ทุกข์ในนรก

ทุกข์ในนรก

การเกิดมาเป็นมนุษย์ หากไม่ได้พบพระพุทธศาสนา ไม่เป็นสัมมาทิฏฐิ ชีวิตก็เหมือนกับการเกิดมาเปล่า เพราะไม่รู้เส้นทางชีวิตที่ถูกต้อง ว่าอะไรเป็นสาระเป็นแก่นสาร หรือเป็นเป้าหมายสูงสุดของชีวิต การที่พวกเราทั้งหลายเกิดมาพบกับคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นับว่าเป็นโชคอันมหาศาล ยิ่งกว่าการได้สมบัติจักรพรรดิเสียอีก เพราะสมบัติภายนอกเป็นเพียงของนอกกายที่เราอาศัยกันอยู่ชั่วครั้งชั่วคราว จะเอาติดตัวไปด้วยก็ไม่ได้

พระธรรมคำสอนอันบริสุทธิ์ที่เราได้รับฟัง แล้วนำไปประพฤติปฏิบัติ จะเป็นแสงส่องนำทางชีวิต ให้เราดำเนินไปในทางที่ถูกต้องและปลอดภัย ความไม่ประมาทเป็นธรรมที่สำคัญ คุณธรรมทั้งหลายต่างรวมลงในความไม่ประมาท เหมือนรอยเท้าสัตว์ทุกชนิดประมวลรวมลงในรอยเท้าช้าง ดังนั้น การมีชีวิตอยู่ในหนทางแห่งการประพฤติปฏิบัติธรรม ไม่ประมาทในการสั่งสมบุญ เว้นขาดจากบาปอกุศล จึงเป็นวิถีชีวิตของบัณฑิตนักปราชญ์ทั้งหลาย

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน พาลบัณฑิตสูตร ว่า
“ส โข โส ภิกฺขเว พาโล กาเยน ทุจฺจริตํ จริตฺวา
วาจาย ทุจฺจริตํ จริตฺวา มนสา ทุจฺจริตํ จริตฺวา
กายสฺส เภทา ปรมฺมรณา อปายํ ทุคฺคตึ
วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติ
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คนพาลนั่นแล ประพฤติทุจริตทางกาย ทางวาจา ทางใจแล้ว เมื่อแตกกายทำลายขันธ์ ตายไปแล้วย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ”

ชีวิตในสังสารวัฏนี้ เป็นชีวิตที่เสี่ยงภัยมาก เพราะเมื่อเราเกิดมาแล้ว หากต้องอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการสร้างบุญบารมี เราอาจจะพลั้งพลาดไปทำบาปอกุศล และเมื่อต้องละโลกแรงกรรมก็จะส่งผลให้ไปสู่อบายภูมิ ซึ่งเป็นภพภูมิที่ปราศจากความสุขความเจริญ เจอแต่ความทุกข์ทรมาน กว่าจะได้กลับมาสู่เส้นทางที่ดีเหมือนเดิมก็ต้องใช้เวลายาวนานมาก เพราะแม้สัตว์นรกสิ้นกรรมแล้ว โอกาสที่จะไปเกิดเป็นเปรต อสุรกาย หรือสัตว์เดรัจฉานก็มีมาก พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเคยตรัสอุปมาไว้ว่า โอกาสที่สัตว์นรกจะกลับมาเกิดในภพภูมิที่ดีมีน้อย เหมือนฝุ่นในเล็บมือเมื่อเทียบกับฝุ่นในมหาปฐพี แต่โอกาสที่จะไปเกิดเป็นเปรต อสุรกาย และสัตว์เดรัจฉานมีมากกว่าอย่างเทียบกันไม่ได้เลย

