๖-๑ มาตุคาม

หัดมองทุกเรื่องให้ครบวงจร อย่างเช่นเราเห็นผู้หญิงสวยอย่างนางงามจักรวาล
ถ้าเราดูไม่ครบวงจร เราจะมีความกำหนัดยินดี อยากได้ อยากสัมผัส
แต่ถ้ามองให้ครบวงจร
มองตั้งแต่เกิดจนกระทั่งตาย เดี๋ยวเกิด เดี๋ยวแก่ เดี๋ยวเจ็บ เดี๋ยวตาย
มองทั้งข้างนอก มองทั้งข้างใน พลิกเอาอวัยวะภายใน ตับ ไต ไส้ พุง ออกมาข้างนอก
ดูซิว่า เอาขึ้นไปประกวดบนเวที ใครเขาจะดูบ้าง
หัดมองอย่างนี้นะลูกนะ
วันหนึ่ง ขณะหลวงพ่อกำลังรับแขก อยู่ๆ เขาก็เล่าถึง

นางงามจักรวาล สวยอย่างนั้น สวยอย่างนี้ ชมใหญ่เลย
หลวงพ่อปล่อยให้เขาเล่าไป เล่าเสร็จ เขาหันมาถาม
หลวงพ่อพูดไปได้อย่างไรก็ไม่รู้ แต่ได้ผลนะ ไม่ได้เรียกว่าพูด เรียกว่าโพล่งมากกว่า บอกเขาว่าอย่างไรรู้ไหม
“แต่ขี้เหม็น”
เขาบอกว่า
“แหม…หลวงพ่อ”
แล้วไม่เล่าอีกเลย โพล่งทีเดียวได้ผลชะงัดเลย
ปกติหลวงพ่อไม่ใช้คำประเภทนี้ หลวงพ่อจะต้องหลบๆ เลี่ยงๆ มูลบ้าง อุจจาระบ้าง แต่วันนั้นพรวดไปเลย พูดถึงต้นกำเนิดภาษายังไม่ได้ปรุงแต่งกันไปเลยนะ คำเดียวหยุดเลย
สมัยหนึ่งเวลารับแขก จะโดนคำถามอย่างนี้บ่อย ไม่รู้เป็นอะไร
เขาถามว่า
“ถามจริงๆ เถอะท่าน เวลาเห็นผู้หญิงสาวๆ สวยๆ ท่านรู้สึกอย่างไร”
หลวงพ่อบอก
“คิดถึงแม่”
เขาบอก
“อะไรนะ เห็นผู้หญิงแล้วทำไมคิดถึงแม่”
ก็บอกเขาว่า
“เพราะว่าเป็นเพศเดียวกับแม่ผู้ให้กำเนิดมา ถ้าไม่มีอย่างนี้เราคงเกิดไม่ได้”
เพราะฉะนั้นไม่ได้คิดอย่างอื่นเลย
“คิดถึงแม่ แล้วคิดอย่างไรอีก”
ก็บอกว่า
“คิดว่าเดี๋ยวก็แก่ เดี๋ยวก็เจ็บ เดี๋ยวก็ตาย”
เขาถาม
“คิดแค่นี้เหรอ”
ก็บอกว่า
“คิดมากกว่านี้อีก คิดว่าถ้าพลิกข้างในออกมาข้างนอก แล้วเอาข้างนอกไว้ข้างในจะเป็นอย่างไร แล้วเวลาไม่อาบน้ำ มันก็เหม็นเหมือนเราอย่างนี้แหละ มันหอมด้วยของที่ชโลมมา และถ้าตายร่างกายก็จะแข็งทื่อ นานไปก็พองโต สัตว์อื่นก็มาอาศัย มาแทะ มากิน”
ก็เล่าอย่างนี้ไปเรื่อยๆ เพลินๆ แล้วก็ได้ผล ตอนหลังเขาก็ไม่ค่อยมาถามเท่าไร

เพราะฉะนั้น ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม ลูกเณรต้องหัดมองให้ครบวงจรอย่างนี้ อย่ามองตื้นๆ
จะปริยัติ ปฏิบัติก็เช่นเดียวกัน เราต้องมองให้ลึกขนาดนั้น แล้วลูกจะอยู่ได้
ผ้าผืนนี้จะเย็นฉ่ำสบายอย่างกับติดแอร์ทีเดียว ไม่ร้อนเหมือนเอาไปตากแดดย่างไฟอย่างนั้นนะลูกนะ

พระเจ้าอุเทนแห่งนครโกสัมพี
ตรัสถามพระปิณโฑลภารทวาชะว่า
“เพราะเหตุไรพระภิกษุที่ยังหนุ่มแน่น
ยังไม่หมดในความระเริงในกามทั้งหลาย
จึงสามารถบวชประพฤติพรหมจรรย์อยู่ได้นาน
หรือจนตลอดชีวิต”
พระปิณโฑลภารทวาชะตอบว่า
“ขอถวายพระพร
พระผู้มีพระภาคผู้เป็นอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระองค์ได้ตรัสไว้ดังนี้ว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
เธอทั้งหลายจงถือว่าเป็นมารดา ในสตรีปูนมารดา
จงถือว่าเป็นพี่สาวน้องสาว ในสตรีปูนพี่สาวน้องสาว
จงถือว่าเป็นธิดา ในสตรีปูนธิดา…”
สํ.สฬา.(บาลี) ๑๘/๑๙๕/๑๓๙

“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
เธอทั้งหลายจงมาพิจารณากายนี้แหละ
เบื้องบนตั้งแต่พื้นเท้าขึ้นไป
เบื้องล่างตั้งแต่ปลายผมลงมา
อันมีหนังหุ้มอยู่โดยรอบ
เต็มไปด้วยของไม่สะอาดมีประการต่างๆ ว่า
มีอยู่ในกายนี้คือ ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น
กระดูก เยื่อในกระดูก ม้าม หัวใจ ตับ พังผืด ไต
ปอด ไส้ใหญ่ ไส้น้อย อาหารใหม่ อาหารเก่า ดี เสลด
หนอง เลือด เหงื่อ มันข้น น้ำตา เปลวมัน น้ำมูก
ไขข้อ น้ำมูตร ดังนี้”
สํ.สฬา.(บาลี) ๑๘/๑๙๖/๑๔๐

โอวาท หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่)
วันที่ วันพุธที่ ๒๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๓๙
ที่มา
หนังสือ ผ้าสีสุดท้าย
อ่านในรูปแบบ EBook ที่นี่

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *