสมอ ทำอย่างถูกวิธี จะได้เข้าถึงที่พึ่งที่ระลึกภายใน    คือ พระรัตนตรัย อันเป็นที่พึ่งที่แท้จริงของเรา ทำให้การเดินทาง ไกลในสังสารวัฏนั้นปลอดภัย   มีวาระพระบาลีใน มหาสุตโสมชาดกว่า “นาภาสมานํ ชานนฺติ    มิสฺสํ พาเลหิ ปณฺฑิตํ ภาสมานญฺจ ชานนฺติ    เทเสนฺตํ อมตํ ปทํ         นักปราชญ์อยู่ปะปนกับพวกคนพาล  เมื่อยังไม่พูดจา ก็ไม่มีใครรู้ว่าเป็นบัณฑิต จะรู้ว่าเป็นบัณฑิตก็ต่อเมื่อพูดแสดงทางอมตะ” …

มโหสถบัณฑิต ตอนที่ ๑๙ ( แก้ปัญหาเทพ ) Read More »

มโหสถบัณฑิต ตอนที่ ๒๐ ( อย่าบอกความลับแก่ใคร )

มโหสถบัณฑิต ตอนที่ ๒๐ ( อย่าบอกความลับแก่ใคร )                 การที่ชีวิตจะปลอดภัยจากภัยทั้งหลายในสังสารวัฏนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องเป็นผู้ที่ไม่ประมาทในการสั่งสมบุญบารมี ยึดพระรัตนตรัยเป็นสรณะ หมั่นตรึกระลึกนึกถึงพระรัตนตรัยตลอดเวลา ทำใจให้เข้าถึงและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับพระรัตนตรัยให้ได้ และควรจะนำความรู้ที่เกิดจากการเข้าถึงพระรัตนตรัย ไปทำหน้าที่ผู้นำบุญยอดกัลยาณมิตร เป็นแสงสว่าง แก่โลก นี่คือหัวใจของการสร้างบารมี ได้บรรลุวัตถุประสงค์ของการเกิดมาในภพชาตินี้ หากพวกเราทุกคน เป็นผู้ที่เอาจริงเอาจังในการปฏิบัติธรรม ชีวิตย่อมจะคุ้มค่าสมกับที่ได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนา มีวาระพระบาลีใน ปัณฑรกชาดก ความว่า          ” นรชนใดบอกความลับแก่คนอื่น นรชนนั้นจัดเป็นคนโง่เขลา นับวันจะต้องเสื่อม โดยไม่ต้องสงสัย เพราะโทสาคติ โมหาคติ ภยาคติ และฉันทาคติ   ผู้ใดปากพล่อย นับเข้าในพวกอสัตบุรุษ ชอบกล่าวถ้อยคำในที่ประชุมชน นักปราชญ์เรียกผู้นั้นว่า ผู้มีปากชั่วร้ายคล้ายอสรพิษ ควรเว้นคนเช่นนั้นเสียให้ห่างไกล ”         เรื่องมโหสถบัณฑิต ในตอนนี้เป็นเรื่องของความลับว่า  ควรเปิดเผยแก่ใคร ไม่ควรเปิดเผยแก่ใครบ้าง เมื่อพูดถึงความลับ หมายถึง เป็นสิ่งที่ไม่ควรแพร่งพราย เพราะหากมีคนอื่นรู้ และแพร่ขยายออกไป …

มโหสถบัณฑิต ตอนที่ ๒๐ ( อย่าบอกความลับแก่ใคร ) Read More »

มโหสถบัณฑิต ตอนที่ ๒๑ ( ผู้เปี่ยมด้วยความเมตตา )

