ทำบุญใหญ่หลังจากตายแล้ว
สามีของลูกมีความปรารถนาลึกๆ ว่าเกิดมาชาตินี้อยากจะทำบุญเป็นประธานกฐินสักครั้งหนึ่ง แต่ผ่านมาเนิ่นนานถึง ๙ ปี ก็ยังไม่สำเร็จ จึงทำให้ความรู้สึกนี้คาใจเรื่อยมาจนกระทั่งมีสัญญาณอันตรายเกิดขึ้นกับชีวิตสามีมีโรคประจำตัว คือ โรคเบาหวานตั้งแต่อายุ ๓๐ ปี อยู่ ๆ ก็มีอาการป่วย เหมือนคนเป็นไข้หวัด เหนื่อยหอบ เมื่อพาไปหาหมอก็พบอาการน้ำท่วมปอด และตรวจพบมะเร็งปอดขั้นที่ ๓ ทำให้ลูกตกใจมาก ลูกพาเขาไปรักษากับหมอที่เก่งที่สุด แต่อาการของเขาไม่ดีขึ้นเลย ต่อมาตรวจพบว่า มะเร็งได้ลามขึ้นไปถึงสมองแล้ว และมีอาการข้างเคียงตามมามากมาย
สามีได้เอ่ยกับลูกว่า ก่อนตาย เขาอยากทำบุญใหญ่สักครั้งในชีวิต จึงได้ขอเงินทำบุญกับลูก เพื่อเป็นประธานกฐินปี ๒๕๔๙ เมื่อลูกฟังก็อึ้งไปสักพัก เพราะเป็นจำนวนเงินที่มากเหลือเกิน ในชีวิตลูกเคยทำบุญสูงสุดก็แค่หลักหมื่น และอีกอย่างลูกต้องใช้เงินเป็นล้านบาทในการรักษาสามีตลอดระยะเวลา ๕ เดือนที่ผ่านมาแต่ด้วยความรักที่ลูกมีต่อสามีมาก และที่สำคัญเงินที่เขาขอลูกทำบุญนั้นก็เป็นเงินที่เขาเป็นคนหามาทั้งชีวิต แต่เขากลับไม่เคยเป็นผู้ได้ใช้เงินในการทำบุญใหญ่ให้ตัวเองอย่างเต็มที่เลย ลูกจึงตกลงกับเขาว่า เอาไว้ให้ขายร้านตัดเสื้อได้ก่อน แล้วลูกจะทำบุญให้ทันที
จากนั้น ลูกก็ดำเนินการขายร้านตัดเสื้อหลังจากที่สามีเสียชีวิตไปแล้ว ๕ เดือน จึงสามารถขายร้านได้ ลูกรีบตัดใจทำบุญให้สามีทันที ทั้ง ๆ ที่ลูกก็ยังไม่ค่อยจะเข้าใจอะไรมากแต่ด้วยความดีและความรักที่ทุกคนมีต่อสามีลูกจึงขอมอบบุญนี้ให้เป็นเสบียงติดตัวเขาไป
บุพกรรมใดสามีของลูกจึงได้มีโอกาสทำบุญใหญ่ที่สุดในชีวิตสำเร็จ หลังจากที่เขาตายไปแล้ว การทำบุญอย่างนี้ ชาติต่อไปสมบัติจะเกิดแก่ลูกและสามีอย่างไรคะ
คุณครูไม่ใหญ่ :
มันช้าไปนิดหนึ่ง เพราะมาทำตอนที่เขาตายไปแล้ว ซึ่งมันไม่คุ้มกัน ที่จริงเราอย่าไปเสียเวลาลังเลเลยสามีของลูกได้โอกาสทำบุญใหญ่ที่สุดในชีวิตเมื่อภายหลังตายแล้ว เพราะในอดีตระหว่างมีชีวิตอยู่ก็ไม่ค่อยจะได้ทำบุญ แต่ก่อนตายได้เขียนพินัยกรรมแบ่งมรดกเอาไว้ว่า หลังจากตายแล้วให้นำเงินไปทำบุญ เช่นสร้างวัดวาอาราม สร้างโรงเรียน โรงพยาบาล
บุญพินัยกรรมนี้มาส่งผล เพราะฉะนั้น เมื่อทำตอนตายโดยเขียนไว้ในพินัยกรรม ตายแล้วจึงมีโอกาสได้ทำบุญใหญ่เหมือนกัน ทรัพย์ได้หลังจากตายแล้ว และเขาก็เอาไปทำบุญให้การทำบุญอย่างนี้
เมื่อบุญส่งผลในภพชาติต่อไป ตัวลูกเองก็จะได้รับสมบัติแบบรับมรดกจากผู้อื่น เช่น จากพ่อแม่ จากสามี คือต้องคอยให้เขาตายก่อนเราถึงจะได้
ส่วนสามีของลูกภพชาติต่อไป ตอนมีชีวิตก็จะมีสมบัติในระดับพอเลี้ยงตัวเองได้ ไม่ลำบาก เพราะคิดทำบุญก่อนตายแต่ไม่ได้ทำ ภายหลังตัวเองตายไปแล้ว สมบัติที่ทิ้งเอาไว้จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นมากมายหลายเท่า เช่น ที่ดินของตัวตอนยังมีชีวิตอยู่ สมมติว่า ไร่ละหมื่น ไร่ละแสน พอตัวตายเขียนพินัยกรรมยกให้คนอื่นกลายเป็นไร่ละล้าน คือจะมีมูลค่าเพิ่มตอนนั้น เหมือนนักวาดภาพที่มีชื่อเสียงของโลกบางคน ตอนมีชีวิตอยู่อดอยากเกือบตายเพราะรูปที่ตัววาดขายไม่ค่อยออก แต่พอตายแล้ว ภาพที่ตัวเองวาดกลับมีมูลค่าพันล้านเจ้าของภาพนั้นได้ไป แต่คนวาดอด
๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๙
พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่)
ที่มา https://www.dhamma01.com/book/14
ต้นฉบับ หนังสือ ที่นี่มีคำตอบ ๔
กลับสู่
สารบัญ หนังสือที่นี่มีคำตอบ