ธรรมะเพื่อประชาชน

เมณฑกเศรษฐี ผู้ใจบุญ (๑)

เมณฑกเศรษฐีผู้ใจบุญ (๑) พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เข้าถึงและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับกายธรรมอรหัต เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานแล้ว ผู้บริสุทธิ์หลุดพ้นแล้วจากอาสวกิเลส กิจที่จะทำยิ่งกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว ในฐานะที่พวกเราเป็นสาวกของพระพุทธองค์ ควรจะต้องดำเนินรอยตามพระองค์ โดยใช้วันเวลาที่เหลืออยู่อย่างจำกัดนี้ สร้างบารมีทำความดีให้มีความบริสุทธิ์กาย วาจา ใจ เพราะเรายังมีกิจที่จะต้องทำให้รู้แจ้งให้ได้ว่า เราเกิดมาจากไหน มาทำไม อะไรคือเป้าหมายที่แท้จริงของชีวิต และจะไปสู่เป้าหมายนั้นได้อย่างไร ดังนั้น ทุกท่านจึงควรหมั่นฝึกฝนอบรมจิตใจให้หยุดนิ่ง จนกระทั่งได้เข้าไปถึงผู้รู้แจ้งภายในคือ พระธรรมกายให้ได้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน ขุททกนิกาย ชาดก ว่า “ปุญฺญานิ ปรโลกสฺมึ    ปติฏฺฐา โหนฺติ ปาณินํ บุญทั้งหลาย เป็นที่พึ่งของสรรพสัตว์ทั้งหลายในปรโลก” บุญคือบ่อเกิดแห่งความสุขและความสำเร็จในชีวิต และเป็นสิ่งที่ช่วยต่อเติมความปรารถนาให้สมหวังได้ เหมือนในการเดินทางไกลในภพชาตินี้ เราจำเป็นต้องมีเสบียงติดตัวไป เพื่อหล่อเลี้ยงสังขารให้ดำรงอยู่ได้ การเดินทางไปสู่ปรโลก จำเป็นต้องมีเสบียงคือบุญติดตัวไปด้วย จะได้ช่วยอุ้มชูชีวิตในสัมปรายภพ ให้พบกับความสุขสวัสดี หรือแม้กระทั่งการบรรลุมรรคผลนิพพาน ต้องอาศัยบุญ บุญบารมีส่งผลให้มีฤทธิ์มีเดช มีอานุภาพ สามารถขจัดกิเลสอาสวะทั้งหลายออกจากใจของเราได้ เพราะฉะนั้น บุญ คือเบื้องหลังแห่งความสำเร็จทั้งปวง และยังช่วยชำระใจของเราให้ใสสะอาดบริสุทธิ์ เป็นเครื่องดึงดูดมหาสมบัติทั้งหลาย การทำบุญเป็นสิ่งที่สำคัญต่อชีวิตเรามาก ถ้าดวงบุญในตัวของเราหมองลง …

เมณฑกเศรษฐี ผู้ใจบุญ (๑) Read More »

วิสาขามหาอุบาสิกา (มหาปราสาท)

วิสาขามหาอุบาสิกา (มหาปราสาท) บนเส้นทางของการสร้างบารมี เพื่อจะก้าวไปสู่จุดหมายปลายทางคือ อายตนนิพพานนั้น เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเข้าไปข้องเกี่ยวกับคน สัตว์ และสิ่งของ แต่ถ้าหากเราหมั่นตอกยํ้าเป้าหมายให้มั่นคง มีอุดมการณ์ และมโนปณิธานที่ชัดเจน เราจะไม่ไปหลงมัวเมายึดติดในสิ่งต่างๆ เหล่านั้น ไม่หลงใหลในเบญจกามคุณคือ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส และธรรมารมณ์ที่มากระทบใจ ซึ่งเป็นอุปสรรคที่จะทำให้เราเหินห่างจากหนทางการสร้างบารมี การปฏิบัติธรรมเป็นการฝึกฝนอบรมใจของเราให้หยุดให้นิ่ง เป็นวิธีการที่จะกลั่นใจให้ใส สะอาด บริสุทธิ์ ใจที่ผ่องใสจะทำให้เรามองเห็นชีวิตไปตามความเป็นจริง และหากรู้เช่นนี้ เราจะได้ทุ่มเทสร้างบารมีกันอย่างเต็มที่ จนกว่าจะบรรลุถึงจุดหมายปลายทางคือ อายตนนิพพาน พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัสไว้ใน มหาปนาทชาดก ว่า “ปนาโท นาม โส ราชา      ยสฺส ยูโป สุวณฺณิโย ติริยํ โสฬสุพฺเพโธ          อุจฺจมาหุ สหสฺสธา สหสฺสกณฺโฑ สตเคณฺฑุ    ธชาลุ หริตามโย …

วิสาขามหาอุบาสิกา (มหาปราสาท) Read More »

เมณฑกเศรษฐี ผู้ใจบุญ (๒)

เมณฑกเศรษฐีผู้ใจบุญ (๒) การที่โลกของเราดำรงอยู่ได้ทุกวันนี้ ก็เพราะการให้ คือยิ่งให้ก็ยิ่งได้ ยิ่งให้คุณธรรมจะยิ่งเพิ่มพูน การให้เป็นการสร้างความดีที่ง่ายที่สุด และส่งผลดีให้กับชีวิตอย่างมากมายมหาศาล จะทำให้เป็นผู้มีชีวิตที่อุดมสมบูรณ์ ประสบแต่ความสุขความสำเร็จตลอดไป การให้ที่จะให้ได้ผลเต็มที่นั้น  ผู้ให้ต้องเอาชนะใจตนเองให้ได้เสียก่อน ต้องขจัดความตระหนี่ออกจากใจ แล้วให้ด้วยความปลื้มปีติยินดี มีใจเลื่อมใส มีความบริสุทธิ์ใจ ทั้งเวลาก่อนจะให้ ขณะให้ และหลังจากให้ก็หมั่นตามระลึกนึกถึงบุญ บุญนั้นจะไปดึงดูดมหาสมบัติ และชำระใจให้ผ่องใส ใจที่ผ่องใสเท่านั้นเป็นใจที่เหมาะสมแก่การเจริญสมาธิภาวนา ทำให้เราได้เข้าถึงพระรัตนตรัยภายใน และความสุขที่แท้จริงได้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน ปฐมทานสูตร ว่า “อทนฺตทมนํ ทานํ         อทานํ ทนฺตทูสกํ การให้ทาน เป็นเครื่องฝึกจิตที่ยังไม่ได้ฝึก การไม่ให้ทาน เป็นเครื่องประทุษร้ายจิตที่ฝึกแล้ว” ผู้ที่รักในการฝึกฝนอบรมตนเองอย่างแท้จริง จะต้องมีการเริ่มต้นที่การฝึกจิตกันก่อน เพราะการฝึกจิตเป็นสิ่งที่ดีที่สุด และสามารถนำความสุขมาให้ โดยเฉพาะความสุขที่เกิดจากการได้บรรลุมรรคผลในขั้นต่างๆ การฝึกจิตให้มีคุณภาพสามารถทำได้หลายวิธีด้วยกัน เช่น การนั่งสมาธิเจริญภาวนา การรักษาศีลให้สะอาดบริสุทธิ์ และการให้ทานซึ่งถือว่าเป็นการฝึกจิตอีกวิธีหนึ่ง เป็นก้าวแรกของการพัฒนาจิตอย่างแท้จริง เป็นการฝึกฝนใจให้ปลอดจากความโลภนั่นเอง ตามปกติแล้ว มนุษย์จะมีความโลภ ความอยากได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ฉะนั้น เมื่อเริ่มฝึกจิตด้วยการให้ ใจจะขยายออกไป …

เมณฑกเศรษฐี ผู้ใจบุญ (๒) Read More »

วิสาขามหาอุบาสิกา (ผู้ถึงฝั่งนิพพาน)

วิสาขามหาอุบาสิกา (ผู้ถึงฝั่งนิพพาน) พุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ และสังฆานุภาพ เป็นอานุภาพที่ไม่มีประมาณ เพราะเป็นอจินไตย อยู่เหนือวิสัยของผู้ที่ใจยังไม่หยุด ซึ่งจะให้เข้าใจด้วยการนึกคิดตามหลักตรรกวิทยา หรือศาสตร์ต่างๆ ที่มีอยู่ในโลกนี้ก็ไม่ได้ เพราะเป็นศาสตร์เฉพาะของผู้รู้แจ้งเท่านั้น ผู้ที่ทำจิตให้เลื่อมใสในพระรัตนตรัย มักจะพบกับอานุภาพของพระรัตนตรัยอยู่เสมอ พบแต่เรื่องอัศจรรย์จนกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดา และหากใจเราหยุดนิ่งเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับพระรัตนตรัย เราจะมีความบริสุทธิ์ และมีอานุภาพตามไปด้วย เพราะไม่มีสิ่งใดที่จะยิ่งใหญ่หรือเทียบเท่าพระรัตนตรัยได้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน อัยยิกาสูตร ว่า “สพฺเพ สตฺตา มริสฺสนฺติ     มรณนฺตํ หิ ชีวิตํ ยถากมฺมํ คมิสฺสนฺติ         ปุญฺญปาปผลูปคา นิรยํ ปาปกมฺมนฺตา          ปุญฺญกมฺมา จ สุคตึ ตสฺมา กเรยฺย กลฺยาณํ       นิจยํ สมฺปรายิกํ ปุญฺญานิ ปรโลกสฺมึ   …

วิสาขามหาอุบาสิกา (ผู้ถึงฝั่งนิพพาน) Read More »

เมณฑกเศรษฐี ผู้ใจบุญ (๓)

