มหาสุบินของพระพุทธเจ้า (ความฝันขณะเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ)

มหาสุบินของพระพุทธเจ้า (ความฝัน)

การฝึกฝนอบรมใจให้บริสุทธิ์หยุดนิ่ง หมั่นน้อมนำใจเข้าไปหยุดอยู่ที่ต้นแหล่งแห่งความบริสุทธิ์ คือ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ จนกระทั่งพบพระธรรมกายภายใน กาย วาจา ใจของเราจะถูกกลั่นให้บริสุทธิ์ด้วย ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ สิ่งของรอบตัวเรา จะพลอยได้รับพลังมวลแห่งความบริสุทธิ์จากตัวเรา เหมือนกลิ่นหอมของบุปผาที่ฟุ้งขจรขจายไปในบรรยากาศ ย่อมเป็นที่ปรารถนา ที่ชื่นใจของคนทั้งมวล ผู้มีธรรมะเป็นอาภรณ์จะเป็นที่รักของมนุษย์ และเทวาทั้งหลาย ดังนั้นธรรมะจึงเป็นอาภรณ์ประดับกาย วาจา ใจที่อมตะมั่นคงที่สุด ที่จะติดตัวเราไปทุกภพทุกชาติ ให้หมั่นประพฤติปฏิบัติธรรมกัน เราจะได้เป็นผู้มีธรรมะเป็นอาภรณ์ สมบัติอันล้ำค่านี้กันทุกคน

พระบรมศาสดาได้ตรัสอานิสงส์ของการนอนหลับอย่างมีสติ ไว้ในพระวินัยปิฎกว่า

“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุที่นอนหลับ มีสติตั้งมั่น รู้สึกตัวอยู่ ย่อมหลับเป็นสุข ตื่นเป็นสุข ไม่ฝันร้าย หรือหากฝันก็ฝันแต่เรื่องที่เป็นสิริมงคล เทวดาจะลงปกปักรักษา”

การนอนหลับในทางการแพทย์ ถือว่าเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุด ที่จะทำให้สุขภาพร่างกายสดชื่น กระปรี้กระเปร่า อวัยวะทุกส่วนได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ตั้งแต่สมองเรื่อยไปถึงประสาททั้งห้าจะหยุดทำงานชั่วคราว เหมือนรถยนต์หรือเครื่องจักรที่ใช้งานไปได้ระดับหนึ่งก็ต้องพักเครื่อง เพื่อฟื้นคืนสภาพหรือซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ จะได้ยืดเวลาการใช้งานออกไปได้นานๆ ร่างกายนี้จำเป็นต้องได้รับการพักผ่อนเช่นเดียวกัน เพราะถ้าไม่ได้หยุดพัก ไม่ช้าระบบต่างๆ ภายในร่างกายจะรวน ทำให้ไม่สามารถทำงานต่อไปได้ เพราะฉะนั้น เราจำเป็นต้องรู้จักรักษาสุขภาพ เพื่อยืดอายุการใช้งานให้ได้มากที่สุด นั่นคือนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ พักผ่อนประสาทตา ประสาทหู พักระบบกล้ามเนื้อ หยุดการเคลื่อนไหวในทุกอิริยาบถ กระทั่งหยุดความคิด คำพูด และการกระทำทุกอย่าง

สำหรับผู้ที่นอนแล้วฝันเป็นประจำนั้น ตามปกติมักมีสาเหตุหลักๆ ๔ ประการ คือ เพราะ ธาตุกำเริบ เช่นรับประทานอาหารมากเกินไป หรืออวัยวะภายในปั่นป่วน เมื่อธาตุกำเริบ จึงทำให้ฝันไปในทำนองที่ว่า ตกจากต้นไม้บ้าง ถูกสัตว์ร้ายไล่ตามบ้าง หรือฝันเห็นภูตผีปีศาจบ้าง พอตื่นขึ้นมาจะรู้สึกว่าเหน็ดเหนื่อย เพราะธาตุในร่างกายไม่ปกติ และนอนไม่อิ่มเพราะฝันร้าย บางครั้งจดจำอะไรไม่ได้เลยก็มี แต่รู้สึกว่าเหนื่อยและเพลีย

ความฝันเพราะ จิตอาวรณ์ คือ มีความกังวลในธุรกิจการงาน และผู้คนที่เราเข้าไปเกี่ยวข้อง เมื่อนอนหลับจึงฝันถึงเรื่องราวเหล่านั้น ซึ่งไม่ใช่เรื่องจริงจังอะไร ถ้าหากก่อนนอน นั่งสมาธิและแผ่เมตตาเป็นประจำ ทำใจให้สงบ เป็นผู้มีอารมณ์ดี อารมณ์สบาย เมื่อนอน เราก็จะหลับอย่างมีความสุข ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ไม่ได้เก็บเรื่องราวที่คับใจไปกังวลต่อในเวลาหลับ สำหรับผู้ฝันเพราะ เทพดลใจ ทวยเทพมักจะมาบันดาล บอกเหตุต่างๆ หรือประสงค์ร้ายก็มี ทำให้เราฝันเห็นภาพที่เทวดาเขาปรารถนาอยากให้เราเห็น สำหรับความฝันประการสุดท้าย คือ ฝันเพราะเป็น บุพนิมิต ซึ่งบอกเหตุการณ์ล่วงหน้าว่าจะประสบสิ่งที่เป็นสิริมงคล เพราะได้ทำบุญกุศลเอาไว้ในชาติปางก่อนมามาก บุญบันดาลให้เห็นภาพในอนาคตว่าจะมีความสำเร็จต่างๆ เกิดขึ้น

ในเรื่องของความฝันที่เป็นบุพนิมิตนี้ มีตัวอย่างของพระชนนีของพระบรมโพธิสัตว์ มาเล่าให้ทุกท่านได้รับฟังกัน เรื่องมีอยู่ว่า

* พระนางสิริมหามายาได้อธิษฐานองค์อุโบสถแล้วเสด็จเข้าห้องอันมีสิริ บรรทมบนเตียง เมื่อหลับทรงพระสุบินว่า ท้าวมหาราชทั้ง ๔ ทรงยกพระองค์พร้อมทั้งที่บรรทมนำไปยังสระอโนดาต เพื่อสรงสนานชำระล้างมลทินของสรีระ แล้วให้นุ่งห่มผ้าทิพย์ รักษาศีลอยู่ในวิมานทอง มีช้างเผือกเชือกหนึ่งได้เที่ยวไปบนภูเขาทองลูกหนึ่ง พอลงจากภูเขาทองก็ขึ้นสู่ภูเขาเงิน มาจากทิศอุดรแล้วเยื้องกรายเข้าไปที่วิมานทองกระทำประทักษิณพระมารดาแล้วก็เข้าไปสู่พระครรภ์

เมื่อพระนางตื่นจากบรรทมแล้ว ได้ทูลพระสุบินแด่พระราชา พราหมณ์ปุโรหิตของพระราชาได้กราบทูลว่า “ข้าแต่มหาราช ขอพระองค์อย่าทรงพระวิตกเลย พระเทวีของพระองค์ทรงตั้งพระครรภ์ จะได้พระโอรสผู้สมบูรณ์ด้วยลักษณะมหาบุรุษ ถ้าพระโอรสจักอยู่ครองเรือน ก็จะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ถ้าออกบวชจักเป็นพระพุทธเจ้าผู้ตรัสรู้แล้วเองโดยชอบ” ซึ่งพราหมณ์เหล่านั้นทำนายได้ถูกต้องทีเดียว เพราะตรงเวลากับที่พระโพธิสัตว์ผู้มีสติและสัมปชัญญะ จุติจากชั้นดุสิตเข้าสู่ครรภ์ของพระมารดา

* นอกจากนี้ยังมี มหาสุบิน ๕ ประการ ซึ่งเกิดกับพระผู้มีพระภาคเจ้า ในสมัยที่ยังเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ ยังไม่ได้ตรัสรู้ธรรม พระพุทธองค์ทรงเก็บมหาสุบินนั้นเอาไว้ มิได้ทรงให้ใครทำนาย เมื่อตรัสรู้แล้วจึงทรงพยากรณ์ทำนายมหาสุบินของพระพุทธองค์เองให้เหล่าพระสาวกฟังว่า

มหาสุบินประการที่ ๑ ทรงพระสุบินว่า แผ่นดินใหญ่นี้เป็นที่นอนใหญ่ ภูเขาหิมพานต์เป็นหมอน มือซ้ายหย่อนลงในมหาสมุทรด้านทิศบูรพา มือขวาหย่อนลงในมหาสมุทรด้านทิศประจิม เท้าทั้งสองหย่อนลงในมหาสมุทรด้านทิศทักษิณ

มหาสุบินประการที่ ๒ ทรงพระสุบินว่า หญ้าคาได้ขึ้นจากพระนาภีของพระพุทธองค์ สูงขึ้นไปจรดท้องฟ้า

มหาสุบินประการที่ ๓ ทรงพระสุบินว่า มีหมู่หนอนมีสีขาวศีรษะดำไต่ขึ้นมาจากเท้าของพระพุทธองค์ แผ่ปกคลุมปกปิดตลอดถึงรอบๆ เข่า

มหาสุบินประการที่ ๔ ทรงพระสุบินว่า นก ๔ เหล่า มีสีต่างๆ กันบินมาจากทิศทั้งสี่ ตกลงแทบเท้าของพระพุทธองค์ แล้วกลับกลายเป็นสีขาวทุกตัว

มหาสุบินประการที่ ๕ ทรงพระสุบินว่า พระพุทธองค์เสด็จดำเนินขึ้นไปบนภูเขาคูถลูกใหญ่ แต่ไม่ได้แปดเปื้อนคูถเหล่านั้นเลย

พระพุทธองค์ทรงเก็บมหาสุบิน คือ ความฝันอันยิ่งใหญ่นั้นไว้ พอถึงเวลา ทรงนำมาเปิดเผยให้พวกเราได้รับทราบกันว่า พระพุทธองค์ทรงพยากรณ์มหาสุบินว่าอย่างไรบ้าง มหาสุบินข้อแรกที่ตรัสว่า มหาปฐพีกลายเป็นที่นอนขนาดใหญ่ ขุนเขาหิมพานต์เป็นหมอน มือซ้ายหย่อนลงในมหาสมุทรด้านทิศบูรพา มือขวาหย่อนลงในมหาสมุทรด้านทิศประจิม เท้าทั้งสองหย่อนลงในมหาสมุทรด้านทิศทักษิณ นี้เป็นนิมิตให้ทราบว่า พระพุทธองค์จะได้ตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ และจะได้เป็นใหญ่ในโลกที่ไม่มีใครยิ่งกว่า

การที่หญ้าคาได้ขึ้นจากพระนาภีสูงขึ้นไปจรดท้องฟ้าตั้งอยู่ เป็นนิมิตให้ทราบว่า พระตถาคตเจ้าได้ตรัสรู้อริยมรรคมีองค์ ๘ แล้วทรงประกาศให้เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายได้รับทราบกันอย่างทั่วถึง ข้อที่หมู่หนอนมีสีขาวศีรษะดำ ได้ไต่ขึ้นจากเท้าของพระพุทธองค์ ปกปิดตลอดถึงชานุมณฑล หมายถึงว่า คฤหัสถ์ผู้นุ่งห่มผ้าขาวจำนวนมาก ได้ถึงพระตถาคตเป็นสรณะตลอดชีวิต

การที่นก ๔ เหล่ามีสีต่างๆ กัน บินมาจากทิศทั้งสี่ ตกลงมาแทบเท้าแล้วกลับกลายเป็นสีขาวทุกตัวนั้น เป็นนิมิตให้ทราบว่า วรรณะทั้ง ๔ เหล่า คือ กษัตริย์ พราหมณ์ แพศย์ ศูทร ออกบวชในธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศแล้ว ทำให้แจ้งซึ่งวิมุตติอันยอดเยี่ยมเสมอเหมือนกันหมด และข้อที่พระพุทธองค์ทรงเดินไปมาบนภูเขาคูถลูกใหญ่ แต่ไม่แปดเปื้อนคูถ แสดงว่า พระตถาคตเจ้าได้ลาภสักการะเป็นอันมาก แต่ไม่ลุ่มหลงไม่พัวพัน มีปกติเห็นโทษ คือ ไม่ยึดติดในลาภสักการะเหล่านั้นเลย

นี่ก็เป็นมหาสุบินหรือความฝันอันยิ่งใหญ่ของพระผู้มีพระภาคเจ้าของเรา ความฝันใดเป็นไปเพื่อพระนิพพาน ความฝันนั้นเป็นความฝันอันยิ่งใหญ่ ฝันอยากให้ตนเองและสรรพสัตว์หลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวง เป็นฝันที่ทำให้เป็นจริงได้ หลวงพ่อเองก็เป็นผู้มีความฝันอันยิ่งใหญ่ คือ ฝันอยากให้ชาวโลกเข้าถึงธรรมกาย ฝันอยากหลุดพ้นจากกิเลสอาสวะ หลุดพ้นจากพญามาร และนำพาสรรพสัตว์ให้หลุดพ้นจากทุกข์ ไปสู่ฝั่งนิพพานกันให้หมด จึงอยากให้ทุกท่านใฝ่ฝันกันอย่างนี้บ้าง อย่างนี้เรียกว่าฝันดี แล้วอย่าลืม ก่อนนอนให้นั่งธรรมะ และแผ่เมตตาให้เป็นประจำ เพราะใจที่สงบนิ่งอยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ จะหลับอย่างเป็นสุข ตื่นก็เป็นสุข นอนหลับฝันดี เมื่อตื่นขึ้นมาก็มีความสดชื่น มีกำลังกายที่พร้อม มีสมองที่ปลอดโปร่ง พร้อมจะใช้สังขารนี้เป็นอุปกรณ์ในการสร้างบารมีต่อไป

* มก. เล่ม ๒๓ หน้า ๕๔
* มก. เล่ม ๓๖ หน้า ๔๓๑

พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่)

ที่มา https://buddha.dmc.tv/dhamma/15140
ต้นฉบับ หนังสือ ธรรมะเพื่อประชาชน ฉบับสารธรรม ๒

กลับสู่
สารบัญธรรมะเพื่อประชาชน สำหรับไฟล์เสียง, วีดีโอ และ Article
สารบัญ หนังสือธรรมะเพื่อประชาชน

1 thought on “มหาสุบินของพระพุทธเจ้า (ความฝันขณะเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ)”

  1. ✨น้อมกราบอนุโมทนาบุญกับโอวาท
    คำสอนและธรรมทานอันทรงคุณค่า
    หลวงพ่อธัมมชโย #คุณครูไม่ใหญ่
    ด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่ง สาธุครับ
    🌿🌷🏵️🌼💐🌺💮🌺💐🌼🏵️🌷🌿

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *