คำถาม:
หลวงพ่อเจ้าคะ ตามธรรมเนียมของไทย ในวันสำคัญต่างๆ เช่นวันขึ้นปีใหม่ หรือปรารภเนื่องในวันมงคลต่างๆ ผู้น้อยมักจะไปกราบขอพรผู้ใหญ่อยู่เสมอๆ อยากเรียนถามหลวงพ่อว่า พรมีความสำคัญอย่างไร และควรให้พรอย่างไรเจ้าค่ะ
คำตอบ:
คำว่า “พร” ในภาษาไทย มาจากคำว่า “วร” ในภาษาแขกหรือภาษาอินเดียของเขา แปลว่า “ประเสริฐ” ให้พรก็คือให้ความประเสริฐ คนเราให้ความประเสริฐแก่กันเป็นสิ่งที่ดี
คำถามต่อไปก็คือ แล้วคนเรานั้นประเสริฐตรงไหน? หลักธรรมในพระพุทธศาสนาต้องถูกยกขึ้นมาตรงนี้ ก็ต้องมองอย่างนี้ มองเข้าไปที่ใจคน อย่าไปมองที่รูปร่าง ความประเสริฐทางรูปร่าง เช่น หล่อ เช่น สวย แข็งแรง มันก็ดีหรอก แต่ว่ามันยังดีไม่จริง ถ้าดีจริงมันต้องดีเข้าไปถึงในใจ อย่างนี้ดีแท้
ในใจคนมีอะไรบ้าง? ถ้าคนทั่วไปยังไม่บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ เราก็ยังมีข้อเสียอยู่ในใจของเราด้วยกันทุกคน มีโลภ โกรธ หลง อยู่ในใจมาก ก็จะต้องทำให้เขาคิดร้าย พูดร้าย ทำร้าย ได้มากๆ แล้วบาปก็เกิดมาก แล้วก็บั่นทอนตัวเองไปได้มาก แต่ถ้าใครมีความโลภ โกรธ หลง น้อย เขาก็จะมีโอกาสคิดดี พูดดี ทำดี ได้มาก เมื่อคิดดี พูดดี ทำดี ได้มาก บุญก็เกิดมาก ความสุข ความเจริญ ก็เกิดเป็นเงาตามตัวมาได้มาก ๆ
ผู้ใหญ่ คือผู้ที่ผ่านวัยมานานแล้ว อยู่ในโลกมานาน สมควรที่จะมีหลักธรรมประจำใจ ไว้สำหรับปราบ ความโลภ โกรธ หลง ได้ฝึกปราบมาตลอดชีวิต เพราะฉะนั้นผู้ใหญ่สมควรที่จะมีความประเสริฐอยู่ในตัวมากกว่าผู้น้อย
ด้วยเหตุนี้ก็เลยเกิดประเพณีขึ้นในชาวพุทธ โดยเฉพาะในประเทศไทยว่า วันดีคืนดี กาลเทศะใดที่เหมาะสม เราควรจะไปขอพร หรือไปขอความประเสริฐจากผู้ใหญ่บ้าง เราจะได้สร้างความประเสริฐในตัวเราบ้าง เพราะกว่าท่านจะมีความประเสริฐเกิดขึ้นในตัว ก็มีอายุมามากแล้ว จะอยู่กับเราไปอีกนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ ไม่รีบไปขอวิธีสร้างความประเสริฐมาไว้ในตัวเรา เดี๋ยวท่านแก่เฒ่าตายไปก่อน แล้วเราจะไปขอความรู้ความดีเหล่านี้จากที่ไหน
เพราะฉะนั้นวันปีใหม่ วันมงคลต่างๆ ผู้น้อยก็ควรไปกราบขอพรผู้ใหญ่ ขอความประเสริฐ ขอวิธีละความโลภ โกรธ หลง ท่านเหล่านั้นไม่ได้เป็นพระ ไปขอท่านทำไม? ไปขอพระที่วัดไม่ดีกว่าหรือ? ในฐานะที่อยู่ทางโลก เราจะต้องทำงานกับผู้ใหญ่ และความโลภ โกรธ หลง มันระบาดตอนทำงาน โดยเฉพาะขณะเจออุปสรรคเวลาทำงาน ลาภผลมันเกิดขึ้น ความโลภจะมาหา หรือทำงานไม่ค่อยได้ดั่งใจ ความโกรธก็จะมาหา หรือได้ยศสรรเสริญขึ้นมา ก็จะหลงตัวเอง หรือตัวเองทำงานไม่ค่อยเข้าท่าเข้าทาง ท่านผู้ใหญ่ก็เลยไม่ปูนบำเหน็จรางวัลให้ แต่ตัวเองก็คิดว่าตัวเองทำดีแล้ว ก็จะไปหลงอิจฉาตาร้อนกับเพื่อนที่เขาได้ดิบได้ดี ได้เลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง
ความโลภ โกรธ หลง ของคนเรานี้ มันกระพือขึ้นมาได้ง่าย ตอนทำงาน เมื่อรู้อย่างนี้ แล้วเราจะไปขอวิธีแก้ความโลภ โกรธ หลง ในเรื่องที่เกิดขณะทำงาน ก็ได้หรอกถ้าจะไปขอกับพระ แต่จะให้ตรงเลยก็ไปขอกับผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นเจ้าของงานที่ส่งงานมาให้เราทำนั่นแหละถูกต้องที่สุด
ด้วยเหตุนี้ วันปีใหม่ วันสงกรานต์ ลูกน้องแห่กันไปกราบขอพรผู้ใหญ่ เอาของสักการะ ดอกไม้ธูปเทียน ไปบูชาท่าน ยกย่องท่าน ว่าเรานี้มาด้วยใจจริง ก่อนอื่นขอขมาก่อน รู้อยู่ทำงานกับท่านนะ เราบางทีคิดไม่ค่อยดีกับท่านเหมือนกัน โลภ โกรธ หลง เกิดขึ้นขณะที่ทำงานกับท่าน ถือโอกาสขอขมาลาโทษเสียเลย ที่เคยทำผิด คิดล่วงเกินต่อหน้า ลับหลังก็ดีกับท่านในขณะทำงาน ขออภัยด้วยเถอะ อย่าได้จองเวรจองกรรมกันเลย อย่าให้เป็นบาปเป็นกรรมเลย
แล้วก็ขอแนวทางในการทำงานที่ถูกที่ต้องกับท่าน ขอแนวทางในการละความโลภ ความโกรธ ความหลง จากท่าน เพราะท่านกว่าจะมาเป็นผู้ใหญ่ให้เรากราบได้ ท่านก็เจออุปสรรคทำนองเดียวกับเรานี่แหละ เจอมาก่อนเรา ว่าจริงๆ ขอพระน่ะ ขออะไร ขอหลักการ ขอหลักการในการแก้ไขตัวเอง แต่ว่าถ้าอะไรที่เป็นหลักการ รู้สึกจะเครียดๆ ไปหน่อย แต่ว่าไปขอพรนี่ มันไม่เป็นหลักการจนเกินไป แต่นั่นแหละกลับได้ผลเกินคาด พอเข้าไปหาผู้ใหญ่ ไปกราบผู้ใหญ่ ถ้าผู้ใหญ่ท่านเป็นจริง ท่านเอาเลย
๑. ท่านอ้างสัจจะเลย ตลอดชีวิตในการทำงานของท่านนี่ไม่เคยลำเอียง แล้วก็อธิษฐานจิตว่าด้วยบุญที่ท่านทำนี้ ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่เคยลำเอียงเลย ขอให้บุญนี้ มาคุ้มครองให้เรามีแต่ความสุข ความเจริญ มีแต่ความก้าวหน้าตามท่านมา เราได้ยินก็ชื่นใจ ถ้าให้สั้น ๆ ท่านก็จะให้แค่นี้ แต่ว่าผู้ใหญ่ที่ท่านผ่านโลกมามากนี้ มองหน้าเรา ท่านก็พอรู้ ระหว่างปีที่ผ่านมานี้ เวลาทำงานคนนี้คงขุ่นใจเรื่องนั้นเรื่องนี้กับท่าน นอกจากอธิษฐานให้คุ้มครอง ให้ความดีที่ท่านคุ้มครองเราแล้ว ท่านอาจจะยกเรื่องนั้นเรื่องนี้มา ซึ่งเป็นเรื่องที่ท่านมีวิธีแก้ไข
ยกตัวอย่าง ด้วยบุญที่ท่านผู้ใหญ่ท่านนี้ที่เคยแก้ไขความขัดแย้งเรื่องนั้นเรื่องนี้ในที่ทำงานมา ด้วยความจริงใจ ขอให้บุญนั้น จงคุ้มครองคนนี้ให้เป็นผู้เป็นคนขึ้นมา ให้กลับเนื้อกลับตัวเสียใหม่ อย่างนี้เป็นต้น โดยหลักการ คือท่านอ้างสัจจะคือความจริงใจที่ท่านทำความดีมาตลอดชีวิตเรื่องนั้น ๆ
๒. แล้วอธิษฐานให้บุญหรือความดีนั้นคุ้มครองเรา
๓. แล้วก็สอนวิธีทำความดีเรื่องนั้นๆ ตามแต่ท่านจะเห็นสมควรให้กับเรา
ถ้าให้ดียิ่งกว่านั้น ท่านผู้ใหญ่เหล่านี้ เมื่อรู้ว่าเราจะไป ท่านมักจะเตรียมถ้อยคำที่เพราะ ๆ สรุปสั้น ๆ แล้วเพราะกินใจ บางทีก็เป็นโคลงเป็นกลอน ทำให้เราจำได้ง่าย เตรียมไว้เป็นพรให้กับเราเสร็จเรียบร้อยเลย ก็ฝากเอาไว้นะ
ถึงคราวที่เราจะต้องให้พรใคร จำหลักนี้ไว้ให้ดี
๑. ต้องมีสัจจะ คือความจริงใจในการทำความดี แม้ข้อใดข้อหนึ่ง อ้างขึ้นมา ก่อนที่จะให้พร
๒. อธิษฐานให้บุญที่เกิดจากการทำความดีนั้น ๆ ไปคุ้มครองเขา
๓. ถ้าจะสอนให้เขารู้ว่า เราน่ะมีหลักการในการทำความดีเรื่องนั้นได้อย่างไร วิเศษเลย
๔. ใช้วาจาที่ไพเราะ เพราะพริ้ง ให้เขาประทับใจ
๕. ให้พรให้สมกับกาลเทศะ
อย่างนี้ พรวิเศษประเสริฐเหลือเกิน
โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก)
วันที่
ที่มา
เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC
บทความหลวงพ่อตอบปัญหา