คำถาม:
ขอรบกวนหลวงพ่อได้โปรดอธิบายความหมายของคำต่อไปนี้ให้ด้วยค่ะ ?
๑. ตาเหมือนตาไม้
๒. หูเหมือนหูกระทะ
๓. กายเหมือนผ้าเช็ดเท้า
๔. ใจประดุจแผ่นดิน
คำตอบ:
ที่ว่าตาเหมือนตาไม้ ความจริงเขาใช้เต็มๆ ว่า ตาเหมือนตาไม้ไผ่ ตาไม้ไผ่ถ้าเราไม่ริดเสีย ปล่อยให้ติดลำไว้เป็นแขนงยาวประมาณสักคืบกว่าๆ เหลือไว้อย่างนี้ตลอดลำไม้ไผ่ ก็สามารถเอาไม้ไผ่ลำนั้นไปทำประโยชน์ได้ ชาวบ้านเขาเอาไว้ใช้ทำพะอง รู้จักพะองไหม ?
พะอง คือ บันไดสำหรับขึ้นต้นตาลสูงๆ ไม้ไผ่มันจะมีกิ่งมีแขนงแตกออกจากตา เป็น ๒ ข้างสลับกัน เราตัดแขนงให้เหลือสักประมาณคืบ ก็ใช้สำหรับเป็นที่เหยียบขึ้นแทนบันไดได้สบายๆ
ตาเหมือนตาไม้ไผ่ อุปมาข้อนี้หมายถึงว่า นัยน์ตาของเรานี่นะ อะไรที่ไม่ควรดูก็อย่าไปดูมันเลย เหมือนอย่างตาไม้ไผ่ซึ่งสักแต่ว่าเป็นตา แต่ใช้ตาดูไม่เป็นหรอก ท่านใช้อุปมาเช่นนี้ก็เพื่อจะบอกว่าอะไรที่ไม่ควรดูก็อย่าไปดู มันไม่ควรมองก็อย่าไปมองมัน อย่าเที่ยวไปสอดรู้สอดเห็นเรื่องของชาวบ้านเขามากนัก เดี๋ยวใจจะฟุ้ง เดี๋ยวจะมีเรื่องทำเหมือนตาไม้ไผ่ โดนเหยียบขึ้นไปๆ มันก็เฉย ไม่เอาเรื่องกับใคร
หูเหมือนกระทะ หูกระทะนี่น่ะเอาไว้ทำอะไร เอไว้ฟังหรือเปล่า เปล่านะ เขาเอาไว้เป็นที่สำหรับแขวนตัวกระทะอุปมานี้หมายถึงว่าเรื่องอะไรไม่สมควรไปฟัง ก็อย่าไปฟัง ไม่อย่างนั้นเขาว่าเราไปฟังเอง ฟังแล้วโกรธทำไมเล่า ก็ทำหูเป็นหูกระทะเสียก็หมดเรื่องเ ขาอยากด่า ด่าได้ก็ด่าไป คำด่าถ้าเราไม่ไปรับไว้ ก็คืนเข้าตัวเขาเองนั่นแหละ
เคยเตือนหลายๆ คนว่า คนเราถูกด่าแล้ว เอาละพอฝึกใจถึงจุดหนึ่งก็เลยไม่โกรธ แต่อย่าเพิ่งคิดว่าเก่งนะ ที่เก่งกว่านั้นยังมีคือชมแล้วไม่ยิ้ม คนนี้ละเก่งจริงๆ เพราะคนเราทั่วไปพอได้รับคำชมแล้วยิ้มนี่ซิ ลูกถึงได้เต็มบ้านหลานถึงได้เต็มเมือง ไปได้ยินคำชมน้องจ๊ะน้องจ๋า สวยจริงๆ…เลยเลี้ยงลูกกันเป็นพรวน ถ้าชมแล้วยังเฉยเสียได้ก็สบาย ป่านนี้บวชเป็นแม่ชีไปแล้ว
กายเหมือนผ้าเช็ดเท้า ธรรมดาผ้าเช็เท้าเวลาใครเอาเท้าสกปรกๆ มาเช็ด มันเคยบ่นไหม ไม่เห็นมันบ่นเลย…มีไหมผ้าเช็ดเท้าบ้านใครบ่นได้บ้าง? ไม่บ่นหรอก อุปมานี้ท่านตั้งใจจะเตือนว่า…คนเราจะทำงานอะไรก็ทำให้เต็มกำลังลงไป เป็นคนไม่ถือเนื้อถือตัว ไม่เลือกงานกันแหละ ขอให้งานนั้นเป็นงานอาชีพสุจริตก็ทำเข้าไป
คุณยายอาจารย์อุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ท่านพูดเสมอๆ ว่า ตั้งแต่เป็นเด็กมาแล้ว ตอนนั้นท่านยังไม่ได้เข้าวัด ถ้ามันถึงคราวจะต้องไปรับจ้างเขาเทกระโถนล้างกระโถนก็เอา เพราะมันเป็นอาชีพบริสุทธิ์ แต่จะให้ไปลักขโมยใครเขา หัวเด็ดตีนขาดยายไม่ยอมทำ จะทำกายอย่างกับผ้าเช็ดเท้า ใครจะโขกจะสับอย่างไรก็ยอมละ เพื่อให้ได้อาชีพที่สุจริต แต่จะให้ไปโกงไปกินเขา เพื่อจะได้แต่งตัวสวยๆ ไม่เอาเด็ดขาด
ใจประดุจแผ่นดิน ใจพวกเราส่วนใหญ่ไม่เหมือนแผ่นดิน แต่เหมือนขี้ผึ้งลนไฟ มันปวกเปียกๆ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เคยตรัสเรื่องใจเหมือนแผ่นดินกับพระราหุลว่า
“แผ่นดินนี้ ใครเอาน้ำหอมไปรดไปราดมัน มันดีใจไหม ไม่ดีใจมันก็เฉย ๆ เอาของเหม็นไปรดไปราด มันทุกข์ใจไหม มันก็เฉยๆ ราหุล…เธอทำใจให้ได้อย่างนั้นแหละ ใครมาทำอะไร เธอก็อย่าไปเอาเรื่องเอาราวกับเขา ตั้งใจปฏิบัติธรรมของเธอไป แล้วเธอจะหมดกิเลสได้เร็ว”
ถ้าทำใจเหมือนแผ่นดินได้อย่างนี้ธรรมะก็อยู่แค่เอื้อม พวกเราใจไม่หนักแน่น เขาด่า เขาว่าเข้าหน่อย เจ็บใจ ทั้งๆ ที่มันก็แค่ลมมากระทบหู พัดลมเป่ายังแรงกว่านั้นอีกนะ ลมปากเป่าเบาๆ หน่อยเดียว อุ๊ย! เจ็บใจ ถ้าอย่างนี้ก็คงมีเรื่องเจ็บช้ำน้ำใจไปตลอดชาติ ให้รีบแก้ไขกันเสียนะ
โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก)
วันที่
ที่มา
เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC
บทความหลวงพ่อตอบปัญหา