โอวาทคุณครูไม่เล็ก

“ฟังธรรมแล้ว ต้องหมั่นย้อนกลับมาดูตัวเอง”

“ฟังธรรมแล้ว ต้องหมั่นย้อนกลับมาดูตัวเอง” . คงต้องคำหนึ่งที่ปู่ย่าตาทวดเตือนกันมา คือ ฟังเทศน์ฟังธรรม แล้วอย่าเพิ่งไปนึกถึงคนอื่น ให้นึกว่า แล้วเราจะเอามาทำอย่างไรกับตัวของเรา . อย่าเพิ่งคิดว่าจะเอาไปแก้ไขคนอื่นยังไง อย่าเพิ่งคิด ให้คิดว่าจะเอาไปแก้ไขตัวเองอย่างไร เอาตรงนี้ก่อนนะ . ดูโขนดูละคร แล้วต้องย้อนกลับมาดูตัวเอง ฉันใด ได้ฟังธรรมบทไหน ก็ต้องย้อนกลับมาดูตัวเอง . ว่าเราน่ะ ได้ประพฤติตัวพอเหมาะพอสมกับธรรมบทนั้นอย่างไรบ้าง ผิดชอบ ชั่วดีอย่างไรบ้าง แล้วก็จะได้แก้ไขเสีย นี่แหละคือหัวใจของการเรียนธรรมะ . 3 สิงหา 2561 โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา

✍กว่าที่พระพุทธองค์ จะทรงสามารถสรุปคำสอนทั้งหมด มาสอนเราได้ ทรงต้องใช้เวลายาวนาน ถึงยี่สิบอสงไขยกับแสนมหากัป

✍กว่าที่พระพุทธองค์ จะทรงสามารถสรุปคำสอนทั้งหมด มาสอนเราได้ ทรงต้องใช้เวลายาวนาน ถึงยี่สิบอสงไขยกับแสนมหากัป . และการบังเกิดขึ้น ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย นานๆ จะมีบังเกิดขึ้นสักพระองค์หนึ่ง . ยิ่งกว่านั้น ก็คือ โอกาสที่จะได้ยิน ได้ฟังธรรมของพระพุทธองค์ก็เป็นเรื่องยาก . ก็ขนาดในโลกยุคนี้ พระพุทธองค์ได้มาบังเกิดขึ้นแล้ว แต่ก็ยังมีบางคน ที่ตลอดชีวิตไม่เคยได้ยินได้ฟังคำสอนของพระพุทธองค์มาก่อนเลย . เพราะฉะนั้น พระไตรปิฎก อันเป็นที่บรรจุคำสอนของพระพุทธองค์ ที่เปิดเผยความลับประจำชีวิตให้ชาวโลกได้ รู้นี้ เราต้องพยายามอ่านพระไตรปิฎกให้จบหลายๆ เที่ยว . อ่านให้ซาบซึ้งใจ ในพระมหากรุณาธิคุณของพระพุทธองค์ แล้วเราจะได้มีกำลังใจ ทุ่มชีวิตปฏิบัติธรรมตามรอยบาทของพระพุทธองค์ยิ่งๆ ขึ้นไป . แล้วก็จะเป็นเหตุให้เรา สามารถเข้าถึงธรรมะภายในไปตามลำดับ จนกระทั่งใจกับธรรมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้สำเร็จ . จากหนังสือบวชไม่เสียผ้าเหลืองฯ หน้า ๓๑ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา หนังสือบวชไม่เสียผ้าเหลืองฯ หน้า ๓๑

✍️เวลาไหน ที่เหมาะแก่การถ่ายทอดนิสัยดีๆ ให้ลูก ❓

✍️เวลาไหน ที่เหมาะแก่การถ่ายทอดนิสัยดีๆ ให้ลูก ❓ . ประโยชน์ของการกินอาหารพร้อมหน้ากันทุกวัน คือ ถ้าใครในบ้านมีปัญหาอะไรจะได้พูดกัน ไม่ต้องติดค้างอยู่ในใจ มีอะไรจะแนะนำสั่งสอนกัน ก็ใช้เวลาว่างช่วงนี้แหละเหมาะสมที่สุด เพราะท้องอิ่ม อารมณ์ดี . ยิ่งกว่านั้นยังเป็นโอกาสให้ลูกๆ ได้ถ่ายทอดนิสัยที่ดีจากพ่อแม่ โดยการเลียนแบบกิริยามารยาทในการกินอยู่ไปโดยอัตโนมัติ . จากหนังสือ ครอบครัวอบอุ่น น.134 โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา หนังสือ ครอบครัวอบอุ่น น.134

✍️”เลวมา ไม่เลวตอบ”

