คำถาม:
กระผมอยากจะทราบต่อไปว่า ถ้ากระผมตั้งใจรักษาศีลห้าอย่างดี แบบที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อว่าแบบมะขามแช่อิ่มแล้วนะครับ จะมีอานิสงส์อย่างไรบ้างครับ
คำตอบ:
เจริญพร คุณโยมเมื่อเรารักษาศีลกันเต็มที่จริงๆอย่างที่ว่า คือ เอาชีวิตเป็นเดิมพัน ไม่ใช่เหยาะๆแหยะๆ ไม่เอาศีลจิ้ม ศีลเชื่อม เอาศีลแช่อิ่ม
ถ้าศีลแช่อิ่มกันจริงๆล่ะก็คุณโยม พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสเอาไว้ชัดว่า มีอานิสงส์มากมาย แต่ว่าโดยย่อก็แล้วกัน โดยย่อล่ะก็มีสามประการด้วยกัน ทุกครั้งเวลาเรารับศีลจากพระ พระจะสรุปอานิสงส์ของศีล แล้วเราก็กล่าวสาธุกัน มีอยู่สามข้อ ดังนี้
1.สีเลนะสุคติงยันติ ศีลทำให้ไปสู่สุคติ ขอยืมภาษาบาลีมาก่อน แล้วจะได้ไม่ตกไม่หล่น ศีลทำให้ไปสุคติ ถ้าแปลภาษาชาวบ้านก็แปลว่า ศีลนั้นเมื่อตั้งใจรักษากันเต็มที่ดีแล้ว เอาชีวิตเป็นเดิมพันกันจริงๆ ไปสุคติ คือ ไปดี หรืออนาคตดีนั่นเอง
เป็นอย่างไร รักษาศีลแล้วอนาคตดี…
ดีสิ ดีแน่นอน ลองว่ามีศีลแล้วล่ะก็ ไม่ต้องไปปรึกษาเรื่องกฎหมายกับคุณโยมล่ะ ไม่ไปคุกแน่เลยนะ เออ…ถึงอย่างไรก็ไม่ไปคุกแล้วชาตินี้ ชาติหน้ายังไม่ต้องพูดถึง ชาตินี้น่ะถึงอย่างไรไม่ต้องไปคุกไปตะราง ไม่ต้องไปเข้าห้องขัง เพราะฉะนั้น คำว่า สุคติ นี้ก็คือรักษาศีลแล้วอนาคตชาตินี้ มีแต่เจริญรุ่งเรืองไม่มีเวรไม่มีภัย
อนาคตชาติหน้า ตายไปก็ไม่ตกนรก กลับมาเกิดอีกทีเป็นมนุษย์ ก็เป็นมนุษย์ที่ไม่มีคู่แค้น เพราะไม่ได้ไปทำความแค้นไว้กับใคร ไปถึงไหนก็ยังมีคนรักต่ออีกนั่นแหละ นี้ชัดเจนลงไปเลย
2.สีเลนะโภคสัมปทา ศีลทำให้เกิดโภคทรัพย์ หรือจะแปลว่าศีลทำให้ใช้ทรัพย์ได้เต็มอิ่มก็ได้
เป็นอย่างไร ศีลทำให้เกิดโภคทรัพย์ คุณโยมไปดูเถอะเวลาเขาประกาศรับใครเข้าทำงาน ไม่มีประกาศไหนเลย ต้องการรับคนที่ชอบฆ่า ชอบลัก ชอบประพฤติผิดในกาม ชอบเที่ยวกลางค่ำกลางคืน ชอบโกหกอะไรอย่างนี้ ชอบเมาหัวตำดินนี่ ไม่มีใครรับไปทำงาน อยากจะได้แต่คนมีศีลมาทำงาน เพราะฉะนั้นใครมีศีล แล้วก็ประกอบกับคุณสมบัติ คุณงามความดีด้านอื่น ความสามารถด้านอื่น ถึงแม้ความสามารถด้านนั้นๆเท่ากับคนอื่น แต่ว่าความมีศีล ใครๆเขาก็รีบคว้ารีบเอาไปช่วยทำงานเลย เพราะฉะนั้น ศีลทำให้เกิดโภคทรัพย์ได้ง่าย…ชัดเจนไหม
ยังไม่พอ นอกจากสมบัติจะเกิดได้ง่าย หรือเอาล่ะไม่ต้องไปเป็นลูกจ้างใคร ทำมาหากินเอง ถ้าทำมาหากินเอง เรามีศีลไม่ไปเมาหัวตำดินเสียแล้ว มันก็มีเวลามาทำงานได้เยอะ นี่ยกตัวอย่างนะ
ยิ่งกว่านั้น ศีลทำให้ใช้ทรัพย์สมบัติได้เต็มอิ่ม แปลกนะ คิดง่ายๆคนที่ร่ำรวย รวยเหลือเกิน เขาก็บอกว่าเขากินเหล้าทุกวัน สมบัติก็ไม่ได้พร่องไปเท่าไหร่ ไม่เดือดร้อน แต่ว่านั่นแหละ กินมากเข้ามากเข้า ตับพังไตพังไปเสียแล้ว พอตับพัง ไตพัง กระเพาะพัง มีสมบัติพันล้านก็กินไม่เต็มอิ่ม เพราะกระเพาะมันพังไปแล้ว มันจะไปกินเต็มอิ่มอย่างไร
หากเที่ยวไปยุ่งกับเมียเขาลูกเขา ถึงแม้ไปยุ่งได้กี่คนก็ตาม ไม่เต็มอิ่ม เพราะต้องผวาเดี๋ยวเจ้าของเขาจะตามมาเจอ นี่ยกตัวอย่าง
เพราะฉะนั้น ไม่ว่ากรณีใด หากได้ทำผิดศีลไว้แล้ว ถึงจะมีทรัพย์สมบัติมากน้อยเท่าไหร่ บริโภคไม่เต็มอิ่ม…ชัดเจนนะ
เพราะฉะนั้น ใครมีศีลบริสุทธิ์ ถึงแม้ไม่ค่อยจะรวย แต่ว่าสมบัตินั้นๆมันใช้เต็มอิ่ม ใช้แล้วไม่ต้องผวาเลย มันเป็นอย่างนี้
3.สีเลนะนิพพุติงยันติ ศีลทำให้ไปพระนิพพาน พอบอกว่าศีลทำให้ไปพระนิพพาน เดี๋ยวจะไม่รักษาศีลกัน กลัวจะไปนิพพาน บางคนเขาว่าอย่างนั้น
เอาอย่างนี้ นิพพานหรือนิพพุติง มีหลายระดับลูกเอ๋ย นิพพานขั้นต้น เป็นอย่างไรล่ะ
ทำให้ใจสงบเย็น มีศีลแล้วใจมันสงบเย็นชุ่มฉ่ำอยู่ในใจ ไม่ต้องหวาดผวาอะไรทั้งสิ้น นี่นิพพานขั้นต้น สงบเย็น แต่เมื่อรักษาศีลมากเข้ามากเข้า เข้มข้นเข้าไปเรื่อยๆ…กลายเป็นศีลแช่อิ่มไปแล้ว ทีนี้ใครเอามีดมาจ่อคอเอาปืนมาจ่อหัวให้เราทำความชั่ว…เรายอมตายเสียดีกว่า
ใจมั่นคงขนาดนี้ล่ะก็ คนอย่างนี้ล่ะพระนิพพานรอแล้ว คนอย่างนี้ใจจะมั่นคงเป็นสมาธิง่าย เมื่อเป็นสมาธิขึ้นมาแล้ว เพราะอำนาจศีลที่มั่นคง หลับตาลืมตานี่สว่างโพลงยิ่งกว่าตะวันเที่ยงโดยอัตโนมัติ ความสว่างโพลงยิ่งกว่าตะวันเที่ยงนี่แหละ จะทำให้เราสามารถไปเห็นกิเลสที่อยู่ในใจ
เราลองได้เห็นกิเลสแล้ว เดี๋ยวเราก็จะปราบเสียให้เตียน เมื่อเห็นกิเลสในใจด้วยอำนาจแห่งความสว่างภายในนี้ คุณโยม…จะช้าจะเร็ว เดี๋ยวได้ปราบกิเลสหมด ไปนิพพานตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจนได้นั่นแหละ
เพราะฉะนั้น คุณโยมตั้งใจรักษาศีลไป ขั้นต้น…อนาคตชาตินี้ก็ดี ตั้งหลักตั้งฐานก็ได้ ขั้นต่อ…มารักษาศีลดีแล้ว สมบัติก็เกิดง่าย สมบัติที่เกิดแล้วก็ใช้ได้เต็มอิ่ม ยิ่งกว่านั้น…ชาตินี้ทั้งชาติ มันสงบเย็นไม่มีเวรไม่มีภัย พระนิพพานก็รอท่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็รักเรา…เจริญพร
โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก)
วันที่
ที่มา
เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC
บทความหลวงพ่อตอบปัญหา