หลวงพ่อธัมมชโย

51.ทางรอดของมนุษย์

ทางรอดของมนุษย์ ตอนนี้ทั่วโลกต่างก็มีสุขมีทุกข์กันไป บางประเทศก็สุขมาก ทุกข์น้อย บางประเทศก็ทุกข์น้อย สุขมาก หรือทุกข์มากสุขน้อยสลับกันไป ซึ่งเป็นเรื่องปกติธรรมดา… ทางรอดของมวลมนุษยชาติ มีทางเดียวเท่านั้น คือ ต้องมองกลับเข้าไปสู่ภายใน หยุดใจให้ได้ แล้วให้เข้าไปถึงพระรัตนตรัยในตัว อย่ามัวทะเลาะ หรือขัดแย้งกัน มองผ่านความแตกต่าง เข้าไปถึงความเหมือนกันภายใน นั่นแหละ เป็นทางรอดของมวลมนุษยชาติ ถ้าทุกคนทำอย่างนี้… โลกก็จะเกิดสันติสุขที่แท้จริง เพราะฉะนั้น…ถึงเวลาแล้ว ที่เราควรจะเลิกทะเลาะกัน แล้วก็หยุดใจเข้าสู่ภายใน ๑๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา https://www.dhamma01.com/book/43 ต้นฉบับ หนังสือ คำสอนคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม 2 กลับสู่ สารบัญ หนังสือคำสอนครูไม่ใหญ่

24.อย่าวางเงียบ ! ถ้ารักสงบตอนนี้ ต่อไปจะไม่สงบ

อย่าวางเงียบ ! ถ้ารักสงบตอนนี้ ต่อไปจะไม่สงบ ชาวพุทธนี่แปลก เวลามีเรื่องราวอะไรมากระทบถึงพระศาสนา มักจะอยู่กันเฉย ๆ วางอุเบกขา แล้วก็ชอบมาลุยกันเอง ถนัดนักลุยกันเอง แต่ความจริงแล้ว ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวให้วางอุเบกขา ถ้าเป็นเรื่องพระศาสนา ให้เอาอุเบกขาวาง แล้วลุยกันเลยตามหลักวิชชา ลุยในที่นี้ ไม่ใช่เอาไม้ไปตีหัวเขานะ แต่หมายถึง ให้รวมพลังสร้างความดี และอะไรที่เขาเข้าใจไม่ถูกต้อง เราก็ต้องชี้แจง อย่าให้เขาคิดเอง เพราะถ้าให้เขาคิดเอง เขาก็คิดอย่างนั้น พูดอย่างนั้น แล้วมันก็กระทบ แล้วจะกระเทือนไปทั่วสังฆมณฑลไปหมด ดังนั้น ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัว วางอุเบกขาได้ แต่ถ้าเรื่องพระศาสนา ต้องเอาอุเบกขาวาง แล้วรวมตัวไปชี้แจงด้วยเหตุผล เป็นต้น ต้องตื่นตัว ไม่ใช่วางเงียบกัน ถ้ารักสงบตอนนี้ ต่อไปมันจะไม่สงบ ! ๒๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๗ พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา https://www.dhamma01.com/book/43 ต้นฉบับ หนังสือ คำสอนคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม 2 …

24.อย่าวางเงียบ ! ถ้ารักสงบตอนนี้ ต่อไปจะไม่สงบ Read More »

40.ใจหยุด ใจนิ่ง..เข้าถึงบรมสุข

ใจหยุด ใจนิ่ง..เข้าถึงบรมสุข พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ทรงค้นพบว่า ความสุขที่แท้จริงนั้น อยู่ในตัวเรา ไม่ต้องไปแสวงหาที่ไหน ถ้าแสวงหาผิดที่ก็ไม่พบ ถ้าแสวงหา ถูกที่จึงจะพบ เมื่อพบแล้วพระองค์ก็สรุปให้ฟังว่า นตฺถิ สนฺติปรํ สุขํ  ใจหยุด ใจนิ่ง..เข้าถึงบรมสุข https://dhamma01.blogspot.com/2016/09/blog-post_1.html พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ทรงค้นพบว่า ความสุขที่แท้จริงนั้น อยู่ในตัวเรา ไม่ต้องไปแสวงหาที่ไหน ถ้าแสวงหาผิดที่ก็ไม่พบ ถ้าแสวงหา ถูกที่จึงจะพบ เมื่อพบแล้วพระองค์ก็สรุปให้ฟังว่า นตฺถิ สนฺติปรํ สุขํ  ใจหยุด ใจนิ่ง เป็นบรมสุข คือ ใจที่ปลด ปล่อย วาง จากอารมณ์ต่าง ๆ ภายนอก จากความ ยินดียินร้าย ในรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ธรรมารมณ์ต่าง ๆ เหล่านั้น ให้หันกลับมาหยุดนิ่งอยู่ภายใน สิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นไม่ใช่ของจริง ไม่ว่าจะเป็นคน เป็นสัตว์ …

40.ใจหยุด ใจนิ่ง..เข้าถึงบรมสุข Read More »

25.วัดพระธรรมกาย..ไม่ใช่นิกายใหม่

วัดพระธรรมกาย..ไม่ใช่นิกายใหม่ “วาทกรรม” คือ ถ้อยคำที่พูดซ้ำ ๆ บ่อย ๆ ไม่ว่าดีหรือชั่วก็ตาม จริงหรือโกหกก็ตาม พูดบ่อย ๆ จนคนเชื่อว่า เป็นความจริง ครูไม่ใหญ่เจอวาทกรรมเรื่อยเลย สมัยก่อนตอนสร้างวัดใหม่ ๆ มีคน ไปให้ข้อมูลสื่อ แล้วก็คุยต่อ ๆ กันว่า ใต้ถุนโบสถ์มีอาวุธ ตอนแรกก็เหมือน พูดเล่นสนุก ๆ แต่พอกระทุ้งกันไปเรื่อย ๆ ก็มีคนเชื่อนะ ในยุคนั้น ใครมาเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี จะต้องแวะเวียน มาเยี่ยมวัดพระธรรมกาย โดยมีวัตถุประสงค์จะไปดูใต้ถุนโบสถ์ ต้องมุด ลงไปดู ลำบากทีเดียว ปรากฏว่าไม่มีอาวุธ พอหมดวาระ คนใหม่มารับ ตำแหน่ง ก็มาดูอีกแล้ว หรือท่านนายอำเภอคลองหลวงก็มาเยี่ยมเยียน ใต้ถุนโบสถ์ รู้สึกว่าที่นั่นเป็นที่รับแขกอย่างดี หมดยุคนั้น ก็มายุคคอมมิวนิสต์ เขาก็แต่งตั้งให้เป็นคอมมิวนิสต์ อีกแล้ว ต่อมาว่า วัดพระธรรมกายเป็นนิกายใหม่ ตอกย้ำซ้ำเดิมไปเรื่อย ๆ เป็นนิกายใหม่ ๆ เพราะสอนเรื่องธรรมกาย คือ …

25.วัดพระธรรมกาย..ไม่ใช่นิกายใหม่ Read More »

26.พุทธบุตรต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน

พุทธบุตรต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน พระทุกวัดจะต้องรักกัน อย่าแบ่งแยกกัน เป็นวัดนั้น วัดนี้ นิกายนั้น นิกายนี้ เราได้ทดลองทำ อย่างนั้นมาแล้ว ลองแยกนิกายแล้ว นึกว่ามันจะดี ปรากฏว่าจนถึงปัจจุบันนี้มันไม่ดี มีปัญหากันเรื่อยมา หมดเวลาที่จะแบ่งแยกแล้ว ถึงเวลาแล้วที่พระต้องรวมเป็นหนึ่ง คิดเหมือนกัน พูดเหมือนกัน ทำเหมือนกัน คิดถูก พูดถูก ทำถูก ไปพร้อม ๆ กันเหมือนในสมัยพุทธกาล ถ้ารวมกันเป็นหนึ่งเป็นนิกายเดียว “พุทธนิกาย” ไม่มีนิกายนั้น นิกายนี้ แล้วมีความรักสมัครสมานสามัคคีกัน มุ่งทำพระนิพพานให้แจ้ง ดังวาทธรรมที่ว่า พุทธบุตรต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนดวงตะวันที่มีดวงเดียว ดวงตะวันไม่มีข้างแรม ไม่มีแหว่ง ไม่มีเว้า เหมือนพระจันทร์ มีอยู่ดวงเดียวทำหน้าที่ส่องแสงสว่างให้แก่โลก พุทธบุตรเช่นเดียวกัน ต้องรวมกันเป็นหนึ่ง เพราะเป็นผู้ให้แสงสว่างส่องทางชีวิตให้ชาวโลก เหมือนดวงตะวันอย่างนั้น ถ้าต่างคนต่างทำ แล้วไม่รักกัน มันก็ไม่มีพลัง ไม่มีประโยชน์ เพราะ ฉะนั้นถึงเวลาแล้วที่จะต้องรวมกัน แล้วไปศึกษาคำสอนดั้งเดิมของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ทรงสอนอย่างไร มีข้อวัตรปฏิบัติอย่างไร จะได้ทำเหมือน ๆ กัน …

26.พุทธบุตรต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน Read More »

27.วิชชาธรรมกาย

วิชชาธรรมกาย คำว่า “วิชชาธรรมกาย” ประกอบด้วย ๒ คำ คือ คำว่า “วิชชา” กับคำว่า “ธรรมกาย” คำว่า “วิชชา” แตกต่างจากคำว่า “วิชา” ในทางโลกที่เราได้เคย ศึกษาเล่าเรียนกัน วิชาทางโลกนั้นเป็นความรู้ที่เกิดขึ้นใน ๒ ระดับ คือ ระดับสุตมยปัญญา กับ จินตามยปัญญา สุตมยปัญญา คือ ความรอบรู้ที่เกิดจากการได้ยิน ได้ฟัง ได้อ่าน ได้ศึกษาเล่าเรียนมา เป็นการรู้จำ คือ จำในสิ่งที่ผู้รู้ ไม่ว่าจะมีความรู้ สมบูรณ์หรือไม่สมบูรณ์ก็ตาม ได้บันทึกเรื่องราวสิ่งที่รู้เห็นเอาไว้เป็น วิทยาทานให้ได้ศึกษากันสืบต่อมา จินตามยปัญญา คือ ความรู้ที่เกิดจากการนำมาคิดพิจารณา หาเหตุผลแบบนักคิดทั่วไป ความคิดบางครั้งถูกบ้าง ผิดบ้าง นี่เป็นปัญญาใน ๒ ระดับ แต่ปัญญาในพระพุทธศาสนามี ๓ ระดับ ระดับที่ ๓ คือ ภาวนามยปัญญา เป็นปัญญาที่เกิดจากการฝึกฝน ลงมือปฏิบัติแล้ว …

27.วิชชาธรรมกาย Read More »

28.วัดพระธรรมกาย..พุทธดั้งเดิม ไม่ใช่นิกายใหม่

วัดพระธรรมกาย..พุทธดั้งเดิม ไม่ใช่นิกายใหม่ ในสมัยพุทธกาลไม่มีนิกายนะ มีแต่ “ธรรมกาย” เพราะสมัยนั้นเขาปฏิบัติ จนกระทั่งเข้าถึงธรรมกายกันเป็นเรื่องปกติ แค่ได้ยินได้ฟังธรรมก็บรรลุธรรมาภิสมัย บรรลุธรรมกันแล้ว แต่ต่อมาก็ย่อหย่อนในการปฏิบัติ ไม่ให้ความสำคัญกับการปฏิบัติ ธรรม พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ การศึกษาอะไรเหล่านี้ เป็นต้น เพราะ ฉะนั้นคำสอนก็เลยเลอะเลือนเลือนรางไป มีแต่คำว่า ธรรมกาย ยังปรากฏ อยู่ในคัมภีร์ต่าง ๆ ในพระพุทธศาสนาซึ่งกระจัดกระจายไปตามนิกายต่าง ๆ แล้วก็มีนักคิดเกิดขึ้น ก็คิดกันไปตามเรื่องตามราวเท่าที่ตัวเองจะ เข้าใจ โดยใช้จินตามยปัญญา มีบางพวกเจริญภาวนาเหมือนกัน แต่ปฏิบัติไป ไม่ถึงจุดตรงนั้น เพราะฉะนั้นความเห็นจึงแตกต่างกันไป นิกายก็เลยเกิดขึ้น ในภายหลัง เมื่อพระเดชพระคุณหลวงปู่บังเกิดขึ้น แล้วก็ได้มีการค้นพบวิชชา ธรรมกายเกิดขึ้นมา เราจึงปฏิบัติได้ถูกต้อง แต่ว่าผู้ที่มาภายหลังนั้นไม่เคย ได้ยินได้ฟังมาก่อน ไม่ได้ปฏิบัติ หรือได้ปฏิบัติแต่ปฏิบัติไม่ได้ ก็เลยเข้าใจ ว่าธรรมกายคือนิกายใหม่ เพราะมีคำว่า “กาย” เพราะฉะนั้น ดั้งเดิมมีแต่ธรรมกาย ไม่มีนิกายอะไรต่าง ๆ นิกายเพิ่ง มาเปลี่ยนแปลงภายหลัง และมาเหมาเข้าใจว่า …

28.วัดพระธรรมกาย..พุทธดั้งเดิม ไม่ใช่นิกายใหม่ Read More »

29.วอนสื่อมวลชนได้โปรดอย่าทำลายหัวใจชาวพุทธ

วอนสื่อมวลชน ได้โปรดอย่าทำลายหัวใจชาวพุทธ นักข่าวมีเสรีภาพในการนำเสนอข่าว อันนี้ถูก แต่ต้อง “พอดี” ต้องอย่าเหลิงเจิ้งเรื่อยเปื่อย จนกระทั่งเกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง กับบุคคลที่พาดพิงถึง หรือกับสังคม พอดี ดูตรงไหน ดูว่า มันเหมาะ มันควรไหม ถ้าเหมาะควรก็ทำไปเลย ถ้าเรื่องจริง มีประโยชน์…เขียนไป เรื่องจริง แต่ไม่เกิดประโยชน์…ไม่เขียน เรื่องจริง มีโทษ…ไม่เขียน ถ้ายิ่งเรื่องไม่จริง…ยิ่งไม่ควรเขียน ดูว่าอะไรถูกผิด อาจดูได้ไม่ยาก แต่เหมาะควร เราจะเอาอะไรมา เป็นเกณฑ์ พระสารีบุตรได้กล่าวเรื่องนี้ไว้ว่า สิ่งไรที่เราคิด พูด หรือทำ น้อมไปในทางกุศลธรรม คือยังกุศลธรรม ที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น หรือที่เกิดขึ้นแล้วทำให้เจริญยิ่งขึ้น อย่างนี้เรียกว่า เหมาะควร แต่สิ่งไรตรงกันข้ามกัน น้อมไปทางอกุศลธรรม ทำให้เกิดเป็นภาพ ลบติดในใจ เกิดปัญหาสังคม เกิดความทุกข์ หรือเกิดวิบากกรรมอย่างนั้น ไม่เหมาะไม่ควร เพราะฉะนั้น สิ่งใดที่น้อมไปทางกุศลธรรม ยกระดับจิตใจให้สูงส่งขึ้น สิ่งนั้นควรทำ โดยเฉพาะเรื่องพระศาสนา เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก เพราะ ทุกชีวิตที่เกิดมามีความทุกข์นะ ตั้งแต่ทุกข์จากการเกิด …

29.วอนสื่อมวลชนได้โปรดอย่าทำลายหัวใจชาวพุทธ Read More »

30.วิบากกรรมสื่อเสี้ยม บิดเบือน ทำลายพระพุทธศาสนา

วิบากกรรมสื่อเสี้ยม บิดเบือน ทำลายพระพุทธศาสนา มีคำถามว่า ผู้ที่จงใจเสนอข่าวบิดเบือน เกี่ยวกับเรื่องพระพุทธ ศาสนา ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าไม่เป็นความจริง กับผู้ที่ไม่ได้ตั้งใจบิดเบือนข่าวพระพุทธ ศาสนา แต่เพราะตนเองเข้าใจผิดจริง ๆ แต่ก็มีผลสร้างความเสียหายให้กับ พระพุทธศาสนาเหมือนกัน ทั้งสองประเภทนี้จะได้รับวิบากกรรมเหมือน หรือต่างกันอย่างไร ทั้งสองประเภทนี้ จะได้รับวิบากต่างกัน คือ พวกแรกจะหนักกว่า เพราะมีอกุศลเจตนาอย่างแรงกล้า ซึ่งก็จะมีวิบากกรรมให้ไปมหานรก นี่แค่ตัวอย่างนะ จะถูกนายนิรยบาลจับบิดตัว ถลกหนังออก แล้ว เอาปากกาเหล็กร้อนเขียนไปบนเนื้อ แล้วถูกทิ่มแทงด้วยอุปกรณ์การเขียน ที่เป็นเหล็กร้อน หรือฝนตัวอักษรที่เคยบิดเบือนเอาไว้ เขียนไว้เป็นล้าน ๆ คำตกใส่ เป็นตัวอักษรเหล็กร้อน ทุกข์ทรมานมาก เป็นต้น ส่วนรายละเอียด ศึกษาดูได้เพิ่มเติมในมินิซีรีส์ของวิบากกรรมบิดเบือนนะ ส่วนพวกหลัง จะมีวิบากกรรมน้อยลงมาหน่อยหนึ่ง คือ แทนที่จะไป มหานรกขุม ๔ ก็ไปแค่ยมโลก ของมหานรกขุม ๔ จะถูกเจ้าหน้าที่ลงทัณฑ์ ทรมาน คล้าย ๆ กับพวกแรกที่อยู่ในมหานรกขุม ๔ …

30.วิบากกรรมสื่อเสี้ยม บิดเบือน ทำลายพระพุทธศาสนา Read More »

31.เรารักพระพุทธศาสนา

เรารักพระพุทธศาสนา การโจมตีว่าร้าย โดยเริ่มต้นที่หลวงพ่อก่อน ว่าร้ายวัดพระธรรมกาย ยังไม่มีปัญหา แต่ไปกระทบสังฆมณฑล ทำให้ศรัทธาของพุทธศาสนิกชน คลอนแคลน มีหลายวัดจำนวนมากได้มาเล่าให้หลวงพ่อฟัง เดี๋ยวนี้พระ เณรจะอดตายกันแล้ว ญาติโยมไม่ค่อยจะใส่บาตรตักบาตรกัน เพราะว่า สับสนกับสื่อที่ออกไปอย่างนี้ เพราะฉะนั้น ใครไปตักเตือนสื่อได้ ก็ให้ไปตักเตือนกัน จะด้วย วิธีการใดก็ไปบอกเขาว่า อย่าไปทำ มันเป็นบาปกรรม เป็นสิ่งที่ไม่ดี พลอยทำให้คนอื่นเดือดร้อนด้วย เอาเฉพาะหลวงพ่อธัมมชโยเดือดร้อน รูปเดียวก็พอแล้ว อย่าไปทำให้คนอื่นเดือดร้อน ช่วยกันปกป้องพระพุทธศาสนากันนะ แล้วก็วิชชาธรรมกาย ซึ่ง เป็นวิชชาหรือเป็นวิธีการที่จะให้เข้าถึงพระธรรมกายในตัว นี่เป็นเป้าหลัก เป้าหมายที่จะสอนให้ทุกคนเข้าถึงวิชชาธรรมกาย ถึงพระธรรมกายในตัว เพราะถ้าเข้าถึงได้แล้ว จะมีความสุขมาก มีความเบิกบาน มีกำลังใจใน การสร้างความดีเกิดขึ้นมากมาย จะเป็นคนดีในสังคม คนดีที่โลกต้องการ จะทำให้สังคมอยู่เย็นเป็นสุข เพราะฉะนั้นช่วยกันปกป้องวิชชาธรรมกาย ย้ำอีกที ความตั้งใจหลวงพ่อมีเพียงประการเดียว คือมุ่งที่จะ แนะนำสั่งสอนให้ชาวโลกได้เข้าถึงพระธรรมกาย ถ้าเขาเข้าถึงแล้ว เราจะมีความสุข มีปีติ ตัวเขาก็มีความสุข เราก็มีความสุข มีเพียง แค่นี้เอง ที่สร้างอะไรขึ้นมาใหญ่โตก็เพื่อรองรับมหาชนที่เขามากันมากมาย มาศึกษาวิชชาธรรมกาย …

31.เรารักพระพุทธศาสนา Read More »

32.เราตายได้แต่พระพุทธศาสนาตายไม่ได้

เราตายได้ แต่พระพุทธศาสนาตายไม่ได้ การที่เรารักษาพระพุทธศาสนาเอาไว้ ก็เพื่อตัวเราและชาวโลก ไม่ได้แข่งกับใคร คำสอนในพระพุทธศาสนามีความจำเป็นในการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง ของทุกคนเป็นอย่างมาก แม้วันนี้เพื่อนมนุษย์ทั้งหลายยังไม่เข้าใจ เขา ยังไม่มีเวลามาศึกษา ก็ไม่เป็นไร เรายังคงรักษาความรู้ของพระสัมมา สัมพุทธเจ้าเอาไว้ สักวันหนึ่งเมื่อบุญเก่าได้ช่องส่งผล เขาจะเกิดความรู้สึกว่า มีบางสิ่งลึก ๆ กระตุ้นเตือนจิตสำนึกให้เขาอยากมาศึกษาเรียนรู้เรื่องราว ความเป็นจริงของชีวิตขึ้นมา ตอนนั้นความรู้ตรงนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเขา ความรู้ในพระพุทธศาสนา เป็นความรู้สากลที่ทุกคนจะต้องศึกษา ต้องเรียนรู้ ไม่รู้ไม่ได้ ไม่รู้อันตราย เพราะจะทำให้ดำเนินชีวิตไม่ถูกต้อง ดังนั้นที่เรารักษาพระพุทธศาสนาเอาไว้ก็เพื่อการนี้ ไม่ได้ไปแข่งกับใคร เพราะคู่แข่งของเราคือเวลา เราต้องทำงานแข่งกับเวลา เนื่องจากเรา มีเวลาอยู่ในโลกนี้จำกัด แค่ประเดี๋ยวเดียว รวยก็รวยประเดี๋ยวเดียว จนก็จนประเดี๋ยวเดียว เป็นเจ้านายเป็นลูกน้องก็เป็นประเดี๋ยวเดียว มีลาภ ยศ สรรเสริญ มีอำนาจวาสนาก็แค่ประเดี๋ยวเดียว เป็นสามีภรรยากันก็ ประเดี๋ยวเดียว ต่างคนต่างมา มาอยู่รวมกัน แล้วก็ต่างคนต่างไป พระพุทธ ศาสนาสอนให้เราเข้าใจตรงนี้ สอนให้เราปล่อยวาง แล้วก็ทำให้เรามี ความรักต่อเพื่อนมนุษย์อย่างแท้จริง เพราะฉะนั้น เราจึงจำเป็นจะต้องรักษาพระพุทธศาสนาเอาไว้ ให้ยาวนานที่สุด เท่าที่จะนานได้ แต่งานนี้เป็นงานใหญ่ …

32.เราตายได้แต่พระพุทธศาสนาตายไม่ได้ Read More »

33.ใครบอกว่าวัดพระธรรมกายไม่ทำสังคมสงเคราะห์?

ใครบอกว่าวัดพระธรรมกาย ไม่ทำสังคมสงเคราะห์? ครูไม่ใหญ่ทำบุญทุกวันเลย สร้างพระธรรมกายประจำตัวทุกวัน ถวายภัตตาหารเป็นสังฆทานแด่พระภิกษุสามเณรผู้ประพฤติธรรมทุกวัน สร้างลานธรรมทุกวัน กฐินรายวันอีก แล้วก็บุญอะไรอีกตั้งหลายอย่าง ทำทุกวัน อย่างสม่ำเสมอ เพราะเราก็อยากรวยรายวัน แล้วก็อยากรวยทุกวัน รวยมาก็ไม่ใช่อะไรหรอก ก็จะนำมาสร้างบารมีต่อ ชาตินี้ไม่ค่อยได้เห็นเงินเห็นทองกับเขาหรอก เห็นเฉพาะอยู่ข้างหน้า แวบเดียว แล้วหายไปเลย แล้วก็เปลี่ยนมาเป็นสิ่งที่เป็นสาธารณประโยชน์ สาธารณกุศล ที่จะเป็นทั้งโรงเรียนและโรงพยาบาล เป็นโรงเรียน ที่สอนให้รู้เรื่องราวความเป็นจริงของชีวิต ที่ไม่มี โรงเรียนไหน ๆ ในโลกเขาสอนกัน เป็นโรงพยาบาล รักษาไข้ใจ ที่เกิดจากกิเลส โลภะ โทสะ โมหะ ซึ่งไม่มีโรงพยาบาลไหนเขารักษากัน เพราะฉะนั้น ปัจจัยที่ร่วมบุญกันมาไม่เสียเปล่านะลูกนะ รวยก็เพื่อเอามาทำอย่างนี้แหละ หรือที่ชวนให้ลูก ๆ ทั้งหลายมารวย ก็เพื่อการนี้เหมือนกัน เพราะฉะนั้น สิ่งที่เราสร้างเป็นทั้งโรงเรียนและโรงพยาบาล ให้ความ รู้ทางใจ เป็นวิชชาชีวิต และรักษาไข้ใจ ส่วนโรงเรียนโรงพยาบาลทางโลก ก็เป็นวิชาชีพ กับรักษาไข้กายมีคนเขาทำกันเยอะแล้ว ดังนั้น ที่มีคำถามมาว่า วัดพระธรรมกายทำไมไม่ไปช่วยสร้างตรงนั้น ตรงนี้ ก็คนอื่นเขาสร้างกันอยู่แล้ว …

33.ใครบอกว่าวัดพระธรรมกายไม่ทำสังคมสงเคราะห์? Read More »

34.แก่นสารของชีวิตอยู่ที่ไหน?

แก่นสารของชีวิตอยู่ที่ไหน? อะไรคือแก่นสารของชีวิต ความจริงในโลกนี้ ไม่มีอะไรเป็นแก่นสารเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคน สัตว์ สิ่งของ เรื่องธุรกิจการงาน บ้านช่อง เรื่องอะไรก็ไม่เป็นแก่นสารของชีวิตทั้งนั้น สิ่งที่สำคัญ คือ การฝึกจิตให้หยุดนิ่ง ให้บริสุทธิ์ ให้เข้าถึงธรรมภายใน ดูชีวิตของชาวโลกทั่วไป ตายแล้วก็เอาอะไรไปไม่ได้ นอกจากบุญและบาปเท่านั้น ทั้งโลกก็เป็นอย่างนี้ เพราะฉะนั้น แก่นสารของชีวิตอยู่ที่ใจหยุด ใจนิ่ง ใจที่ดิ่งเข้าไปสู่ภายใน ไปพบสรณะภายใน ที่พึ่งที่ระลึกที่แท้จริง ๑๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๙ พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา https://www.dhamma01.com/book/43 ต้นฉบับ หนังสือ คำสอนคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม 2 กลับสู่ สารบัญ หนังสือคำสอนครูไม่ใหญ่

35.สำคัญยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดทั้งหมด

สำคัญยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดทั้งหมด ในระหว่างที่เรายังมีชีวิตอยู่… เราจะดำเนินชีวิตอย่างไร ให้ได้ประโยชน์สูงสุดของการมาเกิดเป็นมนุษย์ ประโยชน์สูงสุดของชีวิต…คืออะไร ก็ต้องดูจากผู้ที่บรรลุประโยชน์อันสูงสุด คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระอรหันต์ทั้งหลาย ที่ท่านได้บรรลุประโยชน์อันสูงสุดของชีวิตในสังสารวัฏแล้ว คือ สามารถดับทุกข์และหลุดพ้นจากกิเลสอาสวะได้ นั่นคือประโยชน์อันสูงสุดของชีวิต… ส่วนการทำมาหากินเพื่อให้ได้ทรัพย์มาหล่อเลี้ยงสังขาร และนำมาสร้างบารมีนั้น ยังเป็นเรื่องรองลงมา แม้จะมีความจำเป็นก็ตาม แต่เรามีสิ่งเหล่านั้นก็เพื่อ…แสวงหาสิ่งที่ประเสริฐที่สุดในชีวิต ๑๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๒ พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา https://www.dhamma01.com/book/43 ต้นฉบับ หนังสือ คำสอนคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม 2 กลับสู่ สารบัญ หนังสือคำสอนครูไม่ใหญ่

36.เราเกิดมาเพื่อการนี้

เราเกิดมาเพื่อการนี้ การปฏิบัติธรรมเพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกาย เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต ต้องจับหลักให้ได้ว่า เราเกิดมาเพื่อการนี้ ตราบใดเรายังไม่เจอพระรัตนตรัยในตัว เราจะไม่มีวันรู้จักความสุขที่แท้จริง เราจะไม่มีวันอบอุ่น และมีความรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยในชีวิต เราจะมีแต่ความสะดุ้งกลัวต่อมรณภัยและภัยทั้งปวงอยู่ตลอดเวลา แต่เราจะหมดความรู้สึกอย่างนี้ แปรมาเป็นความสุขที่ไม่มีขอบเขต มีความปลอดภัยและอบอุ่นในชีวิต ต่อเมื่อเราปฏิบัติธรรมจนกระทั่งเข้าถึงพระรัตนตรัยในตัว ซึ่งมีอยู่แล้วในตัวของเรา ด้วยวิธีการง่าย ๆ แค่หลับตาเบา ๆ ทำตัวให้สบาย ทำใจให้สงบ ง่วงก็ปล่อยให้หลับ เมื่อยก็ขยับ ฟุ้งก็ลืมตา แล้วก็ว่ากันใหม่ ทำความเพียรเรื่อยไป ด้วยสูตรสำเร็จ คือ “หยุดเป็นตัวสำเร็จ” ใจหยุดนี่แหละเป็นตัวสำเร็จ หยุดใจได้…ก็เข้าถึงได้ ๒๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่มา https://www.dhamma01.com/book/43 ต้นฉบับ หนังสือ คำสอนคุณครูไม่ใหญ่ เล่ม 2 กลับสู่ สารบัญ หนังสือคำสอนครูไม่ใหญ่