หลวงพ่อธัมมชโย

๖-๑ มาตุคาม

หัดมองทุกเรื่องให้ครบวงจร อย่างเช่นเราเห็นผู้หญิงสวยอย่างนางงามจักรวาล ถ้าเราดูไม่ครบวงจร เราจะมีความกำหนัดยินดี อยากได้ อยากสัมผัส แต่ถ้ามองให้ครบวงจร มองตั้งแต่เกิดจนกระทั่งตาย เดี๋ยวเกิด เดี๋ยวแก่ เดี๋ยวเจ็บ เดี๋ยวตาย มองทั้งข้างนอก มองทั้งข้างใน พลิกเอาอวัยวะภายใน ตับ ไต ไส้ พุง ออกมาข้างนอก ดูซิว่า เอาขึ้นไปประกวดบนเวที ใครเขาจะดูบ้าง หัดมองอย่างนี้นะลูกนะ วันหนึ่ง ขณะหลวงพ่อกำลังรับแขก อยู่ๆ เขาก็เล่าถึง นางงามจักรวาล สวยอย่างนั้น สวยอย่างนี้ ชมใหญ่เลย หลวงพ่อปล่อยให้เขาเล่าไป เล่าเสร็จ เขาหันมาถาม หลวงพ่อพูดไปได้อย่างไรก็ไม่รู้ แต่ได้ผลนะ ไม่ได้เรียกว่าพูด เรียกว่าโพล่งมากกว่า บอกเขาว่าอย่างไรรู้ไหม “แต่ขี้เหม็น” เขาบอกว่า “แหม…หลวงพ่อ” แล้วไม่เล่าอีกเลย โพล่งทีเดียวได้ผลชะงัดเลย ปกติหลวงพ่อไม่ใช้คำประเภทนี้ หลวงพ่อจะต้องหลบๆ เลี่ยงๆ มูลบ้าง อุจจาระบ้าง แต่วันนั้นพรวดไปเลย พูดถึงต้นกำเนิดภาษายังไม่ได้ปรุงแต่งกันไปเลยนะ คำเดียวหยุดเลย สมัยหนึ่งเวลารับแขก จะโดนคำถามอย่างนี้บ่อย …

๖-๑ มาตุคาม Read More »

สิ่งที่ชาวโลกขาดแคลน

หลวงพ่อบวชมาจนบัดนี้ ๒๗ พรรษาแล้ว ยังไม่เคยมีใครมาถามความรู้ในมหาวิทยาลัย จะเป็นดอกเตอร์ หรือใครก็ตามที่มากราบหลวงพ่อ ส่วนมากถามว่า ในตัวมีพระจริงหรือเปล่า สรณะอยู่ที่ไหน เข้าถึงได้อย่างไร ทำอย่างไรใจถึงจะหยุดนิ่ง บุญบาปมีจริงไหม นรกสวรรค์มีจริงไหม อะไรต่างๆ เหล่านี้มากมายเลย แต่ไม่เคยมีใครมาถามว่า รัฐศาสตร์เป็นอย่างไร เศรษฐศาสตร์เป็นอย่างไร ศาสตร์กี่ศาสตร์ไม่เคยถาม ถามแต่พุทธศาสตร์ หลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ท่านรวบรวมเขียนตำราไว้เล่มหนึ่งชื่อ “คู่มือสมภาร” ท่านวางแนวทางเอาไว้ว่า สมภารทุกวัดจะต้องมีความรู้ทรงอภิญญา แล้วถ่ายทอดให้ลูกวัด ลูกวัดก็ถ่ายทอดให้ญาติโยมต่อๆ กันไป สอนเรื่องความดี ความชั่ว เรื่องศีลธรรม จะสอนกี่ยุคกี่สมัยก็ทันสมัยเสมอ ความกตัญญูเมื่อพันปีที่แล้ว กับความกตัญญูในปีนี้ หรืออีกพันปีข้างหน้าก็เหมือนกัน ใครๆ ก็ต้องการให้ลูกมีความกตัญญูต่อพ่อแม่ หรือฆราวาสธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงวางแนวทางเอาไว้สอนฆราวาส มุ่งสอนจากคดีโลกสู่คดีธรรม การฝึกฝนตนเองเพื่อมุ่งถึงจุดแห่งการหลุดพ้น นี่เป็นหน้าที่ของพระ คือทำหน้าที่เป็นครูสอนศีลธรรมให้แก่ชาวโลก ชาวโลกเขาอยากเห็นเนื้อนาบุญที่สามารถบอกเขาได้ว่า ทำบุญอย่างนี้แล้วจะได้อานิสงส์อะไร ตายแล้วจะไปไหน เป็นอยู่อย่างไร เขาอยากรู้ตรงนี้นะ ตรงนี้ต่างหากคือจุดที่โลกขาดแคลน หลวงพ่ออยากให้ลูกหลวงพ่อทุกรูปทุ่มเทชีวิตจิตใจมุ่งที่จะศึกษาความรู้ตรงนี้ ที่สามารถแนะนำชาวโลกได้ว่า ที่พึ่ง ที่แท้จริงของมนุษย์นั้นอยู่ที่ไหน เข้าถึงได้อย่างไร และอะไรคือเป้าหมายของชีวิต …

สิ่งที่ชาวโลกขาดแคลน Read More »

๗-๑ เหมือนขว้างความสุข…ไปข้างหน้า

หลวงพ่อนั่งคุยกับเศรษฐี อย่านึกว่าเศรษฐีเขามีความสุขนะ เศรษฐีคุ้นกับการลงทุน เหมือนนักมวยต้องต่อยมวย นักลงทุนต้องลงทุน ได้โครงการนี้มาอิ่มใจได้หน่อยเดียว ทนไม่ไหวต้องเอาไปลงทุนใหม่อีกแล้ว เขาจะกลัวอยู่อย่างคือ กลัวเงินอยู่เฉยๆ เม็ดเงินแต่ละเม็ด ถ้าลงไปแล้วต้องมีเม็ดเงินงอกต่อมา เพราะฉะนั้นสิ่งอะไรที่มองไม่เห็นเป็นรูปธรรม เป็นเม็ดเงินขึ้นมา เขาไม่เอา พอลงทุนไปแล้วไม่ใช่ว่าหมูนะ เมื่อขยายงาน ก็ต้องขยายทีม พอขยายทีมก็ต้องขยายทุน ขยายทุนก็ขยายที่ ขยายที่ก็ต้องขยายดอก ขยายดอกขยายปัญหา ขยายปัญหาขยายความเครียด ขยายความกดดันไปเรื่อยๆ เป็นอย่างนี้จนหมดเวลาของชีวิต หลวงพ่อคุยกับเศรษฐีทีไรเห็นเขากลุ้มใจทุกที หลวงพ่อเคยถามมหาเศรษฐีว่า หาเงินเยอะๆ ไปทำไม แปลกจัง เขาตอบไม่ค่อยได้ แต่ถ้าถามว่าหาเงินอย่างไร ตอบเก่งมาก คล่องมาก แต่พูดไปก็บ่นไป กลุ้มไป ดูปนทุกข์อย่างไรก็ไม่รู้ เหมือนขว้างความสุขไปข้างหน้า ในที่สุดก็หมดเวลากันไป ไม่ได้อะไร เมื่อ ๑๐ ปีที่แล้ว มีเศรษฐีระดับหมื่นล้านบอกกับหลวงพ่อว่า ให้แก่ๆ ก่อน แล้วจะเข้าวัดปฏิบัติธรรม ตอนนี้ตายไปแล้ว ไม่รู้ว่าแก่หรือยัง ยังไม่ทันได้นั่งสมาธิเลย ชีวิตมันก็แค่นี้ แป๊บเดียวเท่านั้นเอง หลวงพ่อก็เจออย่างนี้ มันสู้การศึกษาวิชชาธรรมกายไม่ได้ เพราะฉะนั้นอย่าให้มีความคิดว่า จะสึกดีหรือจะอยู่ดี …

๗-๑ เหมือนขว้างความสุข…ไปข้างหน้า Read More »

๘ หลวงพ่อไม่อยากให้สึกเลย

หลวงพ่อไม่อยากให้ใครสึกเลยแม้แต่รูปเดียว อยากให้ศึกษาวิชชาธรรมกายกัน สึกออกไปอย่างมากก็ไปมีลูก มีเมีย ได้เลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย ก็ได้แค่นั้น หลวงพ่อยังนึกไม่ออกว่า จะได้อะไร สุดท้ายก็หมดเวลาของชีวิต ไม่ได้อะไร พวกเราลูกๆ หลวงพ่อทุกรูปมีบุญมากนะ ที่ได้มีโอกาสศึกษาวิชชาธรรมกาย เพราะฉะนั้นอย่าคิดสึก ถ้าสึกควรเปลี่ยนเป็น “ศ” คิดศึกษาไปให้ถึงที่สุดแห่งธรรม ทุ่มชีวิตศึกษาวิชชาธรรมกายไปเลย มีเท่าไรเรียนรู้ให้หมด ไม่หมดไม่เลิก ตายแล้วกลับมาเกิดใหม่ ศึกษาต่ออีก คิดอย่างนี้สิ! อย่าไปคิดมีลูกมีเมีย ก็ได้แค่ลูกแค่เมีย ไม่วิเศษอะไรเลย หมู หมา กา ไก่ มันทำได้ ใครก็ทำได้ ออกไปข้างนอกเจอคนหาลูกหาเมียเยอะ ไม่หานี่สิยาก ศึกษาวิชชาธรรมกายนี่ยาก ทั้งมนุษย์และเทวดา เขาจะกราบไหว้ คอยติดตามคุ้มครองรักษาผู้ที่เข้าถึงวิชชาธรรมกาย ศึกษาวิชชาธรรมกาย หลวงพ่ออยากให้ลูกทุกรูปซาบซึ้งในวิชชาธรรมกายให้มากๆ พยายามทุ่มชีวิตศึกษา ฝึกฝนให้ชำนาญ อย่าเอาหัวใจไปไว้ที่อื่นนะจ๊ะ หลวงพ่อนั่งรับแขก หลายท่านบอกว่า สิ่งที่เขาอยากเป็นจริงๆ คือเป็นอย่างที่หลวงพ่อเป็น หรือเป็นอย่างพระอาจารย์ แต่ชีวิตตอนนี้เขาเลือกไม่ได้ เขาถูกเข้าไปอยู่ในคุกแล้ว เหมือนมีเครื่องผูกหย่อนๆ ไว้ แต่จริงๆ เขาอยากเป็นอย่างนี้ เพราะฉะนั้นทุ่มหัวใจฝึกฝนกันนะ …

๘ หลวงพ่อไม่อยากให้สึกเลย Read More »

๙ ผ้าสีสุดท้าย ๒

เรามาถึงภาวะอันสูงสุดแล้ว เพศสุดท้ายของการเวียนว่ายตายเกิดคือเพศพระ อาชีพสุดท้ายของชีวิตในการเวียนว่ายตายเกิดก็อาชีพพระ คนจน คนรวย พระราชา มหากษัตริย์ พระเจ้าจักรพรรดิ ตอนสุดท้ายออกบวชหมด สวมเครื่องแบบชุดสุดท้ายในสังสารวัฏที่คงที่ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ชุดพระ ผ้าสีสุดท้าย สีทอง ไม่มีสีทองก็เอาสีใกล้ๆ ทอง หรือน้อยกว่าทองเรื่อยไป คือสีที่เทียบกับสิ่งที่มีคุณค่าและมูลค่าสูง เครื่องแบบชุดสุดท้าย ชุดที่มนุษย์และเทวดากราบไหว้ บูชา ยินดีต้อนรับ มีของก็อยากให้ ให้แล้วก็มีความสุข เครื่องแบบชุดสุดท้ายทันสมัยอยู่เสมอ ออกแบบครั้งเดียวใช้ชุดนี้มาสองพันกว่าปี ผู้ต้นคิดคือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ออกแบบคือพระอานนท์ เป็นชุดที่จัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว เพราะผู้รู้เป็นคนจัด และไม่ใช่ว่าไปเจอสีนี้อยู่โคนไม้ หยิบเอามาห่มก็ไม่ได้ อย่างนั้นเขาเรียกว่า ห่อตัว ต้องมีพิธีกรรมสืบทอดกันยาวนานกว่าสองพันปี จึงจะได้ครองชุดนี้ได้ เพราะฉะนั้นควรภูมิใจในชุดนี้ให้ดี อย่าไปเปลี่ยนผ้า เปลี่ยนแปลงจิตใจดีกว่า ถ้าใครครองผ้าชุดนี้แล้ว แนะนำเขาไปเลย อย่าเปลี่ยนแปลงชุดเด็ดขาด เพราะเป็นชุดที่เหมือนพระธรรมกายในตัว เป็นชุดที่ทำให้เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานแล้ว ชุดหลากสี มีเงื่อนไขต้องทำมาหากิน มีพันธะของชีวิต มีเครื่องกังวล มีเครื่องผูกหย่อนๆ ผูกให้พัวพันตลอดเวลาเลย ไม่เป็นอิสระ ไม่มีเวลาว่างที่จะมาศึกษาธรรมปฏิบัติ แต่ชุดนี้ไม่มีพันธะของชีวิต …

๙ ผ้าสีสุดท้าย ๒ Read More »

๙-๑ ทรงผมทรงสุดท้าย

ทรงผมทรงสุดท้าย หลังจากจัดกันเสร็จเรียบร้อยแล้วก็คือทรงนี้ แต่ที่ยังจัดไม่เสร็จ เดี๋ยวสั้น เดี๋ยวยาว เดี๋ยวหยิก เดี๋ยวเหยียด เดี๋ยวปิดหน้า เดี๋ยวเปิดหน้า เดี๋ยวถักเปีย เดี๋ยวตัดเปีย สารพัดทรงอะไรก็ไม่รู้ นั่นยังจัดไม่เสร็จ ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดกันอีกนาน แต่ทรงนี้เดือนหนึ่งหวี ๒ ครั้งเท่านั้น หวีที่ไม่มีซี่ คมกริบ คือ มีดโกน นี่เป็นทรงผมทรงสุดท้ายในสังสารวัฏ โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) วันที่ วันพุธที่ ๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๙ ที่มา หนังสือ ผ้าสีสุดท้าย อ่านในรูปแบบ EBook ที่นี่

