พระวนวัจฉะ ผู้อยู่ในป่า

พระวนวัจฉะผู้อยู่ในป่า

ความเชื่อทุกความเชื่อ จะได้รับการกลั่นกรองว่าถูกต้องหรือไม่ และชาวโลกจะได้ประจักษ์ก็ต่อเมื่อทุกคนได้เข้าถึงพระธรรมกาย เพราะพระธรรมกายสามารถพิสูจน์ความเชื่อทั้งหลาย เนื่องจากมีธรรมจักษุ และญาณทัสสนะ จึงสามารถรู้แจ้งเห็นแจ้งแทงตลอดในนิพพาน ภพสาม โลกันต์ เมื่อเรายังไม่รู้ว่าอะไรคือความเชื่อที่ถูกต้องสมบูรณ์ เราควรจะวางความเชื่อไว้บนหิ้ง แล้วมาพิสูจน์ความจริงกันจะดีกว่า พิสูจน์ด้วยการเจริญสมาธิภาวนาให้เกิดภาวนามยปัญญา ความรู้ที่เกิดจากการเห็นแจ้ง ไม่ใช่เกิดจากกการฟังหรือการคิด

ฉะนั้นเมื่อเรามีบุญได้เกิดมาเป็นมนุษย์ สมควรอย่างยิ่งที่เราจะต้องเข้าถึงพระธรรมกายให้ได้ การจะเข้าถึงได้นั้น ต้องหมั่นเจริญสมาธิภาวนา และสร้างบุญกุศลคุณงามความดีให้มาก ๆ เมื่อบุญเราเต็มเปี่ยม สักวันหนึ่งเราจะเข้าถึงพระธรรมกายกันได้อย่างแน่นอน

มีวาระแห่งธรรมภาษิตที่ปรากฏใน ขุททกนิกาย อปทาน ความว่า
“ความเสวยอารมณ์เกิดขึ้นเพราะมโนสัมผัสเป็นปัจจัย เช่นเป็นสุขก็ดี เป็นทุกข์ก็ดี ไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุขก็ดี เมื่อเบื่อหน่ายในความเสวยอารมณ์นั้น ย่อมคลายความกำหนัด เมื่อคลายความกำหนัด จิตย่อมหลุดพ้น เมื่อจิตหลุดพ้นแล้ว ก็มีญาณรู้ว่าหลุดพ้นแล้ว พระอริยสาวกย่อมทราบชัดว่าชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์ได้อยู่จบแล้ว กิจอื่นที่ควรทำ ได้ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นอีกเพื่อความเป็นอย่างนี้ มิได้มีอีกต่อไป”

เรื่องของการเวียนว่ายตายเกิดเป็นเรื่องราวที่สำคัญต่อทุกชีวิต เราจำเป็นต้องรู้ ไม่รู้ไม่ได้ ไม่รู้แล้วไม่ปลอดภัย เมื่อเรารู้ก็ต้องเลือกเอาเฉพาะหนทางที่ปลอดภัย ซึ่งเราต้องศึกษาว่า ควรที่จะดำเนินชีวิตไปในทิศทางใด เรามีโอกาสที่ดีกว่าคนอื่นอีกนับหมื่นนับแสนนับล้านคน เพราะมีผู้ยังไม่รู้เรื่องราวของชีวิตอีกมาก หากเราหมั่นปฏิบัติธรรมจนสามารถเข้าถึงพระธรรมกายที่ชัดใสสว่าง ความทุกข์ ความเบื่อหน่าย ความกลุ้ม หรือความยินดียินร้ายในโลกธรรมทั้งหลายจะหมดสิ้นไป จิตใจจะใสสะอาดบริสุทธิ์ ถึงแม้ว่าจะยังไม่หมดกิเลส แต่ใจจะไม่ห่างจากธรรมะ เหมือนเรื่องของพระวนวัจฉเถระ ที่แม้ชีวิตจะมีขึ้นมีลงแต่ก็ไม่ยอมห่างจากธรรมะ เรื่องมีอยู่ว่า

* ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า กัสสปะ พระเถระได้มาบังเกิดเป็นลูกของเศรษฐี พอบรรลุนิติภาวะแล้ว ท่านได้สดับพระธรรมเทศนาของพระบรมศาสดา เมื่อฟังแล้วเกิดความศรัทธาเลื่อมใสจึงได้ออกบวชเป็นบรรพชิต ดำรงอยู่ในเพศบรรพชิตจนกระทั่งหมดอายุขัย จุติจากอัตภาพนั้นแล้วได้ไปบังเกิดในเทวโลก

ครั้นจุติจากเทวโลก ช่วงนี้กรรมเก่าในอดีตชาติตามมาทัน จึงไปบังเกิดในกำเนิดนกพิราบ อาศัยอยู่ใกล้กับพระภิกษุผู้อยู่ในป่า นกพิราบมีความรักเคารพในหมู่ภิกษุ ได้ฟังเสียงสวดมนต์ เสียงพระธรรมเทศนา มีใจผ่องใสจุติจากอัตภาพนั้นก็กลับไปในเทวโลกอีก

พอมาถึงในยุคสมัยของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา ท่านได้จุติมาบังเกิดในตระกูลพราหมณ์ ในกรุงกบิลพัสดุ์ ขณะที่ท่านอยู่ในท้องของมารดา มารดาได้เกิดอาการแพ้ท้อง อยากจะอยู่ในป่า เพราะในภพชาติก่อนๆ บุตรในครรภ์คุ้นเคยกับการอยู่ในป่า จึงทำให้มารดาเกิดอาการอย่างนี้ และในที่สุดมารดาก็ได้คลอดบุตรชายในป่านั่นเอง กอปรด้วยในขณะนั้นเป็นเวลาที่พระโพธิสัตว์ได้ทรงอุบัติขึ้นเหมือนกัน พระราชาทรงมีรับสั่งให้ราชบุรุษนำเด็กที่เกิดในวันเดียวกันนั้นมาเลี้ยงร่วมกับพระโพธิสัตว์ เพราะเป็นสหชาติกัน

เมื่อพระโพธิสัตว์ เสด็จออกสู่พระมหาภิเนษกรมณ์ออกผนวช วนวัจฉะได้ไปอยู่ที่ป่าหิมพานต์เหมือนกัน หลังจากพระโพธิสัตว์ตรัสรู้ธรรมแล้ว วนวัจฉะได้พบพระมหากัสสปเถระผู้ทรงธุดงควัตร มีความเลื่อมใสในโอวาทของท่านมาก ชอบในปฏิปทานี้ และท่านก็ได้ทราบข่าวการตรัสรู้ จึงไปเฝ้าพระบรมศาสดา ได้ฟังธรรมจากพระพุทธองค์แล้ว จึงตัดสินใจออกบวช ท่านบำเพ็ญสมณธรรมไม่นานนัก ก็ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ พร้อมด้วยปฏิสัมภิทาญาณ ๔ อภิญญา ๖ เมื่อบรรลุธรรมแล้ว ได้ระลึกถึงบุพกรรมของท่านเอง ได้เห็นและเกิดความโสมนัสใจ ถึงกับประกาศเรื่องราวที่ตนเคยประพฤติในกาลก่อนว่า

ในภัทรกัปนี้ พระพุทธเจ้าพระนามว่า กัสสปะ ผู้ยิ่งใหญ่กว่าพรหม ทรงพระยศใหญ่ ประเสริฐกว่านักปราชญ์ทั้งหลาย ได้เสด็จอุบัติขึ้นในโลก  ครั้งนั้น เราบวชในศาสนาของพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ประพฤติพรหมจรรย์ตราบเท่าสิ้นชีวิต จุติจากอัตภาพนั้นแล้ว เพราะกรรมที่ทำไว้ดี และเพราะการตั้งเจตจำนงไว้ เราละร่างมนุษย์นั้นไป ได้ไปบังเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ จุติจากภพนั้นได้มาเป็นนกพิราบอยู่ในป่า ภิกษุผู้สมบูรณ์ด้วยคุณ ยินดีในฌานทุกเมื่ออาศัยอยู่ในป่า ท่านผู้มีจิตเมตตาประกอบด้วยกรุณา มีหน้าเบิกบาน เป็นผู้วางเฉย มีความเพียรมาก ปราศจากนิวรณ์ มีอัธยาศัยใคร่ประโยชน์แก่สรรพสัตว์ ไม่นานนัก เราคุ้นเคยกับพระสาวกของพระสุคต เมื่อเราบินเข้าไปจับอยู่แทบเท้าของท่านผู้นั่งอยู่ในอาศรม บางครั้งท่านก็ให้อาหาร บางครั้งท่านก็แสดงธรรมเทศนา ถึงแม้เราจะไม่ทราบถึงเนื้อความอันลึกซึ้งของพระธรรมเทศนา แต่เราก็มีความยินดี และมีความสุขที่ได้ฟัง

ครั้งนั้น เราได้ความคุ้นเคยกับท่านผู้เป็นโอรสของพระพิชิตมาร ด้วยความรักอันไพบูลย์ เมื่อจุติจากอัตภาพนั้นแล้วได้ไปบังเกิดในสวรรค์อีก ปานประหนึ่งออกจากที่อยู่แล้วกลับไปยังเรือนของตัว เราจุติจากสวรรค์ก็มาเกิดเป็นมนุษย์ด้วยบุญกรรม ได้ละทิ้งเรือนออกบวช เราได้เป็นสมณะ ดาบส พราหมณ์ นักพรต อยู่ในป่าหลายร้อยชาติ ภพสุดท้ายนี้เราหยั่งลงสู่ครรภ์ภรรยาของพราหมณ์วัจฉโคตร ในกรุงกบิลพัสดุ์อันน่ารื่นรมย์ เมื่อเรายังอยู่ในครรภ์ของมารดา มารดาของเราแพ้ท้องในเวลาที่เราใกล้จะคลอด จึงปรารถนาจะเข้าไปอยู่ในป่า จากนั้น มารดาของเราได้คลอดเราภายในป่าอันน่ารื่นรมย์ เมื่อเราออกจากครรภ์มารดา ชนทั้งหลายเอาผ้ากาสายะรองรับเราไว้ เพราะความปรารถนาจะเป็นนักบวชของเรา

ในขณะนั้น พระสิทธัตถราชกุมารผู้เป็นธงชัยของสัตวโลก ก็ได้ประสูติเช่นกัน เราเป็นสหชาติ เป็นสหายรักสนิทชิดชอบของพระองค์ เมื่อพระองค์ละยศอันไพบูลย์ เสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์เพื่อสาระประโยชน์แก่สัตว์ เราได้เข้าไปสู่ป่าหิมพานต์ และพบกับพระมหากัสสปะ ผู้อยู่ป่าน่าสรรเสริญบอกกล่าวธุดงค์ จึงได้สดับข่าวว่า พระพิชิตมารเสด็จอุบัติขึ้น จึงได้เข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้าผู้เป็นสารถีฝึกคนที่ควรฝึก พระองค์ได้ทรงแสดงพระธรรมเทศนาประกาศประโยชน์ทุกประการแก่เรา จากนั้นเราได้บวชแล้วเข้าไปในป่าตามเดิม เมื่อเราอยู่ในป่า เราเป็นผู้ไม่ประมาท จึงได้สำเร็จกิจในทางพระพุทธศาสนา เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้าเราได้ทำเสร็จแล้ว

จากเรื่องนี้ จะเห็นได้ว่า ความเพียรเผากิเลสเป็นกรณียกิจของทุก ๆ คนที่ต้องรับผิดชอบด้วยตนเอง แม้จะเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก แต่เมื่อเราตั้งใจทำแล้ว เราจะได้รับผลอันคุ้มค่า ได้สมปรารถนาอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะมากหรือน้อยเพียงใด ก็ขึ้นอยู่กับการประกอบเหตุของตัวเราเอง

เมื่อเราอยากรู้ความเป็นจริงของชีวิตว่า กว่าจะมาถึงตอนสุดท้าย มันวกวนแค่ไหน เราต้องเข้าใจเรื่องกฎแห่งการกระทำ ซึ่งจะเข้าใจเรื่องนี้ได้ดีต้องทำใจให้เป็นกลาง โดยวางความเชื่อไว้บนหิ้ง แล้วมาพิสูจน์ความจริง ด้วยการลงมือปฏิบัติธรรม เมื่อเราเข้าใจแจ่มแจ้งในเรื่องกิเลส กรรม วิบาก แล้ว จะได้มุ่งหน้าสร้างความดีอย่างเดียว โดยละชั่ว ทำความดี ทำใจให้ผ่องใส เพื่อเราจะได้บรรลุมรรคผลนิพพานกันทุก ๆ คน

* มก. เล่ม ๗๒ หน้า ๔๐๕

พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่)

ที่มา https://buddha.dmc.tv/dhamma/16918
ต้นฉบับ หนังสือ ธรรมะเพื่อประชาชน ฉบับพุทธสาวก-พุทธสาวิกา

กลับสู่
สารบัญธรรมะเพื่อประชาชน สำหรับไฟล์เสียง, วีดีโอ และ Article
สารบัญ หนังสือธรรมะเพื่อประชาชน

1 thought on “พระวนวัจฉะ ผู้อยู่ในป่า”

  1. น้อมกราบ สาธุๆ สาธุครับ
    🏵️🌼💐🌸🏵️🌸💐🌼🏵️

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *