ทวยเทพสดับธรรม

ทวยเทพสดับธรรม (การทำความดีของมนุษย์ อยู่ในสายตาชาวสวรรค์)

เวลาแห่งการทำใจให้หยุดนิ่ง เป็นเวลาที่มีคุณค่า นับเป็นการประพฤติปฏิบัติตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างแท้จริง เพราะคำสอนในพระพุทธศาสนา เป็นคำสอนที่นำไปสู่การปฏิบัติ ให้รู้แจ้งเห็นจริงด้วยการเจริญสมาธิภาวนา เป็นคำสอนที่นำไปสู่ความบริสุทธิ์หลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งมวล แม้เราจะศึกษาคำสอนมามากมายเพียงไรก็ตาม แต่ถ้าหากว่ายังไม่ได้ลงมือปฏิบัติ ก็ยังไม่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ทรงธรรม ยังคงเป็นเพียงใบลานเปล่า คือรู้แต่ภาคทฤษฏี แต่ยังเข้าไม่ถึงภาคปฏิบัติ เพราะฉะนั้น การเป็นผู้ทรงธรรมที่จะได้รับรสแห่งธรรม ซึ่งชนะรสทั้งปวง เราควรเริ่มจากการเจริญสมาธิภาวนาฝึกฝนใจให้หยุดนิ่ง

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน ขุททกนิกาย ธรรมบท ว่า
“ยถาปิ รหโท คมฺภีโร   วิปฺปสนฺโน อนาวิโล
เอวํ ธมฺมานิ สุตฺวาน    วิปฺปสีทนฺติ ปณฺฑิตา
บัณฑิตทั้งหลาย ฟังธรรมแล้ว ย่อมเป็นผู้มีจิตผ่องใส เหมือนห้วงนํ้าที่มีความลึก เป็นห้วงนํ้าใสสะอาด ไม่มีความขุ่น ฉะนั้น”

การฟังธรรมเป็นมงคลอันสูงสุด ทำให้เกิดความรู้ความเข้าใจที่จะนำไปสู่ความเจริญในชีวิต กระทั่งหลุดพ้นจากกิเลสอาสวะทั้งมวลได้ ทำให้ได้ยินได้ฟังในสิ่งที่ยังไม่เคยได้ฟังมาก่อน รวมทั้งได้ทบทวนความรู้ที่เคยได้ยินได้ฟังมาแล้ว นอกจากนี้การฟังธรรมทําให้คลายความสงสัยที่มีอยู่ในใจ ผู้ที่ฟังธรรมเป็นประจำก็จะมีจิตผ่องแผ้ว และเป็นการเพิ่มพูนสัมมาทิฏฐิความเห็นถูกต้องอีกด้วย

การฟังธรรมตามกาลนี้ถือว่าเป็นกรณียกิจของชาวสวรรค์ แม้ว่าโลกสวรรค์จะเป็นดินแดนเสวยผลบุญที่ได้เคยทำเอาไว้ในอดีตก็ตาม แต่เทวดาก็ยังรักในการสั่งสมบุญ เพราะเขารู้คุณค่าของบุญว่า ที่ได้มาเกิดเป็นเทวดาก็เพราะบุญอย่างเดียวเท่านั้น ไม่ใช่เพราะเหตุบังเอิญ หรือเพราะใครบันดาล  แต่การจะขวนขวายเพิ่มเติมบุญอย่างเต็มที่เหมือนอย่างในสมัยที่เป็นมนุษย์นั้นทำได้ยากมาก เพราะเขามีกายทิพย์ซึ่งไม่เหมาะต่อการสร้างบารมี จะได้บุญที่พิเศษๆ ก็เฉพาะตอนบูชาพระมหาจุฬามณี หรือการฟังธรรมในเทวสภาเท่านั้น

