คำถาม:
พระเดชพระคุณหลวงพ่อครับ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงให้หลักในการสร้างเครือข่ายคนดีเอาไว้อย่างไรบ้างครับ
คำตอบ:
คว้าหัวใจเลยเชียวนะ…หลักในการสร้างเครือข่ายคนดี มีย่อๆอยู่สี่คำ คือ ให้ ให้ ให้ แล้วก็ ให้…ชัดเจนดีไหม
หลักในการสร้างเครือข่ายคนดีนั้น เนื่องจากคนทุกคนมีความพร่องอยู่ในใจ จำไว้ก็แล้วกัน แม้เราเองก็มีความพร่องอยู่ในใจ แต่ละคนพร่องในเรื่องอะไรบ้าง
พร่องประการที่หนึ่ง คือ พร่องสมบัติ ทรัพย์สมบัติ มันไม่ค่อยจะพอกันทั้งนั้นแหละ มันจึงต้องทำมาหากิน ทำมาค้าขายกันตลอดชีวิตนั่นแหละ ทำมันทำไม…ทำเอามากิน ทำเอามาใช้นั่นแหละนะ ทรัพย์สมบัติมันพร่อง นี่เป็นธรรมชาติของคนจึงต้องประกอบอาชีพกันตลอดชีวิต
พร่องประการที่สอง กำลังใจมันพร่อง ไม่ว่าเราจะเก่งกาจแค่ไหน ทำงานไปแล้ว มันก็เจออุปสรรคบ้างเป็นธรรมดา เมื่อไปเจออุปสรรคเข้า ถ้าแค่บ้างมันก็แล้วไป แต่พอเจอหนักๆเข้า กำลังใจมันก็ชักถอยๆถดๆไปล่ะนะ เมื่อกำลังใจถดถอยไป กำลังใจมันพร่องไป มันก็ต้องหามาเติม กำลังใจมันคอยจะพร่อง ดูนักกีฬาก็แล้วกัน เล่นกีฬาแล้วไม่มีกองเชียร์เล่นไม่สนุกหรอก ไม่เชื่อนะ คุณลองไปวิ่งคนเดียวดูก็แล้วกัน ไม่มันหรอก มันต้องมีกองเชียร์ แล้วก็ต้องมีคนแข่งด้วย กำลังใจมันพร่องก็ต้องมีคนคอยเชียร์กันบ้าง นี่เป็นตัวอย่างนะ
พร่องประการที่สาม พร่องความรู้ความสามารถ โถ…คนเราเกิดมาพร้อมกับความโง่ มารู้ มาเรียนรู้ ทีหลังทั้งนั้น เพราะฉะนั้น ต่อให้มีอายุเป็นพันปีด้วย เรียนความรู้ในโลกนี้ไม่หมด มันคอยจะพร่องอยู่ตลอดเวลา ยิ่งงานก้าวหน้าความรู้ยิ่งตามไม่ทันงาน ทำอย่างไรล่ะ…มันก็ต้องหาคนมาเติมความรู้ความสามารถให้ นี่เป็นตัวอย่างนะ
พร่องประการที่สี่ พร่องความปลอดภัย ทำงานไปทำงานไป ระวัง…ความปลอดภัยมันไม่ได้ ถ้าเด่นนัก…เดี๋ยวเถอะ จงทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย ไม่มีใครอยากเห็นเราเด่นเกิน มันไม่ปลอดภัยเสียอีกแล้ว หรือเรามันย่ำแย่อยู่ ภัยมันยิ่งบีบหนักเข้าไปอีก ไม่เก่งก็ภัยเยอะ เก่งจัดนักก็ภัยเยอะ ทำอย่างไรล่ะจึงจะปลอดภัย…นั่นแหละๆความปลอดภัยมันพร่องไป มันจึงต้องหามาเติมให้เต็มจนกระทั่งภัยมันหมดไป
เพราะฉะนั้น คบกัลยาณมิตร ถึงคราวทรัพย์มันขาดมือ ปันกันได้มันก็ต้องปันกัน พวกจะตายแล้วก็ไม่ช่วยกันนี่ไม่รู้จะคบกันไปทำไม สายสัมพันธ์มันก็ขาดผึงไป กาวใจมันไม่มี
กาวใจประการแรก คือ สมบัติส่วนที่เขาขาดมือนั่นแหละ มันก็ต้องไปช่วยไปจุนเจือกันไป
กาวใจประการที่สอง กำลังใจมันขาด สมบัติน่ะมันมีนะ แต่กำลังใจบางครั้งมันขาดไป แม้แต่มหาเศรษฐีถึงทีก็ยังขาดกำลังใจได้ มันไม่แน่ คราวป่วยคราวไข้ คราวเจออุปสรรค คราวเจอการกระทบกระทั่งในครอบครัวของตัวเองนั่นแหละ มันต้องการกำลังใจ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวเถอะ ได้แตกได้สลายกันแน่ ต้องการกำลังใจ พึงจำไว้ก็แล้วกัน สิ่งที่ทอนกำลังใจมนุษย์น่ะ ไม่มีอะไรเกินคำพูดที่แสลงใจ และสิ่งที่เพิ่มพูนกำลังใจให้มนุษย์น่ะ ก็ไม่มีอะไรเกินคำพูดที่เพราะๆ คำพูดที่ให้กำลังใจกัน
กาวใจประการที่สาม มีความรู้มีความสามารถไม่หวงกัน แนะนำอะไรกันได้ก็ให้ ความสามารถอะไรที่มี ทุ่มกำลังกายทุ่มศิลปะเข้าไป ทุ่มเทคโนโลยีไป ช่วยกันได้ มันก็ต้องช่วยกัน ยิ่งประกอบอาชีพเดียวกันยิ่งต้องช่วยกัน ไม่ใช่กีดกันกัน มัวกีดกันกันเองในประเทศ ต่างประเทศเขาเลยรวมกันได้ เขาเลยมาเหยียบเราตาย ร้องอ๊อกๆกันอยู่ทุกวันนี้นั่นแหละ เพราะคนในอาชีพเดียวกันในประเทศไทยไม่จับมือกัน ถ้าจับมือกัน ห้างใหญ่ๆมันเกิดเต็มประเทศ ไม่ต้องให้ห้างใหญ่ๆจากต่างประเทศมาดูดเงินจากเมืองไทยออกไปหรอก ตอนนี้โดนดูด เลือดไหลไม่หยุดอยู่นี่ นี่ถ้าคนไทยจับมือกันได้นะ เลือดมันหยุดไหลไปตั้งนานแล้ว มันอยู่ตรงนี้
กาวใจประการที่สี่ ก็มีความจริงใจให้กันเสมอต้นเสมอปลาย ถึงคราวพวกได้ดีก็ดีใจด้วย ไม่อิจฉาตาร้อน ประเภท…หนอยแน่ไอ้นี่ มันล้ำหน้าไปกว่าเรา ต้องเลื่อยขาเก้าอี้มันต้องแทงข้างหลังมัน อย่างนี้ไม่ใช่ อย่างนี้ไม่ปลอดภัย แต่ว่าเพื่อนได้ดี เรามีจิตมุทิตาดีใจด้วย เพื่อนเอ๊ย ดีไปเถอะ ตำแหน่งเพิ่มขึ้นดีไปเถอะ ดีใจด้วย แซงไปเลย กำไรมากกว่า เออ…ดีแล้ว ปีหน้าจะได้มาร่วมทุนร่วมหุ้นลงทุนกัน เพื่อนจะได้เป็นเจ้ามือใหญ่ ถือหุ้นใหญ่ก็ไม่ว่ากัน เรากำลังน้อยกำลังทรัพย์น้อยเอาแรงกายเข้าถมเป็นไรไปล่ะ คบกันอย่างนี้
มีสมบัติก็ปันกัน ท่านใช้คำว่า ทาน
ให้คำพูดเป็นกำลังใจกัน คือ ปิยวาจา
มีเรี่ยวแรง มีความรู้ความสามารถ ก็ไม่หวงกัน ก็ให้กันคราวใครขาดแคลน ท่านใช้คำว่า อัตถจริยา
ถึงคราวน่ะ ไม่แทงกันข้างหลัง มีแต่สนับสนุนกัน ทำตัวเสมอต้นเสมอปลาย คือ สมานัตตตา
ให้ของ ให้คำ ให้กำลังกายกำลังใจ แล้วก็ให้ความปลอดภัย นี้คือคาถาแห่งการสร้างเครือข่ายคนดี แล้วเราจะมีกัลยาณมิตรรอบข้างอย่างที่จะนับจะประมาณมิได้
โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก)
วันที่
ที่มา
เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC
บทความหลวงพ่อตอบปัญหา