คุณหญิงท้องนา (ตอน ๑)
แม่ของลูกเป็นบุตรสาวของหม่อมเจ้าฯจึงมีคำนำหน้าชื่อว่า หม่อมราชวงศ์หญิง มาตั้งแต่เกิด ท่านมีชีวิตที่สะดวกสบายอยู่ในรั้วในวัง แวดล้อมไปด้วยข้าทาสบริวาร เวลาไปโรงเรียนก็มีทหารรับใช้เป็นผู้ติดตามไปด้วยอย่างน้อย ๔ คน
แม้คุณแม่จะมีชีวิตที่สะดวกสบาย แต่คุณแม่ก็เป็นหม่อมที่ชอบชีวิตเรียบง่ายสมถะไม่ชอบออกงานสังคม ไม่ชอบเต้นรำ แต่ชอบศึกษาวรรณคดี ประวัติศาสตร์ และชอบอ่านหนังสือธรรมะ มีใจฝักใฝ่ในทางบุญกุศลตั้งแต่เด็ก ๆ แต่เนื่องจากคุณแม่ต้องอยู่เฉย ๆ เพราะมีคนทำให้ทุกอย่าง ทำให้คุณแม่รู้สึกเบื่อ จึงขออนุญาตท่านพ่อมาทำงานที่กรมป่าไม้ จนกระทั่งถึงเวลาที่ท่านพ่อท่านแม่เห็นสมควรจะให้ออกเรือน ท่านก็ได้หาคนที่มีฐานะชาติตระกูลเหมาะสมกันเพื่อให้แต่งงาน แต่คุณแม่ของลูกไม่ชอบใครเลย จึงปฏิเสธ
ต่อมาคุณแม่ได้มาเจอคุณพ่อของลูก ซึ่งทำงานอยู่ที่เดียวกัน เกิดชอบพอกัน แต่ทางท่านพ่อท่านแม่ไม่ชอบ และไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะคุณพ่อของลูกฐานะต่ำศักดิ์กว่า ถึงแม้คุณพ่อจะพอมีฐานะ แต่ก็เป็นหนุ่มบ้านนอกมีรกรากอยู่ที่จังหวัดอุบลราชธานี ดังนั้นญาติทางฝ่ายคุณแม่จึงดูถูกคุณพ่อว่า เป็นไอ้หนุ่มบ้านนอก แต่ในที่สุดการแต่งงานของท่านทั้งสองก็เกิดขึ้น ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งของญาติทางฝ่ายคุณแม่
หลังจากแต่งงานแล้ว เวลาผ่านไป เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ได้ ๘ เดือน ก็ย้ายไปอยู่ที่จังหวัดอุบลราชธานี และก็ไม่ติดต่อกับท่านพ่อ ท่านแม่และญาติพี่น้องทุกคนอีกเลย เพื่อเป็นการตัดปัญหาความไม่เข้าใจกัน
เมื่อมาอยู่บ้านนอก คุณพ่อก็ทำหน้าที่เป็นพ่อศรีเรือน คือ ไม่ยอมให้คุณแม่ลำบากตรากตรำเลย คุณพ่อรับอาสาทำงานบ้านเองทุกอย่าง ซักผ้าให้คุณแม่ เลี้ยงลูกเองเป็นส่วนใหญ่ ปลูกฝังลูก ๆ ทุกคนเสมอว่า คุณแม่คือ คุณหญิงท้องนา ให้ปรนนิบัติคุณแม่เป็นอย่างดี อย่าให้ท่านทำงานหนัก เพราะคุณพ่อคิดอยู่ตลอดเวลาว่า ท่านไปเอาคุณแม่มาจากในรั้วในวัง เหมือนคว้าดวงแก้วมาจากปากมังกร จะมาทำให้ตกระกำลำบากมันเสียศักดิ์ศรี จึงยอมทำให้ทุกอย่างเพื่อให้คุณแม่อยู่อย่างมีความสุข
บุญใดคุณแม่จึงเกิดมาในตระกูลสูงมีชีวิตวัยต้นที่ประณีตสุขสบาย แต่ต้องพลัดจากวังมาอยู่บ้านนอกที่กันดาร และบุญใดที่แม้มาอยู่ที่กันดารแต่ทุกคนกลับดูแลท่านเป็นอย่างดี
คุณครูไม่ใหญ่ :
คุณแม่ของลูกเกิดในตระกูลสูง มีชีวิตวัยต้นประณีตสุขสบาย แต่พลัดมาอยู่บ้านนอกที่กันดาร เพราะในอดีตท่านได้ทำบุญในพระพุทธศาสนา ได้เป็นกำลังสร้างโบสถ์ถวายเป็นพุทธบูชา มีความอ่อนน้อมในพระรัตนตรัย ด้วยบุญนี้จึงทำให้เกิดในตระกูลสูงแต่ช่วงท้ายได้เกิดกระทบกระทั่งกับทีมงานที่สร้างโบสถ์ จึงทำให้เบื่อ ๆ เลยถอยออกไปเพราะไม่อยากทะเลาะกับใคร จึงทำให้บุญหย่อนลงในช่วงหลัง แต่ก็ยังเลื่อมใสในบุญอยู่ เพียงแต่ว่าปีติหย่อนลงมา วิบากกรรมนี้ตามมาส่งผล ทำให้แม่เกิดในตระกูลสูงแล้วก็พลัดไปอยู่บ้านนอกที่กันดาร แต่แม้มาอยู่ที่กันดารทุกคนก็ดูแลท่านอย่างดี เพราะกำลังทานบารมียังมีหล่อเลี้ยงอยู่
เพราะฉะนั้น เวลาทำงานกันเป็นทีมอย่าทะเลาะกัน ช่วยกันประคับประคองถนอมน้ำใจ ให้ใจใสๆ จะได้บุญเต็มที่
๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๘
พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่)
ที่มา https://www.dhamma01.com/book/11
ต้นฉบับ หนังสือ ที่นี่มีคำตอบ ๑
กลับสู่
สารบัญ หนังสือที่นี่มีคำตอบ