วันเวลาที่ผ่านไป ก็ให้ผ่านไปด้วยการสั่งสมความดีความบริสุทธิ์ผุดผ่องเข้ามาใส่ตัวของเราให้มากๆ ให้หมั่นตรวจตราดูแลตัวของเราเองให้ดี ตั้งแต่ภายในออกมาสู่ภายนอก นั่นคือตรวจตราดูแลจิตใจ ความรู้สึกนึกคิดของเรา ให้สะอาด ให้เกลี้ยงเกลา จากสิ่งที่เป็นข้าศึกต่อกุศล ต่อความบริสุทธิ์ ผุดผ่อง ให้ใจเราผ่องใสประภัสสรอยู่ตลอดเวลา ตรวจตราดูแลวาจาและการกระทำของเรา ให้บริสุทธิ์ผุดผ่องอยู่ตลอดเวลา ตรวจตราดูแลทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบตัวเรา ไม่ว่าจะเป็นอาภรณ์ เครื่องนุ่งห่ม อาวาสที่อยู่อาศัย ตลอดจนกระทั่งอาหารที่จะนำเข้าไปสู่ร่างกายของเรา ต้องบริสุทธิ์ผุดผ่องตลอดหมด สิ่งอะไรที่จะไหลผ่านกาย วาจา ใจของเราต้องสะอาด ต้องบริสุทธิ์ผุดผ่อง อย่างนี้ถึงจะสมกับการได้เข้ามาสู่เส้นทางอันบริสุทธิ์สายนี้ เมื่อเราบริสุทธิ์ผุดผ่อง กระทั่งเป็นที่พึ่งต่อตัวเราเองได้ ก็จะได้เป็นหลักเป็นที่พึ่งของชาวโลกต่อไปในอนาคต ชาวโลกนั้นขาดที่พึ่ง เขายังว้าเหว่อยู่ ยังไม่รู้ว่าจะเดินไปทางไหนชีวิตถึงจะรอดปลอดภัยจากความทุกข์ทรมานในสังสารวัฏและ ในอบาย เพราะฉะนั้นเขาจึงต้องแสวงหาผู้รู้ที่จะเป็นหลักที่พึ่งให้เขาได้ ผู้รู้ที่จะเป็นที่พึ่งแก่ชาวโลกได้นั้นก็คือ ผู้ที่ได้เข้าถึงธรรมกายภายใน เพราะว่าเมื่อถึงหลักของชีวิตแล้ว เอาตัวรอดปลอดภัยแล้ว ต่อจากนั้นก็เป็นเรื่องของการทำหน้าที่ที่จะเป็นหลักเป็นที่พึ่งให้ชาวโลก ถ้ารู้แล้วเห็นแล้วไม่ไปทำหน้าที่นี้ มันก็ผิดหน้าที่ หน้าที่ของเราก็ไม่สมบูรณ์ ได้แค่ประโยชน์ตน แต่ว่าประโยชน์ท่านนั้นยังไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็จะต้องทำหน้าที่กันต่อไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ เหมือนอ้อยที่เขาหีบเอาความหวานหมดไป เหลือแต่ชานก็ทิ้งไปอย่างนั้น ร่างกายนี้ก็เช่นเดียวกัน เมื่อเราอาศัยสร้างความดีเพื่อประโยชน์ตนและประโยชน์ท่านเสร็จเรียบร้อยแล้ว ถึงคราวที่ร่างกายใช้ไม่ได้ก็จากไปสู่ภพภูมิใหม่ เหมือนภาชนะดินที่แตกทำลายไปใช้ภาชนะทองคำแทนอย่างนั้น การที่จะเดินทางไปสู่เส้นทางสายกลางภายในนั้น เป็นการเดินสวนกระแสกิเลส กระแสแห่งความทุกข์ทรมาน เพราะฉะนั้นจงมีความสุขและสนุกสนานกับการสวนกระแส ซึ่งเป็นสิ่งที่จะทำให้กาย …
๑-๑ นาถของโลก Read More »