๔-๒ เงื่อนไขชีวิต

ทุกชีวิตไม่ว่าเราจะไปอยู่ตรงไหน มีเงื่อนไขทั้งนั้น เป็นนักบวช จะให้เขาเคารพกราบไหว้บูชา ให้โอกาสเราทำความดี ทำหยุด ทำนิ่ง ก็ต้องมีเงื่อนไข คือมีกฎระเบียบ มีพระธรรมวินัย ที่จะทำให้เราแตกต่างจากชาวโลก ให้เราดีขึ้น สว่างขึ้น บริสุทธิ์ขึ้น อยู่ทางโลก ได้เที่ยวเตร่สนุกสนาน เฮฮา มีครอบครัว ก็มีเงื่อนไขคือ มีพันธนาการของชีวิต ต้องทำมาหากิน ต้องเลี้ยงดูครอบครัว ไม่มีโอกาสได้ประพฤติปฏิบัติธรรม ได้สร้าง ความดี สร้างบารมีได้อย่างเต็มที่อย่างเช่นนักบวช นักบวชไม่ต้องทำมาหากิน แต่ก็ต้องทำศีล สมาธิ ปัญญา ให้เจริญ ฝึกหยุด ฝึกนิ่ง ส่วนทางโลกเขาไม่ต้องทำอย่างนี้ เขามีครอบครัวได้ แต่ต้องทำมาหากิน การทำมาหากินทางโลกลำบากมาก ลูกเอ๊ย! กว่าจะได้เงินทองมา ต้องไปตบไปตีเขานะ ไม่ใช่หมายความว่าต้องไปตบเขาจริงๆ แต่หมายความว่า ต้องไปต่อสู้กับเขา มันลำบาก ทำมาหากิน ยังไม่พอจะกิน อย่าหวังทำมาหาเก็บ หรือทำมาค้าขาย ยิ่งทำมาสร้างบารมีนี่น้อยที่สุดเลย เพราะฉะนั้น จะอยู่ในเพศสมณะก็มีเงื่อนไข เป็นฆราวาสก็มีเงื่อนไขเหมือนกัน จะอยู่ตรงไหนมีเงื่อนไขทั้งนั้น จะรับราชการทหาร เขาก็มีเงื่อนไขของทหาร …

๔-๒ เงื่อนไขชีวิต Read More »

๔-๓ วินัย

วินัย คือ สิ่งที่นำเราออกไปดี นำเราไปแจ้ง นำเราให้แตกต่างจากชาวโลก จนกระทั่งเขาเคารพกราบไหว้บูชาเราได้ ด้วยความเลื่อมใสในข้อวัตรปฏิบัติและปฏิปทาของเรา เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความงดงาม และความอยู่เป็นสุขของหมู่คณะ เป็นสิ่งที่ยังความเลื่อมใสยิ่งขึ้นแก่หมู่ชนผู้เลื่อมใสแล้ว และยังความเลื่อมใสแก่ผู้ที่ยังไม่เลื่อมใส เพราะฉะนั้น อย่าอึดอัดกับการที่ต้องอยู่ในพระธรรมวินัย ให้คิดว่ากฎระเบียบหรือพระธรรมวินัยเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เหมือนตื่นเช้าขึ้นมาอาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน ขับถ่าย ไม่มีใครมาบอกเรา แต่เป็นสิ่งที่เราทำเป็นปกติอยู่แล้ว หากลูกเณรทำได้อย่างนี้ ต่อไปจะเกิดอานิสงส์ คือ ทำให้จิตใจเราเบิกบาน แช่มชื่น แล้วก็ติดเป็นนิสัย ไม่มีความรู้สึกว่า เป็นสิ่งที่ทำให้เราอึดอัด คับแคบ ยุ่งยากใจ ลำบากใจ ดังนั้น ลูกเณรอย่าเสียเวลาอึดอัดใจกับการที่เราต้องอยู่ในระเบียบวินัย ด้วยการทำความเข้าใจว่า เรามาอยู่ในสภาวะของผู้มีบุญมีบารมี มาอยู่ในภาวะจุดสูงสุดแล้ว อะไรๆ ไม่เป็นอุปสรรคทั้งนั้น จะเป็นคำแนะนำสั่งสอน กฎระเบียบวินัยก็ดีเป็นเรื่องเล็ก เราทำตามเสียก็หมดเรื่อง แล้วก็ตั้งใจฝึกฝนตนเองให้ดี ให้สมควรที่จะรองรับวิชชาธรรมกาย เดี๋ยวเราก็อยู่เป็นสุขสบาย เดี๋ยววัน เดี๋ยวคืน เดี๋ยวเดือน เดี๋ยวปี เดี๋ยว หลายๆ ปี เดี๋ยวก็แก่เฒ่ากันแล้ว โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) …

๔-๓ วินัย Read More »

๔-๔ หยาดเหงื่อที่หลั่ง…ต่างกลั่นเป็นบุญ

วัยของลูกเณร เป็นวัยที่เหมาะสมในการศึกษาวิชชาธรรมกายอย่างยิ่ง เพราะว่าวัยนี้มีโรคน้อย สุขภาพยังแข็งแรง เครื่องกังวลก็ไม่มี เหนื่อยแป๊บเดียว เดี๋ยวพักก็หาย ลูกเณรยังเหนื่อยไม่จริง วัยขนาดหลวงพ่อนี่เหนื่อยจริง นั่งเฉยๆ ก็เหนื่อย นอนเฉยๆ ก็เหนื่อย ในวัยของลูกเณรกำลังแข็งแรง สดชื่น เบิกบาน มีความพร้อมทุกอย่างเลย ตั้งหน้าตั้งตาศึกษาเล่าเรียน ฝึกฝนตัวเราให้ดี ทุกกิจกรรมมีเอาไว้เพื่อการสร้างบารมีทั้งนั้น อย่าคิดเพียงตื้นๆ ว่า ทำไมเราจะต้องทำงานโน่น ทำงานนี่ ลำบากลำบนจังเลย อย่าไปคิดอย่างนั้น วัดของเราเป็นของลูกเณรทั้งหมด ต่อไปเมื่อหลวงพ่อไม่อยู่แล้ว ทีมของลูกเณรเจริญเติบโตขึ้น ก็ต้องมารองรับในสิ่งที่หลวงพ่อและชุดบุกเบิกได้สร้างขึ้นมา ลูกเณรอยู่ในชุดรักษา และทำให้เจริญต่อไป เราต้องเรียนรู้งานทุกระบบ ตั้งแต่ในห้องน้ำหลวงพ่อก็ทำมาแล้ว ต้นไม้ใบหญ้า ขุดลอกคันคูคลอง ทำความสะอาด จัดเสนาสนะ ตลอดจนกระทั่งงานทุกอย่าง เป็นเรื่องปกติที่จะต้องเรียนรู้ไปทุกระบบ เป็นงานที่เราต้องทำ เมื่อทำแล้ว นอกจากจะได้เรียนรู้งานแล้ว ยังทำให้ร่างกายแข็งแรง เลือดลม เดินสะดวก และเป็นการฝึกความมีระบบระเบียบแก่เราด้วย คนที่มีใจรักความสะอาด มีอานิสงส์คือ สิ่งสกปรกจะเข้าใกล้เราไม่ได้ จะไปเกิดในภพไหนก็แล้วแต่ จะไปเป็นชาวสวรรค์ วิมานเราก็จะสว่างมีรัศมียิ่งกว่าใคร ลงมาเกิดเป็นมนุษย์แล้ว สิ่งที่สกปรกไม่เข้ามาใกล้เราเลย …

๔-๔ หยาดเหงื่อที่หลั่ง…ต่างกลั่นเป็นบุญ Read More »

๕ ถ้าคิดจะสู้ เรื่องอื่นก็ไร้ความหมาย

วัยลูกเณร เป็นวัยที่เหมาะสมในการศึกษาวิชชาธรรมกายเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นวัยที่แข็งแรง โรคภัยไข้เจ็บยังน้อย ภาระเครื่องกังวลก็ไม่มี ถ้าเอาความแข็งแรงความสดชื่นของร่างกาย ความมีโรคน้อย กับความปลอดกังวลในวัยนี้ ทุ่มเทชีวิตจิตใจศึกษาธรรมปฏิบัติ จะเป็นประโยชน์ต่อตนเองและชาวโลกอย่างยิ่ง แต่จะมีอยู่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ลูกเณรหลุดจากเส้นทางธรรม ก็คือ นำความกำหนัดยินดีในกามมายั่วยวนให้หลงใหล นำความเพ้อฝันในอนาคต อยากมีทรัพย์ ลาภ ยศ สรรเสริญ ความเทียมหน้าเทียมตากับชาวโลกเขา หรือยิ่งใหญ่ไปกว่านั้นมาล่อลวง นี่คือสิ่งที่ลูกเณรจะต้องเจอ แต่ถ้าลูกเณรตัดสินใจอย่างแน่วแน่ที่จะเดินไปในเส้นทางนี้และพร้อมที่จะสู้ไปกับหลวงพ่อ และมีวิชชาธรรมกายเป็นสรณะเป็นที่พึ่งที่ระลึกแล้วละก็ สิ่งเหล่านี้ก็ไร้ความหมาย ลูกเณรสามารถเอาชนะได้อย่างสบายๆ หลวงพ่อได้ผ่านวัยนี้มาแล้ว ไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไร โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) วันที่ วันอาทิตย์ที่ ๒๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๓๙ ที่มา หนังสือ ผ้าสีสุดท้าย อ่านในรูปแบบ EBook ที่นี่

๑ เส้นทางที่เลือกเอง

การที่เราทิ้งทุกสิ่งมาจากทางโลก เพราะเห็นว่าชีวิตทางโลกนั้นเป็นชีวิตที่อึดอัด คับแคบ เหมือนปลาอยู่ในข้อง ถึงจะสนุกสนานเพลิดเพลิน ก็สนุกสนานไปแบบแกนๆ กันไปอย่างนั้น จึงได้ทิ้งสิ่งเหล่านั้นมาสู่เส้นทางนี้ เมื่อเราตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวเด็ดขาดจะเข้ามาสู่ในเส้นทางธรรม ก็จะต้องประพฤติปฏิบัติอย่างตั้งใจ ให้ได้บรรลุวัตถุประสงค์ของการมาสู่เส้นทางธรรม ที่จะมาศึกษาพระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มาฝึกฝนอบรม ตนเอง และมาสร้างบารมี ให้ทำให้ได้อย่างที่ได้ตั้งใจเอาไว้ โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) วันที่ วันอังคารที่ ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๐ ที่มา หนังสือ ผ้าสีสุดท้าย อ่านในรูปแบบ EBook ที่นี่

๕-๑ มะม่วงยังไม่ลืมต้น

อย่างไรก็ตาม เพื่อความไม่ประมาท ลูกเณรจะต้องทำอย่างที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสสอนก็คือ ให้ถือว่าเรายังเป็นนวกะอยู่ หมายความว่า ยังเป็นผู้ใหม่ในพระธรรมวินัย แม้ยังไม่ได้บวชเป็นพระก็ตาม ภายใน ๕ ปีนี้ ลูกเณรจะต้องพรากจากครอบครัวอย่างแท้จริง พรากจากหมู่ญาติ จากเพื่อนฝูง จากข่าวสารต่างๆ ที่เป็นพิษเป็นภัยต่อจิตใจของลูกเณร ลูกเณรต้องเอาชนะสิ่งนี้ให้ได้ เพราะ ๕ ปีที่อยู่ในเส้นทางนี้เหมือนมะม่วงยังไม่ลืมต้น มะม่วงที่เปรี้ยวจะต้องปลิดออกมาบ่มให้สุกงอม ให้คลายรสเปรี้ยวเสียก่อน ลูกเณรก็เช่นเดียวกัน ถึงแม้ว่าจะมีเครื่องแต่งกายใหม่ก็ตาม แต่ถ้าหากว่า จิตใจของเรายังไม่พรากจากสิ่งเหล่านั้นจริงๆ เครื่องแบบก็เป็นเพียงเครื่องแบบ ลูกเณรต้องทำความเข้าใจกับหมู่ญาติให้ดีว่า ๕ ปีนี้ ลูกเณรขอโอกาสศึกษาพระธรรมวินัยให้เต็มที่ เพื่อให้แตกฉาน ให้ใจเข้มแข็ง ไม่ใช่ไม่รัก ไม่เคารพโยมพ่อ โยมแม่ ปู่ย่า ตายาย ญาติมิตร แต่ว่าลูกเณรยังเป็นผู้ใหม่อยู่ จึงจะต้องศึกษาพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด ถ้าหากว่ากลับไปเยี่ยมบ้าน สิ่งที่จะได้ยินได้ฟังก็มีแต่เรื่องทางโลก เรื่องที่นำมาซึ่งความร้อนใจ ทำให้จิตหยาบ เกิดความท้อ และในที่สุดเราก็จะถอยจากเส้นทางนี้ออกไป เพราะฉะนั้น ๕ ปีนี้ จะต้องเป็น ๕ ปีที่ลูกเณรจะต้องเข้มแข็ง ตั้งใจมั่นที่จะศึกษาฝึกฝนตัวของเราให้เป็นสามเณรที่โลกต้องการ เป็นสามเณรทหารกล้าแห่งกองทัพธรรมที่มุ่งจะไปถึงที่สุดแห่งธรรม จะต้องทำความเข้าใจกับหมู่ญาติให้ดี …

๕-๑ มะม่วงยังไม่ลืมต้น Read More »

๑-๑ นาถของโลก

วันเวลาที่ผ่านไป ก็ให้ผ่านไปด้วยการสั่งสมความดีความบริสุทธิ์ผุดผ่องเข้ามาใส่ตัวของเราให้มากๆ ให้หมั่นตรวจตราดูแลตัวของเราเองให้ดี ตั้งแต่ภายในออกมาสู่ภายนอก นั่นคือตรวจตราดูแลจิตใจ ความรู้สึกนึกคิดของเรา ให้สะอาด ให้เกลี้ยงเกลา จากสิ่งที่เป็นข้าศึกต่อกุศล ต่อความบริสุทธิ์ ผุดผ่อง ให้ใจเราผ่องใสประภัสสรอยู่ตลอดเวลา ตรวจตราดูแลวาจาและการกระทำของเรา ให้บริสุทธิ์ผุดผ่องอยู่ตลอดเวลา ตรวจตราดูแลทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบตัวเรา ไม่ว่าจะเป็นอาภรณ์ เครื่องนุ่งห่ม อาวาสที่อยู่อาศัย ตลอดจนกระทั่งอาหารที่จะนำเข้าไปสู่ร่างกายของเรา ต้องบริสุทธิ์ผุดผ่องตลอดหมด สิ่งอะไรที่จะไหลผ่านกาย วาจา ใจของเราต้องสะอาด ต้องบริสุทธิ์ผุดผ่อง อย่างนี้ถึงจะสมกับการได้เข้ามาสู่เส้นทางอันบริสุทธิ์สายนี้ เมื่อเราบริสุทธิ์ผุดผ่อง กระทั่งเป็นที่พึ่งต่อตัวเราเองได้ ก็จะได้เป็นหลักเป็นที่พึ่งของชาวโลกต่อไปในอนาคต ชาวโลกนั้นขาดที่พึ่ง เขายังว้าเหว่อยู่ ยังไม่รู้ว่าจะเดินไปทางไหนชีวิตถึงจะรอดปลอดภัยจากความทุกข์ทรมานในสังสารวัฏและ ในอบาย เพราะฉะนั้นเขาจึงต้องแสวงหาผู้รู้ที่จะเป็นหลักที่พึ่งให้เขาได้ ผู้รู้ที่จะเป็นที่พึ่งแก่ชาวโลกได้นั้นก็คือ ผู้ที่ได้เข้าถึงธรรมกายภายใน เพราะว่าเมื่อถึงหลักของชีวิตแล้ว เอาตัวรอดปลอดภัยแล้ว ต่อจากนั้นก็เป็นเรื่องของการทำหน้าที่ที่จะเป็นหลักเป็นที่พึ่งให้ชาวโลก ถ้ารู้แล้วเห็นแล้วไม่ไปทำหน้าที่นี้ มันก็ผิดหน้าที่ หน้าที่ของเราก็ไม่สมบูรณ์ ได้แค่ประโยชน์ตน แต่ว่าประโยชน์ท่านนั้นยังไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็จะต้องทำหน้าที่กันต่อไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ เหมือนอ้อยที่เขาหีบเอาความหวานหมดไป เหลือแต่ชานก็ทิ้งไปอย่างนั้น ร่างกายนี้ก็เช่นเดียวกัน เมื่อเราอาศัยสร้างความดีเพื่อประโยชน์ตนและประโยชน์ท่านเสร็จเรียบร้อยแล้ว ถึงคราวที่ร่างกายใช้ไม่ได้ก็จากไปสู่ภพภูมิใหม่ เหมือนภาชนะดินที่แตกทำลายไปใช้ภาชนะทองคำแทนอย่างนั้น การที่จะเดินทางไปสู่เส้นทางสายกลางภายในนั้น เป็นการเดินสวนกระแสกิเลส กระแสแห่งความทุกข์ทรมาน เพราะฉะนั้นจงมีความสุขและสนุกสนานกับการสวนกระแส ซึ่งเป็นสิ่งที่จะทำให้กาย …

๑-๑ นาถของโลก Read More »

๕-๒ บ่วงแห่งมาร

จำไว้ว่าเส้นทางนี้ต้อง “สู้” อย่างเดียว ขอให้นึกถึงคำเดียวเท่านั้น จำง่ายๆ ว่า “สู้” ลูกเณรต้องสู้ เมื่อเจอสิ่งที่ยั่วยวนทำให้หลงใหลไปทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ แต่ถ้าเราไม่เผลอสติ มีใจหยุดนิ่งอยู่ภายในกลาง ทุกเรื่องเป็นเรื่องเล็ก จะรู้สึกเฉยๆ เรื่องโน้นเรื่องนี้ก็ไม่มีความหมาย ทำอะไรเราไม่ได้ทั้งนั้น เพราะฉะนั้นตรงศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ตรงนี้ เป็นปฏิรูปเทสที่สำคัญ ที่ลูกเณรจะต้องนำใจมาตั้งไว้อยู่ตลอดเวลา ให้ติดเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับองค์พระภายในตัวเรา หลวงพ่อขอให้ลูกเณรได้เดินทางในเส้นทางนี้โดยปลอดภัย ไปให้ถึงที่หมายอย่างอัศจรรย์ หลวงพ่อจะเป็นธงชัยให้ลูกเณร แล้วก็จะเป็นทุกสิ่งให้ลูกเณร เพื่อที่เราจะได้ไปถึงที่หมายพร้อมๆ กัน หลวงพ่อจะไม่ทิ้งลูกเณรแม้แต่รูปเดียว เพราะฉะนั้นลูกเณรก็อย่าทิ้งหลวงพ่อไปนะ เดี๋ยวเกิดไปเจอในบางสิ่ง ก็มี ๒ เรื่องเป็นหลัก คือ สตรีกับสตางค์นี่แหละ ที่จะทำให้ลูกเณรทิ้งหลวงพ่อ นอกนั้นเป็นเรื่องรองลงมา แต่ถ้าหากว่าตั้งใจสู้ละก็ เรื่องใหญ่มันก็เป็นเรื่องเล็ก จนกระทั่งไร้ความหมายไปในที่สุด แต่ถ้าไม่สู้ เรื่องเล็กก็เป็นเรื่องใหญ่ ยามใดที่เกิดความท้อแท้เบื่อหน่าย หรือมีอุปสรรคอันใดเกิดขึ้นก็ตาม ยามนั้นให้นึกถึงสิ่งที่หลวงพ่อได้พูด ให้นึกถึงพระอาจารย์ ให้นึกถึงเพื่อนสหธรรมิกที่มีกำลังใจเข้มแข็ง มีเป้าหมาย ปณิธาน อุดมการณ์ …

๕-๒ บ่วงแห่งมาร Read More »

๑-๒ สิ่งที่ควรรู้ ควรศึกษา

ในช่วงใกล้นี้เรากำลังจะสอบบาลีสนามหลวงกัน ใครที่กำลังจะสอบก็ให้ตั้งใจดูหนังสือให้ดี อย่าให้ใจซัดส่ายไปที่อื่น แล้วก็อย่าลืมว่า การสอบทุกครั้งเป็นเพียงเครื่องพิสูจน์ว่า เรามีความเข้าใจในพระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามากน้อยเพียงไร การที่จะศึกษาตำรับตำรา… อย่างไรก็ตาม ให้ศึกษาเพื่อที่จะเรียนรู้ ทำความเข้าใจต่อพระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ส่วนการสอบได้เป็นผลพลอยได้เท่านั้น ให้มุ่งประเด็นนี้เป็นสำคัญ ขอให้มีความสุขและสนุกต่อการศึกษา ศึกษาด้วยความเคารพ เหมือนอยู่ต่อหน้าองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะหากว่าไม่มีพระองค์ท่าน คำสอนนี้ก็ไม่มี ถ้าไม่มีคำสอน เราก็จะดำเนินชีวิตไม่ถูกต้อง คำสอน จึงเป็นประหนึ่งแทนองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ต้องศึกษาด้วยความเคารพ อย่างเพื่อนต่างศาสนิกของเรา เวลาที่เขาจะอ่านคัมภีร์เขาต้องกราบ ต้องยกมือไหว้ และ เก็บคัมภีร์ไว้บนที่สูง ร่ำเรียนศึกษาเหมือนอยู่ต่อหน้าพระผู้เป็นเจ้า เหมือนสิ่งนั้นคือพระผู้เป็นเจ้าทีเดียว ของเราก็ควรจะเป็นเช่นนี้ จะอ่านตำรับตำราพระธรรมวินัยที่ไหนก็แล้วแต่ จะอยู่คนเดียวหรือจะอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ก็ให้ศึกษาด้วยความเคารพในพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วพยายามทำความเข้าใจในสิ่งที่ได้ศึกษา เพื่อที่ว่าเราจะได้นำมาสั่งสอนตัวของเราเอง มาฝึกฝนอบรมตัวของเราให้บริสุทธิ์ผุดผ่อง จะได้หลุดพ้นเช่นเดียวกับพระพุทธองค์ ส่วนหนังสืออื่นที่อ่านแล้วทำให้ใจของเราเร่าร้อนกระสับกระส่าย ทุรนทุราย ฟุ้งซ่าน จิตไม่ตั้งมั่น ไม่บริสุทธิ์ ผุดผ่อง ไม่เป็นเหตุให้เข้าถึงธรรมกาย ให้ลูกทุกรูปพึงเว้น เพราะมันไม่เกิดประโยชน์อันใด แต่ถ้าจะศึกษาเพื่อเป็นความรู้รอบตัว ก็ต้องมีสติ มีสัมปชัญญะ มีปัญญา คุ้มครองตัวเองให้ดี ให้รอดปลอดภัยจากความเร่าร้อน ให้ลูกหมั่นระลึกเสมอว่า เมื่อเราเข้ามาสู่ในเพศภาวะนี้ นั่นหมายถึงว่า …

๑-๒ สิ่งที่ควรรู้ ควรศึกษา Read More »