ธรรมะเพื่อประชาชน

วิสาขามหาอุบาสิกา (มหาลดาปสาธน์)

วิสาขามหาอุบาสิกา (มหาลดาปสาธน์) มหาสมบัติทุกอย่างที่บังเกิดขึ้นมาในโลก ไม่ว่าจะมากน้อยเพียงใดก็ตาม บังเกิดขึ้นด้วยอานุภาพแห่งบุญทั้งสิ้น สำหรับนักสร้างบารมีที่ตั้งใจสั่งสมคุณงามความดีมาโดยตลอด ความดีที่เราได้ทำจะกลั่นตัวเป็นดวงบารมีที่ใสสว่าง คอยดึงดูดมหาสมบัติ และสิ่งที่เป็นสิริมงคลทั้งหลายให้บังเกิดขึ้น เพื่อส่งเสริมให้เรามีชีวิตที่เต็มเปี่ยมบริบูรณ์ มีความสุขสมหวังเพราะมีบุญเป็นเบื้องหลังแห่งความสำเร็จ มหาสมบัตินั้นมีทั้งที่เป็นโลกียะ และอริยทรัพย์ ทรัพย์ภายนอกทั้งหลายเป็นโลกียทรัพย์ ส่วนอริยทรัพย์หรือรัตนะภายในก็คือพระธรรมกายในตัวนั่นเอง เป็นอริยทรัพย์ที่ประเสริฐที่สุด เป็นที่พึ่งให้กับเราได้อย่างแท้จริง แต่ว่าก็สำคัญทั้งสองอย่าง เพราะเป็นเครื่องอำนวยความสะดวกในการสร้างบารมี โดยเฉพาะรัตนะภายในนั้น จะเป็นอุปกรณ์อย่างสำคัญที่จะนำเราข้ามพ้นสังสารวัฏไปสู่ฝั่งพระนิพพาน ดังนั้น ให้พวกเราทั้งหลายตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรม  ให้เข้าถึงรัตนะภายในกันทุกๆ คน มีวาระพระบาลีที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ใน สังยุตตนิกาย สคาถวรรค ความว่า “ผู้ที่มาเกิดแล้ว จำจะต้องตายในโลกนี้ ย่อมทำกรรมใดไว้ คือ เป็นบุญและเป็นบาปทั้งสองประการ บุญและบาปนั้นแล เป็นสมบัติของเขา และเขาจะพาเอาบุญและบาปนั้นไปสู่ปรโลก บุญและบาปนั้น ย่อมจะติดตามตัวเขาไป ประดุจเงาติดตามตนไปฉะนั้น เพราะฉะนั้น บุคคลพึงบำเพ็ญบุญ สะสมกรรมดีไว้เป็นสมบัติในปรโลก เพราะว่า บุญทั้งหลายย่อมเป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งหลาย” การเวียนว่ายตายเกิดของสรรพสัตว์ทั้งหลาย ล้วนอยู่ในกระแสแห่งกิเลส กรรม วิบาก กิเลสที่สั่งสมในขันธสันดาน หุ้ม เคลือบ เอิบอาบ ซึมซาบ ปนเป็น …

วิสาขามหาอุบาสิกา (มหาลดาปสาธน์) Read More »

วิสาขามหาอุบาสิกา (โอวาท ๑๐)

วิสาขามหาอุบาสิกา (โอวาท ๑๐) พระรัตนตรัย เป็นที่พึ่งของสรรพสัตว์ทั้งหลาย เป็นหลักของพระพุทธศาสนา ผู้เข้าถึงพระรัตนตรัย จึงได้ชื่อว่าเป็นผู้เข้าถึงแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา พระบรมศาสดาท่านได้เข้าถึงพระรัตนตรัย และเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับกายธรรมอรหัต ได้ตรัสรู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า หมดสิ้นกิเลสอาสวะ มีแต่ความบริสุทธิ์ล้วนๆ จึงเป็นเนื้อนาบุญอันเลิศ ผู้มีจิตเลื่อมใสในพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เลิศ ผลบุญอันเลิศย่อมบังเกิดขึ้นกับบุคคลนั้น และบุญนั้นยังตามส่งผลข้ามภพข้ามชาติไปจนถึงที่สุดแห่งธรรม การทำสมาธิภาวนาด้วยการเจริญพุทธานุสติ มีพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ จึงมีอานิสงส์ใหญ่ควรที่พวกเราทั้งหลายจะต้องฝึกให้เป็นอุปนิสัย แล้วบุญใหญ่ก็จะบังเกิดขึ้นกับเรา มีวาระพระบาลีที่กล่าวไว้ในมงคลสูตรว่า “ปุตฺตทารสฺส สงฺคโห    เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ การสงเคราะห์บุตรและภรรยา เป็นอุดมมงคล” การใช้ชีวิตในการครองเรือน เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ถ้าคู่สามีภรรยาไม่เข้าใจกัน ไม่รู้วิธีผูกรักให้ยั่งยืน ด้วยการสงเคราะห์ซึ่งกันและกันด้วยสังคหวัตถุ ๔ ไม่ช้าก็ต้องแยกจากกันไปคนละทิศละทาง บางคู่ทนอยู่ด้วยกันมา ๑๐ ปีบ้าง ๒๐ ปีบ้าง แต่ในที่สุดก็หย่าร้างกันไป ดังนั้นเมื่อสองคนตัดสินใจที่จะมาครองเรือนร่วมกันแล้ว จำเป็นจะต้องมีธรรมะของผู้ครองเรือน จะมัวเอาแต่ใจตนเองเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว ที่กล่าวเช่นนี้ เพราะไม่อยากให้เกิดการแตกแยกในครอบครัว อยากให้เป็นครอบครัวแก้ว ครอบครัวธรรมกาย ที่ทุกคนมีธรรมะอยู่ในใจ เป็นครอบครัวตัวอย่างของโลก ครอบครัวของนักสร้างบารมี ที่ดำเนินชีวิตเป็นต้นบุญต้นแบบที่ดีให้แก่ชาวโลก ซึ่งพื้นฐานของครอบครัวที่ทำให้สามีภรรยาครองชีวิตกันยืนยาวและมีความสุขนั้น คู่สามีภรรยาต้องมีทิฏฐิเสมอกัน มีศรัทธาเสมอกัน แม้จะเป็นพุทธศาสนิกชนก็ต้องมีสัมมาทิฏฐิ …

วิสาขามหาอุบาสิกา (โอวาท ๑๐) Read More »

วิสาขามหาอุบาสิกา (สร้างบุพพาราม)

วิสาขามหาอุบาสิกา (สร้างบุพพาราม) การเกิดมาแต่ละชาติของสรรพสัตว์ทั้งหลายนั้น ต่างมีเป้าหมายสูงสุดอย่างเดียวกันคือ เพื่อจะฝึกฝนอบรมจิตใจให้ใสสะอาดบริสุทธิ์ ประพฤติปฏิบัติธรรม เพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง ให้เข้าถึงพระธรรมกาย แล้วอาศัยธรรมกายศึกษาวิชชาธรรมกายกำจัดกิเลสอาสวะให้หมดสิ้นไป จะได้พ้นจากความทุกข์ และเข้าถึงความสุขที่แท้จริง มุ่งไปสู่อายตนนิพพาน ซึ่งมีแต่สุขล้วนๆ ไม่มีทุกข์เจือปน เสวยวิมุตติสุขอย่างเดียวคือ สุขที่เกิดจากการหลุดพ้นจากกิเลสอาสวะ ไปสู่ความสุขที่ไม่มีขอบเขต อันไม่มีประมาณ นี่คือเป้าหมายของทุกชีวิต ดังนั้น เราจะต้องมุ่งแสวงหาความสุขที่แท้จริงอย่างนี้กันทุกๆ คน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน ขุททกนิกาย ธรรมบท ว่า “ยถาปิ ปุปฺผราสิมฺหา     กยิรา มาลาคุเฬ พหู เอวํ ชาเตน มจฺเจน      กตฺตพฺพํ กุสลํ พหุ ํ นายมาลาการพึงทำพวงดอกไม้ให้มาก จากกองดอกไม้แม้ฉันใด มัจจุสัตว์ผู้มีอันจะต้องตายเป็นสภาพ ควรทำกุศลไว้ให้มากฉันนั้น” เมื่อเราเกิดมาแล้ว ต้องรู้จักแนะนำตักเตือนตัวเองให้ดำเนินชีวิตอยู่บนเส้นทางแห่งการสร้างความดี เพราะเราเกิดมามีหน้าที่ จะไปมัวคอยให้คนอื่นมาเป็นกัลยาณมิตรชี้นำให้ตลอดเวลานั้นไม่ได้ ต้องพิจารณาให้รู้ถึงภารกิจหลัก ภารกิจรอง ว่าสิ่งไหนควรทำก่อนหรือทำหลัง แม้เราจะมีกรณียกิจที่ต้องทำหลายอย่าง แต่การสั่งสมบุญก็เป็นสิ่งที่เราควรทำไปพร้อมๆ กัน จะได้เป็นที่พึ่งให้กับตัวเองในสัมปรายภพ …

วิสาขามหาอุบาสิกา (สร้างบุพพาราม) Read More »

วิสาขามหาอุบาสิกา (พรอันประเสริฐ)

วิสาขามหาอุบาสิกา (พรอันประเสริฐ) พระผู้มีพระภาคเจ้าและพระอรหันตเจ้าทั้งหลาย ท่านได้ค้นพบว่า นิพฺพานํ ปรมํ สุขํ นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง เป็นบรมสุข เป็นธรรมที่สงบประณีต ซึ่งจะนึกคิดหรือคาดคะเนเอาไม่ได้ จะรู้ได้เฉพาะตน และจะเข้าถึงได้ก็ต่อเมื่อปรับใจให้หยุดนิ่งไปตามลำดับ จนกระทั่งเข้าไปถึงพระธรรมกายที่ชัด ใส สว่าง ซึ่งเป็นแหล่งแห่งความสุขความบริสุทธิ์ แหล่งของสติ แหล่งของปัญญา จนเกิดธรรมจักขุและญาณทัสสนะ เมื่อนั้นเราจะรู้เห็นทุกสิ่งไปตามความเป็นจริงว่าสาระแก่นสารของทุกๆ ชีวิตคือ การฝึกฝนใจให้บริสุทธิ์หยุดนิ่ง เพื่อทำพระนิพพานให้แจ้งเท่านั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน จีวรขันธกะ วินัยปิฎก ว่า * “สตรีใดให้ข้าวและน้ำ มีใจเบิกบานแล้ว สมบูรณ์ด้วยศีล เป็นสาวิกาของพระสุคต ครอบงำความตระหนี่แล้ว บริจาคทาน อันเป็นเหตุแห่งสวรรค์ เป็นเครื่องบรรเทาความโศก นำมาซึ่งความสุข สตรีนั้น อาศัยมรรคปฏิบัติ ปราศจากธุลี ไม่มีกิเลสเครื่องยั่วยวน ย่อมได้กำลัง และอายุทิพย์ สตรีผู้ประสงค์บุญนั้น เป็นคนมีสุข สมบูรณ์ด้วยพลานามัย ย่อมปลื้มใจในสวรรค์สิ้นกาลนาน” * พระบรมศาสดาได้ตรัสพระคาถานี้ ด้วยทรงปรารภพร ๘ ประการที่มหาอุบาสิกาวิสาขาได้ขอจากพระพุทธองค์ และมองเห็นการณ์ไกลว่า พรที่นางได้ทูลขอนั้น …

วิสาขามหาอุบาสิกา (พรอันประเสริฐ) Read More »

อนาถบิณฑิกเศรษฐี (เฮือกสุดท้ายของชีวิต)

อนาถบิณฑิกเศรษฐี (ก่อนลมหายเฮือกสุดท้าย) เราทั้งหลายได้ชื่อว่าเป็นผู้มีบุญลาภอันประเสริฐ ที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ มาพบพระพุทธศาสนา เป็นสัมมาทิฏฐิ เชื่อเรื่องกรรม และผลของกรรม ตั้งใจมั่นในการทำความดี เมื่อเรายังไม่สิ้นอาสวกิเลส เส้นทางชีวิตอาจแบ่งได้เป็น ๒ ทางคือ ทางหนึ่งไปสู่สุคติ ซึ่งเป็นผลของการทำความดี อีกทางหนึ่งไปสู่ทุคติ ซึ่งเป็นผลบาป บุคคลผู้เป็นบัญฑิตนักปราชญ์ฉลาดในการใช้ชีวิต ย่อมเลือกเอาเส้นทางที่จะนำไปสู่สุคติ เพราะเป็นทางแห่งความสุข และปลอดภัย ดังนั้น เราจึงควรสั่งสมบุญทั้งการทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา เมื่อมีโอกาสควรทำให้เต็มที่เต็มกำลัง เก็บเกี่ยวบุญกุศลไว้มากๆ จะได้เป็นเสบียงในการเดินทางไกลในสังสารวัฏ มุ่งสู่เป้าหมายคือ อายตนนิพพาน มีวาระพระบาลีที่ปรากฏใน ขุททกนิกาย ธรรมบท ว่า “อนิจฺจา วต สงฺขารา    อุปฺปาทวยธมฺมิโน อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌนฺติ    เตสํ วูปสโม สุโข สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ มีความเกิดขึ้น และเสื่อมไปเป็นธรรมดา ครั้นเกิดขึ้นแล้วย่อมดับไป การเข้าไปสงบระงับสังขารเหล่านั้น นำสุขมาให้” ที่หลวงพ่อได้ยกพุทธพจน์บทนี้ เพราะปรารภเหตุเกี่ยวกับสังขารของยอดนักสร้างบารมีผู้มีจิตใจที่งดงาม เริ่มมีความเสื่อมกันบ้างแล้ว บางท่านก็ละสังขารไปก่อนถึงวัยอันสมควร หรือละสังขารไปเพราะสังขารร่วงโรยไปตามกาลเวลาก็มี …

อนาถบิณฑิกเศรษฐี (เฮือกสุดท้ายของชีวิต) Read More »

วิสาขามหาอุบาสิกา (อดีตชาติของวิสาขา)

วิสาขามหาอุบาสิกา (อดีตชาติของวิสาขา) ความไม่ประมาทเป็นยอดแห่งกุศลธรรมทั้งปวง เป็นที่ประชุมรวมลงแห่งธรรมทั้งหลาย ดุจรอยเท้าของสรรพสัตว์ทั้งหลายในพื้นชมพูทวีป ย่อมประชุมรวมลงในรอยเท้าช้าง ฉะนั้น บุคคลใดที่ไม่ประมาท ความคิด คำพูด และการกระทำของบุคคลนั้น ย่อมถูกต้องร่องรอยในธรรมของพระอริยเจ้าทั้งหลาย หากเรามีความไม่ประมาทฝังลึกอยู่ในใจแล้ว เราจะใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า และมีชีวิตที่สมบูรณ์บริบูรณ์ ซึ่งความไม่ประมาทที่แท้จริงนั้นคือ การมีสติอยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ตลอดเวลา ใจหยุดนิ่งอยู่กลางธรรมะ กลางพระรัตนตรัย หากทำได้อย่างนี้ ก็ได้ชื่อว่า เป็นผู้มีชีวิตอยู่อย่างไม่ประมาท เป็นชีวิตที่ปลอดภัย และมีชัยชนะแท้จริง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน สัมมาทิฏฐิสูตร ว่า “สมฺมามนํ ปณิธาย         สมฺมาวาจํ อภาสิย สมฺมากมฺมานิ กตฺวาน       กาเยน อิธ ปุคฺคโล พหุสฺสุโต ปุญฺญกโร         อปฺปสฺมึ อิธ ชีวิเต กายสฺส เภทา สปฺปญฺโญ    สคฺคํ โส …

วิสาขามหาอุบาสิกา (อดีตชาติของวิสาขา) Read More »

อนาถบิณฑิกเศรษฐี (มหาเศรษฐีเทพบุตร)

อนาถบิณฑิกเศรษฐี (มหาเศรษฐีเทพบุตร) วันเวลาแห่งการสร้างบารมีที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เราได้ทำความดีกันอย่างสมํ่าเสมอ เป็นผู้ไม่ประมาทในชีวิต ทุกๆ ท่านก็ไม่ได้หวั่นไหวแม้จะต้องสวนกระแส สร้างบารมีกันโดยไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อยยาก ต่างก็ทุ่มเทชีวิตจิตใจสร้างบารมีกันเป็นทีมเรื่อยมาเลย นับว่าเป็นสิ่งที่ทำได้ยากในยุคนี้ น่าอนุโมทนาสาธุการอย่างยิ่ง ความดีที่เราได้ทำไปนี้ นึกถึงทีไรจะเกิดความปลื้มปีติและภาคภูมิใจทุกครั้ง แต่เราก็ไม่ควรประมาทในชีวิต เราจะต้องสร้างให้ยิ่งๆ ขึ้นไปอีก เพื่อมุ่งไปสู่จุดหมายปลายทางคือ ที่สุดแห่งธรรมกันให้ได้ มีวาระพระบาลีที่ท่านอนาถบิณฑิกเทพบุตรได้กล่าวไว้ว่า “มหาวิหารเชตวันนี้มีประโยชน์ มีหมู่สงฆ์ผู้แสวงบุญอยู่อาศัยแล้ว มีพระพุทธองค์ผู้เป็นพระธรรมราชาประทับอยู่ เป็นสถานที่นำมาซึ่งความปีติแก่ข้าพระองค์  สัตว์ทั้งหลายย่อมบริสุทธิ์ด้วยธรรม ๕ อย่างนี้ คือ กรรม  วิชชา ธรรม ศีล และชีวิตอุดม ไม่ใช่บริสุทธิ์ด้วยโคตร หรือด้วยทรัพย์ เพราะฉะนั้น  บุคคลผู้เป็นบัณฑิต เมื่อเล็งเห็นประโยชน์ของตน พึงเลือกเฟ้นธรรมโดยแยบคาย  จะบริสุทธิ์ในธรรมนั้นได้ด้วยอาการอย่างนี้” นี่คือคำสุภาษิตที่อนาถบิณฑิกเทพบุตรได้กล่าวไว้เฉพาะพระพักตร์ของพระบรมศาสดาในวัดเชตวันมหาวิหาร ซึ่งในสมัยที่เป็นมนุษย์ท่านได้เป็นผู้บุกเบิกก่อสร้างขึ้นมา ด้วยพลังศรัทธาที่มีต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อละสังขารจากโลกนี้แล้ว ก็ได้ไปบังเกิดเป็นเทพบุตรในสวรรค์ชั้นดุสิต มีวิมานที่สว่างไสวมากเป็นพิเศษ รัศมีกายของท่าน สว่างโชติช่วงเหมือนกองทองที่สุกปลั่ง มีทิพยอุทยาน บริวาร และวิมานที่กว้างใหญ่ไพศาล บังเกิดขึ้นรอคอยท่านมหาเศรษฐีผู้ใจบุญ ท่านได้สำรวจดูว่า ทิพยสมบัติที่ยิ่งใหญ่เหลือเกินนี้ เกิดขึ้นเพราะได้กระทำกุศลกรรมอะไรไว้ในโลกมนุษย์ เมื่อได้เห็นภาพของการประกอบกองการกุศลแล้ว …

อนาถบิณฑิกเศรษฐี (มหาเศรษฐีเทพบุตร) Read More »

วิสาขามหาอุบาสิกา (สุเมธายอดนารี)

วิสาขามหาอุบาสิกา (สุเมธายอดนารี) ธรรมกายเป็นกายตรัสรู้ธรรมที่เป็นเป้าหมายชีวิตของทุกๆ คนในโลก จะปฏิบัติให้เข้าถึงได้ ต้องเริ่มจากการฝึกฝนใจให้หยุด ให้สะอาดบริสุทธิ์ผ่องใสอยู่เป็นประจำ หากบุคคลใดได้เข้าถึงธรรมกาย ชีวิตของบุคคลนั้นจะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น จะมีความสุขเพิ่มขึ้น อีกทั้งมีความมั่นคง และความปลอดภัยในชีวิตตลอดไป และยังสามารถอาศัยธรรมกาย ขจัดกิเลสอาสวะให้หลุดล่อนออกจากใจ เพื่อมุ่งไปสู่อายตนนิพพานอันเป็นเป้าหมายที่แท้จริงของชีวิตทุกคน มีสัจจะวาจาที่พระนางสุเมธาเทวีได้กล่าวไว้ใน สุรุจิชาดก ว่า “ดิฉันเข้าอยู่ประจำอุโบสถ อันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ ตลอดดิถีที่ ๑๔, ๑๕ และดิถีที่ ๘ แห่งปักษ์ และตลอดปาฏิหาริยปักษ์ ดิฉันสำรวมแล้วในศีลทุกเมื่อ ข้าแต่พระฤๅษี ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ ขอบุตรจงเกิดเถิด เมื่อดิฉันกล่าวคำเท็จ ขอศีรษะของดิฉัน จงแตกเป็น ๗ เสี่ยง” การที่สามีภรรยาจะให้กำเนิดบุตรหรือธิดาที่จะมาเป็นอภิชาตบุตร มาเป็นลูกแก้วลูกยอดกตัญญู เพื่อเชิดชูวงศ์ตระกูลให้สูงขึ้นนั้น ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ หรือเกิดขึ้นได้ง่ายๆ เพราะอายตนะหรือกรรมระหว่างพ่อ แม่ และลูก ต้องใกล้เคียงกัน บางครั้งพ่อแม่มีบุญมาก แต่ผู้มีบุญมากที่สมควรจะได้มาเกิดยังไม่มี พ่อแม่นั้นจึงยังไม่สามารถมีลูกได้  ดังนั้น ตั้งแต่สมัยโบราณ เรามักได้ยินหรือได้เห็นสตรีที่อยากมีลูก ไปทำพิธีบวงสรวงบ้าง อ้อนวอนขอกับเจ้าพ่อเจ้าแม่บ้าง  …

วิสาขามหาอุบาสิกา (สุเมธายอดนารี) Read More »

เมณฑกเศรษฐี ผู้ใจบุญ (๑)

เมณฑกเศรษฐีผู้ใจบุญ (๑) พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เข้าถึงและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับกายธรรมอรหัต เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานแล้ว ผู้บริสุทธิ์หลุดพ้นแล้วจากอาสวกิเลส กิจที่จะทำยิ่งกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว ในฐานะที่พวกเราเป็นสาวกของพระพุทธองค์ ควรจะต้องดำเนินรอยตามพระองค์ โดยใช้วันเวลาที่เหลืออยู่อย่างจำกัดนี้ สร้างบารมีทำความดีให้มีความบริสุทธิ์กาย วาจา ใจ เพราะเรายังมีกิจที่จะต้องทำให้รู้แจ้งให้ได้ว่า เราเกิดมาจากไหน มาทำไม อะไรคือเป้าหมายที่แท้จริงของชีวิต และจะไปสู่เป้าหมายนั้นได้อย่างไร ดังนั้น ทุกท่านจึงควรหมั่นฝึกฝนอบรมจิตใจให้หยุดนิ่ง จนกระทั่งได้เข้าไปถึงผู้รู้แจ้งภายในคือ พระธรรมกายให้ได้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน ขุททกนิกาย ชาดก ว่า “ปุญฺญานิ ปรโลกสฺมึ    ปติฏฺฐา โหนฺติ ปาณินํ บุญทั้งหลาย เป็นที่พึ่งของสรรพสัตว์ทั้งหลายในปรโลก” บุญคือบ่อเกิดแห่งความสุขและความสำเร็จในชีวิต และเป็นสิ่งที่ช่วยต่อเติมความปรารถนาให้สมหวังได้ เหมือนในการเดินทางไกลในภพชาตินี้ เราจำเป็นต้องมีเสบียงติดตัวไป เพื่อหล่อเลี้ยงสังขารให้ดำรงอยู่ได้ การเดินทางไปสู่ปรโลก จำเป็นต้องมีเสบียงคือบุญติดตัวไปด้วย จะได้ช่วยอุ้มชูชีวิตในสัมปรายภพ ให้พบกับความสุขสวัสดี หรือแม้กระทั่งการบรรลุมรรคผลนิพพาน ต้องอาศัยบุญ บุญบารมีส่งผลให้มีฤทธิ์มีเดช มีอานุภาพ สามารถขจัดกิเลสอาสวะทั้งหลายออกจากใจของเราได้ เพราะฉะนั้น บุญ คือเบื้องหลังแห่งความสำเร็จทั้งปวง และยังช่วยชำระใจของเราให้ใสสะอาดบริสุทธิ์ เป็นเครื่องดึงดูดมหาสมบัติทั้งหลาย การทำบุญเป็นสิ่งที่สำคัญต่อชีวิตเรามาก ถ้าดวงบุญในตัวของเราหมองลง …

เมณฑกเศรษฐี ผู้ใจบุญ (๑) Read More »

วิสาขามหาอุบาสิกา (มหาปราสาท)

วิสาขามหาอุบาสิกา (มหาปราสาท) บนเส้นทางของการสร้างบารมี เพื่อจะก้าวไปสู่จุดหมายปลายทางคือ อายตนนิพพานนั้น เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเข้าไปข้องเกี่ยวกับคน สัตว์ และสิ่งของ แต่ถ้าหากเราหมั่นตอกยํ้าเป้าหมายให้มั่นคง มีอุดมการณ์ และมโนปณิธานที่ชัดเจน เราจะไม่ไปหลงมัวเมายึดติดในสิ่งต่างๆ เหล่านั้น ไม่หลงใหลในเบญจกามคุณคือ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส และธรรมารมณ์ที่มากระทบใจ ซึ่งเป็นอุปสรรคที่จะทำให้เราเหินห่างจากหนทางการสร้างบารมี การปฏิบัติธรรมเป็นการฝึกฝนอบรมใจของเราให้หยุดให้นิ่ง เป็นวิธีการที่จะกลั่นใจให้ใส สะอาด บริสุทธิ์ ใจที่ผ่องใสจะทำให้เรามองเห็นชีวิตไปตามความเป็นจริง และหากรู้เช่นนี้ เราจะได้ทุ่มเทสร้างบารมีกันอย่างเต็มที่ จนกว่าจะบรรลุถึงจุดหมายปลายทางคือ อายตนนิพพาน พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัสไว้ใน มหาปนาทชาดก ว่า “ปนาโท นาม โส ราชา      ยสฺส ยูโป สุวณฺณิโย ติริยํ โสฬสุพฺเพโธ          อุจฺจมาหุ สหสฺสธา สหสฺสกณฺโฑ สตเคณฺฑุ    ธชาลุ หริตามโย …

วิสาขามหาอุบาสิกา (มหาปราสาท) Read More »

เมณฑกเศรษฐี ผู้ใจบุญ (๒)

เมณฑกเศรษฐีผู้ใจบุญ (๒) การที่โลกของเราดำรงอยู่ได้ทุกวันนี้ ก็เพราะการให้ คือยิ่งให้ก็ยิ่งได้ ยิ่งให้คุณธรรมจะยิ่งเพิ่มพูน การให้เป็นการสร้างความดีที่ง่ายที่สุด และส่งผลดีให้กับชีวิตอย่างมากมายมหาศาล จะทำให้เป็นผู้มีชีวิตที่อุดมสมบูรณ์ ประสบแต่ความสุขความสำเร็จตลอดไป การให้ที่จะให้ได้ผลเต็มที่นั้น  ผู้ให้ต้องเอาชนะใจตนเองให้ได้เสียก่อน ต้องขจัดความตระหนี่ออกจากใจ แล้วให้ด้วยความปลื้มปีติยินดี มีใจเลื่อมใส มีความบริสุทธิ์ใจ ทั้งเวลาก่อนจะให้ ขณะให้ และหลังจากให้ก็หมั่นตามระลึกนึกถึงบุญ บุญนั้นจะไปดึงดูดมหาสมบัติ และชำระใจให้ผ่องใส ใจที่ผ่องใสเท่านั้นเป็นใจที่เหมาะสมแก่การเจริญสมาธิภาวนา ทำให้เราได้เข้าถึงพระรัตนตรัยภายใน และความสุขที่แท้จริงได้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน ปฐมทานสูตร ว่า “อทนฺตทมนํ ทานํ         อทานํ ทนฺตทูสกํ การให้ทาน เป็นเครื่องฝึกจิตที่ยังไม่ได้ฝึก การไม่ให้ทาน เป็นเครื่องประทุษร้ายจิตที่ฝึกแล้ว” ผู้ที่รักในการฝึกฝนอบรมตนเองอย่างแท้จริง จะต้องมีการเริ่มต้นที่การฝึกจิตกันก่อน เพราะการฝึกจิตเป็นสิ่งที่ดีที่สุด และสามารถนำความสุขมาให้ โดยเฉพาะความสุขที่เกิดจากการได้บรรลุมรรคผลในขั้นต่างๆ การฝึกจิตให้มีคุณภาพสามารถทำได้หลายวิธีด้วยกัน เช่น การนั่งสมาธิเจริญภาวนา การรักษาศีลให้สะอาดบริสุทธิ์ และการให้ทานซึ่งถือว่าเป็นการฝึกจิตอีกวิธีหนึ่ง เป็นก้าวแรกของการพัฒนาจิตอย่างแท้จริง เป็นการฝึกฝนใจให้ปลอดจากความโลภนั่นเอง ตามปกติแล้ว มนุษย์จะมีความโลภ ความอยากได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ฉะนั้น เมื่อเริ่มฝึกจิตด้วยการให้ ใจจะขยายออกไป …

เมณฑกเศรษฐี ผู้ใจบุญ (๒) Read More »

วิสาขามหาอุบาสิกา (ผู้ถึงฝั่งนิพพาน)

วิสาขามหาอุบาสิกา (ผู้ถึงฝั่งนิพพาน) พุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ และสังฆานุภาพ เป็นอานุภาพที่ไม่มีประมาณ เพราะเป็นอจินไตย อยู่เหนือวิสัยของผู้ที่ใจยังไม่หยุด ซึ่งจะให้เข้าใจด้วยการนึกคิดตามหลักตรรกวิทยา หรือศาสตร์ต่างๆ ที่มีอยู่ในโลกนี้ก็ไม่ได้ เพราะเป็นศาสตร์เฉพาะของผู้รู้แจ้งเท่านั้น ผู้ที่ทำจิตให้เลื่อมใสในพระรัตนตรัย มักจะพบกับอานุภาพของพระรัตนตรัยอยู่เสมอ พบแต่เรื่องอัศจรรย์จนกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดา และหากใจเราหยุดนิ่งเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับพระรัตนตรัย เราจะมีความบริสุทธิ์ และมีอานุภาพตามไปด้วย เพราะไม่มีสิ่งใดที่จะยิ่งใหญ่หรือเทียบเท่าพระรัตนตรัยได้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน อัยยิกาสูตร ว่า “สพฺเพ สตฺตา มริสฺสนฺติ     มรณนฺตํ หิ ชีวิตํ ยถากมฺมํ คมิสฺสนฺติ         ปุญฺญปาปผลูปคา นิรยํ ปาปกมฺมนฺตา          ปุญฺญกมฺมา จ สุคตึ ตสฺมา กเรยฺย กลฺยาณํ       นิจยํ สมฺปรายิกํ ปุญฺญานิ ปรโลกสฺมึ   …

วิสาขามหาอุบาสิกา (ผู้ถึงฝั่งนิพพาน) Read More »

เมณฑกเศรษฐี ผู้ใจบุญ (๓)

เมณฑกเศรษฐีผู้ใจบุญ (๓) เหล็กกล้ากว่าจะเป็นเหล็กกล้าขึ้นมาได้ ต้องทนอยู่ในเตาหลอมที่มีความร้อนสูง และถูกตีกระหนํ่าแล้วกระหนํ่าอีก เพื่อให้ได้รูปทรงที่สมบูรณ์ทนทานเหมาะที่จะเป็นอาวุธคู่มือของขุนศึก คนเราก็เช่นกัน ถ้าต้องการประสบความสำเร็จก็ต้องไม่กลัวลำบาก และต้องเตรียมใจไว้ให้พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ทุกชนิด ไม่ว่าจะดีหรือร้าย โดยเมื่อตั้งใจจะทำสิ่งใด จงทำสิ่งนั้นให้สำเร็จ และทำให้ดีที่สุด จะได้เป็นผังสำเร็จของชีวิตติดตัวไปข้ามภพข้ามชาติ โดยเฉพาะเมื่อเรามีความตั้งใจ และปรารถนาจะเข้าถึงธรรม ก็ต้องทุ่มเทชีวิตจิตใจ รู้จักให้เวลาและโอกาสกับตัวเองในการที่จะได้ประพฤติปฏิบัติธรรมให้ได้มากๆ มีวาระพระบาลีที่ปรากฏใน โกสิยชาดก ว่า “ทาน ผู้ให้ให้ได้ยาก เพราะต้องครอบงำความตระหนี่ก่อนแล้วจึงให้ได้ การทำทานนั้น เป็นสิ่งที่ทำได้ยากโดยแท้ อสัตบุรุษทั้งหลายย่อมไม่ทำทานตามที่สัตบุรุษทำแล้ว เพราะเหตุนั้น การไปจากโลกนี้ของสัตบุรุษกับอสัตบุรุษจึงต่างกัน อสัตบุรุษย่อมไปนรก สัตบุรุษย่อมไปสวรรค์” การทำทานไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะทำกันได้ง่ายๆ เพราะต้องเริ่มต้นกันที่จิตใจว่าจะกล้าหาญ เพื่อสลัดความตระหนี่ออกจากใจได้หรือไม่ ใจต้องรบชนะความโลภให้ได้เสียก่อน ท่านผู้รู้กล่าวถึงทานกับการรบไว้ว่ามีสภาพเสมอกันคือ นักรบแม้จะมีกำลังพลน้อย หากทุ่มเทชีวิตจิตใจ ใช้สติปัญญาแก้ไขปัญหา ชำนาญในการยุทธ์ ก็สามารถมีชัยต่อข้าศึกที่มีจำนวนมากกว่าได้ เจตนาเครื่องบริจาคก็เหมือนกัน แม้จะน้อย ย่อมชนะหมู่กิเลสมากได้ เพราะวัตถุประสงค์ในการบริจาค เพื่อจะเอาชนะความตระหนี่ในตัวของเขาเอง ไม่ใช่เพื่อเอาชนะคนอื่น เพราะฉะนั้น บัณฑิตผู้มองเห็นประโยชน์ที่จะได้รับในปรโลก จึงสามารถสละไทยธรรมที่ตนเองมีแม้เพียงเล็กน้อยได้ ส่วนผู้ไม่รู้ทั้งหลาย แม้จะมีทรัพย์สินเงินทองมากมายก่ายกองก็ให้ไม่ได้ เพราะถูกความตระหนี่ครอบงำใจไว้ เป็นผู้มีความโลภอยู่ในขันธสันดาน จึงไม่สามารถให้ทาน …

เมณฑกเศรษฐี ผู้ใจบุญ (๓) Read More »

เมณฑกเศรษฐี ผู้ใจบุญ (๔)

เมณฑกเศรษฐีผู้ใจบุญ (๔) การดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความรีบร้อน รีบเร่ง และสับสนวุ่นวายนี้  จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีศิลปะในการดำเนินชีวิตให้มีความสุข  อารมณ์สบาย จัดเป็นศิลปะชั้นสูงในการดำเนินชีวิตให้มีความสุข เป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา เพราะการสร้างอารมณ์สบายให้ต่อเนื่อง เป็นสิ่งที่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้ง่ายๆ อย่างที่เราคาดไม่ถึง เพียงแค่ทำใจนิ่งๆ เฉยๆ อย่างสบายๆ ไว้ที่ศูนย์กลางกายภายในตัว ทำไปเรื่อยๆ อย่างเพลิดเพลิน ด้วยความพึงพอใจ โดยไม่ต้องคิดอะไรทั้งสิ้น ในไม่ช้าเราจะเข้าถึงอารมณ์สบายอย่างแท้จริง อันจะนำมาซึ่งความสุขที่ถาวรตลอดไป อารมณ์ดี อารมณ์เดียว อารมณ์สบาย จะทำให้พบความสุขอย่างง่ายดายอย่างน่าอัศจรรย์ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน ทานสูตร ว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ทายกก่อนให้ทานเป็นผู้ดีใจ กำลังให้ทานอยู่ ย่อมยังจิตให้เลื่อมใส ครั้นให้ทานแล้วย่อมปลื้มใจ นี้คือองค์ ๓ ของทายก องค์ ๓ ของปฏิคาหกเป็นไฉน ? ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ปฏิคาหกในศาสนานี้ เป็นผู้ปราศจากราคะหรือปฏิบัติเพื่อกำจัดราคะ เป็นผู้ปราศจากโทสะ หรือปฏิบัติเพื่อกำจัดโทสะ เป็นผู้ปราศจากโมหะ หรือปฏิบัติเพื่อกำจัดโมหะ นี้องค์ ๓ ของปฏิคาหก  ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การถือประมาณบุญแห่งทักษิณาทานที่ประกอบด้วยองค์ ๖ ประการอย่างนี้ว่า …

เมณฑกเศรษฐี ผู้ใจบุญ (๔) Read More »

เมณฑกเศรษฐี ผู้ใจบุญ (๕)

เมณฑกเศรษฐีผู้ใจบุญ (๕) ในสมรภูมิรบที่มากด้วยอันตรายนั้น ทหารเมื่ออยู่ในหลุมหลบภัยย่อมปลอดภัยจากอาวุธร้ายของศัตรูฉันใด ในสมรภูมิชีวิตที่มากด้วยความทุกข์นั้น ผู้มีใจหยุดนิ่งที่ศูนย์กลางกาย ย่อมปลอดภัยจากทุกข์ทั้งปวงฉันนั้น ศูนย์กลางกายเป็นเสมือนหลุมหลบภัยของใจที่จะคอยป้องกันภัยจากปัญหา และอุปสรรคต่างๆ นานาในชีวิตที่เกิดขึ้นกับใจ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องรักษาใจให้หยุดนิ่ง ณ ภายในศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ และเมื่อใจหยุดนิ่ง กระแสแห่งความสุขความชุ่มเย็นภายใน จะหล่อเลี้ยงใจให้มีความสดชื่นเบิกบาน มีความสว่างไสว จนกระทั่งเห็นหนทางที่จะดำเนินเข้าไปสู่ภายใน ถึงพระรัตนตรัยได้อย่างแจ่มกระจ่าง ฉะนั้น ใจหยุดนิ่งจึงเป็นหลักสำคัญของชีวิต พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน ทานสูตร ว่า “ถ้าหากว่าสรรพสัตว์พึงรู้ผลแห่งการจำแนกทาน เหมือนอย่างที่พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้แสวงหาคุณอันใหญ่ตรัสแล้ว รู้โดยวิธีที่ผลนั้น เป็นผลใหญ่ไซร้ สัตว์ทั้งหลายพึงกำจัดความตระหนี่อันเป็นมลทินเสีย มีใจผ่องใส พึงให้ทานที่ให้แล้วมีผลมาก” การทำบุญให้ถูกหลักวิชชาเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะการจะได้รับผลานิสงส์อันยิ่งใหญ่ไพศาลหรือไม่นั้น ต้องดูกันที่การประกอบเหตุว่า ทำบุญถูกหลักวิชชาหรือไม่ ทำบุญกับใคร และเจตนาในการให้เป็นอย่างไร ในคัมภีร์ท่านได้กล่าวถึงเจตนาในการให้ทานของคนในโลกนี้ไว้หลายอย่างด้วยกัน คือบางคนให้ทานเพราะชอบพอกัน บางคนให้ทานเพราะความโลภ หวังจะได้ผลตอบแทน คือเมื่อให้ไปแล้ว ก็หวังว่าเขาจะให้ตอบแทนกลับมา บางคนให้ทานเพราะความโกรธ จึงให้ไปแบบประชดประชัน บางคนให้ทานเพราะความกลัว ถ้าไม่ให้ก็กลัวเขาติเตียน บางคนให้ทานเพราะนึกว่าบิดา มารดา ปู่ ย่า ตา ยาย …

เมณฑกเศรษฐี ผู้ใจบุญ (๕) Read More »