เครื่องทัณฑ์ทรมานที่นายนิรยบาลสัตว์นรกใช้ ถ้าเห็นแล้วจะขนลุกขนพองทีเดียว สัตว์นรกจะถูกจองจำด้วยเครื่องจองจำ ๕ ประการ คือเอาตะปูเหล็กแดงร้อนระอุ ตรึงมือเข้าทั้งสอง และตอกลงกลางอก สัตว์นรกจะต้องรับโทษทัณฑ์ที่ทุกข์ทรมานอยู่อย่างนั้นจนกว่าจะหมดกรรม บางทีนายนิรยบาลก็จะจับขาสัตว์นรกชูขึ้น เอาหัวห้อยลงข้างล่าง แล้วเอาพร้านรกที่ร้อนแรงถากเนื้อเหมือนถากไม้ บางทีก็จับโยนลงไปในกระทะทองแดงที่ลุกเป็นไฟ สัตว์นรกนั้นก็จะดิ้นทุรนทุรายในน้ำทองแดงที่เดือดพล่าน กว่าจะหมดกรรมก็ใช้เวลายาวนานมาก

บางครั้งพวกนายนิรยบาลจะโยนสัตว์นรกเข้าไปในมหานรก ซึ่งในมหานรกมี ๔ มุม ๔ ประตู ขนาดเท่าๆ กัน มีกำแพงล้อมรอบ ครอบไว้ด้วยแผ่นเหล็ก พื้นของมหานรกนั้น มีแต่ก้อนเหล็กแดงที่ร้อนแรงลุกโพลงตลอด ๑๐๐ โยชน์ แล้วจะมีไฟในมหานรกพุ่งออกมาจากผนังด้านหลังทะลุด้านหน้า ออกจากด้านซ้ายทะลุด้านขวา พุ่งจากพื้นชั้นล่างทะลุไปถึงพื้นชั้นบน พวกสัตว์นรกก็ร้องโหยหวนอยู่ในมหานรกนั่นแหละ พอตายก็กลับฟื้นขึ้นมาอีก รับกรรมที่ตรงนั้นจนกว่ากรรมจะสิ้นสุดลง

บางครั้งประตูด้านหน้าของมหานรกถูกเปิดออก พวกสัตว์นรกต่างพากันรีบวิ่งหนีเพื่อเอาตัวรอด แต่วิ่งไปไม่รอด เพราะถูกไฟนรกซึ่งร้อนแรงมากเผาไหม้ผิวหนัง ไหม้เนื้อ ไหม้เอ็น ไหม้กระดูกจรดถึงเยื่อในกระดูก มอดไหม้เป็นธุลีในทันที สัตว์นรกที่ยังวิ่งต่อไปได้ ต่างร้องโหยหวนตลอดเวลา และในขณะที่สัตว์นรกกำลังวิ่งใกล้จะไปถึงประตู ประตูมหานรกก็จะปิดลงทันที จากนั้นไฟนรกก็จะเผาผลาญสัตว์นรกเหล่านั้นให้ย่อยยับไป ตายแล้วก็เกิดขึ้นมาใหม่เสวยวิบากกรรมต่อไปอีก

บางครั้งประตูนรกก็จะเปิดออกให้สัตว์นรกหนีออกไปได้ คล้ายกับนักโทษในเมืองมนุษย์ที่แหกคุกออกไปได้ แต่แม้สัตว์นรกจะหนีออกมาได้ ก็ไม่รู้จะหลบหนีไปอยู่ที่ไหน ออกประตูไปได้ไม่กี่ก้าว ก็มีนรกหลุมคูถรออยู่ สัตว์นรกจะตกลงไปในหลุมคูถนั้น แล้วมีพวกสัตว์ที่ปากแหลมเหมือนเข็ม คมเหมือนใบมีดโกน คอยทิ่มแทงเชือดเฉือนเนื้อหนังของสัตว์นรกอย่างน่าเวทนา

ต่อจากนรกหลุมคูถ ก็จะพบนรกที่เต็มไปด้วยถ่านติดไฟแดงร้อนระอุ แต่มีขี้เถ้าปิดไว้ ทำให้มองไม่เห็น พอสัตวนรกเดินไปก็จะตกลงไปในกองขี้เถ้า ถูกไฟที่อยู่ข้างในเผาไหม้ ร้องโหยหวนด้วยความทุกข์ทรมาน ต่อจากนรกขุมนั้น ก็เป็นนรกป่างิ้ว ซึ่งพวกเราคงจะเคยได้ยินกัน ต้นงิ้วสูงมากทีเดียว มีหนามยาวยื่นออกมา มีไฟติดที่หนามไปทั่ว พวกนายนิรยบาล จะบังคับให้สัตว์นรกปีนขึ้นๆ ลงๆ ที่ต้นงิ้วนั้น ต่อจากนรกป่างิ้ว จะเป็นต้นไม้ที่มีใบเป็นดาบเต็มทั้งต้น เมื่อพวกสัตว์นรกที่หนีมา รู้สึกเหนื่อยก็จะพากันเข้าไปพักใต้ต้นไม้ ทันใดนั้นใบไม้ที่เป็นดาบก็จะหล่นลงมาตัดมือ ตัดเท้า ตัดใบหู ตัดจมูก ตัดศีรษะแขนขาให้ได้รับความทุกข์ทรมานแสนสาหัส

ต่อจากป่าต้นไม้ใบดาบ พวกสัตว์นรกจะพบแม่น้ำใหญ่ แต่เป็นน้ำกรดที่กว้างใหญ่มาก พวกสัตว์นรกเข้าใจผิดว่าเป็นน้ำธรรมดา พากันกระโดดลงไปในแม่น้ำ ถูกน้ำกรดกัดกร่อนเนื้อหนังละลาย ได้รับความเจ็บปวดทรมานมาก จากนั้นนายนิรยบาลจะเอาตะขอเบ็ดเกี่ยวสัตว์นรกนั้นขึ้นมาวางบนบก แล้วถามว่า เจ้าต้องการอะไรอีก สัตว์นรกก็บอกว่าหิว นายนิรยบาลก็จะเอาก้อนเหล็กแดงมีไฟลุกโพลง ใส่เข้าไปในปาก ก้อนไฟนั้นจะไหม้ริมฝีปากตั้งแต่ปาก คอ ถึงท้อง ลากเอาลำไส้ออกมากองข้างนอก บางครั้งก็จะเอาน้ำทองแดงที่หลอมละลายลุกเป็นไฟ กรอกเข้าไปในปาก สร้างความเจ็บปวดทรมานให้กับสัตว์นรกมากทีเดียว จะเป็นทุกข์อยู่อย่างนั้นจนกระทั่งหมดกรรมนั่นแหละ

* นี่เป็นเพียงตัวอย่างบางตอนในนรก ทุกข์ในนรกหนักหนาสาหัสสากรรจ์มากทีเดียว มันทุกข์แค่ไหนล่ะ มีอยู่ครั้งหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับนั่งอยู่ท่ามกลางสงฆ์ ได้ตรัสให้โอวาทพระภิกษุทั้งหลายว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คนพาลนั้นประพฤติทุจริต ทางกาย ทางวาจา และทางใจ เมื่อเขาตายไปย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก สถานที่เหล่านี้ เป็นดินแดนที่ไม่น่าปรารถนา ไม่น่าใคร่น่าพอใจอะไรเลย เป็นทุกข์โดยส่วนเดียว แม้จะเปรียบเทียบอุปมาถึงความทุกข์ในนรก ก็มิใช่สิ่งที่จะทำได้ง่ายๆ ” พระภิกษุรูปหนึ่งจึงทูลถามพระพุทธเจ้าว่า “พระองค์พอจะอุปมาความทุกข์ในนรก ให้ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ทราบบ้างได้ไหมพระเจ้าข้า” พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงรับคำ แล้วอธิบายให้ฟังว่า

“ เปรียบเสมือนพวกราชบุรุษจับโจรมาได้ โจรนี้คิดร้ายต่อราชบัลลังก์ พอจับได้แล้ว ตอนเช้าก็นำมาให้พระราชา พร้อมกับกราบทูลถึงพฤติกรรมของโจรนั้นว่า โจรผู้นี้ คิดร้ายก่อกบฏ ขอพระองค์ได้ทรงลงโทษตามพระราชหฤทัยเถิด พระราชาทรงรับสั่งว่า ให้เอาหอก ๑๐๐ เล่ม แทงโจรนี้ให้ทั่วตัว พวกราชบุรุษก็ทำตามพระบัญชา พอถึงกลางวันพระราชาตรัสถามว่า โจรกบฏคนนั้นน่ะ ตายแล้วหรือยัง เมื่อได้รับคำตอบว่ายัง ก็รับสั่งให้เอาหอกมาแทงเพิ่มอีก ๑๐๐ เล่ม พวกราชบุรุษก็ทำตาม พอตกเย็นยังไม่ตายอีก จึงให้เอาหอกไปแทงเพิ่มอีก ๑๐๐ เล่ม รวมเป็น ๓๐๐ เล่ม โจรก็ยังไม่ตายอยู่ดี ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โจรโดนหอกแทงมากถึง ๓๐๐ เล่ม จะเจ็บปวดทรมานมากแค่ไหน ”

พวกภิกษุกราบทูลว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เพียงแค่หอกเล่มเดียว ก็เป็นทุกข์มากแล้ว จะกล่าวไปไยกับหอกถึง ๓๐๐ เล่ม”  พระบรมศาสดาตรัสต่อว่า “ความทุกข์จากการถูกหอกแทง ๓๐๐ เล่ม เมื่อเทียบกับทุกข์ในมหานรกแล้ว เทียบกันไม่ได้เลย ทุกข์ในนรกเจ็บปวดทรมานมากกว่าเป็นร้อยเป็นพันเท่า ความทุกข์ของคนที่ถูกหอก ๓๐๐ เล่มแทง มีปริมาณความเจ็บปวดเหมือนก้อนหินเล็กๆ ก้อนหนึ่ง แต่ทุกข์ในมหานรกมีปริมาณมากเหมือนเขาพระสุเมรุทีเดียว ”

เราจะเห็นได้ว่า การเสวยวิบากกรรมในนรกนั้น มันทุกข์ทรมานแสนสาหัสเพียงไร เพราะฉะนั้น สังสารวัฏนี้ไม่ปลอดภัย น่าหวาดเสียว ไม่ควรที่เราจะประมาทกัน เพราะชีวิตเรายังไม่มีอะไรเป็นหลักประกันว่า เราจะพ้นจากทุกข์ในอบายภูมิ และในวาระสุดท้ายของชีวิตเมื่อเราหลับตาลาโลก จะมีสุคติภูมิหรือทุคติภูมิเป็นที่ไป ก็ขึ้นอยู่กับบุญและบาปที่เราสั่งสมเอาไว้ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย เราต้องรีบสั่งสมบุญบารมีกันให้เต็มที่เต็มกำลัง บุญจะเป็นที่พึ่งที่แท้จริงของเรา ฉะนั้นให้เรารักในการสั่งสมบุญ หมั่นประพฤติธรรม ทำใจให้หยุดนิ่ง ให้ละเอียด ทำไปจนกว่าเราจะเข้าถึงธรรมกาย เมื่อถึงเวลานั้น เราจะไม่หวาดหวั่นต่อมรณภัย เพราะใจมีที่พึ่งมีที่ยึดที่เกาะแล้ว เราจะจากโลกนี้ไปอย่างผู้มีชัยชนะ ประดุจพระราชาที่รบชนะศึกในสงครามทีเดียว

พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่)

ที่มา https://buddha.dmc.tv/dhamma/13510
ต้นฉบับ หนังสือ ธรรมะเพื่อประชาชน ฉบับปรโลก

กลับสู่
สารบัญธรรมะเพื่อประชาชน สำหรับไฟล์เสียง, วีดีโอ และ Article
สารบัญ หนังสือธรรมะเพื่อประชาชน

1 thought on “ทุกข์ในนรก”

  1. น้อมกราบอนุโมทนาบุญกับโอวาท
    คำสอนและธรรมทานอันทรงคุณค่า
    หลวงพ่อธัมมชโย #คุณครูไม่ใหญ่
    ด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่ง สาธุครับ
    🏵️🌺🌸💮🌼🌷🌷🌼💮🌸🌺🏵️

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *