หลวงพ่อธัมมชโย

๑๑-๓ เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว

รักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพราะเราต้องอาศัยความแข็งแรงของร่างกาย จิตใจจึงจะแจ่มใส ในการศึกษาพระธรรมวินัย ดูแลตัวเองให้ดี อย่าให้เจ็บป่วยไข้ จะไปไหนก็ตามให้ความเคารพต่อสถานที่ ต่อครูบาอาจารย์ ต่อผู้ปกครองที่นั่นให้ดี การวางรองเท้า หรือข้อวัตรปฏิบัติต่างๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของเรา อย่าลืมนะ รักษาตรงนี้ไว้ ใช้เวลาแค่ ๑ นาที แต่ผลมันยิ่งใหญ่ แค่เราก้มลงไปจับรองเท้าให้มาเรียงชิดกัน ปล่อยมือแล้วก็ยืนขึ้น ความมีระเบียบก็เกิดขึ้น ความสบายตาสบายใจเกิดขึ้นกับทุกคนที่ได้เห็น ความชื่นชมเกิดขึ้นในใจเขา แล้วความเคารพนับถือก็ตามมา ดูสิ! ไม่น่าเชื่อเลยนะ ไม่ได้เสียเงินอะไรเลย แต่เราสร้างความนับถือเกิดขึ้นในใจเขาได้ ใจเขาที่สับสนจะถูกจัดให้เป็นระเบียบ เหมือนของที่ถูกจัดเอาไว้อย่างดีในห้องอย่างนั้น ใจที่มีระเบียบ คือใจที่มีพลัง ความบริสุทธิ์ของใจเกิดขึ้น ความชื่นชมชื่นใจของผู้ที่ได้พบเห็นตามมา ตามด้วยความเคารพนับถือยกย่องว่า คนที่วางรองเท้าอย่างนี้เป็นผู้มีคุณธรรม เกิดความเคารพในคุณธรรม แล้วจะเกิดการเอาอย่าง ผลสะท้อนถึงพระพุทธศาสนา แค่เราจัดรองเท้าแค่นั้นยังส่งผลอันยิ่งใหญ่ สิ่งที่เรากระทำทุกอย่างกระทบไปถึงชาวโลกหมด จากโลกถึงจักรวาลถึงดวงดาว อย่านึกว่าสิ่งที่เราทำทั้งต่อหน้าและลับหลังจะไม่มีผลต่อส่วนรวม เมื่อไปอยู่ที่โน่นก็ให้ช่วยปัดกวาดเสนาสนะให้ดี อย่าอยู่แบบโรงแรม ให้อยู่แบบอาราม เป็นความสุขใจของเราที่เราจะได้รับอากาศที่บริสุทธิ์ นำสิ่งที่บริสุทธิ์เข้ามาในร่างกายของเรา ซึ่งจะต้องอาศัยมาสร้างบารมี ถ้าอากาศนั้นผ่านจากหยากไย่หยากเยื่อสิ่งสกปรก ก่อนจะมาถึงจมูกเรา แล้วเข้าไปในร่างกายของเรา ซึ่งเป็นร่างกายอันบริสุทธิ์ เราจะปล่อยให้สิ่งไม่บริสุทธิ์เข้ามาในร่างกายอันบริสุทธิ์ของเราได้อย่างไร เพราะฉะนั้นปัดกวาดเช็ดถูให้สะอาดทั้งตอนอยู่และตอน …

๑๑-๓ เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว Read More »

๖ คิดไกล มองไกล

ชีวิตชาวโลกไม่มีอะไร ถ้าลูกเณรอยู่ในวัยนี้ อดทนอดกลั้นต่อความสนุกสนานในทางโลก เอาชนะการปวดกามได้ จะเป็นวัยที่สร้างบารมีได้ดีที่สุด เพราะเป็นวัยที่แข็งแรง วัยนี้นั่งสมาธิไม่ค่อยปวดเมื่อย สร้างบารมีก็เต็มที่ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเมื่อทรงมอบราชสมบัติให้พระราหุล พระองค์ก็มอบเพศสามเณรให้เป็นเพศสุดท้าย เป็นภาพสุดท้ายของชีวิตมนุษย์ที่เวียนว่ายตายเกิด เพราะฉะนั้นลูกเณรต้องพยายามรักษาสถานะนี้ให้ได้ ต้องเอาชนะมันให้ได้ ทั้งความกำหนัดยินดีในกาม ความสนุกสนานเพลิดเพลิน ความสะดวกสบาย ความอยากเป็นนั่นเป็นนี่ เพราะความรู้สึกว่าเราขาดแคลนทรัพย์ ขาดแคลนลาภ ยศ สรรเสริญ คนยกย่องชื่นชม ถ้าเมื่อไรเรารู้สึกขาดแคลน เมื่อนั้นเรายังยากจนอยู่ แต่เมื่อไรเรามีความรู้สึกว่า ไม่ต้องการอะไรเลย ต้องการแค่ปัจจัย ๔ อันควรแก่สมณบริโภค มีอาหารพอเลี้ยงสังขาร มีจีวรไม่กี่ผืนไว้ปกปิดร่างกายป้องกันความละอาย ไว้ให้ความอบอุ่น ป้องกันลม แดด ฝน สัตว์ร้ายต่างๆ มีที่อาศัยเล็กๆ จะได้ไม่ต้องดูแลมาก จะได้มีเวลาทำสมาธิภาวนาได้เต็มที่ มีหยูกยาพอจะรักษาสังขารซึ่งมีความเจ็บเป็นธรรมดา ให้ร่างกายพอทนที่จะสืบอายุต่อไปเพื่อการบำเพ็ญสมณธรรม ถ้าหากว่า ใครมีอยู่แค่นี้แล้วรู้สึกว่าเต็มเปี่ยม ไม่ได้ขาดแคลนอะไรเลย รู้สึกสดชื่นเบิกบาน อย่างนี้ถึงจะเรียกว่า ไม่จน ไม่ขาดแคลน สามารถเป็นอยู่ได้ด้วยตัวของเราเอง จะเป็นผู้ใกล้ต่อหนทางพระนิพพาน ใกล้ต่อที่สุดแห่งธรรม เป็นผู้ควรแก่การเคารพสักการบูชาของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย หลวงพ่ออยากให้ลูกเณรเป็นอย่างนี้จังเลย วัยที่เหมือนดอกไม้บานในยามเช้า กำลังสดชื่นแข็งแรง …

๖ คิดไกล มองไกล Read More »

ทุกสิ่งในโลก…เป็นไปได้

ชาวโลกส่วนใหญ่กว่า ๙๐ เปอร์เซ็นต์ จะมีคำอยู่คำหนึ่งติดอยู่ในใจคือคำว่า “เป็นไปไม่ได้” ทุกอย่างในโลกเป็นไปไม่ได้ พอบอกจะทำอย่างนี้ก็บอก “เป็นไปไม่ได้” จะทำอย่างนั้น ไม่ได้ บอก.. “ไม่ได้” ก่อนเลย แต่เชื่อไหม ในขณะที่ชาวโลกมีคำว่า “เป็นไปไม่ได้” ยังมีคนอีกจำนวน ๑ เปอร์เซ็นต์ของโลกที่เชื่อว่า “มันเป็นไปได้” ทุกอย่างในโลกนี้ถ้าเราอยากจะทำต้องเป็นไปได้ อยากเป็นธรรมกาย เป็นได้ อยากเป็นอะไรก็เป็นได้ทั้งนั้น และโดยเฉพาะสิ่งใดก็ตามที่ศึกษาค้นคว้ามาเพื่อประโยชน์สุขแก่ชาวโลก แม้มีอุปสรรคยิ่งใหญ่ไพศาลแค่ไหนก็ตาม หลวงพ่อว่า สิ่งนั้นเป็นไปได้ ดูอย่างพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จอุบัติขึ้นมาเพื่อตรัสรู้ เพราะพระองค์ทรงเชื่อว่า คนเราสามารถที่จะแสวงหาทางพ้นทุกข์ได้ ซึ่งในขณะนั้นทั่วโลกไม่มีความคิดชนิดนี้ แต่พระองค์เชื่อว่าเป็นไปได้ ทางแห่งความพ้นทุกข์ ทางแห่งความดับทุกข์จะต้องมีอยู่ จึงได้เสด็จออกจากพระราชวังเพื่อไปแสวงหาทางพ้นทุกข์ แล้วในที่สุดพระองค์ก็ทรงค้นพบและตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โรเบิร์ต กอดดาร์ด บิดาแห่งวิทยาการจรวด ชาวอเมริกัน เขาเชื่อว่าจะมีจรวดวิ่งไปในอากาศได้ ในขณะที่โลกทั้งโลกไม่มีใครเชื่อ และความเชื่อของคนคนหนึ่งนี้เอง จึงทำให้มีจรวดเกิดขึ้นได้ จากความเชื่ออันเป็นจุดเริ่มต้น ก็เกิดการทดลองอย่างง่ายๆ ครั้งแรกไปได้นิดหน่อย ต่อมาก็มีการพัฒนาและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดก็มีจรวดเกิดขึ้นมาได้ วิลเบอร์ และออร์วิล ไรท์ สองพี่น้องชาวอเมริกันเชื่อว่า …

ทุกสิ่งในโลก…เป็นไปได้ Read More »

๖-๑ มาตุคาม

หัดมองทุกเรื่องให้ครบวงจร อย่างเช่นเราเห็นผู้หญิงสวยอย่างนางงามจักรวาล ถ้าเราดูไม่ครบวงจร เราจะมีความกำหนัดยินดี อยากได้ อยากสัมผัส แต่ถ้ามองให้ครบวงจร มองตั้งแต่เกิดจนกระทั่งตาย เดี๋ยวเกิด เดี๋ยวแก่ เดี๋ยวเจ็บ เดี๋ยวตาย มองทั้งข้างนอก มองทั้งข้างใน พลิกเอาอวัยวะภายใน ตับ ไต ไส้ พุง ออกมาข้างนอก ดูซิว่า เอาขึ้นไปประกวดบนเวที ใครเขาจะดูบ้าง หัดมองอย่างนี้นะลูกนะ วันหนึ่ง ขณะหลวงพ่อกำลังรับแขก อยู่ๆ เขาก็เล่าถึง นางงามจักรวาล สวยอย่างนั้น สวยอย่างนี้ ชมใหญ่เลย หลวงพ่อปล่อยให้เขาเล่าไป เล่าเสร็จ เขาหันมาถาม หลวงพ่อพูดไปได้อย่างไรก็ไม่รู้ แต่ได้ผลนะ ไม่ได้เรียกว่าพูด เรียกว่าโพล่งมากกว่า บอกเขาว่าอย่างไรรู้ไหม “แต่ขี้เหม็น” เขาบอกว่า “แหม…หลวงพ่อ” แล้วไม่เล่าอีกเลย โพล่งทีเดียวได้ผลชะงัดเลย ปกติหลวงพ่อไม่ใช้คำประเภทนี้ หลวงพ่อจะต้องหลบๆ เลี่ยงๆ มูลบ้าง อุจจาระบ้าง แต่วันนั้นพรวดไปเลย พูดถึงต้นกำเนิดภาษายังไม่ได้ปรุงแต่งกันไปเลยนะ คำเดียวหยุดเลย สมัยหนึ่งเวลารับแขก จะโดนคำถามอย่างนี้บ่อย …

๖-๑ มาตุคาม Read More »

สิ่งที่ชาวโลกขาดแคลน

หลวงพ่อบวชมาจนบัดนี้ ๒๗ พรรษาแล้ว ยังไม่เคยมีใครมาถามความรู้ในมหาวิทยาลัย จะเป็นดอกเตอร์ หรือใครก็ตามที่มากราบหลวงพ่อ ส่วนมากถามว่า ในตัวมีพระจริงหรือเปล่า สรณะอยู่ที่ไหน เข้าถึงได้อย่างไร ทำอย่างไรใจถึงจะหยุดนิ่ง บุญบาปมีจริงไหม นรกสวรรค์มีจริงไหม อะไรต่างๆ เหล่านี้มากมายเลย แต่ไม่เคยมีใครมาถามว่า รัฐศาสตร์เป็นอย่างไร เศรษฐศาสตร์เป็นอย่างไร ศาสตร์กี่ศาสตร์ไม่เคยถาม ถามแต่พุทธศาสตร์ หลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ท่านรวบรวมเขียนตำราไว้เล่มหนึ่งชื่อ “คู่มือสมภาร” ท่านวางแนวทางเอาไว้ว่า สมภารทุกวัดจะต้องมีความรู้ทรงอภิญญา แล้วถ่ายทอดให้ลูกวัด ลูกวัดก็ถ่ายทอดให้ญาติโยมต่อๆ กันไป สอนเรื่องความดี ความชั่ว เรื่องศีลธรรม จะสอนกี่ยุคกี่สมัยก็ทันสมัยเสมอ ความกตัญญูเมื่อพันปีที่แล้ว กับความกตัญญูในปีนี้ หรืออีกพันปีข้างหน้าก็เหมือนกัน ใครๆ ก็ต้องการให้ลูกมีความกตัญญูต่อพ่อแม่ หรือฆราวาสธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงวางแนวทางเอาไว้สอนฆราวาส มุ่งสอนจากคดีโลกสู่คดีธรรม การฝึกฝนตนเองเพื่อมุ่งถึงจุดแห่งการหลุดพ้น นี่เป็นหน้าที่ของพระ คือทำหน้าที่เป็นครูสอนศีลธรรมให้แก่ชาวโลก ชาวโลกเขาอยากเห็นเนื้อนาบุญที่สามารถบอกเขาได้ว่า ทำบุญอย่างนี้แล้วจะได้อานิสงส์อะไร ตายแล้วจะไปไหน เป็นอยู่อย่างไร เขาอยากรู้ตรงนี้นะ ตรงนี้ต่างหากคือจุดที่โลกขาดแคลน หลวงพ่ออยากให้ลูกหลวงพ่อทุกรูปทุ่มเทชีวิตจิตใจมุ่งที่จะศึกษาความรู้ตรงนี้ ที่สามารถแนะนำชาวโลกได้ว่า ที่พึ่ง ที่แท้จริงของมนุษย์นั้นอยู่ที่ไหน เข้าถึงได้อย่างไร และอะไรคือเป้าหมายของชีวิต …

สิ่งที่ชาวโลกขาดแคลน Read More »

๗-๑ เหมือนขว้างความสุข…ไปข้างหน้า

หลวงพ่อนั่งคุยกับเศรษฐี อย่านึกว่าเศรษฐีเขามีความสุขนะ เศรษฐีคุ้นกับการลงทุน เหมือนนักมวยต้องต่อยมวย นักลงทุนต้องลงทุน ได้โครงการนี้มาอิ่มใจได้หน่อยเดียว ทนไม่ไหวต้องเอาไปลงทุนใหม่อีกแล้ว เขาจะกลัวอยู่อย่างคือ กลัวเงินอยู่เฉยๆ เม็ดเงินแต่ละเม็ด ถ้าลงไปแล้วต้องมีเม็ดเงินงอกต่อมา เพราะฉะนั้นสิ่งอะไรที่มองไม่เห็นเป็นรูปธรรม เป็นเม็ดเงินขึ้นมา เขาไม่เอา พอลงทุนไปแล้วไม่ใช่ว่าหมูนะ เมื่อขยายงาน ก็ต้องขยายทีม พอขยายทีมก็ต้องขยายทุน ขยายทุนก็ขยายที่ ขยายที่ก็ต้องขยายดอก ขยายดอกขยายปัญหา ขยายปัญหาขยายความเครียด ขยายความกดดันไปเรื่อยๆ เป็นอย่างนี้จนหมดเวลาของชีวิต หลวงพ่อคุยกับเศรษฐีทีไรเห็นเขากลุ้มใจทุกที หลวงพ่อเคยถามมหาเศรษฐีว่า หาเงินเยอะๆ ไปทำไม แปลกจัง เขาตอบไม่ค่อยได้ แต่ถ้าถามว่าหาเงินอย่างไร ตอบเก่งมาก คล่องมาก แต่พูดไปก็บ่นไป กลุ้มไป ดูปนทุกข์อย่างไรก็ไม่รู้ เหมือนขว้างความสุขไปข้างหน้า ในที่สุดก็หมดเวลากันไป ไม่ได้อะไร เมื่อ ๑๐ ปีที่แล้ว มีเศรษฐีระดับหมื่นล้านบอกกับหลวงพ่อว่า ให้แก่ๆ ก่อน แล้วจะเข้าวัดปฏิบัติธรรม ตอนนี้ตายไปแล้ว ไม่รู้ว่าแก่หรือยัง ยังไม่ทันได้นั่งสมาธิเลย ชีวิตมันก็แค่นี้ แป๊บเดียวเท่านั้นเอง หลวงพ่อก็เจออย่างนี้ มันสู้การศึกษาวิชชาธรรมกายไม่ได้ เพราะฉะนั้นอย่าให้มีความคิดว่า จะสึกดีหรือจะอยู่ดี …

๗-๑ เหมือนขว้างความสุข…ไปข้างหน้า Read More »

๓-๓ ถ้อยคำสุดท้าย

ถ้อยคำสุดท้าย ประโยคสุดท้ายของมวลมนุษย์ ของ เทวดา พรหม อรูปพรหม ที่ยังเวียนว่ายตายเกิด เมื่อถึงคราว ยุติการเกิด ถึงที่สุดแห่งธรรมแล้วคือ “สัมมา อะระหัง” พอพูดแล้ว หยุดแล้ว ไม่กระวนกระวาย ไม่เดินทางต่อ กิจอย่างอื่นไม่ต้องมีอีกแล้ว ขีณา ชาติ วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ กตํ กรณียํ นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจจำต้องทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้ไม่มีอีกแล้ว เพราะฉะนั้น คำสุดท้ายคือ สัมมา อะระหัง หลังจากที่พูดโน่น พูดนี่ พูดให้ใจกระเพื่อมสารพัด เมื่อภาวนา “สัมมา อะระหัง” ไปเรื่อยๆ พอใจหยุด คำภาวนาจะหายไป สัมมา อะระหัง เป็นประดุจยวดยานพาหนะที่ส่งใจถึงฝั่ง คือ ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ต่อจากนี้ไปเดินทางเส้นทางสายกลางอริยมรรคโดยปลอดภัยถึงที่หมาย นี่คือถ้อยคำสุดท้าย เพราะฉะนั้น อย่าถอยหลังไปเริ่มต้นใหม่ ในขณะที่เขากำลังเพลินเพราะความไม่รู้ แต่เรากำลังเพลินด้วยความรู้ …

๓-๓ ถ้อยคำสุดท้าย Read More »

๔ ที่สุดแห่งการแสวงหา

ลูกเณรอยู่ในสภาวะของผู้เข้าใกล้พระรัตนตรัยแล้ว มาถึงจุดของผู้รู้ที่ได้ครองผ้ากาสาวพัสตร์ เป็นเครื่องแบบชุดสุดท้ายสำหรับการเดินทางในสังสารวัฏ มีข้อวัตรปฏิบัติสุดท้ายที่เป็นไปเพื่อจะไปให้ถึงที่สุดแห่งธรรม ให้ลูกเณรทุ่มเทชีวิตจิตใจ ฝึกกาย วาจา ใจ ของเรา ให้มีความพร้อมที่จะเข้าถึงธรรมกายที่มีอยู่แล้วในตัวของเรา จะได้พ้นจากความทุกข์ทั้งหลาย สามารถช่วยตัวเราเองและสรรพสัตว์ทั้งหลายได้ด้วย หลวงพ่ออยากให้ลูกเณรทุกรูปทุ่มเทชีวิตจิตใจเพื่อแสวงหาธรรมกายอย่างเดียว ไม่ไปแสวงหาสิ่งอื่น ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่เป็นแก่นสารของชีวิต เรื่องอื่นเป็นเรื่องของชาวโลก เขายังไม่รู้ ยังไม่เข้าใจ เขารู้ในสิ่งที่เขาได้เห็นในโลก เกิดมาเห็นชาวโลกเขาทำอย่างไรก็ทำตามๆ กันอย่างนั้น ซึ่งในที่สุดก็ไม่เกิดประโยชน์ แถมเกิดโทษ มีพันธนาการของชีวิต มีความทุกข์ เซ็ง เครียด เบื่อ กลุ้ม สุมอยู่ในใจตลอดวันตลอดคืน แต่บอกใครไม่ได้ จะลาออกจากสมาชิกครอบครัวก็ไม่ได้ เพราะมีพันธะชีวิตเสียแล้ว ต้องทำมาหากิน ต้องแก่งแย่งชิงดีกัน มีทั้งคู่แข่ง มีทั้งคู่แค้น ลำบากตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งเข้านอน หลับก็ไม่สนิท ตื่นมาก็ไม่เป็นสุข ชีวิตต้องดิ้นรนสับสนอยู่ตลอดเวลา เพราะเขาเกิดมาเจออย่างนั้น ก็ทำตามกันไปอย่างนั้น ชีวิตทางโลกไม่มีอะไรหรอก ลูกเณรกำลังอยู่ในวัยห้าว กำลังคิดอยากเป็นโน่น เป็นนี่ ไปนั่น ไปนี่ ถ้าเป็นธรรมกายเสียจะดีกว่า ประเสริฐกว่า เพราะเมื่อเข้าถึงธรรมแล้ว สามารถช่วยตนเองให้พ้นทุกข์ได้ และช่วยเหลือผู้อื่นได้ด้วย ลูกเณรต้องตั้งใจแสวงหาธรรมกายอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพันเลย …

๔ ที่สุดแห่งการแสวงหา Read More »

๔-๑ คล้ายกรงขัง

ปากทางแห่งความเสื่อม ปากทางดูสวยสดงดงาม ดูหรูทีเดียว เราลองไปดูรูงู รูเต่า หรือหลุมโจนดักปลา ปากทางมันลื่น สวย ลงง่าย เช่นเดียวกับปากทางแห่งความเสื่อม แห่งความหายนะ ดูสวยสดงดงาม ลื่นและลงง่ายอย่างนั้น เห็นแล้วชวนแก่การเข้าไปจริงๆ แต่พอหล่นตกลงไปแล้ว ขึ้นไม่ได้ พันธนาการของชีวิตก็เช่นเดียวกัน เรามองออกไปนอกวัด เห็นเพื่อนฝูง เห็นชาวโลกได้เรียนสูงๆ จบปริญญา นั่งรถเบนซ์ รถเก๋ง มีลูกมีเต้า เข้ามาวัดหัวเราะร่าเริง ยิ้มแย้มแจ่มใส มีคนนับหน้าถือตา มีบริวารห้อมล้อม พรั่งพร้อมทุกอย่าง เขาคงจะมีความสุข ส่วนเราอยู่ในวัด นั่นก็ระเบียบ นั่นก็วินัย นั่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้ อะไรก็ไม่ได้สักอย่าง อยากจะกินก๋วยเตี๋ยวตอนกลางคืนก็ไม่ได้ กินมาม่าใส่ไข่เยี่ยวม้าก็ไม่ได้ จะดูนั่นดูนี่ก็ไม่ได้ ได้ยินเสียงกล้ามเนื้อกระตุกก็เต้นไม่ได้ มันชักอึดอัด แล้วดูเพื่อนฝูงที่อยู่ข้างนอก ดูเขามีความสุขจังเลย แต่นั่นละ หน้าชื่นอกตรม คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า จะออกก็ไม่ได้ แต่คนนอกยังไม่รู้เรื่อง ยังสงสัยอยู่ อยากจะเป็นอย่างนั้น สุดท้ายก็หล่นหลุมโจนตกลงไปในไห ดูเผินๆ ตื้นๆ เหมือนเราอยู่ในกรงขัง …

๔-๑ คล้ายกรงขัง Read More »

๔-๒ เงื่อนไขชีวิต

ทุกชีวิตไม่ว่าเราจะไปอยู่ตรงไหน มีเงื่อนไขทั้งนั้น เป็นนักบวช จะให้เขาเคารพกราบไหว้บูชา ให้โอกาสเราทำความดี ทำหยุด ทำนิ่ง ก็ต้องมีเงื่อนไข คือมีกฎระเบียบ มีพระธรรมวินัย ที่จะทำให้เราแตกต่างจากชาวโลก ให้เราดีขึ้น สว่างขึ้น บริสุทธิ์ขึ้น อยู่ทางโลก ได้เที่ยวเตร่สนุกสนาน เฮฮา มีครอบครัว ก็มีเงื่อนไขคือ มีพันธนาการของชีวิต ต้องทำมาหากิน ต้องเลี้ยงดูครอบครัว ไม่มีโอกาสได้ประพฤติปฏิบัติธรรม ได้สร้าง ความดี สร้างบารมีได้อย่างเต็มที่อย่างเช่นนักบวช นักบวชไม่ต้องทำมาหากิน แต่ก็ต้องทำศีล สมาธิ ปัญญา ให้เจริญ ฝึกหยุด ฝึกนิ่ง ส่วนทางโลกเขาไม่ต้องทำอย่างนี้ เขามีครอบครัวได้ แต่ต้องทำมาหากิน การทำมาหากินทางโลกลำบากมาก ลูกเอ๊ย! กว่าจะได้เงินทองมา ต้องไปตบไปตีเขานะ ไม่ใช่หมายความว่าต้องไปตบเขาจริงๆ แต่หมายความว่า ต้องไปต่อสู้กับเขา มันลำบาก ทำมาหากิน ยังไม่พอจะกิน อย่าหวังทำมาหาเก็บ หรือทำมาค้าขาย ยิ่งทำมาสร้างบารมีนี่น้อยที่สุดเลย เพราะฉะนั้น จะอยู่ในเพศสมณะก็มีเงื่อนไข เป็นฆราวาสก็มีเงื่อนไขเหมือนกัน จะอยู่ตรงไหนมีเงื่อนไขทั้งนั้น จะรับราชการทหาร เขาก็มีเงื่อนไขของทหาร …

๔-๒ เงื่อนไขชีวิต Read More »

๔-๓ วินัย

วินัย คือ สิ่งที่นำเราออกไปดี นำเราไปแจ้ง นำเราให้แตกต่างจากชาวโลก จนกระทั่งเขาเคารพกราบไหว้บูชาเราได้ ด้วยความเลื่อมใสในข้อวัตรปฏิบัติและปฏิปทาของเรา เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความงดงาม และความอยู่เป็นสุขของหมู่คณะ เป็นสิ่งที่ยังความเลื่อมใสยิ่งขึ้นแก่หมู่ชนผู้เลื่อมใสแล้ว และยังความเลื่อมใสแก่ผู้ที่ยังไม่เลื่อมใส เพราะฉะนั้น อย่าอึดอัดกับการที่ต้องอยู่ในพระธรรมวินัย ให้คิดว่ากฎระเบียบหรือพระธรรมวินัยเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เหมือนตื่นเช้าขึ้นมาอาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน ขับถ่าย ไม่มีใครมาบอกเรา แต่เป็นสิ่งที่เราทำเป็นปกติอยู่แล้ว หากลูกเณรทำได้อย่างนี้ ต่อไปจะเกิดอานิสงส์ คือ ทำให้จิตใจเราเบิกบาน แช่มชื่น แล้วก็ติดเป็นนิสัย ไม่มีความรู้สึกว่า เป็นสิ่งที่ทำให้เราอึดอัด คับแคบ ยุ่งยากใจ ลำบากใจ ดังนั้น ลูกเณรอย่าเสียเวลาอึดอัดใจกับการที่เราต้องอยู่ในระเบียบวินัย ด้วยการทำความเข้าใจว่า เรามาอยู่ในสภาวะของผู้มีบุญมีบารมี มาอยู่ในภาวะจุดสูงสุดแล้ว อะไรๆ ไม่เป็นอุปสรรคทั้งนั้น จะเป็นคำแนะนำสั่งสอน กฎระเบียบวินัยก็ดีเป็นเรื่องเล็ก เราทำตามเสียก็หมดเรื่อง แล้วก็ตั้งใจฝึกฝนตนเองให้ดี ให้สมควรที่จะรองรับวิชชาธรรมกาย เดี๋ยวเราก็อยู่เป็นสุขสบาย เดี๋ยววัน เดี๋ยวคืน เดี๋ยวเดือน เดี๋ยวปี เดี๋ยว หลายๆ ปี เดี๋ยวก็แก่เฒ่ากันแล้ว โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) …

๔-๓ วินัย Read More »

๔-๔ หยาดเหงื่อที่หลั่ง…ต่างกลั่นเป็นบุญ

วัยของลูกเณร เป็นวัยที่เหมาะสมในการศึกษาวิชชาธรรมกายอย่างยิ่ง เพราะว่าวัยนี้มีโรคน้อย สุขภาพยังแข็งแรง เครื่องกังวลก็ไม่มี เหนื่อยแป๊บเดียว เดี๋ยวพักก็หาย ลูกเณรยังเหนื่อยไม่จริง วัยขนาดหลวงพ่อนี่เหนื่อยจริง นั่งเฉยๆ ก็เหนื่อย นอนเฉยๆ ก็เหนื่อย ในวัยของลูกเณรกำลังแข็งแรง สดชื่น เบิกบาน มีความพร้อมทุกอย่างเลย ตั้งหน้าตั้งตาศึกษาเล่าเรียน ฝึกฝนตัวเราให้ดี ทุกกิจกรรมมีเอาไว้เพื่อการสร้างบารมีทั้งนั้น อย่าคิดเพียงตื้นๆ ว่า ทำไมเราจะต้องทำงานโน่น ทำงานนี่ ลำบากลำบนจังเลย อย่าไปคิดอย่างนั้น วัดของเราเป็นของลูกเณรทั้งหมด ต่อไปเมื่อหลวงพ่อไม่อยู่แล้ว ทีมของลูกเณรเจริญเติบโตขึ้น ก็ต้องมารองรับในสิ่งที่หลวงพ่อและชุดบุกเบิกได้สร้างขึ้นมา ลูกเณรอยู่ในชุดรักษา และทำให้เจริญต่อไป เราต้องเรียนรู้งานทุกระบบ ตั้งแต่ในห้องน้ำหลวงพ่อก็ทำมาแล้ว ต้นไม้ใบหญ้า ขุดลอกคันคูคลอง ทำความสะอาด จัดเสนาสนะ ตลอดจนกระทั่งงานทุกอย่าง เป็นเรื่องปกติที่จะต้องเรียนรู้ไปทุกระบบ เป็นงานที่เราต้องทำ เมื่อทำแล้ว นอกจากจะได้เรียนรู้งานแล้ว ยังทำให้ร่างกายแข็งแรง เลือดลม เดินสะดวก และเป็นการฝึกความมีระบบระเบียบแก่เราด้วย คนที่มีใจรักความสะอาด มีอานิสงส์คือ สิ่งสกปรกจะเข้าใกล้เราไม่ได้ จะไปเกิดในภพไหนก็แล้วแต่ จะไปเป็นชาวสวรรค์ วิมานเราก็จะสว่างมีรัศมียิ่งกว่าใคร ลงมาเกิดเป็นมนุษย์แล้ว สิ่งที่สกปรกไม่เข้ามาใกล้เราเลย …

๔-๔ หยาดเหงื่อที่หลั่ง…ต่างกลั่นเป็นบุญ Read More »

๕ ถ้าคิดจะสู้ เรื่องอื่นก็ไร้ความหมาย

วัยลูกเณร เป็นวัยที่เหมาะสมในการศึกษาวิชชาธรรมกายเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นวัยที่แข็งแรง โรคภัยไข้เจ็บยังน้อย ภาระเครื่องกังวลก็ไม่มี ถ้าเอาความแข็งแรงความสดชื่นของร่างกาย ความมีโรคน้อย กับความปลอดกังวลในวัยนี้ ทุ่มเทชีวิตจิตใจศึกษาธรรมปฏิบัติ จะเป็นประโยชน์ต่อตนเองและชาวโลกอย่างยิ่ง แต่จะมีอยู่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ลูกเณรหลุดจากเส้นทางธรรม ก็คือ นำความกำหนัดยินดีในกามมายั่วยวนให้หลงใหล นำความเพ้อฝันในอนาคต อยากมีทรัพย์ ลาภ ยศ สรรเสริญ ความเทียมหน้าเทียมตากับชาวโลกเขา หรือยิ่งใหญ่ไปกว่านั้นมาล่อลวง นี่คือสิ่งที่ลูกเณรจะต้องเจอ แต่ถ้าลูกเณรตัดสินใจอย่างแน่วแน่ที่จะเดินไปในเส้นทางนี้และพร้อมที่จะสู้ไปกับหลวงพ่อ และมีวิชชาธรรมกายเป็นสรณะเป็นที่พึ่งที่ระลึกแล้วละก็ สิ่งเหล่านี้ก็ไร้ความหมาย ลูกเณรสามารถเอาชนะได้อย่างสบายๆ หลวงพ่อได้ผ่านวัยนี้มาแล้ว ไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไร โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) วันที่ วันอาทิตย์ที่ ๒๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๓๙ ที่มา หนังสือ ผ้าสีสุดท้าย อ่านในรูปแบบ EBook ที่นี่

๑ เส้นทางที่เลือกเอง

การที่เราทิ้งทุกสิ่งมาจากทางโลก เพราะเห็นว่าชีวิตทางโลกนั้นเป็นชีวิตที่อึดอัด คับแคบ เหมือนปลาอยู่ในข้อง ถึงจะสนุกสนานเพลิดเพลิน ก็สนุกสนานไปแบบแกนๆ กันไปอย่างนั้น จึงได้ทิ้งสิ่งเหล่านั้นมาสู่เส้นทางนี้ เมื่อเราตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวเด็ดขาดจะเข้ามาสู่ในเส้นทางธรรม ก็จะต้องประพฤติปฏิบัติอย่างตั้งใจ ให้ได้บรรลุวัตถุประสงค์ของการมาสู่เส้นทางธรรม ที่จะมาศึกษาพระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มาฝึกฝนอบรม ตนเอง และมาสร้างบารมี ให้ทำให้ได้อย่างที่ได้ตั้งใจเอาไว้ โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) วันที่ วันอังคารที่ ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๐ ที่มา หนังสือ ผ้าสีสุดท้าย อ่านในรูปแบบ EBook ที่นี่

๕-๑ มะม่วงยังไม่ลืมต้น

อย่างไรก็ตาม เพื่อความไม่ประมาท ลูกเณรจะต้องทำอย่างที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสสอนก็คือ ให้ถือว่าเรายังเป็นนวกะอยู่ หมายความว่า ยังเป็นผู้ใหม่ในพระธรรมวินัย แม้ยังไม่ได้บวชเป็นพระก็ตาม ภายใน ๕ ปีนี้ ลูกเณรจะต้องพรากจากครอบครัวอย่างแท้จริง พรากจากหมู่ญาติ จากเพื่อนฝูง จากข่าวสารต่างๆ ที่เป็นพิษเป็นภัยต่อจิตใจของลูกเณร ลูกเณรต้องเอาชนะสิ่งนี้ให้ได้ เพราะ ๕ ปีที่อยู่ในเส้นทางนี้เหมือนมะม่วงยังไม่ลืมต้น มะม่วงที่เปรี้ยวจะต้องปลิดออกมาบ่มให้สุกงอม ให้คลายรสเปรี้ยวเสียก่อน ลูกเณรก็เช่นเดียวกัน ถึงแม้ว่าจะมีเครื่องแต่งกายใหม่ก็ตาม แต่ถ้าหากว่า จิตใจของเรายังไม่พรากจากสิ่งเหล่านั้นจริงๆ เครื่องแบบก็เป็นเพียงเครื่องแบบ ลูกเณรต้องทำความเข้าใจกับหมู่ญาติให้ดีว่า ๕ ปีนี้ ลูกเณรขอโอกาสศึกษาพระธรรมวินัยให้เต็มที่ เพื่อให้แตกฉาน ให้ใจเข้มแข็ง ไม่ใช่ไม่รัก ไม่เคารพโยมพ่อ โยมแม่ ปู่ย่า ตายาย ญาติมิตร แต่ว่าลูกเณรยังเป็นผู้ใหม่อยู่ จึงจะต้องศึกษาพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด ถ้าหากว่ากลับไปเยี่ยมบ้าน สิ่งที่จะได้ยินได้ฟังก็มีแต่เรื่องทางโลก เรื่องที่นำมาซึ่งความร้อนใจ ทำให้จิตหยาบ เกิดความท้อ และในที่สุดเราก็จะถอยจากเส้นทางนี้ออกไป เพราะฉะนั้น ๕ ปีนี้ จะต้องเป็น ๕ ปีที่ลูกเณรจะต้องเข้มแข็ง ตั้งใจมั่นที่จะศึกษาฝึกฝนตัวของเราให้เป็นสามเณรที่โลกต้องการ เป็นสามเณรทหารกล้าแห่งกองทัพธรรมที่มุ่งจะไปถึงที่สุดแห่งธรรม จะต้องทำความเข้าใจกับหมู่ญาติให้ดี …

๕-๑ มะม่วงยังไม่ลืมต้น Read More »