วิธีนั่งสมาธิ ง่ายแต่ลึก นิมิตเลื่อนลอย…หลุมพรางของพญามาร

ง่ายแต่ลึก เล่ม ๓ บทที่ ๑๔ นิมิตเลื่อนลอยหลุมพรางของพญามาร
ทัพพีทองของพ่อรู้รสแล้ว
น้ำแกงแก้วรสชาติขนาดไหน
รสอย่างอื่นหมื่นแสนไปไกลไกล
จะติดใจเมื่อใจติดศูนย์กลางเอย
ตะวันธรรม

       เมื่อเราได้จุดเทียนใจไฟนิรันดร์อนันตชัยกันเสร็จ
เรียบร้อยแล้ว ต่อจากนี้ไปให้ทุกท่านนั่งหลับตาเจริญสมาธิ
ภาวนากันนะ หลับตาเบาๆ พอสบายๆ คล้ายๆ กับตอนที่เรา
ใกล้จะหลับ แล้วน้อมใจของเราให้หยุดนิ่งๆ อย่างสบายๆ ที่
ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ซึ่งอยู่ในกลางท้องของเราเหนือสะดือ
ขึ้นมา ๒ นิ้วมือ
       เอาใจหยุดในหยุด นิ่งในนิ่งลงไปอย่างสบายๆ หยุด
นิ่งๆ ให้ใจเราใส จะตรึกนึกถึงดวงใส หยุดอยู่กลางดวงใสๆ
หยุดในหยุด นิ่งในนิ่งลงไปอย่างสบายๆ แล้วก็ทำใจของเรา
ให้เบิกบาน แช่มชื่น ให้สะอาด บริสุทธิ์ ผ่องใส

ถูกส่วนจะเป็นอย่างนี้

         ถ้าหยุดได้ถูกส่วนพอดีๆ ตัวมันจะขยาย กายขยาย ใจ
ขยาย แต่ถ้าหากหยุดไม่ถูกส่วนมันจะแคบ นิ่งแต่แคบ แต่
ถ้าถูกส่วนนิ่งแล้วต้องขยาย ต้องโล่ง ต้องโปร่ง ต้องเบา ต้อง
สบายๆ ขยาย ตัวหายไปเลย แล้วใจจะหยุดนิ่งๆ อยู่ ณ จุด
ที่สบาย
         เดี๋ยวความสว่างก็จะค่อยๆ เกิดขึ้นมาทีละน้อยจน
กระทั่งสว่างมากๆ แล้วใจก็จะตกศูนย์วูบลงไปฐานที่ ๖ ไป
ยกเอาดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์หยาบลอยขึ้นมา มา
พร้อมกับความสุขและความบริสุทธิ์ เป็นดวงใสกลมรอบตัว
เหมือนดวงแก้วกายสิทธิ์ แต่ใสเหมือนเพชรหรือยิ่งกว่าเพชร
เราก็ต้องหยุดให้ถูกส่วนอย่างนี้นะ ถูกส่วนแล้วต้องเป็นอย่าง
นี้ จะไม่ผิดจากนี้ ใจจะเกลี้ยงๆ จะมีอยู่ดวงเดียว ดวงนิ่ง
ดวงใสบริสุทธิ์ แล้วเกิดการตื่นตัวภายใน จะมีชีวิตชีวา ใจจะ
เกลี้ยงๆ นิ่งๆ รู้สึกสงบ สะอาด สว่าง ตั้งมั่น ไม่มีความคิด
อื่นใดเลย จะปลอดความคิด มีแต่จะเข้ากลางไปเรื่อยๆ
         เข้ากลางไปเห็นทีละดวง คือเข้ากลางจุดสว่างอยู่ที่กลาง
ดวงใสๆ จุดสว่างที่อยู่ตรงศูนย์กลางของดวงธรรมดวงแรก
มันจะใสกว่าธรรมดวงนั้น แล้วเมื่อธรรมดวงนั้นขยายจุดสว่าง
ก็ขยายไปพร้อมกัน จนกระทั่งดวงแรกหายไป จุดสว่างก็จะ
ขยายเป็นดวงที่ ๒ เป็นดวงศีล แล้วกลางดวงศีลก็จะมีจุดสว่าง
จะเข้าถึงดวงสมาธิ ไปอย่างนี้เรื่อยๆ เลย ถึงดวงปัญญา ดวง
วิมุตติ ดวงวิมุตติญาณทัสสนะ

