ธรรมะเพื่อประชาชน

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑๓ ( บริจาคพระนางมัทรี )

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑๓ ( บริจาคพระนางมัทรี ) ชีวิตของเรามีการเปลี่ยนแปลงอยูˆเวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑๓ ( บริจาคพระนางมัทรี ) ชีวิตของเรามีการเปลี่ยนแปลงอยูˆตลอดเวลา เปลี่ยนแปลงไปสู่ความเสื่อม และนำไปสู่ความตาย เราจึงไม่ควร ประมาทในการดำเนินชีวิต ควรมองให้เห็นโทษของความเสื่อม จะได้คลายความยึดมั่นถือมั่นทั้งปวงในโลก เราเกิดมาเพียงแค่อาศัยสิ่งต่างๆ ที่มีอยู่ในโลกนี้ ไว้ใช้สร้างบารมี ใช้เป็นอุปกรณ์ในการทำทาน รักษาศีลให้บริสุทธิ์ และทำสมาธิ(Meditation)เจริญภาวนาได้อย่างสะดวก อย่าไปคิดเป็นจริงเป็นจังอะไร เมื่อปล่อยวางจากสิ่งที่ไม่เป็นจริงแล้ว ใจของเราจะได้มุ่งสู่สิ่งที่เป็นจริงของชีวิต ที่เรียกว่า อริยสัจ มีใจมุ่งตรงต่อหนทาง พระนิพพาน เราจะได้เข้าถึงความสุขที่แท้จริงกันทุกคน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน เวสสันดรชาดก ว่า เราตถาคตเมื่อสละชาลีโอรส กัณหาชินาธิดา และ มัทรีเทวี ผู้เคารพต่อภัสดา มิได้คิดเสียดายเลย เพราะเหตุแห่งพระโพธิญาณเท่านั้น ลูกทั้งสองเป็นที่เกลียดชังของเราก็หามิได้ มัทรีเทวีไม่เป็นที่รักของเราก็หามิได้พระสัพพัญญุตญาณเป็นที่รักของเรายิ่งกว่า เพราะฉะนั้นเราจึงได้ให้บุตรธิดา และเทวีผู้เป็นที่รักเสีย เมื่อพระเวสสันดรโพธิสัตว์ทรงบริจาคปิยบุตรมหา ทานแล้ว หมู่เทวดาที่อยู่บริเวณป่าหิมพานต์ ต่างปรึกษากันว่า ถ้าพระนางมัทรีเสด็จมาสู่อาศรมสถานแต่วัน แล้วไม่เห็นพระโอรสธิดาในอาศรม และหากรู้ว่าพระเวสสันดรได้บริจาคแก่พราหมณ์ ชูชกไปแล้ว …

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑๓ ( บริจาคพระนางมัทรี ) Read More »

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑๔ ( พระเวสสันดรขอพร ๘ ประการ )

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑๔ ( พระเวสสันดรขอพร ๘ ประการ ) ในเส้นทางแห่งการสร้างบารมี นักสร้างบารมีจะต้องมีจิตประกอบด้วยเมตตา ปรารถนาดีต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย เพราะเมตตาธรรมคํ้าจุนโลก ก่อให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุข เป็นจุดเชื่อมโยงใจให้มนุษย์ และสรรพสัตว์อยู่ร่วมกันได้ โดย ไม่ต้องเบียดเบียนซึ่งกันและกัน ความเมตตานี้เป็นหนึ่งในบารมี ๑๐ ทัศ ที่พระบรมโพธิสัตว์จะต้องบำเพ็ญให้บริบูรณ์ จึงจะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ กระแสแห่งความเมตตานี้จะเกิดขึ้นได้ เมื่อใจเราหยุดนิ่ง มีความสุข ความสงบ และความบริสุทธิ์ภายในอย่างเต็มเปี่ยมบริบูรณ์ โดยต้องเริ่มจากการเจริญ สมาธิ(Meditation)ภาวนาอย่างสม่ำเสมอ พระเวสสันดรได้อธิษฐานขอพรกับท้าวสักกเทวราชว่า “ข้าแต่ท้าวสักกะ เมื่อหม่อมฉันบริจาคทาน ทรัพย์สมบัติพึงไม่หมดสิ้นไป บริจาคแล้วไม่พึงเดือดร้อนภายหลัง เมื่อกำลังบริจาค พึงทำจิตให้ผ่องใส เมื่อหม่อมฉันพ้นจากอัตภาพนี้ พึงไปสู่สวรรค์ ถึงชั้นดุสิตอันวิเศษ จุติจากชั้นดุสิตมาเป็นมนุษย์ พึงเป็นผู้ไม่เกิดอีก” ผู้มีบุญญาธิการที่ได้สั่งสมบุญไว้มากๆ ถึงจุดหนึ่งปัญหาและอุปสรรคย่อมไม่มีความหมาย มารก็กีดขวางไม่ได้ เมื่อถึงคราวอธิษฐานเพื่อปรารถนาสิ่งใด แรงอธิษฐานนั้นก็จะกลายเป็นจริงทุกประการ เหมือนอย่างพระเวสสันดรโพธิสัตว์ ผู้รักในการบริจาคทานยิ่งกว่าสิ่งใดๆ การให้นั้นฝังแน่นอยู่ในจิตใจ เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของพระองค์ จึงยากที่ใครจะมาบอกให้เลิกทำทาน ขนาดถูกขับไล่ พระองค์ก็ไม่เคยน้อยเนื้อตํ่าใจ บริจาคได้กระทั่งพระโอรสพระธิดา และมเหสีผู้เป็นที่รักยิ่ง …

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑๔ ( พระเวสสันดรขอพร ๘ ประการ ) Read More »

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑๕ ( กัณหาชาลีได้รับอิสรภาพ )

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑๕ ( กัณหาชาลีได้รับอิสรภาพ ) สรรพสัตว์และสรรพสิ่งทั้งหลายในโลกนี้ ล้วนมีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา เหมือนดอกไม้ เดิมเราเคยเห็นมันเป็นต้นกล้าเล็กๆ ไม่นานก็เจริญเติบโตขึ้น แตกใบแผ่กิ่งก้านสาขา ผลิดอกออกผล ให้ความสดชื่นแก่ทุกชีวิต ครั้นไม่นานดอกไม้นั้น ก็เหี่ยวแห้งร่วงโรยไปตามกาลเวลา สังขารร่างกายของเราก็เช่นเดียวกัน ความแก่ ความเจ็บ ความตายได้คืบคลานเข้ามาในชีวิตเรา ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่ทุกอนุวินาที โดยที่ตัวเราเอง สังเกตไม่ออก เมื่อเวลาผ่านไป ๑๐ ปี ๒๐ ปี ๖๐ ปี จึงรู้ว่าเราแก่ลงทุกขณะ เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ต่อเนื่องกันไปสู่ความเสื่อมสลาย ดังนั้น เราจึงไม่ควรประมาท ควรให้ชีวิตผ่านไปด้วยการสร้างบุญบารมี ฝึกฝนอบรมใจให้หยุดนิ่งให้เข้าถึงพระรัตนตรัยในตัวให้ได้ เพื่อเราจะได้เข้าถึงความสุขที่แท้จริง มีถ้อยคำที่ชูชกได้สรรเสริญพระเวสสันดรไว้ว่า พระราชาเวสสันดรพระองค์ใดเป็นที่พึ่งอาศัยของยาจกทั้งหลาย ดุจธรณีเป็นที่พึ่งอาศัยของสัตว์ทั้งหลาย หรือเป็นที่ไปมาของยาจกทั้งหลาย ดุจสาครเป็นที่ไหลหลั่งไปมาแห่งแม่น้ำทั้งหลาย พระราชาเวสสันดรพระองค์นั้น เมื่อเสด็จประทับแรม ณ ราวไพร ได้พระราชทานพระโอรสพระธิดาแก่ข้าพระบาท เรื่องพระเวสสันดรกำลังจะดำเนินมาถึงตอนสุดท้ายแล้ว เพราะพระองค์ได้บริจาคทรัพย์สมบัติทุกอย่างครบทั้ง ๕ ประการ ที่เรียกว่า ปัญจมหาบริจาค เพียงแต่ผลแห่งการบริจาค ยังไม่เกิดเป็นอานิสงส์ทันตาเห็นในทันทีทันใด …

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑๕ ( กัณหาชาลีได้รับอิสรภาพ ) Read More »

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑๖ ( เชิญพระเวสสันดรกลับพระนคร )

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑๖ ( เชิญพระเวสสันดรกลับพระนคร ) เรามีเวลาสร้างบารมีอยู่ในโลกนี้อย่างจำกัด เดี๋ยวก็วันเดี๋ยวก็คืน กาลเวลาได้นำความแก่ ความเจ็บ และความตายมาสู่ตัวเราทุกขณะ ไม่เคยหยุดพักแม้แต่อนุวินาทีเดียว จึงไม่ควรที่จะประมาทในการดำเนินชีวิต บัณฑิตทั้งหลายจะรีบสั่งสมบุญ เพื่อเป็นเหตุให้เข้าถึงความสุขที่แท้จริง ซึ่งความสุขที่เกิดจากใจหยุดนิ่ง ต้องลงมือปฏิบัติด้วยตัวเอง เพราะเป็นของเฉพาะตน หากเราตั้งใจลงมือปฏิบัติในวันนี้ ย่อมจะได้ความสุขในปัจจุบัน หรือแม้วันนี้เรายังเข้าไม่ถึงธรรม ก็จะเป็นอุปนิสัยติดตัวเราไป ให้ได้เข้าถึงพระธรรมกายในวันข้างหน้า ดังนั้น การปฏิบัติธรรมจึงเป็นกรณียกิจสำหรับพวกเราทุกๆ คน สุเมธดาบสโพธิสัตว์ได้อธิษฐานจิต เกี่ยวกับทานบารมีไว้ว่า “ดูก่อนสุเมธดาบสจำเดิมแต่นี้ไป ท่านพึงบำเพ็ญทานบารมีข้อแรกให้เต็ม หม้อน้ำที่ควํ่าแล้ว ย่อมคายน้ำออกไม่เหลือ ไม่นำกลับเข้าไปอีกฉันใด แม้ท่านเมื่อไม่เหลียวแล ทรัพย์ ยศ บุตร ภรรยา หรืออวัยวะน้อยใหญ่ ให้สิ่งที่เขาต้องการอยากได้ ทั้งหมด แก่ผู้ขอที่มาถึง กระทำมิให้มีส่วนเหลืออยู่จัักได้นั่งที่โคนต้นโพธิ์ ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า” หลังจากที่ได้เรียนรู้เรื่องพระเวสสันดรติดต่อกันมาหลายวัน เราคงจะได้ความรู้ และความเข้าใจถึงความปรารถนาอันยิ่งใหญ่ ของพระบรมโพธิสัตว์ของเราว่า ต้องสร้างบารมีอย่างยิ่งยวด เกี่ยวกับทานบารมีอย่างไรบ้าง ส่วนสิ่งที่พระองค์ทรงทุ่มเทลงไปด้วยใจที่มุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวนั้น จะส่งผลอันไพศาลต่อพระองค์ท่านเองอย่างไรบ้าง เราก็ได้มาถึงตอนอวสานของเรื่องพระเวสสันดร ซึ่งตอนที่แล้ว ถึงตอนที่พระชาลีราชกุมารได้อ้อนวอนให้พระเจ้าสัญชัย …

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑๖ ( เชิญพระเวสสันดรกลับพระนคร ) Read More »

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑ ( ปฐมเหตุ )

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑ ( ปฐมเหตุ ) สรรพสิ่งทั้งหลายทั้งปวงที่มีอยู่ในโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตหรือไม่มีชีวิตก็ตาม ตัวของเรา บุคคลอื่น หรือสรรพสัตว์ทั้งหลายก็ตาม ต่างอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง คือ ความไม่เที่ยง แปรปรวนเปลี่ยนแปลงไปสู่ความเสื่อมทุกอนุวินาทีและ สูญสลายไปในที่สุด เพราะฉะนั้นเราควรแสวงหาสิ่งเที่ยงแท้ แน่นอน ที่จะนำความสุขและความบริสุทธิ์ที่แท้จริงมาให้เรา ด้วยการปฏิบัติธรรมในหนทางสายกลาง ทางเอกสายเดียว ที่เรียกว่า เอกายนมรรค ที่มุ่งตรงสู่พระนิพพาน *มีธรรมภาษิตใน เวสสันตรชาดก ว่า เราได้ให้ทานภายนอก ทานนั้นหายังเราให้ยินดีไม่ เราใคร่จะให้ทานภายใน แม้ถ้าใครๆ พึงขอหทัยของเรา เราจะพึงให้ผ่าอุระประเทศนำหทัยออก แล้วมอบให้แก่บุคคลนั้น ถ้าเขาขอจักษุทั้งสองของเรา เราก็จะควักจักษุมอบให้ ถ้าเขาขอเนื้อในสรีระ เราจะเชือดเนื้อจากสรีระทั้งสิ้นให้ ถ้าแม้ใครๆ พึงขอโลหิตของเรา เราก็จะพึงถือเอาโลหิตให้ หรือว่าใครๆ พึงบอกเราว่า ท่านจงเป็นทาสของข้าพเจ้า เราก็ยินดียอมตัวเป็นทาสแห่งผู้นั้น นี่เป็นถ้อยคำของนักสร้างบารมี ที่กลั่นออกมาจากใจของพระเวสสันดรโพธิสัตว์ผู้สร้างมหาทานบารมีที่ทำให้หัวใจของมนุษย์ และเทวาทั้งหลายต้องหวั่นไหว เพราะท่านได้ทำในสิ่งที่คนทั่วไปทำได้ยากยิ่ง ให้ในสิ่งที่ให้ได้ยากยิ่ง ด้วยท่านรู้ว่าสิ่งที่บังเกิดขึ้นได้ยากยิ่งกว่านั้นยังมีอยู่ คือ การได้บรรลุอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ดังนั้นเพียงแค่ท่านคำนึงถึงทานที่ได้ ที่เป็นไปในภายในเท่านั้น …

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑ ( ปฐมเหตุ ) Read More »

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๒ ( พระนางผุสดีขอพร ๑๐ ประการ )

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๒ ( พระนางผุสดีขอพร ๑๐ ประการ ) การสร้างบารมีเป็นงานที่แท้จริงของมวลมนุษยชาติ ส่วนงานอย่างอื่น เช่น การทำมาหากิน เป็นต้น เป็นเรื่องรองที่จะสนับสนุนการสร้างบารมีของเราให้สะดวกราบรื่น เราเกิดมาก็เพื่อสร้างบารมี ดำเนินตามรอยบาทพระบรมศาสดา มุ่งแสวง หาสาระอันแท้จริงของชีวิต มุ่งหลุดพ้นจากการครอบงำของกิเลสอาสวะของพญามาร เพื่อไปให้ถึงจุดหมายปลายทาง คือ ที่สุดแห่งธรรม การทำใจให้หยุดนิ่งเป็นวิธีเดียวที่จะเอาชนะกิเลสอาสวะได้ และยังเป็นทางมาแห่งมหากุศล หากเรานำใจ มาหยุดนิ่ง ให้ใจใส ใจสะอาดบริสุทธิ์ บุญกุศลย่อมจะบังเกิดขึ้นอย่างจะนับประมาณมิได้ และจะเป็นเหตุให้ได้บรรลุเป้าหมายที่แท้จริงของชีวิตในที่สุด “มีธรรมภาษิตใน เวสสันตรชาดก ว่า “ข้าพระพุทธเจ้าได้ทำการบูชาพระองค์ด้วยจุณแห่งแก่นจันทน์นี้ ขอให้ข้าพระพุทธเจ้าได้เป็นมารดาของพระพุทธเจ้าผู้เช่นพระองค์ในอนาคตกาล”” การอธิษฐานเป็นหนึ่งในบารมีสิบทัศ ที่พระบรมโพธิสัตว์ ทั้งหลายให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก การอธิษฐานเป็นประดุจหางเสือเรือ ที่คอยคัดท้ายนาวาชีวิตของเราให้ก้าวไปสู่จุดหมายปลายทาง ได้อย่างปลอดภัย ฉะนั้นทุกครั้งที่ทำความดี ต้องหมั่นอธิษฐานทุกๆ ครั้ง เป็นการตั้งผังแห่งความสำเร็จ ให้เกิดขึ้นกับชีวิต เมื่อถึงคราวบุญส่งผล เราย่อมจะสำเร็จสมหวังในสิ่งที่ปรารถนาทุกประการ การที่จะให้แรงอธิษฐานนั้นส่งผลสำเร็จ ต้องสั่งสมบุญไว้ให้มากๆ เหมือนภาษิตที่ได้ยกขึ้นมากล่าวข้างต้น เป็นคำอธิษฐานที่พระมารดาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา ได้เคยทำบุญกับพระวิปัสสีพุทธเจ้า แล้วอธิษฐานขอให้ได้เป็นพุทธมารดาในอนาคตกาล *เรื่องมีอยู่ว่า …

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๒ ( พระนางผุสดีขอพร ๑๐ ประการ ) Read More »

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๓ ( กำเนิดพระเวสสันดร )

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๓ ( กำเนิดพระเวสสันดร ) “ธรรมกาย” เป็นกายแห่งการตรัสรู้ธรรม เป็นหลักของพระพุทธศาสนาและของโลก ถ้าเราได้เข้าถึง เราจะเป็นพุทธศาสนิกชนที่สมบูรณ์ทั้งภายนอกและภายใน จะรู้ซึ้งในคุณของ พระรัตนตรัยว่า เป็นสรณะที่พึ่งที่ระลึกอันสูงสุดของมวลมนุษยชาติ จะหายสงสัยในอานุภาพอัน ไม่มีประมาณของพระรัตนตรัย อีกทั้งจะเปลี่ยนจากผู้ไม่รู้ มาเป็นผู้รู้แจ้ง ทำให้เข้าใจโลกและชีวิต ได้อย่างถูกต้อง สามารถดำรงชีวิตอยู่อย่างมีความสุข สร้างบารมีเพื่อมุ่งไปสู่อายตนนิพพาน ดังนั้นเราจึงควรที่จะปฏิบัติธรรม เพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกายกันทุกๆ คน “มีธรรมภาษิตที่พระเวสสันดรได้กล่าวไว้เป็นอมตวาจาว่า “เมื่อใด เรายังเป็นทารก มีอายุ ๘ ขวบ แต่เกิดมา เมื่อนั้น เรานั่งอยู่ในปราสาท คิดจะบริจาคทานว่า เราจะพึงให้หทัย ดวงตา เนื้อ เลือด และร่างกาย เมื่อใครมาขอเรา เราก็ยินดีมอบให้ เมื่อเราคิดถึงการบริจาคทานอันเป็น ความจริง หทัยก็ไม่หวั่นไหว ตั้งมั่นอยู่ในกาลนั้น แผ่นดินซึ่งมีเขาสิเนรุ และหมู่ไม้เป็นเครื่องประดับ ก็หวั่นไหว”” ครั้งที่แล้วได้เล่าถึงปฐมเหตุของการที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงเล่าเรื่องพระเวสสันดรชาดกว่า เกิดจากการที่พระองค์ ทรงทำลายทิฏฐิมานะของเหล่าประยูรญาติ ด้วยการแสดงปาฏิหาริย์ ให้เจ้าศากยราชตระกูลได้เห็นด้วยตาเนื้อ …

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๓ ( กำเนิดพระเวสสันดร ) Read More »

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๔ ( พระราชทานช้างมงคล )

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๔ ( พระราชทานช้างมงคล ) บุญเป็นธาตุสำเร็จ เป็นบ่อเกิดแห่งความสุขและความสำเร็จทุกอย่าง เปรียบประดุจแก้วสารพัดนึกที่บันดาลให้เรา ได้สมปรารถนาในทุกเรื่อง การที่ความสุขและความสำเร็จจะบังเกิดขึ้นได้นั้น ต้องเริ่มจากการสั่งสมบุญให้แก่ตัวเราเองก่อน บุญเป็นสิ่งที่ต้องทำ ใครทำคนนั้นได้ ถ้าไม่ทำบุญ จะแสวงหาความสุขอย่างไรก็ไม่พบ ดังนั้นหากอยากเข้าถึงความสุขและความเต็มเปี่ยมของชีวิต ต้องเริ่มที่การสั่งสมบุญ ด้วยการบำเพ็ญทานให้ต่อเนื่อง รักษาศีลให้บริสุทธิ์ และหมั่นนั่งสมาธิเจริญภาวนาอย่างสมํ่าเสมอ สักวันหนึ่ง ความสุข ความสำเร็จสมหวัง ย่อมจะบังเกิดขึ้นกับเราอย่างแน่นอน มีธรรมภาษิตที่พระเวสสันดรโพธิสัตว์ได้กล่าวไว้เป็น อาสภิวาจาว่า “ดวงหทัยหรือจักษุ เราก็ให้ได้ จะป่วยกล่าวไปไยกับทรัพย์ นอกกายของเรา คือ เงิน ทอง มุกดา ไพฑูรย์ หรือแก้วมณี ในเมื่อยาจกมาแล้ว เราได้เห็นแล้ว พึงให้พาหาทั้งซ้ายขวาก็ได้ เราไม่พึงหวั่นไหว เพราะใจของเรายินดีในการบริจาค ชาวสีพีจงขับไล่หรือฆ่าเราเสียก็ตาม พวกเขาจะตัดเราเป็น ๗ ท่อนก็ตามเถิด เราจักไม่งดเว้นจากการบริจาคทานเป็นอันขาด” นี่คือใจของพระโพธิสัตว์เจ้าของเรา เมื่อท่านตั้งความปรารถนาอันยิ่งใหญ่ที่จะเป็นพระพุทธเจ้าแล้ว ทันทีที่คิดจะบริจาคทานอะไร ไม่ว่าจะเป็นสมบัติภายนอกหรือภายในก็ตาม ท่านก็ให้ได้ทุกอย่าง ความรู้สึกหวงแหนหรือห่วงกังวล ไม่มีอยู่ในจิตใจอันบริสุทธิ์ของท่านเลย อีกทั้งเมื่อคิดจะให้ทานแล้ว …

เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๔ ( พระราชทานช้างมงคล ) Read More »

ชัยชนะครั้งที่ ๒ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า(ตอน ชนะอาฬวกยักษ์)

ชัยชนะครั้งที่ ๒ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (ตอน ชนะอาฬวกยักษ์) อายตนนิพพานเป็นธรรมที่ละเอียดลึกซึ้ง ต้องเป็นผู้ที่มีใจหยุดนิ่งอย่างสมบูรณ์แล้วเท่านั้น จึงจะเข้าใจได้แจ่มแจ้ง ปัจจุบันแม้หลายท่านจะมีความเห็นแตกต่างกันเกี่ยวกับเรื่องนิพพาน แต่ไม่ว่าจะมีความเข้าใจอย่างไร อายตนนิพพานซึ่งเป็นเครื่องรองรับพระนิพพานยังคงมีอยู่ พระนิพพานหรือธรรมกายของพระพุทธเจ้าก็ยังคงมีอยู่ เป็นอมตะและเป็นบรมสุขที่เที่ยงแท้ถาวร ซึ่งผู้รู้ทั้งหลายกล่าวว่า พระนิพพานเป็นเยี่ยม การไปสู่อายตนนิพพาน เป็นวิสัยของผู้มีใจหยุดที่ละเอียดมากๆ พระพุทธองค์จึงตรัสว่า ผู้ไปถึงฝั่งแห่งพระนิพพานมีจำนวนน้อย ส่วนใหญ่ยังไปไม่ถึง เพราะมัวติดอยู่ในเบญจกามคุณ คือ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส เราจึงไม่ควรเสียเวลามาถกเถียงกัน ควรจะลงมือปฏิบัติ พิสูจน์ด้วยตนเอง เพื่อให้รู้แจ้งเห็นจริงเช่นเดียวกับผู้รู้ทั้งหลาย มีบทสรรเสริญพุทธคุณใน พุทธชัยมงคลคาถา บทที่ ๒ ว่า “มาราติเรกมภิยุชฺฌิตสพฺพรตฺตึ โฆรมฺปนาฬวกมกฺขมถทฺธยกฺขํ ขนฺตีสุทนฺตวิธินา ชิตวา มุนินฺโท ตนฺเตชสา ภวตุ เต ชยมงฺคลานิ พระจอมมุนีได้ชัยชนะต่ออาฬวกยักษ์ ผู้มีจิตสันดานหยาบกระด้าง ปราศจากความอดทน มีฤทธิ์มาก ได้เข้ามาต่อสู้จนตลอดทั้งคืน ด้วยวิธีทรมานอย่างดี คือ พระขันติธรรม ด้วยเดชแห่งชัยชนะของพระพุทธเจ้านั้น ขอชัยมงคลจงมีแก่ท่านเถิด” …

ชัยชนะครั้งที่ ๒ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า(ตอน ชนะอาฬวกยักษ์) Read More »

ชัยชนะครั้งที่ ๓ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (ตอน ชนะช้างนาฬาคีรี)

ชัยชนะครั้งที่ ๓ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (ตอน ชนะช้างนาฬาคีรี) การจะหลุดพ้นจากกิเลสอาสวะ จะต้องลงมือปฏิบัติธรรมเท่านั้น จะสวดมนต์อ้อนวอนอย่างไร ย่อมไม่อาจบรรลุธรรมได้ แม้จะมีความรู้ในทางทฤษฎีหรือปริยัติธรรมมากมายเพียงใด ล้วนไม่ได้เป็นเครื่องยืนยันว่า จะช่วยให้เราพ้นทุกข์ได้ อย่างไรก็ตาม การศึกษาธรรมะทั้งทางด้านปริยัติและปฏิบัติ ยังเป็นสิ่งที่จะต้องศึกษาควบคู่กันไป เพื่อให้เกิดความเข้าใจแจ่มแจ้งในพระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะการศึกษาและถ่ายทอดความรู้ได้อย่างถูกต้องสมบูรณ์ เป็นการรักษาพระพุทธศาสนาให้คงอยู่คู่โลกต่อไปอย่างยาวนาน จึงควรทำทั้งสองอย่างควบคู่กันไป โดยเฉพาะการปฏิบัติธรรมฝึกฝนใจให้หยุดนิ่ง เป็นหนทางที่จะนำไปสู่การเข้าถึงธรรมได้ดีที่สุด ในพุทธชัยมงคลคาถา บทที่ ๓ ได้พรรณนาพุทธคุณไว้ว่า “นาฬาคิรึ คชวรํ อติมตฺตภูตํ ทาวคฺคิจกฺกมสนีว สุทารุณนฺตํ เมตฺตมฺพุเสกวิธินา ชิตวา มุนินฺโท ตนฺเตชสา ภวตุ เต ชยมงฺคลานิ พระผู้มีพระภาคเจ้าจอมมุนี ได้ชัยชนะต่อช้างตัวประเสริฐ ชื่อนาฬา-คีรี ซึ่งเป็นช้างตกมัน สุดแสนที่จะทารุณร้ายกาจ ด้วยนํ้าพระเมตตา ด้วยเดชแห่งชัยชนะของพระพุทธเจ้านั้น ขอชัยมงคลทั้งหลายจงบังเกิดมีแก่ท่าน” พระบรมศาสดาทรงมีมหากรุณาต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย พระทัยที่เต็มเปี่ยมด้วยความรักและปรารถนาดีนี้ มิใช่เกิดเพียงชั่วครั้งชั่วคราว หรือเพียงภพชาติใดชาติหนึ่งเท่านั้น แต่มีต่อเนื่องกันมายาวนานนับภพนับชาติไม่ถ้วน จวบจนถึงวันที่พระองค์ได้สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าผู้เป็นที่พึ่งของโลก ทรงมีน้ำพระทัยเสมอกันทั้งต่อบุคคลที่มาประทุษร้าย หรือมาเคารพบูชาพระองค์ ทรงมีพระหทัยใสสะอาดบริสุทธิ์ ดุจห้วงมหรรณพที่ให้ความชุ่มเย็นแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย …

ชัยชนะครั้งที่ ๓ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (ตอน ชนะช้างนาฬาคีรี) Read More »

ชัยชนะครั้งที่ ๑ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (ตอนที่ ๒ ชนะพญามาร)

ชนะครั้งที่ ๑ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (ตอนที่ ๒ ชนะพญามาร) โอกาสที่หาได้ยากที่สุดในการสร้างบารมีของสรรพสัตว์ทั้งหลาย คือ โอกาสที่ได้อัตภาพเป็นมนุษย์ แม้หมู่สัตว์เหล่าอื่นอีกเป็นจำนวนมาก ล้วนปรารถนาจะได้เกิดเป็นมนุษย์เช่นพวกเรา เพราะเป็นโอกาสดีโอกาสเดียวที่สามารถสั่งสมบุญบารมีได้อย่างเต็มที่ เมื่อเราได้ในสิ่งที่ได้โดยยากเช่นนี้แล้ว ควรจะต้องใช้โอกาสนี้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด โดยต้องรู้จักประคับประคองตัวของเราให้ดำเนินชีวิตอยู่บนเส้นทางแห่งความดี เส้นทางแห่งบุญ ชีวิตจึงจะมีคุณค่า เพราะบุญเท่านั้น ที่จะช่วยปกป้องคุ้มครองตัวของเราให้ปลอดภัยจากภัยทั้งหลาย ทั้งภัยในชีวิต ภัยในอบายและภัยในสังสารวัฏ โดยเฉพาะบุญที่เกิดจากการเจริญสมาธิภาวนา จะทำให้เส้นทางไปสู่อายตนนิพพานของเราสะดวกสบายยิ่งขึ้น จะถึงที่หมายโดยปลอดภัยและรวดเร็ว มีพุทธพจน์ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ใน ขุททกนิกาย ธรรมบท ว่า “เราแสวงหานายช่างผู้กระทำเรือน เมื่อไม่ประสบ จึงได้ท่องเที่ยวไปในสงสารมิใช่น้อย การเกิดบ่อยๆ เป็นทุกข์ ดูก่อนนายช่างผู้กระทำเรือน เราเห็นท่านแล้ว ท่านจักไม่ได้กระทำเรือนอีกต่อไป ซี่โครงทั้งหมดของท่านเราหักเสียแล้ว ยอดเรือนเราก็กำจัดแล้ว จิตของเรา ถึงวิสังขารคือพระนิพพานแล้ว เราได้ถึงความสิ้นตัณหาแล้ว ดังนี้” นี้เป็นพุทธอุทานที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรัสไว้ เป็นปฐมพุทธพจน์ หลังจากชนะพญามารและเหล่าเสนามาร และได้ตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณที่ใต้ควงไม้ศรีมหาโพธิ์ ซึ่งหลวงพ่อได้เล่าไว้เมื่อคราวที่แล้วว่า เมื่อพญามารยกพลมามืดฟ้ามัวดิน เพื่อแย่งชิงรัตนบัลลังก์ และขัดขวางการตรัสรู้ธรรมของพระพุทธองค์ เทวดาและพรหมทั้งหลายเห็นเช่นนั้น ต่างพากันหวาดกลัว ขนลุกขนพองไปตามๆกัน รีบหลบหนีเอาตัวรอดไป ทิ้งพระโพธิสัตว์ไว้เพียงลำพัง …

ชัยชนะครั้งที่ ๑ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (ตอนที่ ๒ ชนะพญามาร) Read More »

ชัยชนะครั้งที่ ๔ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (ตอน ชนะองคุลิมาล)

ชัยชนะครั้งที่ ๔ (ตอนชนะองคุลิมาล) พระผู้มีพระภาคเจ้าจอมมุนี ทรงใช้ฤทธิ์ทางใจ ให้เป็นอิทธาภิสังขาร ทรงชนะองคุลิมาล ผู้แสนโหดเหี้ยมร้ายกาจ มีฝีมือฉกรรจ์ ถือดาบวิ่งไล่พระองค์ สิ้นทาง ๓ โยชน์ ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ท่าน เวลาแห่งการปฏิบัติธรรม เป็นเวลาที่มีคุณค่ามหาศาล เพราะเราจะได้ทำใจหยุดใจนิ่ง แสวงหาอริยมรรค ซึ่งเป็นเส้นทาง ของพระอริยเจ้าทั้งหลาย เป็นทางเอกสายเดียวเท่านั้น ที่จะนำเราให้เข้าถึงพระธรรมกายภายใน เข้าถึงความสุขที่แท้จริงที่ทำให้หลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งหลาย ปัจจุบันมวลมนุษยชาติส่วนใหญ่ยังไม่รู้เป้าหมายที่แท้จริงของชีวิตว่า เกิดมาทำไม อะไรคือสิ่งที่ต้องแสวงหา เมื่อไม่มีโอกาสได้ฟังพระสัทธรรม ไม่ได้ประพฤติปฏิบัติธรรม ชีวิตจึงตกอยู่ในท่ามกลางกระแสแห่งความทุกข์ เหมือนถูกตรึงด้วยเครื่องพันธนาการที่คลายออกไม่ได้ ต่อมาเมื่อได้ลงมือปฏิบัติธรรมย่อมจะเข้าใจชีวิต และมุ่งทำความบริสุทธิ์ให้เกิดขึ้น เพื่อจะได้ไปสู่เป้าหมาย คือ อายตนนิพพานกันทุกคน มีบทสรรเสริญพุทธคุณในพุทธชัยมงคลคาถา บทที่ ๔ ว่า ” อุกฺขิตฺตขคฺคมติหตฺถสุทารุณนฺตํ ธาวนฺติโยชนปถงฺคุลิมาลวนฺตํ อิทฺธีภิสงฺขตมโน ชิตวา มุนินฺโท ตนฺเตชสา ภวตุ เต ชยมงฺคลานิ พระผู้มีพระภาคเจ้าจอมมุนี ทรงใช้ฤทธิ์ทางใจ ให้เป็นอิทธาภิสังขาร ทรงชนะองคุลิมาล ผู้แสนโหดเหี้ยมร้ายกาจ …

ชัยชนะครั้งที่ ๔ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (ตอน ชนะองคุลิมาล) Read More »

ชัยชนะครั้งที่ ๕ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (ตอน ชนะการถูกกล่าวหาจากนางจิญจมาณวิกา)

ชัยชนะครั้งที่ ๕ ( ตอน ชนะการถูกกล่าวหาจากนางจิญจมาณวิกา ) พระพุทธเจ้าผู้เป็นจอมมุนี ได้ทรงชนะคำกล่าวร้ายของนางจิญจมาณวิกา ผู้ทำอาการเหมือนหญิงมีครรภ์ ได้ทำไม้สัณฐานกลมผูกติดไว้ ด้วยวิธีที่งดงาม คือความสงบพระทัยในท่ามกลางมหาชน ด้วยเดชแห่งพุทธชัยมงคลนั้น ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ท่าน พุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ เป็นอานุภาพที่ไม่มีประมาณ เพราะเป็นอจินไตยอยู่เหนือวิสัยของผู้ที่ใจยังไม่หยุด จะเข้าใจได้ด้วยการนึกคิดด้นเดาตามหลักตรรกวิทยา หรือศาสตร์ต่างๆ ที่มีอยู่ในโลกนี้ไม่ได้ เพราะเป็นศาสตร์เฉพาะของผู้รู้แจ้งเท่านั้น ผู้ที่ทำจิตให้เลื่อมใสในพระรัตนตรัย ก็จะประสบกับอานุภาพของพระรัตนตรัยเสมอ พบแต่เรื่องอัศจรรย์จนกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดา เพราะสิ่งอัศจรรย์จะเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา หากใจเราหยุดนิ่งเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับพระรัตนตรัย เราจะมีความบริสุทธิ์ มีอานุภาพตามท่านไปด้วย ดังนั้นเราควรปฏิบัติให้เข้าถึงพระรัตนตรัยให้ได้กันทุกคน มีบทพุทธคุณสรรเสริญพระสัมมาสัมพุทธเจ้า บทที่ ๕ ว่า ” กตฺวาน กฏฺฺฺฐมุทรํ อิว คพฺภินียา จิญฺจาย ทุฏฺฺฐวจนํ ชนกายมชฺเฌ สนฺเตน โสมวิธินา ชิตวา มุนินฺโท ตนฺเตชสา ภวตุ เต ชยมงฺคลานิ พระพุทธเจ้าผู้เป็นจอมมุนี ได้ทรงชนะคำกล่าวร้ายของนางจิญจมาณวิกา ผู้ทำอาการเหมือนหญิงมีครรภ์ ได้ทำไม้สัณฐานกลมผูกติดไว้ …

ชัยชนะครั้งที่ ๕ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (ตอน ชนะการถูกกล่าวหาจากนางจิญจมาณวิกา) Read More »

ชัยชนะครั้งที่ ๖ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (ตอนที่ ๑ ชนะสัจจกนิครนถ์)

ชัยชนะครั้งที่ ๖ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (ตอนที่ ๑ ชนะสัจจกนิครนถ์) พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นบุคคลผู้เลิศทั้งพระปัญญาธิคุณ พระบริสุทธิคุณ และพระมหากรุณาธิคุณ จะหาบุคคลใดๆ ในภพทั้งสาม มาเสมอเหมือนหรือยิ่งกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว พระพุทธองค์ทรงมีพระพุทธญาณลึกซึ้งกว้างไกล ทรงรู้แจ้งโลกและแทงตลอด ทั้งนิพพาน ภพสาม โลกันต์ แม้พระพุทธเจ้าจะพรรณนาพระคุณของพระพุทธเจ้าด้วยกัน ยังไม่อาจพรรณนาได้หมดสิ้น เพราะพระคุณของพระพุทธเจ้าไม่มีประมาณ เป็นอจินไตย อนันตจักรวาลก็ยังแคบเกินไปที่จะพรรณนาพระคุณของพระพุทธองค์ เราจะซาบซึ้งต่อเมื่อได้ศึกษาพระธรรมคำสอนอย่างจริงจัง โดยลงมือปฏิบัติตามคำสอนให้เข้าถึงพระรัตนตรัยภายใน แล้วเราจะเข้าใจได้แจ่มแจ้ง มีบทสรรเสริญชัยมงคลคาถา บทที่ ๖ ว่า “สจฺจํ วิหาย มติสจฺจกวาทเกตุ วาทาภิโรปิตมนํ อติอนฺธภูตํ ปญฺญาปทีปชลิโต ชิตวา มุนินฺโท ตนฺเตชสา ภวตุ เต ชยมงฺคลานิ พระจอมมุนีทรงรุ่งเรืองด้วยประทีปคือปัญญา ได้ทรงชนะสัจจก-นิครนถ์ผู้เป็นคนมืดบอด มีอัธยาศัยไม่ยอมรับความจริง มีใจคิดแต่จะยกตนข่ม ด้วยเดชแห่งพุทธชัยมงคลนั้น ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ท่าน” เรื่องของพระพุทธเจ้าที่ทรงมีชัยชนะต่อสัจจกนิครนถ์นี้ เป็นหนึ่งในพุทธชัยมงคล เพราะเป็นชัยชนะที่ประเสริฐ โดยอาศัยพุทธปัญญาที่ไม่มีใครเสมอเหมือน แม้สัจจกนิครนถ์ที่ชาวเมืองต่างนับถือว่า เป็นผู้มีปัญญามาก ยังต้องยอมรับในพระสัพพัญญุตญาณของพระองค์ ในเรื่องนี้ท่านกล่าวไว้ …

ชัยชนะครั้งที่ ๖ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (ตอนที่ ๑ ชนะสัจจกนิครนถ์) Read More »

ชัยชนะครั้งที่ ๖ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (ตอนที่ ๒ ชนะสัจจกนิครนถ์)

ชัยชนะครั้งที่ ๖ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (ตอนที่ ๒ ชนะสัจจกนิครนถ์) คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานแล้ว เป็นสิ่งที่มีค่าเอนกอนันต์ ทุกถ้อยคำที่พระพุทธองค์ทรงแนะนำสั่งสอน ชี้แนะหนทางสว่าง หากได้นำไปประพฤติปฏิบัติอย่างจริงจังแล้ว จะส่งผลให้เรามีความสุขความสำเร็จได้ในปัจจุบัน เราจะดำเนินชีวิตได้อย่างถูกต้อง และปลอดภัยทั้งยังส่งผลต่อไปอีก คือ ให้เราได้สมบูรณ์พร้อมทั้งมนุษย์สมบัติ ทิพยสมบัติและนิพพานสมบัติ ชีวิตเราจะก้าวไปสู่ความเต็มเปี่ยมบริบูรณ์ ได้บรรลุมรรคผลนิพพานเพราะได้ฟังและปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ดังนั้น การฟังธรรมและหมั่นฝึกฝนใจให้หยุดนิ่ง จึงเป็นทางมาแห่งรัตนะอันประเสริฐ คือ พระรัตนตรัยนั่นเอง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ในวุฏฐิสูตรว่า “วิชฺชา อุปฺปตตํ เสฏฺฐา อวิชฺชา นิปตตํ วรา สงฺโฆ ปวชมานานํ พุทฺโธ ปวทตํ วโร บรรดาสิ่งที่งอกขึ้น ความรู้เป็นสิ่งที่ประเสริฐ บรรดาสิ่งที่ตกไป อวิชชาเป็นเลิศ บรรดาสัตว์ที่เดินด้วยเท้า พระสงฆ์เป็นผู้ประเสริฐสุด บรรดาชนผู้แถลงคารม พระพุทธเจ้าเป็นผู้ประเสริฐสุด” พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา ทรงเป็นเลิศกว่ามนุษย์และเทวดา เป็นผู้มีวาทศิลป์ หรือเป็นนักโต้วาที เพราะพระองค์ทรงโต้วาทะ และแก้ไขปัญหาของผู้แสดงตนว่าเป็นนักปราชญ์ได้อย่างถูกต้องสมบูรณ์ เพราะทรงแทงตลอดในทุกๆ ปัญหา …

ชัยชนะครั้งที่ ๖ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (ตอนที่ ๒ ชนะสัจจกนิครนถ์) Read More »