เมื่อ ๘๐ กว่าปีที่ผ่านมา หลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ท่านได้อุทิศชีวิตปฏิบัติธรรมจนค้นพบวิชชาธรรมกาย ณ วัดโบสถ์บน บางคูเวียง* แล้วท่านก็ได้ศึกษาค้นคว้าวิชชาธรรมกาย จนพบว่า ในกลางกายของมนุษย์ทุก ๆ คน มีพระรัตนตรัยอยู่ภายใน นั่นคือ พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ และ สังฆรัตนะ
พุทธรัตนะก็คือ ธรรมกาย กายที่เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานแล้ว มีอยู่ภายในตัวของมนุษย์ทุกคน มีคำยืนยันเป็นหลักฐานเอาไว้ในพระไตรปิฎก ทั้งฉบับของเถรวาท มหายาน วัชรยาน แต่ในพระไตรปิฎกไม่ได้กล่าวไว้ว่า ธรรมกายมีลักษณะเป็นอย่างไร
จนกระทั่งหลวงปู่วัดปากน้ำ ท่านได้เข้าถึงและก็บอกว่า ธรรมกายมีลักษณะคล้าย ๆ กับพระพุทธรูป หรือพระพุทธปฏิมากร ที่จำลองออกมา แต่งดงามกว่ามาก เป็นพระแก้วใสบริสุทธิ์ มีเกตุดอกบัวตูม ประกอบด้วยลักษณะมหาบุรุษครบถ้วนทุกประการ นั่นแหละคือ พระธรรมกาย
เราจะรู้ได้อย่างไรว่า มีพระธรรมกายอยู่ภายใน จะรู้ได้ต่อเมื่อเข้าถึง เข้าถึงแล้วก็ไปเห็น เมื่อไปเห็นก็รู้ เมื่อรู้ก็หายสงสัย แล้วทำอย่างไร เราจึงจะเข้าถึง จะเข้าถึงได้ก็ต้องให้โอกาสตัวเองที่จะศึกษาสิ่งเหล่านี้ โดยทำใจให้เป็นกลาง ไม่ใช่เชื่ออย่างงมงาย หรือไม่เชื่อจนดื้อรั้น ให้ทำตัวทำใจเหมือนนักวิทยาศาสตร์ เหมือนผู้รู้ บัณฑิตและนักปราชญ์ทั้งหลาย คือวางใจเฉย ๆ เหนือความเชื่อและความไม่เชื่อ แล้วให้โอกาสตัวเองได้ศึกษาอย่างแท้จริง
โดยดึงใจที่แวบไปแวบมาให้กลับมาหยุดนิ่งอยู่ภายใน ในตำแหน่งที่ถูกต้อง คือศูนย์กลางกาย ฐานที่ ๗ อันเป็นจุดเริ่มต้นแห่งอริยมรรค เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางสายกลางที่จะนำไปสู่อายตนนิพพาน ทางที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอรหันต์ทั้งหลายท่านเสด็จไป ต้องนำใจที่มีปกติซัดส่ายไปมาให้มาอยู่ ณ ตำแหน่งตรงนี้ตลอดเวลาจนกระทั่งถูกส่วน พอถูกส่วนใจก็จะเคลื่อนเข้าไปสู่ภายใน ภาษาบาลีเขาใช้คำว่า คมน (คะมะนะ) แปลว่า เคลื่อนเข้าไป แล่นเข้าไป ไตรสรณคมน์ ก็คือ เคลื่อนใจแล่นเข้าไปหารัตนะภายใน เพราะฉะนั้น การเข้าถึงพระธรรมกาย พิสูจน์ได้ด้วยการฝึกใจให้หยุดนิ่ง
แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า เราทำถูกวิธีในเบื้องต้นแล้วเพื่อจะได้ปฏิบัติกันต่อไปให้เข้าถึงรัตนะทั้ง ๓ ภายในกายของเรา เราจะรู้ได้โดยเมื่อใจหยุดนิ่งดีแล้วจะมีดวงธรรมเบื้องต้นบังเกิดขึ้น ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่า เรามาถูกทางแล้ว ถ้าเดินทางต่อไปก็จะถึงที่หมาย
วิธีทำใจให้หยุดมาสู่ที่ตั้งตรง ฐานที่ ๗ มีเป็นล้านวิธี คือนับวิธีไม่ถ้วน แต่ย่อลงมาเหลือเพียงแค่ ๔๐ วิธี ที่มีในวิสุทธิมรรค ให้เลือกเอาว่า จะเอาวิธีไหนก็ได้ ที่จะฝึกใจให้หยุดนิ่ง
เช่น เราจะเริ่มต้นจากการพิจารณาอสุภะ (ซากศพ) ก็ได้
หรือกำหนดลมหายใจ หายใจเข้าภาวนาว่า “พุท” หายใจออกภาวนาว่า “โธ” ที่เขาเรียกว่า อานาปานัสสติอย่างนี้ก็ได้
หรือบางคนชอบทำใจนิ่ง ๆ เฉย ๆ ไม่อยากคิดอะไรก็ได้
หรือบางคนจะระลึกนึกถึงศีลที่ตนรักษาได้บริสุทธิ์บริบูรณ์ อย่างนี้ก็เข้าถึงได้เหมือนกัน
ไม่ว่าเราจะเลือกปฏิบัติในวิธีใดก็ตาม เมื่อปฏิบัติไปเรื่อย ๆ พอใจสบาย ใจหยุดถูกส่วนเข้าก็หล่นวูบเข้าไปสู่ภายใน พบดวงธรรมภายใน ถ้าดำเนินจิตไปเรื่อย ๆ ก็จะเข้าถึงพระรัตนตรัยเช่นเดียวกัน
เพราะฉะนั้น วิธีที่จะเข้าถึงพระรัตนตรัยนั้นมีหลายวิธี แต่ทุกวิธีมีอารมณ์เดียว คือ ต้องอารมณ์ดี อารมณ์สบาย แล้วก็ต้องหยุดนิ่ง ใจที่ปกติชอบแวบไปแวบมา ต้องนำกลับมาหยุดนิ่งอยู่ภายใน ทุกวิธีเหมือนกันตรงนี้ แตกต่างกันแต่เพียงวิธีการภายนอก พอหยุดถูกส่วนก็วูบเข้าไปจนกระทั่งเข้าถึงพระรัตนตรัยภายในอันเป็นที่พึ่งที่ระลึกสูงสุดของพวกเราทุกคน
ดังนั้น ใครที่เคยใช้คำว่า หลวงปู่วัดปากน้ำก็ดี หลวงพ่อธัมมชโยก็ดี สอนตามแนววิชชาธรรมกาย หรือวิธีธรรมกาย ขอให้แก้คำใหม่นะ ไม่ได้ใช้อย่างนั้น
จริง ๆ แล้วเป็น “วิธีเข้าถึงธรรมกาย” วิธีหนึ่ง โดยใช้คำภาวนาว่า “สัมมาอะระหัง” แล้วฝึกใจให้หยุดนิ่งเฉย ๆ หรือจะกำหนดนิมิตเป็นดวงแก้ว เป็นองค์พระ เพื่อเป็นกุศโลบายให้ใจมีที่ยึดที่เกาะ เมื่อไปถึง ณ ศูนย์กลางกาย ฐานที่ ๗ ที่แท้จริง พอใจหยุดนิ่งถูกส่วนแล้วจะภาวนาหรือไม่ภาวนาอะไรเลย จะกำหนดหรือไม่กำหนดอะไรก็แล้วแต่ พอไปสู่เบ้าหลอมเดียวกัน คือศูนย์กลางกาย ฐานที่ ๗ ก็ตกศูนย์วูบลงไป แล้วก็เข้าถึงดวงธรรม เห็นกายในกาย จนกระทั่งเข้าถึงพระธรรมกายในที่สุด
หลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ท่านเข้าไปถึงอย่างนี้ พอเข้าถึงธรรมกายแล้ว ท่านจึงรู้ว่าธรรมกายเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับคำว่า “ตถาคต” หรือคำว่า “พระพุทธเจ้า” แล้วท่านก็ค้นพบต่อไปอีกว่า การดับขันธปรินิพพาน คือ ดับขันธ์ ๕ ในกายมนุษย์ ทิพย์ พรหม อรูปพรหม ขันธ์ทั้งหลายดับหมด ถอดออกหมดเป็นชั้น ๆ เข้าไปทีเดียว เหลือแต่ธรรมกายปรากฏอยู่ในอายตนนิพพาน
ตรงนี้ล่ะ ที่เป็นข้อถกเถียงกัน ซึ่งหลวงปู่จะค้างเอาไว้สำหรับให้บัณฑิตนักปราชญ์ ได้ไปศึกษาไปค้นคว้าว่า มีจริงหรือไม่จริง ถ้าเราทำถูกวิธี และทำจริงจังก็ต้องเจอ ถ้าทำไม่ถูกวิธีหรือทำไม่จริงไม่จังก็ไม่เจอ
คำว่า “ไม่เจอ” กับคำว่า “ไม่มี” นั้นไม่เหมือนกัน ไม่เจอเพราะเราทำไม่ถูก ถ้าทำถูกก็ต้องเจอ
* (วัดโบสถ์บน บางคูเวียง คือวัดที่หลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ (สด จนฺทสโร) ปฏิบัติธรรมจนเข้าถึงพระธรรมกายภายใน)
โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่)
https://dhamma01.blogspot.com/2021/01/blog-post.html