         แต่พอมาถึงกลางดวงวิมุตติญาณทัสสนะ จุดสว่างแทนที่
จะขยายเป็นดวงต่อไปเป็นดวงที่ ๗ ก็ขยายมาเป็นกายมนุษย์
ละเอียด มันจะพอดีๆ อย่างนี้โดยที่เราไม่ได้ตั้งใจจะให้พอดี
เราจะเข้าถึงสิ่งที่มีอยู่แล้ว แล้วก็ต้องเป็นอย่างนี้ ผิดจากนี้ไป
ไม่ได้ ไม่มีขาด ไม่มีเกิน ไม่มีตัดทอน
          เช่น ดวงเกิดขึ้นมาเยอะแยะ เราได้ยินได้ฟังว่า มันเหลือ
๖ เราเลยตัดทอนตั้งแต่ดวงที่ ๗ ไปถึงดวงที่ร้อย ที่พัน ที่หมื่น
ที่แสน ที่ล้าน เพื่อจะให้มันพอดีอย่างนี้ก็ไม่ใช่ ที่ใช่ก็คือ ดวงที่
ผุดมาเหมือนน้ำพุ เมื่อเราดูไปเรื่อยๆ สบายๆ ดวงสุดท้ายที่
ไม่มีต่อไปนั่นแหละ มันจะนิ่งและพาใจของเราเคลื่อนเข้าไปสู่
ภายใน ตกศูนย์ไป เปิดเผยให้เราได้เห็นความใสของดวงปฐม
มรรคที่เกิดขึ้นมาแทนที่ ดวงเก่าหายไป แล้วก็จะเห็นไปตาม
ลำดับอย่างนี้ จนกระทั่งถึงกลางดวงวิมุตติญาณทัสสนะ จุด
สว่างนั้นก็กลายมาเป็นกายมนุษย์ละเอียด ซึ่งมีหน้าตาเหมือน
ตัวเรา ท่านหญิงเหมือนท่านหญิง ท่านชายก็เหมือนท่านชาย
นั่งขัดสมาธิเจริญสมาธิภาวนาหันหน้าออกไปทางเดียวกับตัว
ของเรา นี่จะเป็นไปเอง ไม่ใช่ไปทำให้เป็นหรือปรุงแต่งให้เป็น
จะเป็นไปเองอย่างนี้ อย่างนี้จึงจะถูกต้อง แต่ถ้าไม่ใช่อย่างนี้
ก็ต้องฝึกต่อไป

นิมิตเลื่อนลอย….หลุมพรางพญามาร

      ในระหว่างที่ฝึก ก่อนที่จะตกศูนย์เข้าไป จะมีภาพอะไร
เยอะแยะ ภาพนรก ภาพสวรรค์ ภาพเหตุการณ์ ภาพคนโน้น
คนนี้ หรือผุดรู้อะไรเกิดขึ้นมา เหมือนมีญาณทัสสนะ วิธีที่

      ถูกต้อง คือ อย่าไปสนใจให้ความสำคัญเกินไป ให้ดูเฉยๆ ไป
เรื่อยๆ อย่างสบายๆ เพราะตรงนี้คือ หลุมพรางของพญามาร
ที่จะทำให้เราหมกมุ่นพัวพันอยู่กับตรงนี้ บางคนยาวนาน
หลายสิบปีทีเดียว มันก็น่าเสียดายถ้าเรามาผูกพันติดใจอยู่ที่
ตรงนี้ แล้วแทนที่จะไปเล่าให้ครูบาอาจารย์ฟัง กลับมาเล่าสู่
กันฟังซึ่งล้วนแต่ไม่มีประสบการณ์ภายใน พอฟังกันไปก็จะ
มีกองเชียร์ก็ชวนกันเข้ารกเข้าพงกันไป
       ถ้าเราเป็น เราก็ต้องทำความเข้าใจว่า นี่คือนิมิต
เลื่อนลอย เราเห็นจริง แต่สิ่งที่เห็นมันยังไม่ใช่
ของจริง ที่เกิดขึ้นเพราะจิตในขั้นนี้ยังบริสุทธิ์ไม่พอที่จะไป
รู้ไปเห็นได้อย่างถูกต้อง เพราะญาณทัสสนะจะมีในธรรมกาย
เท่านั้น ต้องได้ ๑๘ กายไปแล้ว
        ถ้าเราไม่ได้เป็น แต่เพื่อนสหธรรมิกเป็น สิ่งที่เราควรจะ
ทำ คือแนะนำเขาว่า ได้ยินได้ฟังหลวงพ่อบอกมาอย่างนี้ ให้
ทำตามที่หลวงพ่อแนะ คือ อย่าไปติดใจ อย่าไปติดตาม ให้ดู
ไปเฉยๆ เรื่อยๆ อย่างสบายๆ ถ้าเขาไม่เชื่อ เพราะเขาชอบ
เวลาพูดไปมันก็มีคนมาห้อมล้อม ถ้าไม่ให้เสียพวก เราก็นิ่ง
เฉยๆ เขาจะเล่าอะไรให้ฟังเราก็นิ่งเฉยๆ ไม่ซักไม่ถามอะไร
ยิ้มๆ เฉยๆ หรือถ้าทำอย่างนี้แล้วก็ยังไม่ได้เรื่อง ก็ต้องถอย
ห่างออกมา เพื่อเราจะได้ช่วยเขาได้เต็มที่ เพราะถ้ามีคนไป
ห้อมล้อม ความหลงผิดหลงตัวเองมันจะเกิดขึ้น แล้วจะเป็น
ผลเสียทั้งต่อตนเอง หมู่คณะ และวิชชาธรรมกาย ทำให้
คนอื่นที่เขาได้ยินพลอยเข้าใจผิดไปด้วย

        ถ้าเราจะช่วยเหลือเพื่อนสหธรรมิกก็ต้องทำอย่างที่ว่าไว้
คือ เมื่อแนะนำแล้ว เขาไม่รับฟัง เราก็ยิ้ม ๆ รับฟังเฉยๆ ไม่ให้
ความคิดเห็นอะไร แต่ถ้าทำแล้วไม่ได้ผล ก็ต้องถอยห่างออก
มา แล้วก็อย่าไปห้อมล้อมเขา เราก็ไปเดินชมนกชมไม้ ปลีก
ตัวออกมาปฏิบัติธรรมของเรา ทำของเราไป ดูเข้าไปในตัว
ของเรา เมื่อเขาไม่มีใครห้อมล้อมแล้ว มันก็จะได้คิด พอได้คิด
ก็คิดได้ หรือถ้าคิดไม่ได้ก็ถือว่าเป็นกรรมของเขา เราก็ปล่อย
เขาไปก่อน อีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า ๒๐ ปี ๓๐ ปี เขาก็คิดได้เอง
แหละ ให้ทำอย่างนี้นะ
       เวลาเราจะช่วยเพื่อนสหธรรมิกด้วยกัน พูดแล้วไม่เชื่อ
ก็นิ่ง นิ่งไม่เชื่อก็ถอยห่างออกมา หาเวลามาปฏิบัติธรรมของ
เรา อย่างนี้ก็พอจะช่วยได้ แต่บางคนมันก็ไม่ได้ เพราะเขามี
เชื้อเก่ามาก็ต้องให้กาลเวลามันผ่านไป เนื่องจากบางคนติดใจ
ที่มีคนมาห้อมล้อม เพราะว่าไม่ได้มาแต่คนนะมาพร้อมกับ
ผลประโยชน์ด้วย ตรงนี้เลิกยาก มันมาติดลาภสักการะ ใจก็ไม่
ไปข้างใน มันไม่บริสุทธิ์เสียแล้ว
      เพราะฉะนั้น ระมัดระวังให้ดีนะลูกนะ แต่ถ้าเราเข้าใจแล้ว
ว่าต้องทำอย่างนี้ ตามที่พระเดชพระคุณหลวงปู่ผู้ค้นพบวิชชา
ท่านวางหลักสูตรเอาไว้ อย่างนี้เราปลอดภัย แล้วก็มีชัยชนะ
ก็พยายามฝึกฝนให้ได้อย่างที่ท่านวางหลักสูตรเอาไว้ในสิ่ง
ที่ท่านไปรู้ไปเห็นมา เราเดินตามรอยท่าน เราก็จะเป็นอย่าง
ท่าน คือไม่เพี้ยน ไม่เลอะเทอะ ไม่เสียเวลา แล้วใจก็จะแล่น
เข้าไปสู่ภายใน จิตก็บริสุทธิ์เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ มีความสุขเพิ่ม

ขึ้น มีความบริสุทธิ์เพิ่มขึ้น ปัญญาบริสุทธิ์ก็จะตามมา จะให้
เราได้ไปรู้ไปเห็นสิ่งที่มีอยู่ในตัวของเรา ซึ่งพระเดชพระคุณ
หลวงปู่ท่านยืนยันว่า ผิดจากนี้ไม่ใช่ ต้องอย่างนี้ แล้วก็ต้อง
เป็นอย่างนี้ นี่คือคำยืนยันของท่าน ที่มีปรากฏอยู่ในเทปที่อัด
เสียงของท่านมา เป็นครูแทนตัวท่าน
       ๑๘ กาย มีในตัวของเรานี่แหละ เป็นแผนผังของชีวิต
ที่ติดมาตั้งแต่ปฐมชาติที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ติดกันเรื่อยมา
เลย เราก็จะต้องศึกษาค้นคว้ากันไปให้ถึงในจุดที่เป็นอย่าง
นี้ เราเรียนเพื่อจะเอามาไว้ใช้เป็นที่พึ่งกับตัวของเรา ให้ชีวิต
เราสมบูรณ์ มีความสุข มีความรู้แจ้ง มีความบริสุทธิ์ เราจะ
ได้ดำเนินชีวิตได้ถูกต้อง เข้าไปถึงพระรัตนตรัยในตัว ถึง
พุทธรัตนะ ถึงธรรมรัตนะ ถึงสังฆรัตนะ นั่นแหละเป็นกาย
ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานแล้ว เป็นที่พึ่งที่ระลึกอยู่ในตัวของเรา
ถ้าเข้าถึงแล้ว ถึงจริงๆ เราจะรู้จัก จะหายสงสัยทันที และเราจะ
เห็นความแตกต่างระหว่างสิ่งที่เราคิดว่ากับสิ่งที่เป็นจริงน่ะ
มันจะต่างกันเหมือนฟ้ากับดินทีเดียว เพราะฉะนั้นต้องหมั่น
ฝึกฝนอบรมไปนะ ต้องฝึกเอาให้ได้ของจริงๆ ของไม่จริงอย่า
ไปสนใจ มันเสียเวลา
วันอาทิตย์ที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๕

โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่)

ที่มา หนังสือง่ายแต่ลึก ๓ บทที่ ๑๔ www.dhamma01.com

1 thought on “วิธีนั่งสมาธิ ง่ายแต่ลึก นิมิตเลื่อนลอย…หลุมพรางของพญามาร”

  1. น้อมกราบสาธุ สาธุ สาธุครับ
    #หลวงพ่อธัมมชโย
    #วันคุ้มครองโลก
    #22เมษายนทุกปี
    #วัดพระธรรมกาย

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *