ผู้ปฏิบัติวิปัสสนาแบบสุกขวิปัสสกะ

คำถาม:
ผู้ปฏิบัติวิปัสสนาล้วนๆ คือผู้ที่ปฏิบัติแบบสุกขวิปัสสกะ เขาไม่ได้ทำสมาธิ เพราะฉะนั้นเขาก็ย่อมไม่ผ่านดวงปฐมมรรค ผู้ที่ไม่ผ่านดวงปฐมมรรค จะเกิดปัญญาได้ไหม กรุณาชี้แจงให้ทราบด้วยครับ?

คำตอบ: 
คุณโยมเข้าใจผิดนะ ผู้ปฏิบัติแบบสุกขวิปัสสกะ นั่น เขาทำสมาธิด้วยนะ แต่ฝึกสมาธิคนละแบบกับที่วัดพระธรรมกายสอนและปฏิบัติกัน

        อยากจะฝากไว้หน่อยว่า คำสอนในพระพุทธศาสนานั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ทรงวางรากฐานการศึกษาไว้แล้วว่า ประกอบด้วยศีล สมาธิ และปัญญา
ศีลเป็นพื้นฐานให้เกิดสมาธิ ฝึกสมาธิต่อไปจะเป็นพื้นฐานให้เกิดปัญญา อยู่เฉยๆ โดยไม่ฝึกสมาธิ จะให้มีปัญญาเกิดขึ้นนั้น เลิกคิดเสียที เป็นไปไม่ได้ ที่มีกล่าวไว้ในพระไตรปิฎกว่า พระภิกษุบางรูปก่อนบวชไม่เคยฝึกสมาธิเลย บวชปุ๊บปั๊บได้เป็นพระอรหันต์ ทำให้หลายคนคิดว่าถ้าอย่างนั้นไม่ต้องฝึกสมาธิก็คงจะได้
        นั่นคิดผิดแล้ว ดูอย่างนี้ดีกว่า ดูว่าพระอรหันต์แต่ละองค์ความจริงท่านฝึกสมาธิกันมาก่อนหรือเปล่า พระอัญญาโกณฑัญญะ หนึ่งในปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕ ท่านฝึกสมาธิตั้งแต่ยังเป็นพราหมณ์หนุ่ม ท่านคือผู้ที่ไปพยากรณ์พระสิทธัตถะราชกุมาร ขณะยังทรงเป็นทารกแบเบาะอยู่ ท่านเป็นผู้เดียวที่ได้พยากรณ์ ไว้ว่า
        “พระราชกุมารนี้ ต่อไปจะต้องตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์ศาสดาเอกของโลกอย่างแน่นอน ไม่เป็นอย่างอื่น” โกณฑัญญะพราหมณ์ได้ฝึกสมาธิรอไว้แล้วตั้งแต่ตอนนั้น พอถึงเวลาที่เจ้าชายสิทธัตถะเสด็จออกผนวชเมื่อพระชนมายุ ๒๙ ชันษา ท่านพร้อมด้วยพราหมณ์ทั้ง ๔ ก็ออกบวชตามไปอยู่ด้วย
        เมื่อพระองค์ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วทรงแสดงปฐมเทศนา พระอัญญาโกณฑัญญะได้ดวงตาเห็นธรรมก่อนใครอื่น เพราะฝึกสมาธิเป็นพื้นฐานมานาน พอฟังเทศน์ ปุ๊บ…ก็เข้าถึงธรรมกายเป็นพระโสดาบันทันที
        แม้พระโมคคัลลานะและพระสารีบุตร ซึ่งเป็นพระอัครสาวกเบื้องซ้ายและเบื้องขวา ก่อนจะมาเป็นสาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านทั้งสองก็สำเร็จ ศิลปศาสตร์ ๑๘ แขนง แล้วท่านก็ฝึกสมาธิอย่างดี จนสำเร็จเป็นพระอรหันต์ แต่ก็มีพระอรหันต์บางรูป เช่น พระทัพพมัลลบุตร เป็นพระอรหันต์ตั้งแต่อายุ ๗ ขวบ ในพระไตรปิฎกไม่ได้กล่าวถึงการทำสมาธิไว้เลย แต่ถ้าเราไปอ่านดูในอรรถกถา (เป็นคัมภีร์ขยายความพระไตรปิฎก) จะพบว่าท่านเคยเกิดในสมัยของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่ากัสสปะ
        สมัยนั้นเมื่อท่านออกบวชแล้ว ท่านกับเพื่อนอีก ๔ รูป เห็นว่าศาสนาของพระกัสสปะสัมมาสัมพุทธเจ้าใกล้จะสูญแล้ว จึงชวนกันขึ้นไปบนภูเขาทางหน้าผาขาด ปีนพะอง ขึ้นไป พอขึ้นไปถึงยอดเขาก็ผลักพะองทิ้งแล้วต่างตั้งสัตยาธิษฐานว่า ตราบใดถ้ายังไม่หมดกิเลสเป็นพระอรหันต์ ก็ขอยอมตายอยู่บนยอดเขานี้ จะไม่ยอมลุกจากที่ไปบิณฑบาตเป็นอันขาด
        ๓ วันผ่านไป พระภิกษุรูปหนึ่งได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ ท่านจึงเหาะไปบิณฑบาตนำอาหารมาให้เพื่อนฉัน เพื่อนพระภิกษุอีก ๔ รูป เนื่องจากยังไม่สามารถบรรลุธรรม จึงปฏิเสธไม่ฉัน กล่าวว่าถ้ายังไม่เป็นพระอรหันต์ขอยอมอดตาย จนกระทั่งถึงวันที่ ๗ พระภิกษุอีกรูปหนึ่งก็เข้าถึงธรรมกายพระอนาคามี เป็นพระอนาคามีบุคคล สามารถเหาะลงไปบิณฑบาต และนำอาหารมาฝากให้เพื่อนพระภิกษุบนภูเขาฉันได้ แต่เพื่อนอีก ๓ รูป ก็ไม่ยอมฉัน ในที่สุดก็มรณภาพเพราะอดอาหารหมดทั้ง ๓ รูป
        พระภิกษุ ๑ ใน ๓ นั้นมาเกิดในสมัยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันเป็นโอรสของมัลลกษัตริย์ พอพระชนมายุ ๗ ชันษาก็ทรงออกผนวช ในวันผนวชนั้นเองพอโกนพระเกศาหมดทั้งศีรษะ ก็สำเร็จเป็นพระอรหันต์ทันที เนื่องจากท่านทำสมาธิไว้มากในชาติก่อน ของเก่าของท่านสะสมไว้มาก เพราะฉะนั้นพอมาชาตินี้ท่านทำต่ออีกนิดเดียว คือพอปลงผมเสร็จก็เป็นพระอรหันต์เลย
        พวกเราอย่าขี้เกียจฝึกสมาธินะ แม้ชาตินี้ยังเป็นพระอรหันต์ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร หมั่นสะสมไว้เถอะ ภพต่อไปอย่าว่าแต่จะได้เป็นพระอรหันต์เมื่อ ๗ ขวบเลย เป็นเมื่ออายุ ๔๐-๖๐ ปีก็ยังไม่ช้าไปหรอก แต่ถ้าคิดว่าฉันไม่ฝึกสมาธิแล้ว ฉันจะตั้งหน้าตั้งตาทำทานให้มาก เพื่อให้ได้บรรลุธรรมอย่างนั้นอย่างนี้ เลิกคิดเสียเถอะ เพราะถ้าไม่ฝึกสมาธิแล้วได้บรรลุธรรม ก็ขัดกับหลักศีล สมาธิ ปัญญา ขัดกับคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเป็นไปไม่ได้แน่นอนนะ

โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก)
วันที่
ที่มา
เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC
บทความหลวงพ่อตอบปัญหา

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *