การเก็บรักษาสิ่งที่ควรบูชา
พระรัตนตรัยเป็นสรณะอันประเสริฐ มีพระคุณอย่างจะนับจะประมาณมิได้ แม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ทรงมีพระพุทธญาณ ลึกซึ้งกว้างไกลเป็นอจินไตย ทรงรู้แจ้งโลก และแทงตลอดทั้งนิพพาน ภพสาม โลกันตร์ ก็ยังไม่อาจจะพรรณนาคุณของพระรัตนตรัยให้หมดสิ้นได้ แม้แสนโกฏิจักรวาลอนันตจักรวาลก็แคบเกินไป เพราะพระรัตนตรัยมีคุณอนันต์ เราจะซาบซึ้งต่อเมื่อได้เข้าถึง และเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ และสังฆรัตนะ ถ้าเข้าถึงอย่างนี้ ถือว่าได้บรรลุวัตถุประสงค์ของการเกิดมาเป็นมนุษย์ ที่ได้มาพบพระพุทธศาสนา เพราะมีพระรัตนตรัยเป็นหลักชัยของชีวิต
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน มหาปรินิพพานสูตรว่า
“ถูปารหบุคคล ๔ เหล่าที่ควรบูชานี้ คือ พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ๑ พระปัจเจกพุทธเจ้า ๑ สาวกของพระตถาคต ๑ พระเจ้าจักรพรรดิ ๑”
ถูปารหบุคคล คือ บุคคลที่เมื่อกายหยาบของท่านถูกสลายไปแล้ว อัฐิธาตุของท่านสมควรที่จะได้รับการอัญเชิญ มาประดิษฐานไว้ในพระสถูป เพื่อให้มหาชนหรืออนุชนรุ่นหลังได้เคารพสักการบูชา เนื่องจากถูปารหะ ๓ จำพวกแรกนั้น ท่านเป็นผู้มีความบริสุทธิ์ จิตของท่านหลุดพ้นจากกิเลสอาสวะทั้งปวงแล้ว ได้ชื่อว่าเป็นยอดของปูชนียบุคคล คือ บุคคลผู้ควรบูชาอย่างยิ่ง การบูชาบุคคลผู้ควรบูชาถือว่าเป็นอุดมมงคล เมื่อท่านเหล่านั้นดับขันธปรินิพพานแล้ว จึงสมควรจัดไว้เป็นถูปารหบุคคล ที่จะนำอัฐิธาตุของท่านมาสักการบูชา
สำหรับพระเจ้าจักรพรรดิที่นับว่าเป็นถูปารหบุคคล เพราะพระองค์ทรงปกครองด้วยทศพิธราชธรรม เป็นธัมมิกมหาราช ใครได้มานมัสการพระสถูปของพระเจ้าจักรพรรดิ ก็จะได้ต้นแบบการสร้างบารมีในเมืองมนุษย์ จะมีสมบัติ ๒ อย่างเกิดขึ้น คือ มนุษยสมบัติ และทิพยสมบัติ ส่วนผู้ที่บูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระอรหันตเจ้าทั้งหลาย นอกจากจะได้มนุษยสมบัติ ทิพยสมบัติแล้ว ยังส่งผลให้ได้นิพพานสมบัติอีกด้วย
* มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับการบูชา พระบรมสารีริกธาตุของพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า หลังจากที่พระองค์เสด็จดับขันธปรินิพพานไปแล้ว พระราชาทั้ง ๘ นคร ได้ยกกองทัพมาขอพระบรมสารีริกธาตุไปบูชา พระเจ้าอชาตศัตรูก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่ทรงมีความศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธเจ้ามาก พระองค์ได้ทรงสร้างพระสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และให้จัดงานเฉลิมฉลองในกรุงราชคฤห์อย่างยิ่งใหญ่ทีเดียว ที่ว่ายิ่งใหญ่ เพราะพระองค์ได้ทรงทำการเฉลิมฉลองตั้งแต่กรุงกุสินาราจนถึงกรุงราชคฤห์ เป็นระยะทาง ๒๕ โยชน์ และทำการฉลอง ๗ วัน ๗ คืน ผู้ที่ได้มาสักการบูชามีสุคติสวรรค์เป็นที่ไป
เมื่อล่วงไปได้ ๗ ปี พระมหากัสสปเถระ เห็นอันตรายของพระบรมสารีริกธาตุ ที่พระราชาแต่ละเมือง ได้อัญเชิญไปประดิษฐานที่เมืองของตัว จึงไปเข้าเฝ้า พระเจ้าอชาตศัตรู เพื่อจะเก็บรักษาใหม่ให้อยู่ได้นานที่สุด พระเถระได้อธิษฐานอาราธนา ขอให้พระบรมสารีริกธาตุเสด็จมารวมกัน ด้วยอานุภาพของท่าน เว้นแต่พระบรมสารีริกธาตุที่พญานาคเก็บรักษาไว้ในรามคาม เพราะพระเถระเห็นว่าไม่มีภัยใดคุกคามได้
เมื่อได้พระบรมสารีริกธาตุมาครบตามที่กำหนดแล้ว พระเถระได้ประดิษฐานไว้ทางทิศตะวันออกและทิศใต้ของกรุงราชคฤห์ พลางอธิษฐานว่า “หินอันใดมีอยู่ในที่นี้ หินอันนั้นจงอันตรธานไป ขอฝุ่นผงธุลีจงหายไป ขอน้ำอย่าท่วมถึง” พระราชาทรงสั่งให้สร้างถูปาราม ด้วยการให้ขุดสถานที่ตรงนั้นลึก ๘๐ ศอก และก่อด้วยอิฐ โปรดให้สร้างเจดีย์สำหรับพระอสีติมหาสาวก อีกทั้งปูเครื่องลาดโลหะ สร้างผอบที่ทำด้วยไม้จันทน์เหลือง และพระสถูปไว้อย่างละ ๘ องค์
เรามาดูวิธีการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระเจ้าอชาตศัตรูว่า พระองค์ทรงประดิษฐานด้วยความเคารพเลื่อมใสเพียงไร พระราชาทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ในผอบจันทน์เหลือง จากนั้นทรงใส่ผอบจันทน์เหลืองลงในผอบจันทน์เหลืองอีกใบหนึ่ง และทรงใส่ผอบจันทน์เหลืองอันนั้นแหละลงในผอบจันทน์เหลืองอีกใบหนึ่ง มีลักษณะซ้อนกันจากเล็กไปหาใหญ่ ซ้อนเรียงกันเป็นชั้นรวมเป็นผอบ ๘ ใบ ไว้ในใบเดียวกัน
พระองค์ทรงใส่ผอบทั้ง ๘ นั้นลงในพระสถูปจันทน์เหลือง ๘ สถูป ทรงใส่สถูปจันทน์เหลืองทั้ง ๘ สถูปลงในผอบจันทน์แดง จากนั้นทรงให้ใส่ในสถูปจันทน์แดง และทรงนำไปใส่ในผอบงา ต่อจากนั้นให้ใส่ในสถูปงา จากสถูปงาก็ให้ใส่ลงในผอบรัตนะล้วนๆ จากผอบรัตนะ ก็นำลงในสถูปรัตนะ แล้วไปใส่ต่อในผอบทองคำ สถูปทองคำ ผอบเงิน สถูปเงิน ผอบมณี สถูปมณี ผอบทับทิม สถูปทับทิม ผอบแก้วลาย สถูปแก้วลาย และอันสุดท้ายผอบแก้วผลึกในสถูปแก้วผลึก
เมื่อครอบเจดีย์แก้วผลึกซึ่งถือว่าเป็นขั้นตอนสุดท้ายแล้ว โปรดให้สร้างเรือนยอดทำด้วยรัตนะ บนเรือนรัตนะให้สร้างเรือนทำด้วยทองคำ ถัดออกมาเป็นเรือนเงิน และเรือนทองแดง บนเรือนทองแดงนั้นให้โรยเม็ดทรายทำด้วยรัตนะทั้งหมด เกลี่ยดอกไม้น้ำ ดอกไม้บกไว้ ๑,๐๐๐ ดอก โปรดให้สร้างชาดกบันทึกชีวประวัติ ๕๕๐ ชาดกของพระอสีติมหาเถระ พระเจ้าสุทโธทนมหาราช พระนางมหามายาเทวี สหชาติทั้ง ๗ ซึ่งทำด้วยทองคำทั้งสิ้น โปรดให้ตั้งหม้อน้ำที่ทำด้วยทอง และเงินอย่างละ ๕๐๐ หม้อ ให้ยกธงทอง ๕๐๐ ธง ให้ทำประทีปทอง ๕๐๐ ดวง ประทีปเงิน ๕๐๐ ดวง ทรงใส่ไส้ผ้าเปลือกไม้ไว้ในประทีปเหล่านั้น ซึ่งบรรจุด้วยน้ำมันหอม
พระมหากัสสปะอธิษฐานว่า “ขอพวงมาลัยอย่าเหี่ยว กลิ่นหอมอย่าหาย ประทีปจงโชติช่วงตลอดไป อย่าได้ดับไปเลย” หลังจากนั้นก็ให้จารึกอักษรไว้ที่แผ่นทองว่า “ในอนาคตกาล อโศกราชกุมาร จักเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นพระเจ้าอโศกมหาราช พระองค์จักทรงกระทำพระบรมธาตุเหล่านี้ให้แพร่หลายไป” พระราชาทรงนำเครื่องประดับทั้งหมดของพระองค์เองมาบูชา จากนั้นก็ปิดประตูทอง ทรงคล้องตรากุญแจไว้ที่เชือกผูก ทรงวางแท่งแก้วมณีแท่งใหญ่ไว้ที่ตรงนั้น โปรดให้จารึกอักษรไว้ว่า ในอนาคตกาล พระเจ้าแผ่นดินที่ยากจน จงถือแก้วมณีแท่งนี้ กระทำสักการะพระบรมธาตุทั้งหลายเถิด
ท้าวสักกเทวราชทรงเห็นเหล่าพุทธบริษัท มีความศรัทธาเลื่อมใสต่อพระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์ปรารถนาอยากได้บุญพิเศษ และจะไม่ให้พระบรมธาตุอันตรธานไป เพื่อจะได้เป็นพุทธานุสติสำหรับพุทธบริษัททั้งหลาย พระองค์จึงได้ตรัสเรียกวิสสุกรรมเทพบุตรพลางสั่งว่า “พระเจ้าอชาตศัตรูทรงเก็บพระบรมสารีริกธาตุแล้ว ท่านจงตั้งกองรักษาการณ์ไว้ที่นั่น อย่าให้ใครล่วงลํ้าดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์นี้ได้ จงรักษาพระบรมธาตุให้ดำรงอยู่ จนกว่าจะถึงยุคสมัยของพระเจ้าอโศกมหาราช”
วิสสุกรรมเทพบุตรรับเทวราชโองการแล้ว ก็ลงจากเทวโลก ประกอบกายเป็นรูปไม้มีโครงร่างร้ายเคลื่อนที่ได้ ถือพระขรรค์สีแก้วผลึก เคลื่อนตัวเร็วเสมือนลม คอยรักษาไม่ให้ทั้งมนุษย์และอมนุษย์ ล่วงลํ้าเข้ามาในห้องพระบรมธาตุได้ ครั้นเนรมิตประกอบกายรูปไม้ใหม่แล้ว ก็ติดลิ่มสลักไว้อันเดียวเท่านั้น เอาศิลาล้อมรอบไว้ทำเหมือนเรือนที่สร้างด้วยอิฐ ข้างบนปิดด้วยแผ่นศิลาแผ่นเดียว ใส่ฝุ่นแล้วทำพื้นให้เรียบ ประดิษฐานสถูปหินไว้บนนั้น การกระทำทั้งหมดนั้น ถือเป็นความลับที่น้อยคนนักจะรู้เรื่องนี้ เพราะเกรงจะมีผู้ไม่หวังดีแอบมาลักขโมยพระบรมสารีริกธาตุไป หลังจากนั้นทุกคนต่างก็แยกย้ายกันไป พระมหากัสสปเถระดำรงตนอยู่ถึง ๑๒๐ ปี ก็ปรินิพพาน
จากเรื่องนี้จะเห็นได้ว่า พุทธศาสนิกชนในสมัยก่อนนั้น เห็นคุณค่า และเคารพเลื่อมใสในพระรัตนตรัยมาก มองเห็นการณ์ไกล จึงได้ช่วยกันเก็บรักษาพระบรมสารีริกธาตุ ให้ดำรงคงอยู่คู่โลกตราบนานเท่านาน เมื่อพุทธศาสนิกชนได้เห็นแล้วจะเกิดความเลื่อมใสในพระพุทธองค์ว่า แม้เพียงพระบรมสารีริกธาตุยังมีความใสบริสุทธิ์ถึงเพียงนี้ จิตใจของพระพุทธองค์ย่อมจะมีความใสบริสุทธิ์ มากกว่านี้ร้อยเท่าพันทวี เพราะฉะนั้นเมื่อเดินผ่านพระสถูป พระเจดีย์หรือสถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ หรือพระธาตุของเหล่าพระอรหันต์ อย่าลืมแสดงความนอบน้อม หาดอกไม้ของหอมไปบูชากราบไหว้ด้วยความเลื่อมใส มีใจส่งไปในพระพุทธเจ้าผู้เลิศประเสริฐสุด อันจะทำให้เราได้ทิพยสมบัติ และนิพพานสมบัติกันทุกคน
* มก. อรรถกถามหาปรินิพพานสูตร เล่ม ๑๓ หน้า ๔๖๔
พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่)
ที่มา https://buddha.dmc.tv/dhamma/8293
ต้นฉบับ หนังสือ ธรรมะเพื่อประชาชน ฉบับพระพุทธคุณ
กลับสู่
สารบัญธรรมะเพื่อประชาชน สำหรับไฟล์เสียง, วีดีโอ และ Article
🌟น้อมกราบอนุโมทนาบุญกับโอวาท
คำสอนและธรรมทานอันทรงคุณค่า
หลวงพ่อธัมมชโย #คุณครูไม่ใหญ่
ด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่ง สาธุครับ
🏵️🌺🌸💮🌼🌷🌟🌷🌼💮🌸🌺🏵️