พระปิลินทวัจฉะ (๑)

พระปิลินทวัจฉะ (๑)

เส้นทางในสังสารวัฏเป็นเส้นทางอันยาวไกล ที่จะต้องสั่งสมบุญบารมีอย่างเต็มที่ จึงจะไปถึงจุดหมายปลายทางได้ เรื่องการทำบุญนั้น เราจะดูเบาคิดว่าจะทำเมื่อไรก็ได้ หรือไม่ทำก็ได้ อย่าคิดอย่างนั้น เพราะกว่าที่เราจะได้บรรลุเป้าหมายที่แท้จริงของชีวิต คือ สามารถขจัดอาสวกิเลสให้หมดสิ้นไป ไม่ใช่เรื่องพอดีพอร้ายเลย
หากเรายังเป็นผู้ที่ประมาทไม่เร่งสั่งสมบุญ และทำความเพียรด้วยการทำใจหยุดนิ่งควบคู่กันไป เส้นทางนั้นจะยิ่งยาวไกลออกไป ดังนั้น การสั่งสมบุญ และหมั่นปฏิบัติธรรมให้สมํ่าเสมอ จึงเป็นภารกิจหลักที่เราต้องเอาใจใส่ อย่าได้ประมาทกัน

* มีวาระแห่งพระบาลีที่ปรากฏอยู่ใน ปิลินทวัจฉเถราปทาน ความว่า
“มา มํ มิตฺตา อมิตฺตา วา    หึสนฺติ สพฺพปาณิโน
สพฺเพสํ จ ปิโย โหมิ        ปุญฺญกมฺมสฺสิทํ ผลํ

สัตว์ทั้งปวงซึ่งเป็นมิตรและมิใช่มิตร ย่อมไม่เบียดเบียนเรา เราเป็นที่รักของสัตว์ทุกจำพวก นี้เป็นผลแห่งบุญกรรม”

ทุกๆ คนที่เกิดมาในโลกนี้ หากเกิดมาแล้วพบเจอแต่สิ่งที่ดีงาม ไม่ว่าจะย่างก้าวไปสถานที่แห่งใด ก็มีแต่คนคอยต้อนรับ คอยอำนวยความสะดวกสบายให้ หรืออย่างน้อยก้าวไปถึงไหนได้พบแต่ความสุขสบายใจที่นั่น อย่างนี้ก็เนื่องจากสั่งสมบุญเก่ามาดี เพราะบุญที่เราสร้างเท่านั้น ที่สามารถอำนวยประโยชน์สุขทุกๆ อย่างที่เราปรารถนาได้

การเกิดมาในแต่ละภพแต่ละชาติ ผลแห่งบุญที่แต่ละคนทำย่อมมีผลที่แตกต่างกันไป แม้จะแตกต่างกันออกไปตามเหตุที่ประกอบ แต่ถึงกระนั้นก็ยังเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า อานุภาพแห่งบุญนั้นมีจริง สามารถที่จะทำความปรารถนาให้สำเร็จได้จริง เหมือนความปรารถนาของนักสร้างบารมีในกาลก่อน ที่น่าศึกษาน่าเอาเป็นแบบอย่างในการสร้างบารมี

เรื่องนี้เกิดขึ้นในกาลแห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า ปทุมุตตระ ได้มีกุลบุตรท่านหนึ่งเกิดในตระกูลที่มีโภคะมาก เป็นตระกูลที่เพียบพร้อมด้วยโลกิยสมบัติ อาศัยอยู่ที่เมืองหงสาวดี ตระกูลนี้นับว่าเป็นตระกูลสัมมาทิฏฐิ ล้วนแต่มีศรัทธาในพระรัตนตรัย รักการสร้างบารมี และมักจะหาโอกาสสร้างบุญพิเศษอยู่เสมอ กุลบุตรท่านนี้ก็เช่นกัน แม้จะเป็นมาณพหนุ่มที่มีทรัพย์สมบัติบริบูรณ์ แต่ก็ไม่เคยหวงแหนหรือยึดติดอยู่ในสมบัติเลย จะคิดอยู่เสมอๆ ว่า ทำอย่างไรจึงจะสามารถเปลี่ยนทรัพย์หยาบๆ ที่มีอยู่นี้ ให้กลายเป็นทรัพย์ละเอียดติดตัวไปได้

มีอยู่วันหนึ่งได้ไปเข้าเฝ้าพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า และได้ฟังธรรมของพระพุทธองค์ ก็ได้เห็นพระปทุมุตตรสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงสถาปนาพระอรหันต์องค์หนึ่งไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะ เป็นภิกษุผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายในความเป็นที่รักของเทวดา ทำให้กุลบุตรท่านนั้นปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะได้ตำแหน่งอันทรงเกียรตินั้น ก็คิดว่า พระบรมศาสดาตรัสว่า บุญเท่านั้นที่สามารถให้ผลได้ในทุกสิ่งที่ปรารถนา จะต้องสร้างบุญให้มากๆ จึงจะได้เป็นอย่างที่พระภิกษุเอตทัคคะรูปนั้น

เมื่อคิดอย่างนี้แล้ว ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ได้ตั้งใจสร้างบารมีอย่างเต็มที่ โดยไม่มีข้อแม้ข้ออ้างหรือเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น ตั้งหน้าตั้งตาตักตวงบุญอย่างเต็มที่ แล้วตั้งความปรารถนาให้ได้ตำแหน่งอันเป็นที่รักของเทวดาทั้งหลายในสมัยของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคตกาลภายภาคเบื้องหน้า หลังจากที่ท่านละจากโลก แล้วได้ไปบังเกิดในสุคติโลกสวรรค์ เสวยทิพยสมบัติที่ละเอียดประณีตด้วยอำนาจแห่งบุญที่ตนเองได้สั่งสมไว้ พอหมดบุญจากเทวดาก็จุติลงมาเกิดเป็นมนุษย์ ละจากมนุษย์ก็ไปเกิดเป็นเทวดา เวียนวนอยู่อย่างนี้นับภพนับชาติกันไม่ถ้วน

ในกาลแห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า สุเมธะ กุลบุตรนี้ก็ได้ลงมาเกิดสร้างบารมี นับว่าเป็นความโชคดีอย่างยิ่ง ที่ได้มีโอกาสลงมาสร้างบุญเพิ่มเติมในยุคที่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบังเกิดขึ้น อยู่ใต้ร่มเงาศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า สุเมธะ  ได้ตั้งใจสร้างบุญอย่างเต็มที่ทุกอนุวินาที พอพระบรมศาสดาดับขันธปรินิพพานแล้ว พุทธบริษัทพากันสร้างพระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อให้มนุษย์และเทวดาทั้งหลายได้กราบไหว้บูชา

กุลบุตรนี้ก็คิดว่า “ตอนที่พระพุทธองค์ยังทรงพระชนม์ชีพอยู่ เราก็ขวนขวายเอาบุญอย่างเต็มที่ ตอนนี้พระพุทธองค์ดับขันธปรินิพพานแล้ว เราเองก็ไม่ควรที่จะประมาท ควรที่จะสร้างบารมีพิเศษให้ยิ่งๆ ขึ้นไป” เมื่อคิดอย่างนั้นแล้ว ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ท่านก็ได้ตั้งใจเอาบุญด้วยการบูชาพระเจดีย์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างสมํ่าเสมอ แล้วยังได้นิมนต์พระขีณาสพมาเป็นเนื้อนาบุญที่บ้าน ได้ถวายสังฆทานอย่างเต็มกำลัง ตั้งใจสร้างบารมีด้วยการบูชาพระเจดีย์ด้วยของหอมอย่างนี้จนกระทั่งตลอดชีวิต

หลังจากละโลกแล้วได้ไปบังเกิดบนสวรรค์ ท่องเที่ยวอยู่เฉพาะเทวโลก และมนุษยโลก เมื่อลงมาเกิดเป็นมนุษย์ก็ทำให้ได้บังเกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ สมบูรณ์ด้วยมหาสมบัติจักรพรรดิตักไม่พร่อง นับภพนับชาติไม่ถ้วน  จนกระทั่งมาถึงพุทธกาลนี้ ได้เกิดในตระกูลพราหมณ์ในกรุงสาวัตถี หมู่ญาติทั้งหลายได้ตั้งชื่อท่านว่า ปิลินทะ ส่วนคำว่า วัจฉะ เป็นชื่อโคตร ต่อมาปรากฏนามว่า ปิลินทวัจฉะ และท่านก็ได้ออกบวชเป็นปริพาชก สำเร็จคุณวิเศษสามารถเหาะเหินเดินอากาศได้ และรู้ใจผู้อื่นได้ สมบูรณ์ด้วยลาภสักการะ อาศัยอยู่ที่กรุงราชคฤห์

ครั้นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราตรัสรู้แล้ว พระองค์เสด็จจาริกไปเผยแผ่พระสัทธรรมที่กรุงราชคฤห์ ตั้งแต่พระบรมศาสดาเสด็จไปถึงกรุงราชคฤห์ ปิลินทวัจฉปริพาชกก็ไม่สามารถที่จะแสดงฤทธิ์ได้ ทำให้ฉุกใจคิดว่า มหาสมณะนี้ชะรอยจะมีวิชชาที่แก่กล้ากว่าเรา ทำให้วิชชาของเราไม่สามารถที่จะแสดงอานุภาพได้ เมื่อคิดอย่างนี้ท่านก็ได้เดินทางไปเข้าเฝ้าพระบรมศาสดา พระบรมศาสดาทรงอนุญาตให้บวชและแสดงธรรมแก่ท่าน ได้ตรัสบอกกัมมัฏฐานที่ควรแก่อุปนิสัย ทำให้ปิลินทวัจฉภิกษุ สามารถทำใจหยุดใจนิ่งเข้าถึงพระธรรมกาย บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ในที่สุด

ตั้งแต่ท่านบรรลุธรรม เทวดาทั้งหลายที่เคยตั้งอยู่ในโอวาทของพระเถระในชาติก่อนๆ เกิดความรักนับถือท่านมาก จึงมักจะเข้ามาหาพระเถระทั้งเวลาเช้าและเย็น พระบรมศาสดามองย้อนไปในอดีต พบความปรารถนาของพระเถระในสมัยที่ยังสร้างบารมีอยู่ จึงสถาปนาท่านไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะด้านผู้เป็นที่รักของเทวดา ส่งผลให้ท่านบรรลุถึงความปรารถนาในสิ่งที่ต้องการ

หลังจากที่บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์แล้ว พระเถระได้ระลึกชาติไปดูการสร้างบารมีของท่านที่ผ่านมา ได้เห็นบุญต่างๆ ที่ท่านได้สร้างไว้ ก็เกิดมหาปีติได้เปล่งอุทานว่า “เมื่อพระสุเมธพุทธเจ้าปรินิพพาน เรามีความเลื่อมใส มีใจโสมนัส ได้บูชาพระเจดีย์ของพระองค์ ได้ถวายสังฆทานแด่พระขีณาสพ อานุภาพบุญนั้นทำให้เราเข้าถึงทิพยสมบัติ ครอบงำเทวดาทั้งหลาย สมบูรณ์ด้วยสมบัติจักรพรรดิ เข้าถึงความเป็นที่รักของเทวดาทั้งหลาย บัดนี้ ความปรารถนาทั้งปวงของเราสำเร็จแล้ว อานุภาพแห่งบุญนี้ให้ผลได้ดังใจปรารถนา”

ดังนั้น ใครก็ตามที่สร้างบุญบารมี โอกาสที่ดีก็ย่อมจะมาถึงบุคคลผู้นั้นอย่างแน่นอน เราปรารถนาสิ่งใด หากเราสร้างบารมีอย่างเต็มที่ชนิดเอาชีวิตเป็นเดิมพัน เราจะสมปรารถนาทุกๆ อย่าง โดยไม่มีอุปสรรคอันใดมาขัดขวาง การตั้งใจสร้างบารมีอย่างเต็มที่เต็มกำลังนี้ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งที่ไม่ควรดูเบากัน เมื่อเกิดมาเป็นมนุษย์แล้ว ต้องตั้งใจสร้างบารมีให้สมกับที่ได้เกิดมา เก็บเกี่ยวบุญทุกๆ อย่าง ทั้งการทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา ให้ตั้งใจทำอย่างนี้จนกว่าชีวิตจะหาไม่ จนกว่าจะเข้าถึงที่สุดแห่งธรรมกันทุกๆ คน

* มก. เล่ม ๗๑ หน้า ๒ ๘

พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่)

ที่มา https://buddha.dmc.tv/dhamma/17031
ต้นฉบับ หนังสือ ธรรมะเพื่อประชาชน ฉบับพุทธสาวก-พุทธสาวิกา

กลับสู่
สารบัญธรรมะเพื่อประชาชน สำหรับไฟล์เสียง, วีดีโอ และ Article
สารบัญ หนังสือธรรมะเพื่อประชาชน

1 thought on “พระปิลินทวัจฉะ (๑)”

  1. น้อมกราบอนุโมทนาบุญกับโอวาท
    คำสอนและธรรมทานอันทรงคุณค่า
    หลวงพ่อธัมมชโย #คุณครูไม่ใหญ่
    ด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่ง สาธุครับ
    🏵️🌺🌸💮🌼🌷🌷🌼💮🌸🌺🏵️

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *