คำถาม:
กราบนมัสการหลวงพ่อเจ้าคะในรายการตอนก่อนๆ ลูกเคยได้ยินหลวงพ่อพูดคำว่า ศีลภรต นะคะแต่ไม่ได้ขยายความไว้ ลูกอยากขอความเมตตาจากหลวงพ่อ ช่วยอธิบายคำว่าศีลภรต คืออะไร ต่างจากศีลห้าอย่างไรเจ้าคะ
คำตอบ:
เจริญพร ศีลภรต คืออะไร ต่างจากศีลห้าอย่างไร เอาขั้นต้นก่อน คำว่าศีลภรต มุ่งไปถึงศีลของนักบวชเป็นหลักต่างจากศีลของชาวบ้าน คือ ชาวบ้านเขารักษากันแค่ศีลห้า ศีลห้าคุณโยมคงเข้าใจอยู่แล้ว ธรรมดาชาวบ้าน ชาวโลก เขารักษากันแค่ศีลห้า แต่ว่าที่ นักบวช คือ ผู้ที่จะกำจัดกิเลสให้สิ้นเชื้อไม่เหลือเศษนั้นแค่ศีลห้าไม่พอ ก็ต้องมีศีลภรต คือศีลที่ยิ่งขึ้นไปกว่าศีลห้า ส่วนมีอะไรบ้าง เดี๋ยวค่อยว่ากัน ลองดูตรงนี้ก่อน
ศีล ทำไมจึงต้องมาแบ่งเป็นศีลทั่วไปของชาวบ้าน และ ศีลของนักบวชด้วยดูตรงนี้ให้ชัด ทหาร เขามีวิธีการทำความดีของเขาอยู่สองระดับ
ระดับแรก เมื่อมีข้าศึกมาโจมตี ความดีความชอบของทหารระดับแรกก็คือ รักษาค่าย รักษากองทัพ รักษาชีพ ต้องตั้งมั่นเอาไว้ให้ได้ ไม่ยอมให้ข้าศึกมาตีแตก พูดง่ายๆคือรักษาดินแดน รักษาพื้นที่เอาไว้ ถึงแม้ว่าจะทำลายล้างข้าศึกศัตรูไม่ได้ แต่ข้าศึกศัตรู ก็บุกรุกไม่ได้อีกเหมือนกัน ถามว่าอันนี้เป็นความดีความชอบของทหารไหม ตอบว่า เป็น คือรักษาฐานไว้ได้ แต่ว่าเป็นความดีขั้นพื้นฐาน
ทั้งนี้ความดีที่ยิ่งขึ้นไปของทหาร คือ เมื่อได้จังหวะก็รุกไล่ บดขยี้ จนข้าศึกศัตรูพินาศทำลายไป กินดินแดนมาได้ตั้งเยอะ ศัตรูก็หายไปหมดแล้วอันนี้เป็นความดีระดับสูงขึ้นมาอีกของทหารเขา แบบนี้เป็นต้น
พวกเราก็เหมือนกัน การรักษาศีลห้าของพวกเราในวันธรรมดา จึงจัดว่าเป็นความดีเบื้องต้นของชาวโลก คือ ยันกิเลสเอาไว้ ไม่ให้บีบคั้นเราได้พอวันพระ บางท่านก็วันโกน บางท่านก็วันพระ เราอยากจะทำความดีตามพระท่านบ้าง พระท่านมาบวชทำไม ท่านจะมารุกไล่ใคร รุกไล่ปราบกิเลสให้สิ้นเชื้อ ไม่เหลือเศษให้ได้ นั่นคือพระ ถ้าทำไม่ได้อย่างพระทั้งหมด ก็เลียนแบบพระอาจารย์บ้างก็แล้วกันคือ วันโกน วันพระ หรืออย่างน้อยก็วันพระ ขอถือศีลภรต ตามหลวงพ่อท่านบ้างทำอย่างไร จากศีลห้ามาเป็นศีลแปดบ้าง
ศีลข้อที่หก ว่าอย่างไร เอาคำแปลก็แล้วกัน หลังเที่ยงวันไปไม่ทานอาหารอย่างมากก็แค่เครื่องดื่มนิดๆหน่อยๆก็พอแล้วเพราะอะไร เพราะมาคำนึงว่าอาหารทั้งสองมื้อนั้น มันพอแล้วสำหรับที่จะยังชีวิตของเรา ส่วนอาหารมื้อที่สามนั้น ถ้าเราสวดมนต์ ภาวนา รักษาศีล ทำสมาธิ อย่างนี้ ไม่ได้ใช้แรงมาก สองมื้อแรกนั้นก็ควรพอแล้ว มื้อที่สามมันกลายเป็นอาหารส่วนเกิน อาหารส่วนเกิน มีสิทธิจะกลายเป็นพลังงานส่วนเกิน จากพลังงานส่วนเกินนี้ จะทำให้ใจฟุ้งซ่าน ต้องเลิก หยุด ไปเลย
ศีลข้อที่เจ็ด ไม่ให้ร้องรำทำเพลง ไม่ให้ แต่งหน้า ไม่ให้ดูละคร การละเล่นต่างๆ เพราะสิ่งเหล่านี้ทำให้ใจมันฟุ้งซ่าน งดมันไปซะ
ศีลข้อที่แปด ไม่นอนในที่นอนนุ่มๆ หนาๆ เพราะจะทำให้ใจมันฟุ้งซ่านง่ายเช่นกัน เมื่อเรางดไปใน ข้อที่หก เจ็ด แปด นี้ได้ จะช่วยให้ใจไม่ฟุ้งซ่านโดยเฉพาะอย่างยิ่ง วัยรุ่น โอกาสที่จะฟุ้งซ่านในเรื่องเพศ นี้ง่ายมาก ปู่ ยา ตา ทวด เรา พออายุสมควรท่านก็เริ่มเข้าวัดกันแล้ว ถือหลักง่ายๆ ถ้าลูกคนโตแต่งงานเมื่อไหร่ไม่ว่าลูกสาว หรือ ลูกชายก็ตาม คุณพ่อ คุณแม่ รีบเข้าวัดรักษาศีลแปดกันแล้ว ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เพราะต้องเตรียมตัวเป็นปู่ ย่า ตา ยาย ที่เป็นต้นแบบศีลธรรมให้เขาดูนั่นเอง
นอกจาก ศีลข้อที่หก เจ็ด แปด เพิ่มขึ้นมาแล้ว ศีลข้อที่สาม ในครอบของศีลห้า ที่บอกว่า “พอใจในคู่ครองของตน ไม่เจ้าชู้นั้น” พอในครอบของศีลแปด หรือศีลภรตนี้ กลายเป็นว่ายกระดับให้สูงขึ้นคือ แม้แต่มีคู่ครองก็ไม่ร่วมหลับนอนกับคู่ครองของตน ทำตัวเหมือนกับพระ ทำตัวเหมือนกับหลวงพ่อ เลียนแบบหลวงพ่อไปเลย
ศีลภรต คืออะไร คือศีลที่มุ่งปราบกิเลส ไม่ใช่แต่ศีลห้าที่ยันกับกิเลสเท่านั้น ถ้าถามว่าต่างกับศีลห้าอย่างไร ศีลห้านั้น ยันกับกิเลส ศีลภรตนั้น จะล้างผลาญกับกิเลสให้มันสิ้นซากให้ได้
โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก)
วันที่
ที่มา
เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC
บทความหลวงพ่อตอบปัญหา