มโหสถบัณฑิต ตอนที่ ๒๑ ( ผู้เปี่ยมด้วยความเมตตา )         กรณียกิจที่สำคัญของการเกิดมาเป็นมนุษย์ คือ การฝึกฝนใจให้สะอาดบริสุทธิ์ หลุดพ้นจากกิเลสอาสวะ พ้นจากการเป็นบ่าวเป็นทาสของพญามาร หากไม่หมั่นฝึกใจให้หยุดนิ่ง เราจะถูกกิเลสครอบงำอยู่รํ่าไป มารจะได้ช่องบังคับให้เราทำความชั่ว โดยทำให้เกิดความโลภ ความโกรธ ความหลง และละเลยการแสวงหาแก่นสารที่แท้จริงของชีวิต ชีวิตจึงต้อง เวียนวนอยู่ในห้วงทะเลทุกข์ โอกาสที่จะได้สัมผัสธรรมรส    อันยอดเยี่ยมซึ่งเป็นวิมุตติรส จึงลดน้อยถอยลงไปทุกที เพราะฉะนั้น การให้โอกาสอันสำคัญกับตนในการทำสมาธิเจริญภาวนา เพื่อกลั่นกาย วาจา ใจให้บริสุทธิ์ จึงเป็นทางลัดที่สุดที่จะทำให้เราหลุดพ้นจากกิเลสอาสวะ จากการบังคับบัญชาของพญามาร มีวาระพระบาลีใน ขุททกนิกาย ชาดก ความว่า         “ภัยเกิดจากตนเอง ย่อมตามถึงบุคคลผู้ไร้ปัญญา  พูดพล่อยๆ ไม่ปิดบังความรู้ ขาดความระมัดระวัง ขาดความพินิจพิจารณา นรชนใด ยินดีบอกมนต์ลึกลับ ที่ตนควรจะรักษาแก่คนโง่ เพราะความหลง ภัยย่อมตามถึงนรชนนั้น มิตรเทียมไม่ควรจะให้รู้เหตุสำคัญอันลึกลับ ถึงมิตรแท้แต่เป็นคนโง่หรือมีปัญญาแต่ประพฤติสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์    ก็ไม่ควรจะให้รู้ความลับเหมือนกัน”         กลยุทธ์ในการเอาชนะข้าศึกฝ่ายตรงข้ามนิยมใช้กันในปัจจุบันประการหนึ่ง คือ การโจรกรรมข้อมูล …

มโหสถบัณฑิต ตอนที่ ๒๑ ( ผู้เปี่ยมด้วยความเมตตา ) Read More »

มโหสถบัณฑิต ตอนที่ ๒๒ ( ผู้สําเร็จราชการแผ่นดิน )

มโหสถบัณฑิต ตอนที่ ๒๒ ( ผู้สําเร็จราชการแผ่นดิน )                 ชีวิตของมนุษย์นั้นสั้นนัก แต่ชีวิตหลังความตายเป็นชีวิตที่ยาวนานเกินกว่าจะคาดเดาได้ หากทำบุญไว้มากย่อมจะได้เสวยสุข ในสุคติภูมิเป็นเวลายาวนาน ถ้าเผลอพลั้งพลาดไปทำบาป ย่อมจะต้องไปเสวยทุกข์อยู่ในทุคติภูมิอีกยาวนานเช่นกัน  การประคับประคองตัวของเราให้ดำเนินชีวิตอยู่บนหนทางแห่งความดี เส้นทางแห่งบุญจึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ในการปกป้องคุ้มครองตัวเราให้ปลอดภัย ทั้งภัยในชีวิต ในอบายภูมิ และในสังสารวัฏ  ดังนั้น ขอให้ทุกคนเข้มแข็ง อย่าท้อแท้ในการสั่งสมบุญกุศลเพื่อตัวเอง เพื่อภพชาติหน้าอันสมบูรณ์กว่า และเพื่อเป้าหมายอันสูงสุด คือ การได้บรรลุมรรคผลนิพพาน     มีวาระพระบาลีใน โคทัตตเถรคาถา ความว่า             “นักปราชญ์ทั้งหลายเป็นผู้มีความสุข และได้ชัยชนะในที่ทุกแห่งไป การไม่ได้ลาภโดยชอบธรรม กับการได้ลาภโดยไม่ชอบธรรม ทั้งสองอย่างนี้ การไม่ได้ลาภอันชอบธรรมประเสริฐกว่าการได้ลาภ โดยไม่ชอบธรรม ระหว่างคนที่ไม่มีความรู้แต่มียศ กับคนมีความรู้แต่ไม่มียศ คนมีความรู้ไม่มียศ ประเสริฐกว่าคนที่ไม่มีความรู้แต่มียศ”             ลาภสักการะเป็นสิ่งที่ปุถุชนคนทั่วไปมุ่งมาดปรารถนา ต่างแสวงหากันตลอดชีวิต สำหรับวิสัยของบัณฑิตนักปราชญ์นั้น ท่านจะแสวงหาลาภสักการะ ด้วยวิธีการที่ซื่อสัตย์สุจริตไม่ฉ้อโกงใครมา หากได้มาจากความทุกข์ของคนอื่น ท่านจะไม่ทำเด็ดขาด …

มโหสถบัณฑิต ตอนที่ ๒๒ ( ผู้สําเร็จราชการแผ่นดิน ) Read More »

แนวคิดการบำเพ็ญบารมี (๑) – สุเมธดาบส

แนวคิดการบำเพ็ญบารมี (๑)      พระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งที่แท้จริงของชาวโลก เป็นความปรารถนาอันสูงสุดที่มีได้ทัดเทียมกัน  เมื่อใดที่มวลมนุษยชาติได้เข้าถึงพระรัตนตรัย เมื่อนั้นจะพบกับความเหมือนกันที่สมบูรณ์ที่สุด ทั้งรูปร่างหน้าตา คุณสมบัติ ความบริสุทธิ์ และอานุภาพ จะรู้จักกายมาตรฐานที่เป็นสากลจริงๆ เป็นกายที่สวยงาม อันประกอบด้วยลักษณะมหาบุรุษครบถ้วนทุกประการ กายจะเหมือนเป็นพิมพ์เดียวกัน มีความเสมอภาคกันอย่างแท้จริง เนื่องจากเพราะเป็นวงศ์แห่งพระอริยเจ้า จึงไม่มีการแบ่งแยกเชื้อชาติ ศาสนา และเผ่าพันธุ์ มีดวงใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ความคิดคำพูด และการกระทำ จะบริสุทธิ์บริบูรณ์เหมือนกัน มีความรักความปรารถนาดีต่อกันอย่างแท้จริง ไม่มีความรังเกียจเดียดฉันท์ หรือเบียดเบียนแก่งแย่งชิงดีกัน เราจะเข้าใจลึกซึ้งได้เมื่อลงมือปฏิบัติธรรม จนกระทั่งได้เข้าถึงพระรัตนตรัยในตัวของเรา      * เหล่าเทวดาในหมื่นโลกธาตุได้กล่าวให้สาธุการแด่สุเมธดาบสโพธิสัตว์ว่า      “พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเหล่าใดเหล่าหนึ่ง พึงบำเพ็ญบารมี ๑๐ ทัศ ให้เต็มเปี่ยมฉันใด ข้าแต่ท่านมหาวีระ ขอท่านจงบำเพ็ญบารมี ๑๐ ทัศ ให้เต็มเปี่ยมฉันนั้นเถิด พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเหล่าใดเหล่าหนึ่ง ตรัสรู้ที่โพธิมณฑล ฉันใด ข้าแต่ท่านมหาวีระ ขอท่านจงตรัสรู้ที่โพธิมณฑลของพระชินเจ้า ฉันนั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเหล่าใดเหล่าหนึ่ง ทรงประกาศพระธรรมจักร ฉันใด ขอท่านจงประกาศพระธรรมจักร ฉันนั้น พระจันทร์ในวันเพ็ญผ่องแผ้ว …

แนวคิดการบำเพ็ญบารมี (๑) – สุเมธดาบส Read More »