คราวนี้ หลวงพ่อจะนำเรื่องการฟังธรรมของทวยเทพมาเล่าให้ฟัง ว่ามีวิธีการฟังธรรมอย่างไรบ้าง คือเมื่อถึงวันธรรมสวนะคือวันพระ เหล่าทวยเทพต่างก็จะมาประชุมพร้อมเพรียงกันที่สุธรรมาเทวสภาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เพื่อจะฟังธรรมตามกาล การฟังธรรมตามกาลตามโอกาสนี้ ถือกันว่าเป็นอุดมมงคลอันสูงสุดสำหรับทวยเทพในสวรรค์ กิริยาที่เทวดามานั่งประชุมพร้อมเพรียงกันที่อาสนะของตนตามกำลังบุญที่เคยสั่งสมมาภายในศาลาสุธรรมาเพื่อฟังธรรมนี้ เป็นภาพที่งดงามมาก

* เมื่อเหล่าเทพบุตรเทพธิดานั่งพร้อมเพรียงกันแล้ว ก็จะมีผู้มาแสดงธรรม บางครั้งก็เป็นพระอินทร์ บางครั้งก็เป็นเทพบุตรผู้ทรงธรรม บางครั้งก็มาจากพรหมโลก เช่นครั้งหนึ่ง พระพรหมองค์หนึ่งนามว่าพระพรหมกุมาร ท่านเป็นผู้ทรงธรรมและรู้ธรรม เพราะเคยเกิดร่วมสมัยกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง ท่านได้เสด็จลงมาจากพรหมโลก ซึ่งอยู่สูงจากสวรรค์ชั้นกามาวจรขึ้นไปอีกไกลมาก แต่ด้วยฤทธิ์ของพรหมจึงใช้เวลาเพียงแค่ชั่วลัดนิ้วมือเดียวก็มาถึงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์แล้ว ครั้นมาถึงก็ขึ้นสู่รัตนบัลลังก์ แสดงธรรมอันไพเราะจับใจเทวดาทั้งหลายมาก เพราะ เสียงของพรหมประกอบไปด้วยองค์ ๘ ประการ คือ มีสุรเสียงที่แจ่มใส เสียงดังชัดเจน นุ่มนวล น่าฟัง เป็นเสียงที่กลมกล่อม ไม่แตกพร่า มีนํ้าเสียงลึก และเสียงของท่านจะกังวาน เมื่อพรหมกุมารแสดงธรรมพอสมควรแก่เวลาแล้ว ก็กลับไปยังพรหมโลก

ในบางคราวทวยเทพจะอัญเชิญเทวดาผู้รู้ธรรมะในสวรรค์ชั้นที่อยู่สูงขึ้นไปเป็นองค์แสดงธรรม เพราะว่าเป็นผู้รู้ธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้งเป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจนได้บรรลุธรรมเป็นพระอริยเจ้าก็มี  ครั้นละโลกแล้วก็มาเกิดเป็นเทวดาผู้มีศักดิ์ใหญ่ในสวรรค์ชั้นต่างๆ อย่างนี้ก็มีมาก

พวกเทวดาซึ่งมีพระอินทร์เป็นประธาน จะรู้กันด้วยกำลังบุญว่า เทพตนใด เป็นผู้ทรงคุณวิเศษทรงธรรม ครั้นถึงวันพระ เทวดาทั้งหลายก็พร้อมใจกันอัญเชิญให้เทพตนนั้นขึ้นธรรมาสน์ทิพยอาสน์ เพื่อแสดงธรรมให้เหล่าทวยเทพได้รับฟังกัน หลังจากนั้นต่างพากันอนุโมทนาสาธุการต่อเทพผู้แสดงธรรม อีกทั้งต่างอนุโมทนาบุญซึ่งกันและกัน เสียงอนุโมทนาอันเป็นทิพย์นี้ก็จะดังกังวานครอบคลุมไปทั่วทั้งสวรรค์ทีเดียว

ถ้าหากวันไหนพระอินทร์ทรงแสดงธรรมเอง วันนั้นถือว่าเป็นวันที่พิเศษสำหรับชาวสวรรค์มากๆ เหมือนในโลกมนุษย์ ถ้าผู้บริหารสูงสุดซึ่งเป็นผู้มีคุณธรรมและเป็นผู้ให้โอวาทด้วยตัวเองแล้ว ลูกน้องก็อยากฟังโอวาทและข้อคิดเพื่อนำไปปฏิบัติตาม จะได้เจริญก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้นไป บนสวรรค์ก็เช่นเดียวกัน หากรู้ว่าครั้งต่อไป พระอินทร์จะแสดงธรรม ชาวสวรรค์ก็จะตั้งอกตั้งใจมาฟังธรรมเป็นพิเศษทีเดียว

ในมหาสมาคมที่พระอินทร์เป็นประธานนั้น จะมีพิธีการอนุโมทนาในผลบุญของมนุษย์ วิธีการก็คือ เมื่อการแสดงธรรมจบแล้ว มาตลีเทพบุตรจะเข้ามาทูลเกล้าฯถวายสุพรรณบัฏซึ่งเป็นบัญชีบุญที่เทวดาชั้นต้นๆ นำส่งขึ้นมาเป็นทอดๆ  หลวงพ่ออยากบอกให้พวกเรารู้ว่า การทำความดีทุกอย่างของมนุษย์นั้น อยู่ในสายตาของชาวสวรรค์ เขาจะบอกต่อๆ กันไป จะจดชื่อและบันทึกภาพการกระทำความดีของเรา เพื่อนำขึ้นไปประกาศในท่ามกลางมหาเทวสมาคม

บริเวณไหนที่มีมนุษย์มารวมตัวกันทำความดีเป็นหมู่คณะใหญ่ เทวดาผู้มีศักดิ์ใหญ่ ตลอดทั้งภุมเทวา รุกขเทวา อากาสเทวาผู้มีศักดิ์ใหญ่ที่เป็นสัมมาทิฏฐิ ก็จะดูแลรักษาอยู่แถวนั้น และคอยเล็งแลดูการกระทำความดีของมนุษย์อยู่ตลอดเวลา ดังนั้นเวลาเราประพฤติปฏิบัติธรรม สวดมนต์ไหว้พระ เจริญภาวนา เขาก็จะมาร่วมด้วย เวลาเราทำบุญใจเราเป็นบุญกุศล เขาจะมองเห็นรัศมีออกจากกายของเรา เวลาเราตรึกธรรมะ รัศมีธรรมก็จะแผ่ออกมาเขาก็จะอนุโมทนาสาธุการ และตามคุ้มครองรักษา

ในราชสูตร มีบันทึกไว้ว่า ในวันพระ ๘ คํ่า เหล่าบริวารของท้าวจาตุโลกบาลหรือท้าวมหาราชทั้ง ๔ บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาจะลงมาบันทึกนามของมนุษย์ที่ได้ทำบุญ ด้วยการเกื้อกูลบิดามารดา ถวายสังฆทาน รักษาศีลและเจริญภาวนา ในวันพระ ๑๔ คํ่า โอรสของท้าวจาตุมหาราชจะเป็นผู้ทำหน้าที่ และถ้าเป็นวันพระ ๑๕ คํ่า ท้าวมหาราชทั้ง ๔ จะเสด็จลงมาทำหน้าที่จดชื่อและจารึกการทำความดีของมนุษย์ด้วยพระองค์เอง

เมื่อท้าวมหาราชทั้ง ๔ ทรงทราบว่า ผู้ใดได้สร้างบุญกุศลชนิดใดไว้ จะทราบด้วยพระองค์เองก็ดี หรือจากเหล่าเทพบริวารหรือพระโอรสของพระองค์เองก็ดี ก็จะจารึกชื่อของผู้ทำบุญกุศลนั้นไว้บนแผ่นทอง ซึ่งจะนำไปถวายพระอินทร์ เพราะพระอินทร์มีอัธยาศัยใคร่จะได้ดูชื่ออันเป็นสิริมงคลของผู้มีบุญ และจะได้มีส่วนร่วมในการอนุโมทนาบุญด้วย

ดังนั้นเมื่อถึงวันที่พระอินทร์เทศนา ท้าวจาตุมหาราชก็จะเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ แล้วนำเอาสุพรรณบัฏแผ่นทองที่จารึกชื่อผู้มีบุญทั้งหลาย ไปมอบให้ปัญจสิขเทพบุตร ปัญจสิขเทพบุตรก็จะนำไปมอบให้แก่มาตลีเทพบุตรเพื่อทูลเกล้าฯถวายพระอินทร์ หลังจากที่พระองค์ทรงแสดงธรรมจบลง ก็จะประกาศรายชื่อในแผ่นทอง ให้เหล่าทวยเทพในที่ประชุมซึ่งอยู่กันเนืองแน่นในศาลาสุธรรมาเทวสภาได้สดับด้วยพระสุรเสียงอันไพเราะให้ได้ยินกันทั่ว

หากรายนามในแผ่นทองยิ่งมีมาก เหล่าเทวดาก็แซ่ซ้องสาธุการกันเป็นพิเศษ เพราะเขาดีใจและมีความหวังว่า มนุษย์ผู้ประกอบคุณงามความดีทั้งหลายจะได้มาบังเกิดเป็นสหายแห่งชาวสวรรค์ อบายภูมิทั้ง ๔ จักเบาบางลง สุคติสวรรค์จักเต็มบริบูรณ์ ครั้นดีอกดีใจชื่นชมอนุโมทนากันแล้ว รัศมีกายของเขาก็จะเปล่งแสงสว่าง ทิพยภูษาก็มีรัศมีเรืองรองยิ่งขึ้น ซึ่งน่าดูน่าชมเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นกิริยาที่ใจกำลังเอิบอิ่มไปด้วยบุญที่เกิดจากการอนุโมทนา รวมไปถึงบุญที่เกิดจากการฟังธรรมอีกด้วย  เพราะฉะนั้นให้ทุกท่านหมั่นสั่งสมบุญกันให้เต็มที่ การทำความดีของเราจะได้ไปปรากฏในท่ามกลางมหาเทวสมาคม ให้ชาวสวรรค์ได้ชื่นชมอนุโมทนา และเมื่อถึงขีดถึงคราวละสังขาร ก็จะได้ไปเสวยผลบุญด้วยตัวของเราเองในสุคติสวรรค์กันทุกๆ คน

* ภูมิวิลาสิ นี (พระพรหมโมลี)

พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่)

ที่มา https://buddha.dmc.tv/dhamma/13688
ต้นฉบับ หนังสือ ธรรมะเพื่อประชาชน ฉบับปรโลก

กลับสู่
สารบัญธรรมะเพื่อประชาชน สำหรับไฟล์เสียง, วีดีโอ และ Article
สารบัญ หนังสือธรรมะเพื่อประชาชน

2 thoughts on “ทวยเทพสดับธรรม”

  1. ✨น้อมกราบอนุโมทนาบุญกับโอวาท
    คำสอนและธรรมทานอันทรงคุณค่า
    หลวงพ่อธัมมชโย #คุณครูไม่ใหญ่
    ด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่ง สาธุครับ
    🌟✨🌟✨🌟✨🌟✨🌟✨🌟✨🌟

  2. ✨น้อมกราบอนุโมทนาบุญกับโอวาท
    คำสอนและธรรมทานอันทรงคุณค่า
    หลวงพ่อธัมมชโย #คุณครูไม่ใหญ่
    ด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่ง สาธุครับ
    🏵️🌼🌺🌸💮🌟🌷🌟💮🌸🌺🌼🏵️

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *