คำถาม: คุณพ่อผมกินเหล้าเมาอาละวาดทุกวัน จะมีวิธีให้ท่านเลิกเหล้าอย่างไรดีครับ?
คำตอบ: ถ้าเป็นคนอื่นยังพูดง่าย เป็นพ่อนี่พูดยากที่สุด
พอเอ่ยปากพูดไม่ทันจบ ก็ถูกห้ามเสียแล้ว
“อย่าพูดๆ ฉันเลี้ยงแกมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย”
หลวงพ่อเคยโดนห้ามทำนองนี้มาแล้ว ขนาดบวชแล้วเทศน์ให้คนอื่นเลิกเหล้าเลิกบุหรี่มาได้มากมาย
กลับบ้านไปเทศน์ให้โยมพ่อเลิกเหล้า พูดเรื่องนี้ทีไร โดนคำพูดแบบศอกกลับมาทุกที
“โยมพ่อ..เลิกเหล้าเถอะนะสุขภาพจะได้ดีขึ้น เอาเวลาไปนั่งสมาธิดีกว่า”
ตอนนั้นโยมพ่ออายุ 70 กว่าปีแล้ว
ก็ตั้งใจจะให้ท่านสวดมนต์ภาวนานั่งสมาธิ กำหนดองค์พระ หรือดวงแก้วให้ใจผ่องใส
พอเทศน์จบท่านตอบกลับมาอย่างนี้
“ดีเหมือนกันนะท่าน โยมจะนั่งสมาธิตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แต่นั่งไปกินเหล้าไป พร้อมๆ กับนั่งสมาธิ เวลานึกถึงดวงแก้วมันคงจะชัดดี”
ท่านพูดมาอย่างนั้นแล้วเราจะไปว่าอย่างไร
พูดแรงไป เดี๋ยวแบกบาปอีกเพราะว่าเป็นพ่อ ครั้นไม่เตือนเลย เราก็จะไม่ได้แทนคุณท่าน
กระอึกกระอักอยู่หลายปีกว่าจะแก้ตก
หลวงพ่อต้องใช้กุศโลบายแก้เป็นเปลาะๆ ไป
เริ่มตั้งแต่บอกโยมแม่ว่าอย่าซื้อเหล้าให้โยมพ่อกิน
เมื่อท่านเคี่ยวเข็ญโยมแม่ไม่ได้ ก็หันไปทางพี่สาว
หลวงพ่อก็บอกโยมพี่อีกว่า อย่าซื้อเหล้าให้โยมพ่อกินนะ
พอใช้ลูกไม่ได้ ท่านก็ไปใช้หลาน
หลวงพ่อก็ต้องกำชับหลานว่าอย่าซื้อเหล้าให้ตานะ
พอหลานไม่ซื้อท่านก็บ่น บ่นยังไม่พอ ด่าอีกด้วย
หลวงพ่อก็บอกหลานให้ทนๆ เอา ให้เห็นแก่หลวงน้า
ท่านไปเคี่ยวเข็ญแม้กระทั่งเหลนอายุ 7-8 ขวบ “ไปซื้อเหล้าให้ทวดที
หลวงพ่อก็ต้องไปอบรมเหลน
ต้องบังคับที่เด็กคือต้องใช้กุศโลบาย เหมือนจะโค่นต้นไม้ เราไม่สามารถจะตัดรากแก้วได้ เราก็ต้องตัดรากฝอยกับรากแขนงเสียก่อน
รากแก้วมันก็อยู่ไม่ได้เอง เพราะถูกตัดหนทางส่งเสบียงหมด
ในที่สุดโยมพ่อก็เลิกเหล้าจนได้ เพราะไม่มีใครไปซื้อให้
ประกอบกับร้านเหล้าก็อยู่ห่างไปเป็นกิโล เลยรอดตัวไป
ตอนนี้ท่านเสียชีวิตแล้วเมื่ออายุได้ 86 ปี
ตอนเลิกกินเหล้าได้เด็ดขาดนั้น ท่านอายุได้ 80 ปี
เลิกเหล้าได้ 6 ปี ก็เสียชีวิต
ก็ยังดีเลิกได้ตั้ง 6 ปี
เรื่องลูกสอนพ่อนี่ยากนะ
แม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อพระองค์ตรัสรู้แล้ว ยังไม่ทรงรีบเสด็จกลับกรุงกบิลพัสดุ์ เพื่อเทศน์โปรดพุทธบิดาก่อนคนอื่น
เพราะทรงรู้ว่าถ้ากลับไปเทศน์โปรดพระบิดาละก็ไม่ฟังหรอก
เพราะฉะนั้นเมื่อพระองค์ตรัสรู้แล้ว จึงเสด็จไปสั่งสอนประชาชนในแคว้นมคธเสียก่อน
เพื่อให้กิตติศัพท์ของพระองค์เลื่องลือไปถึงพระบิดา ให้คนอื่นเขาพูดถึงพระองค์ว่า ดีอย่างนี้ ดีอย่างนั้น
หนักเข้าๆ จนกระทั่งแน่พระทัยว่าพระพุทธบิดาทรงเชื่อ100% เพราะส่งทูตมาอาราธนา
แต่พระองค์ก็ยังไม่เสด็จกลับทันที
ใครต่อใครหลายคณะที่ส่งมาอาราธนา ทรงเทศน์โปรดจนบวชเสียทุกคน
จนกระทั่งคณะสุดท้ายมาอ้อนวอน จึงยอมเสด็จกลับ
แต่ถึงกระนั้นพ่อก็คือพ่อ ไม่ยอมไหว้ลูก
เชื้อพระวงค์ชั้นผู้ใหญ่ก็ไม่ยอมไหว้ต้องทรงแสดงปาฏิหาริย์ขึ้นไปเดินจงกรมอยู่กลางอากาศ แล้วทรงเนรมิตให้ฝนโบกขรพรรษ ฝนเหมือนน้ำตกบนใบบัว
ถ้าใครต้องการให้เปียกก็เปียก ใครไม่ต้องการให้เปียกก็ไม่เปียก ตกลงมาห่าใหญ่
แล้วตรัสว่าฝนชนิดนี้เคยตกมาแล้วครั้งหนึ่ง นี่เป็นครั้งที่สอง
ในครั้งแรกนั้นตกในสมัยที่พระองค์เสวยพระชาติเป็นพระเวสสันดร
พระพุทธบิดารวมทั้งพระญาติทั้งหลายเห็นปาฏิหาริย์ จึงยอมลดทิฏฐิมานะ ถวายความเคารพและบูชาด้วยเครื่องสักการะ ยอมฟังเทศน์แล้วเชื่อตาม จนกระทั่งบรรลุธรรมกันมากมาย
พวกเราที่เป็นลูกสมัยนี้จะสอนพ่อสอนแม่ ต้องทำตัวให้ดีน่าเลื่อมใส
ศรัทธาว่าเราเป็นคนมีปัญญา มีความสามารถ จนท่านดูถูกเราไม่ได้
แล้วต้องหากุศโลบายให้ดี ถ้าทำสำเร็จจะได้บุญมากนะ
โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก)
วันที่
ที่มา
เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC
บทความหลวงพ่อตอบปัญหา