เมณฑกเศรษฐีผู้ใจบุญ (๓) เหล็กกล้ากว่าจะเป็นเหล็กกล้าขึ้นมาได้ ต้องทนอยู่ในเตาหลอมที่มีความร้อนสูง และถูกตีกระหนํ่าแล้วกระหนํ่าอีก เพื่อให้ได้รูปทรงที่สมบูรณ์ทนทานเหมาะที่จะเป็นอาวุธคู่มือของขุนศึก คนเราก็เช่นกัน ถ้าต้องการประสบความสำเร็จก็ต้องไม่กลัวลำบาก และต้องเตรียมใจไว้ให้พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ทุกชนิด ไม่ว่าจะดีหรือร้าย โดยเมื่อตั้งใจจะทำสิ่งใด จงทำสิ่งนั้นให้สำเร็จ และทำให้ดีที่สุด จะได้เป็นผังสำเร็จของชีวิตติดตัวไปข้ามภพข้ามชาติ โดยเฉพาะเมื่อเรามีความตั้งใจ และปรารถนาจะเข้าถึงธรรม ก็ต้องทุ่มเทชีวิตจิตใจ รู้จักให้เวลาและโอกาสกับตัวเองในการที่จะได้ประพฤติปฏิบัติธรรมให้ได้มากๆ มีวาระพระบาลีที่ปรากฏใน โกสิยชาดก ว่า “ทาน ผู้ให้ให้ได้ยาก เพราะต้องครอบงำความตระหนี่ก่อนแล้วจึงให้ได้ การทำทานนั้น เป็นสิ่งที่ทำได้ยากโดยแท้ อสัตบุรุษทั้งหลายย่อมไม่ทำทานตามที่สัตบุรุษทำแล้ว เพราะเหตุนั้น การไปจากโลกนี้ของสัตบุรุษกับอสัตบุรุษจึงต่างกัน อสัตบุรุษย่อมไปนรก สัตบุรุษย่อมไปสวรรค์” การทำทานไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะทำกันได้ง่ายๆ เพราะต้องเริ่มต้นกันที่จิตใจว่าจะกล้าหาญ เพื่อสลัดความตระหนี่ออกจากใจได้หรือไม่ ใจต้องรบชนะความโลภให้ได้เสียก่อน ท่านผู้รู้กล่าวถึงทานกับการรบไว้ว่ามีสภาพเสมอกันคือ นักรบแม้จะมีกำลังพลน้อย หากทุ่มเทชีวิตจิตใจ ใช้สติปัญญาแก้ไขปัญหา ชำนาญในการยุทธ์ ก็สามารถมีชัยต่อข้าศึกที่มีจำนวนมากกว่าได้ เจตนาเครื่องบริจาคก็เหมือนกัน แม้จะน้อย ย่อมชนะหมู่กิเลสมากได้ เพราะวัตถุประสงค์ในการบริจาค เพื่อจะเอาชนะความตระหนี่ในตัวของเขาเอง ไม่ใช่เพื่อเอาชนะคนอื่น เพราะฉะนั้น บัณฑิตผู้มองเห็นประโยชน์ที่จะได้รับในปรโลก จึงสามารถสละไทยธรรมที่ตนเองมีแม้เพียงเล็กน้อยได้ ส่วนผู้ไม่รู้ทั้งหลาย แม้จะมีทรัพย์สินเงินทองมากมายก่ายกองก็ให้ไม่ได้ เพราะถูกความตระหนี่ครอบงำใจไว้ เป็นผู้มีความโลภอยู่ในขันธสันดาน จึงไม่สามารถให้ทาน …

เมณฑกเศรษฐี ผู้ใจบุญ (๓) Read More »

เมณฑกเศรษฐี ผู้ใจบุญ (๔)

เมณฑกเศรษฐีผู้ใจบุญ (๔) การดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความรีบร้อน รีบเร่ง และสับสนวุ่นวายนี้  จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีศิลปะในการดำเนินชีวิตให้มีความสุข  อารมณ์สบาย จัดเป็นศิลปะชั้นสูงในการดำเนินชีวิตให้มีความสุข เป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา เพราะการสร้างอารมณ์สบายให้ต่อเนื่อง เป็นสิ่งที่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้ง่ายๆ อย่างที่เราคาดไม่ถึง เพียงแค่ทำใจนิ่งๆ เฉยๆ อย่างสบายๆ ไว้ที่ศูนย์กลางกายภายในตัว ทำไปเรื่อยๆ อย่างเพลิดเพลิน ด้วยความพึงพอใจ โดยไม่ต้องคิดอะไรทั้งสิ้น ในไม่ช้าเราจะเข้าถึงอารมณ์สบายอย่างแท้จริง อันจะนำมาซึ่งความสุขที่ถาวรตลอดไป อารมณ์ดี อารมณ์เดียว อารมณ์สบาย จะทำให้พบความสุขอย่างง่ายดายอย่างน่าอัศจรรย์ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน ทานสูตร ว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ทายกก่อนให้ทานเป็นผู้ดีใจ กำลังให้ทานอยู่ ย่อมยังจิตให้เลื่อมใส ครั้นให้ทานแล้วย่อมปลื้มใจ นี้คือองค์ ๓ ของทายก องค์ ๓ ของปฏิคาหกเป็นไฉน ? ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ปฏิคาหกในศาสนานี้ เป็นผู้ปราศจากราคะหรือปฏิบัติเพื่อกำจัดราคะ เป็นผู้ปราศจากโทสะ หรือปฏิบัติเพื่อกำจัดโทสะ เป็นผู้ปราศจากโมหะ หรือปฏิบัติเพื่อกำจัดโมหะ นี้องค์ ๓ ของปฏิคาหก  ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การถือประมาณบุญแห่งทักษิณาทานที่ประกอบด้วยองค์ ๖ ประการอย่างนี้ว่า …

เมณฑกเศรษฐี ผู้ใจบุญ (๔) Read More »

เมณฑกเศรษฐี ผู้ใจบุญ (๕)

เมณฑกเศรษฐีผู้ใจบุญ (๕) ในสมรภูมิรบที่มากด้วยอันตรายนั้น ทหารเมื่ออยู่ในหลุมหลบภัยย่อมปลอดภัยจากอาวุธร้ายของศัตรูฉันใด ในสมรภูมิชีวิตที่มากด้วยความทุกข์นั้น ผู้มีใจหยุดนิ่งที่ศูนย์กลางกาย ย่อมปลอดภัยจากทุกข์ทั้งปวงฉันนั้น ศูนย์กลางกายเป็นเสมือนหลุมหลบภัยของใจที่จะคอยป้องกันภัยจากปัญหา และอุปสรรคต่างๆ นานาในชีวิตที่เกิดขึ้นกับใจ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องรักษาใจให้หยุดนิ่ง ณ ภายในศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ และเมื่อใจหยุดนิ่ง กระแสแห่งความสุขความชุ่มเย็นภายใน จะหล่อเลี้ยงใจให้มีความสดชื่นเบิกบาน มีความสว่างไสว จนกระทั่งเห็นหนทางที่จะดำเนินเข้าไปสู่ภายใน ถึงพระรัตนตรัยได้อย่างแจ่มกระจ่าง ฉะนั้น ใจหยุดนิ่งจึงเป็นหลักสำคัญของชีวิต พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน ทานสูตร ว่า “ถ้าหากว่าสรรพสัตว์พึงรู้ผลแห่งการจำแนกทาน เหมือนอย่างที่พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้แสวงหาคุณอันใหญ่ตรัสแล้ว รู้โดยวิธีที่ผลนั้น เป็นผลใหญ่ไซร้ สัตว์ทั้งหลายพึงกำจัดความตระหนี่อันเป็นมลทินเสีย มีใจผ่องใส พึงให้ทานที่ให้แล้วมีผลมาก” การทำบุญให้ถูกหลักวิชชาเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะการจะได้รับผลานิสงส์อันยิ่งใหญ่ไพศาลหรือไม่นั้น ต้องดูกันที่การประกอบเหตุว่า ทำบุญถูกหลักวิชชาหรือไม่ ทำบุญกับใคร และเจตนาในการให้เป็นอย่างไร ในคัมภีร์ท่านได้กล่าวถึงเจตนาในการให้ทานของคนในโลกนี้ไว้หลายอย่างด้วยกัน คือบางคนให้ทานเพราะชอบพอกัน บางคนให้ทานเพราะความโลภ หวังจะได้ผลตอบแทน คือเมื่อให้ไปแล้ว ก็หวังว่าเขาจะให้ตอบแทนกลับมา บางคนให้ทานเพราะความโกรธ จึงให้ไปแบบประชดประชัน บางคนให้ทานเพราะความกลัว ถ้าไม่ให้ก็กลัวเขาติเตียน บางคนให้ทานเพราะนึกว่าบิดา มารดา ปู่ ย่า ตา ยาย …

เมณฑกเศรษฐี ผู้ใจบุญ (๕) Read More »

เมณฑกเศรษฐี ผู้ใจบุญ (๖)

เมณฑกเศรษฐีผู้ใจบุญ (๖) วันเวลาที่หมุนเวียนเปลี่ยนไป ทำให้สรรพสิ่งเปลี่ยนแปลง ชีวิตก็ผันแปร จากวัยเด็ก วัยรุ่น วัยหนุ่มสาวที่เต็มเปี่ยมด้วยพลัง ก็ค่อยๆ ร่วงโรย ดุจดวงอาทิตย์เคลื่อนคล้อยในยามอัสดง แต่สิ่งหนึ่งที่ยังมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาคือ เป้าหมายและมโนปณิธานอันแน่วแน่ วันเวลาที่ผ่านมา บางคนก็มีความภาคภูมิใจในชีวิต แต่บางคนกลับรู้สึกเสียดายเวลาและโอกาสดีๆ ที่ผ่านไป แต่ไม่มีคำว่าสายเกินไปสำหรับการสร้างความดี เราสามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้เสมอ ด้วยการทำสิ่งใหม่ๆ ที่ดีๆ ที่ทำให้ใจสงบสุข พลิกใจที่ห่อเหี่ยวให้กลับมาสดชื่น ยกใจที่อ่อนล้าให้หันมากล้าแกร่ง และกล้าเผชิญหน้ากับความจริง ไม่ยอมพ่ายแพ้ต่ออุปสรรค ให้ถือว่าอุปสรรคเป็นเสมือนบทเรียนของชีวิต ที่ทุกคนต้องเรียนรู้ และก้าวข้ามไปให้ได้ โดยเฉพาะการไปสู่ฝั่งพระนิพพานนั้น จะต้องก้าวข้ามอุปสรรคอันยิ่งใหญ่คือสังสารวัฏ เอาชนะกิเลสอาสวะทั้งปวง ด้วยการหมั่นเจริญสมาธิภาวนา ทำใจหยุดนิ่งเป็นประจำสมํ่าเสมอ มีสุภาษิตที่ปรากฏในอรรถกถา ขุททกนิกาย ธรรมบท ว่า “ธรรมดาพวกมนุษย์ ย่อมไปสู่สำนักของพวกมนุษย์ พวกโคก็ไปสู่ฝูงโค บรรพชิตก็ไปสู่สำนักของบรรพชิต บัณฑิตก็เข้าไปหาพวกบัณฑิต” ธรรมดาของสรรพสัตว์ที่เกิดมาในโลกนี้ จะคบหาสมาคมหรือเข้าหากันได้ตามธาตุธรรมคือ มีจริตอัธยาศัย อนุสัย และอาสยะตรงกัน จริตคือความประพฤติ ที่เป็นไปทางกาย วาจา ใจ มีทั้งสุจริตและทุจริต  อัธยาศัยของหมู่สัตว์แต่ละประเภทก็ไม่เหมือนกัน มีทั้งที่น้อมไปในทางที่ดีและไม่ดี  …

เมณฑกเศรษฐี ผู้ใจบุญ (๖) Read More »

เมณฑกเศรษฐี ผู้ใจบุญ (๗)

เมณฑกเศรษฐีผู้ใจบุญ (๗) ชีวิตของคนเราที่เกิดมา บางครั้งก็ประสบความสำเร็จ บางครั้งก็ต้องประสบกับความทุกข์ ความล้มเหลว อย่างไรก็ตาม ขอเพียงแต่ให้เรามีพลังใจที่เข้มแข็ง กล้าหาญ อดทน พร้อมที่จะเผชิญกับอุปสรรค และปัญหาทั้งหลาย แล้วหมั่นสั่งสมความดีอย่างไม่ย่อท้อ และตรึกระลึกถึงบุญที่ทำไว้อยู่เสมอ บุญนั้นจะช่วยเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส ช่วยขจัดปัญหาที่มีอยู่ให้หมดสิ้นไป ดังนั้น อย่าเสียเวลาไปท้อแท้ใจ หรือหมดกำลังใจ แต่ให้มีสติสัมปชัญญะ และรู้จักใช้ปัญญาในการแก้ปัญหา ยามใดที่เราพบเจอปัญหา ใหัน้อมนำใจกลับมาตั้งไว้ที่ต้นแหล่งแห่งบุญคือ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ทำใจให้หยุดนิ่งอย่างเบาสบาย  เมื่อใจสงบเราจะพบทางออกที่ดีที่สุดได้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน ทานสูตร ว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถ้าว่าสัตว์ทั้งหลายพึงรู้ผลแห่งการจำแนกทานเหมือนอย่างที่เรารู้ไซร้ สัตว์ทั้งหลายยังไม่ให้และจะไม่พึงบริโภค อนึ่ง ความตระหนี่อันเป็นมลทินจะไม่พึงครอบงำจิตของสัตว์เหล่านั้น ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย แต่เพราะสัตว์ทั้งหลายไม่รู้ผลแห่งการจำแนกทานเหมือนอย่างที่เรารู้ ฉะนั้น สัตว์ทั้งหลายจึงไม่ให้ แล้วบริโภคเสียเอง อนึ่ง ความตระหนี่อันเป็นมลทินจึงยังครอบงำจิตของสัตว์เหล่านั้น” ที่ผ่านมาหลวงพ่อได้นำอัตชีวประวัติโดยพิสดารของมหาเศรษฐีผู้มีสมบัติจักรพรรดิตักไม่พร่องคือ ท่านเมณฑกเศรษฐี มากล่าวไว้ให้ได้รับทราบติดต่อกันแล้วหลายตอน เพื่อให้ตระหนักถึงอานิสงส์ของการให้ทาน ว่ามีอิทธิพลต่อชีวิตในสังสารวัฏอย่างมาก ท่านเมณฑกเศรษฐีเห็นคุณค่าของการให้ทานยิ่งกว่าชีวิต  นับว่าเป็นบุคคลผู้กล้าที่หาได้ยากในโลก ท่านยอมสละชีวิตเพื่อแลกกับการให้ทาน เพราะฉะนั้น เมื่อท่านทำในสิ่งที่ทำได้โดยยาก ชีวิตของท่านจึงได้ในสิ่งที่คนทั่วไปได้โดยยาก ในครั้งนี้ก็มาถึงตอนสุดท้ายกันแล้ว จากครั้งที่แล้ว …

เมณฑกเศรษฐี ผู้ใจบุญ (๗) Read More »

ชฎิลเศรษฐี ผู้มีภูเขาทอง

ชฎิลเศรษฐี ผู้มีภูเขาทอง การปฏิบัติธรรมเป็นสิ่งสำคัญที่สุดทั้งต่อตัวของเราเองและต่อชาวโลก การสร้างสันติสุขที่แท้จริงให้บังเกิดขึ้น จะต้องเริ่มต้นจากตัวของมนุษย์ทุกๆ คน เพราะทุกคนมีธรรมกายอยู่ภายในตัว ไม่ว่าจะเป็นชาติไหน ภาษาไหน หรือจะมีความเชื่ออย่างไร ขึ้นชื่อว่าเป็นมนุษย์แล้ว สามารถเข้าถึงธรรมกายได้ทั้งนั้น และจะเข้าถึงได้ก็ต่อเมื่อฝึกฝนใจให้หยุดนิ่งอย่างถูกวิธี ณ ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ขอเพียงมีความพอใจ และมีความเพียรอย่างสมํ่าเสมอ ย่อมเข้าถึงได้ทุกคน มีวาระพระบาลีที่มีมาใน ขุททกนิกาย สคาถวรรค ว่า “สาธุ โข มาริส ทานํ    อปฺปกสฺมึปิ สาหุ ทานํ สทฺธายปิ สาหุ ทานํ    ธมฺมลทฺธสฺสปิ สาหุ ทานํ วิเจยฺยทานํปิ สาธุ      อปิจ ปาเณสุปิ สาธุ สํยโม ข้าแต่พระองค์ผู้ไม่มีทุกข์ ทานยังประโยชน์ให้สำเร็จได้แล แม้เมื่อของที่จะให้มีอยู่น้อย ทานก็ยังประโยชน์ให้สำเร็จได้ การให้ทานที่ให้แม้ด้วยศรัทธาก็ให้ประโยชน์สำเร็จได้ ทานที่ให้แก่บุคคลผู้มีธรรมอันได้แล้ว ยิ่งเป็นการดี อนึ่ง ทานที่บุคคลเลือกให้ ยิ่งเป็นการดี และความสำรวมแม้ในสัตว์ทั้งหลายยิ่งเป็นการดี” …

ชฎิลเศรษฐี ผู้มีภูเขาทอง Read More »

ปุณณเศรษฐี ผู้ไถนาเป็นทอง

ปุณณเศรษฐี ผู้ไถนาเป็นทอง พระรัตนตรัย คือ พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ และสังฆรัตนะ สามสิ่งนี้เท่านั้นที่เป็นที่พึ่งที่ระลึกอันสูงสุดของเรา ผู้ใดก็ตามระลึกถึงรัตนะทั้งสาม หากยามมีทุกข์ก็สามารถบำบัดทุกข์ เมื่อมีสุขแล้วก็เพิ่มเติมความสุขได้ เพราะพระรัตนตรัยเป็นแหล่งรวมแห่งความสุข ความบันเทิง ความเบิกบานใจ ซึ่งมีอยู่ภายในตัวของเราทุกๆ คน หากทุกคนในโลกเข้าถึงสรณะอันสูงสุดนี้ได้ ความทุกข์ทั้งหลายจะดับหมด เพราะได้เข้าถึงความสุขที่แท้จริง ที่ท่านเรียกว่า เอกันตบรมสุข คือเป็นสุขล้วนๆ ไม่มีทุกข์เจือปนเลย การจะเข้าถึงรัตนะทั้งสามนี้ได้ ต้องทำใจให้หยุดนิ่งที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ เท่านั้น มีวาระพระบาลีที่ปรากฏใน ขุททกนิกาย ธรรมบท ว่า “ตสฺมา วิเนยฺย มจฺเฉรํ    ทชฺชา ทานํ มลาภิภู ปุญฺญานิ ปรโลกสฺมึ      ปติฏฺฐา โหนฺติ ปาณินํ บุคคลควรกำจัดความตระหนี่อันเป็นสนิมในใจ ให้ทานเถิด เพราะบุญทั้งหลาย ย่อมเป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งหลายในโลกหน้า” การให้เป็นอริยะประเพณีที่ผู้รู้ทรงสรรเสริญ แม้เราจะรู้ว่าการให้ทานเป็นสิ่งที่ดี แต่การทำทานที่จะให้ได้ผลมาก เป็นมหาทานบารมีนั้น ผู้ให้จะต้องรู้จักวิธีการให้ทานที่ถูกต้อง และทำถูกเนื้อนาบุญด้วย การทำทานที่จะให้ได้ผลมาก ใจของเราจะต้องใสสะอาดบริสุทธิ์ …

ปุณณเศรษฐี ผู้ไถนาเป็นทอง Read More »

มหาเศรษฐีกากวฬิยะ

มหาเศรษฐีกากวฬิยะ สรรพสัตว์ทั้งหลายต่างมีเวลาที่เสียไปวันละ ๒๔ ชั่วโมงเท่ากัน แต่สิ่งที่ได้กลับคืนมานั้นไม่เท่ากัน บางคนได้บุญเพิ่มขึ้น บางคนได้บาปอกุศลเพิ่มขึ้น หากคิดว่า เราจะมีชีวิตอยู่อีกยาวนาน นั่นเป็นสิ่งที่เราคิดเอง เพราะในความเป็นจริง อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน เราไม่อาจรู้ว่าสังขารร่างกายนี้จะแตกดับเมื่อไร ชีวิตบนโลกใบนี้ไม่ยาวนาน แต่ชีวิตหลังความตายยาวนานยิ่งนัก เราเหลือเวลาอยู่น้อยเต็มที ที่ว่าน้อยนั้นคือ น้อยสำหรับการสร้างบุญบารมี เพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง เพราะฉะนั้น เราต้องใช้เวลาที่เหลืออยู่น้อยนิดนี้ สั่งสมความดีให้เต็มที่ เพื่อความบริสุทธิ์ทั้งทางกาย วาจา และใจ มีวาระพระบาลีที่ปรากฏใน อรรถกถา โลณกสูตร ว่า “ภิกษุทั้งหลาย บาปกรรมแม้ประมาณน้อย ที่บุคคลบางคนทำแล้ว บาปกรรมนั้น ย่อมนำเขาไปนรกได้ บาปกรรมประมาณน้อยอย่างเดียวกันนั้น บางคนทำแล้ว กรรมนั้นเป็นทิฏฐธรรมเวทนียกรรมที่ให้ผลในภพปัจจุบัน” เมื่อมนุษย์ทำบาปกรรมใด กรรมนั้นย่อมส่งผลอย่างแน่นอน เพียงแต่จะส่งผลเร็วหรือช้าเท่านั้น และที่ไปทำอกุศลกรรมต่างๆ เพราะกิเลสเป็นตัวบังคับใจให้เราทำกรรมทั้งทางกาย วาจา และใจ เมื่อทำไปและเกิดวิบากตามมา ซึ่งการส่งผลของกรรมนั้นมีหลักๆ ๓ ชนิด ได้แก่ ทิฏฐธรรมเวทนียกรรม คือ กรรมที่ให้ผลในภพปัจจุบัน อุปปัชชเวทนียกรรม คือกรรมให้ผลในภพถัดไป และอปรปริยายเวทนียกรรม …

มหาเศรษฐีกากวฬิยะ Read More »

วิสาขามหาอุบาสิกา (มหาลดาปสาธน์)

วิสาขามหาอุบาสิกา (มหาลดาปสาธน์) มหาสมบัติทุกอย่างที่บังเกิดขึ้นมาในโลก ไม่ว่าจะมากน้อยเพียงใดก็ตาม บังเกิดขึ้นด้วยอานุภาพแห่งบุญทั้งสิ้น สำหรับนักสร้างบารมีที่ตั้งใจสั่งสมคุณงามความดีมาโดยตลอด ความดีที่เราได้ทำจะกลั่นตัวเป็นดวงบารมีที่ใสสว่าง คอยดึงดูดมหาสมบัติ และสิ่งที่เป็นสิริมงคลทั้งหลายให้บังเกิดขึ้น เพื่อส่งเสริมให้เรามีชีวิตที่เต็มเปี่ยมบริบูรณ์ มีความสุขสมหวังเพราะมีบุญเป็นเบื้องหลังแห่งความสำเร็จ มหาสมบัตินั้นมีทั้งที่เป็นโลกียะ และอริยทรัพย์ ทรัพย์ภายนอกทั้งหลายเป็นโลกียทรัพย์ ส่วนอริยทรัพย์หรือรัตนะภายในก็คือพระธรรมกายในตัวนั่นเอง เป็นอริยทรัพย์ที่ประเสริฐที่สุด เป็นที่พึ่งให้กับเราได้อย่างแท้จริง แต่ว่าก็สำคัญทั้งสองอย่าง เพราะเป็นเครื่องอำนวยความสะดวกในการสร้างบารมี โดยเฉพาะรัตนะภายในนั้น จะเป็นอุปกรณ์อย่างสำคัญที่จะนำเราข้ามพ้นสังสารวัฏไปสู่ฝั่งพระนิพพาน ดังนั้น ให้พวกเราทั้งหลายตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรม  ให้เข้าถึงรัตนะภายในกันทุกๆ คน มีวาระพระบาลีที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ใน สังยุตตนิกาย สคาถวรรค ความว่า “ผู้ที่มาเกิดแล้ว จำจะต้องตายในโลกนี้ ย่อมทำกรรมใดไว้ คือ เป็นบุญและเป็นบาปทั้งสองประการ บุญและบาปนั้นแล เป็นสมบัติของเขา และเขาจะพาเอาบุญและบาปนั้นไปสู่ปรโลก บุญและบาปนั้น ย่อมจะติดตามตัวเขาไป ประดุจเงาติดตามตนไปฉะนั้น เพราะฉะนั้น บุคคลพึงบำเพ็ญบุญ สะสมกรรมดีไว้เป็นสมบัติในปรโลก เพราะว่า บุญทั้งหลายย่อมเป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งหลาย” การเวียนว่ายตายเกิดของสรรพสัตว์ทั้งหลาย ล้วนอยู่ในกระแสแห่งกิเลส กรรม วิบาก กิเลสที่สั่งสมในขันธสันดาน หุ้ม เคลือบ เอิบอาบ ซึมซาบ ปนเป็น …

วิสาขามหาอุบาสิกา (มหาลดาปสาธน์) Read More »

วิสาขามหาอุบาสิกา (โอวาท ๑๐)

วิสาขามหาอุบาสิกา (โอวาท ๑๐) พระรัตนตรัย เป็นที่พึ่งของสรรพสัตว์ทั้งหลาย เป็นหลักของพระพุทธศาสนา ผู้เข้าถึงพระรัตนตรัย จึงได้ชื่อว่าเป็นผู้เข้าถึงแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา พระบรมศาสดาท่านได้เข้าถึงพระรัตนตรัย และเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับกายธรรมอรหัต ได้ตรัสรู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า หมดสิ้นกิเลสอาสวะ มีแต่ความบริสุทธิ์ล้วนๆ จึงเป็นเนื้อนาบุญอันเลิศ ผู้มีจิตเลื่อมใสในพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เลิศ ผลบุญอันเลิศย่อมบังเกิดขึ้นกับบุคคลนั้น และบุญนั้นยังตามส่งผลข้ามภพข้ามชาติไปจนถึงที่สุดแห่งธรรม การทำสมาธิภาวนาด้วยการเจริญพุทธานุสติ มีพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ จึงมีอานิสงส์ใหญ่ควรที่พวกเราทั้งหลายจะต้องฝึกให้เป็นอุปนิสัย แล้วบุญใหญ่ก็จะบังเกิดขึ้นกับเรา มีวาระพระบาลีที่กล่าวไว้ในมงคลสูตรว่า “ปุตฺตทารสฺส สงฺคโห    เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ การสงเคราะห์บุตรและภรรยา เป็นอุดมมงคล” การใช้ชีวิตในการครองเรือน เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ถ้าคู่สามีภรรยาไม่เข้าใจกัน ไม่รู้วิธีผูกรักให้ยั่งยืน ด้วยการสงเคราะห์ซึ่งกันและกันด้วยสังคหวัตถุ ๔ ไม่ช้าก็ต้องแยกจากกันไปคนละทิศละทาง บางคู่ทนอยู่ด้วยกันมา ๑๐ ปีบ้าง ๒๐ ปีบ้าง แต่ในที่สุดก็หย่าร้างกันไป ดังนั้นเมื่อสองคนตัดสินใจที่จะมาครองเรือนร่วมกันแล้ว จำเป็นจะต้องมีธรรมะของผู้ครองเรือน จะมัวเอาแต่ใจตนเองเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว ที่กล่าวเช่นนี้ เพราะไม่อยากให้เกิดการแตกแยกในครอบครัว อยากให้เป็นครอบครัวแก้ว ครอบครัวธรรมกาย ที่ทุกคนมีธรรมะอยู่ในใจ เป็นครอบครัวตัวอย่างของโลก ครอบครัวของนักสร้างบารมี ที่ดำเนินชีวิตเป็นต้นบุญต้นแบบที่ดีให้แก่ชาวโลก ซึ่งพื้นฐานของครอบครัวที่ทำให้สามีภรรยาครองชีวิตกันยืนยาวและมีความสุขนั้น คู่สามีภรรยาต้องมีทิฏฐิเสมอกัน มีศรัทธาเสมอกัน แม้จะเป็นพุทธศาสนิกชนก็ต้องมีสัมมาทิฏฐิ …

วิสาขามหาอุบาสิกา (โอวาท ๑๐) Read More »

วิสาขามหาอุบาสิกา (สร้างบุพพาราม)

วิสาขามหาอุบาสิกา (สร้างบุพพาราม) การเกิดมาแต่ละชาติของสรรพสัตว์ทั้งหลายนั้น ต่างมีเป้าหมายสูงสุดอย่างเดียวกันคือ เพื่อจะฝึกฝนอบรมจิตใจให้ใสสะอาดบริสุทธิ์ ประพฤติปฏิบัติธรรม เพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง ให้เข้าถึงพระธรรมกาย แล้วอาศัยธรรมกายศึกษาวิชชาธรรมกายกำจัดกิเลสอาสวะให้หมดสิ้นไป จะได้พ้นจากความทุกข์ และเข้าถึงความสุขที่แท้จริง มุ่งไปสู่อายตนนิพพาน ซึ่งมีแต่สุขล้วนๆ ไม่มีทุกข์เจือปน เสวยวิมุตติสุขอย่างเดียวคือ สุขที่เกิดจากการหลุดพ้นจากกิเลสอาสวะ ไปสู่ความสุขที่ไม่มีขอบเขต อันไม่มีประมาณ นี่คือเป้าหมายของทุกชีวิต ดังนั้น เราจะต้องมุ่งแสวงหาความสุขที่แท้จริงอย่างนี้กันทุกๆ คน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน ขุททกนิกาย ธรรมบท ว่า “ยถาปิ ปุปฺผราสิมฺหา     กยิรา มาลาคุเฬ พหู เอวํ ชาเตน มจฺเจน      กตฺตพฺพํ กุสลํ พหุ ํ นายมาลาการพึงทำพวงดอกไม้ให้มาก จากกองดอกไม้แม้ฉันใด มัจจุสัตว์ผู้มีอันจะต้องตายเป็นสภาพ ควรทำกุศลไว้ให้มากฉันนั้น” เมื่อเราเกิดมาแล้ว ต้องรู้จักแนะนำตักเตือนตัวเองให้ดำเนินชีวิตอยู่บนเส้นทางแห่งการสร้างความดี เพราะเราเกิดมามีหน้าที่ จะไปมัวคอยให้คนอื่นมาเป็นกัลยาณมิตรชี้นำให้ตลอดเวลานั้นไม่ได้ ต้องพิจารณาให้รู้ถึงภารกิจหลัก ภารกิจรอง ว่าสิ่งไหนควรทำก่อนหรือทำหลัง แม้เราจะมีกรณียกิจที่ต้องทำหลายอย่าง แต่การสั่งสมบุญก็เป็นสิ่งที่เราควรทำไปพร้อมๆ กัน จะได้เป็นที่พึ่งให้กับตัวเองในสัมปรายภพ …

วิสาขามหาอุบาสิกา (สร้างบุพพาราม) Read More »