✍️”เลวมา ไม่เลวตอบ” . อย่าเอาความชั่วหรือความเลวของคนอื่น มาเป็นเหตุให้เราต้องทำความชั่วทำความเลวด้วยเลย เช่น เมื่อถูกใครด่าว่า ก็อย่าเอาคำด่าของคนอื่นมาเป็นเหตุให้เรา เลิกรักษาศีล แล้วไปตะโกนด่ากับเขากลับมั่ง ในฐานะชาวพุทธ นี้ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ถูกต้อง . 15 พฤศจิกายน 2558 โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา

✍การกราบการไหว้ เป็นการแสดงความเคารพ เป็นเครื่องหมายแสดงว่า เราตระหนักในความดีของคนๆ นั้น หรือสิ่งนั้นมากจริงๆ จนนิ่งเฉยอยู่ไม่ได้ ต้องเข้าไปแสดงอาการเคารพคือกราบไหว้

✍การกราบการไหว้ เป็นการแสดงความเคารพ เป็นเครื่องหมายแสดงว่า เราตระหนักในความดีของคนๆ นั้น หรือสิ่งนั้นมากจริงๆ จนนิ่งเฉยอยู่ไม่ได้ ต้องเข้าไปแสดงอาการเคารพคือกราบไหว้ . จากนั้นก็พยายามเรียนรู้ รู้จักจับจ้องดูวิธีทำความดีของท่าน และทำดีตามอย่างท่าน . ถ้าเราไม่หัดกราบไหว้มาตั้งแต่ต้น เราก็จะมีทิฏฐิมานะ ความถือตัวมาก . บางคนถึงกับมองความดีของคนอื่นไม่เห็น เห็นแต่ความผิดพลาดของเขา พยายามจับผิดเขาทุกวัน . ปัจจุบันเราจะเห็นว่าบุคคลในวงการต่างๆ พยายามจับผิดกัน นักเรียนจับผิดครูบาอาจารย์ . ครูบาอาจารย์จับผิดนักเรียน ผู้ใหญ่กับผู้น้อยก็จับผิดกัน เพื่อนร่วมงานก็จับผิดกัน ต่างไม่พูดถึงความดีของใคร เพราะมองไม่เห็น . ถ้าปล่อยให้สังคมเป็นเช่นนี้ ในไม่ช้าระบบสังคมจะล้มเหลว ก็ต้องแก้ด้วยความเคารพ คือ การจับดี . จากหนังสือครอบครัวอบอุ่น หน้า ๓๗ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา หนังสือครอบครัวอบอุ่น หน้า ๓๗

✍️” สังคมอยู่ได้ เพราะมีให้และมีรับ “

✍️” สังคมอยู่ได้ เพราะมีให้และมีรับ ” . เราควรจะให้อะไรกับเขา แล้วเราควรรับอะไรจากเขา คือมีให้และมีรับ ถ้าสังคมมีให้มีรับแบ่งปันกันอย่างนี้ สังคมจึงจะอยู่รอด . ถ้ามีแต่ รับ ไม่มี ให้ ไปไม่รอด หรือมีแต่ให้ๆๆ แล้วไม่มีรับกลับมา ก็หมด ก็ต้องชัดเจนลงไปอย่างนี้ว่า เราควรจะให้อะไรเขา แล้วเราควรจะรับอะไรจากเขา มีให้ มีรับ อย่างนี้ สังคมอยู่ได้ . 15 พฤศจิกายน 2560 โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา

✍️”เหน็ดเหนื่อยในการหา”

✍️”เหน็ดเหนื่อยในการหา” . สาเหตุประการหนึ่งที่มนุษย์ต้องดิ้นรนทำงานเหน็ดเหนื่อยกันสายตัวแทบขาดอยู่ทุกวันนี้ก็มีสาเหตุมาจากความไม่รู้จักประมาณในการใช้ทรัพย์หรือปัจจัย ๔ นั่นเอง . คนใช้สอยปัจจัย ๔ ไม่เป็น อุปมาก็เหมือนกับเข่งที่มีรูรั่วพรุนทั้งใบ การทำมาหากินของแต่ละคน อุปมาเหมือนกับการตักน้ำใส่เข่ง . ถ้าเข่งมันมีรูพรุ่นทั้งใบอย่างนั้น ต่อให้เติมน้ำเท่าไหร่ เมื่อหยุดเติมแล้ว น้ำก็ไหลออกจากเข่งหมด . ตรงกันข้ามถ้าเราอุดรูเข่งไว้เป็นอย่างดี เหลือไว้เพียงรูเล็ก ๆ เพื่อใช้ในสิ่งจำเป็น เช่น เรื่องอาหาร เรื่องเสื้อผ้า เรื่องที่อยู่อาศัย เรื่องยารักษา และเรื่องที่จำเป็นๆ . ถ้าอย่างนี้ โอกาสที่ร่างกายจะไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยเกินไปก็มีมากขึ้น โอกาสที่จะได้พักก็มาก โอกาสที่จะไม่ต้องถล่มทลายสังขารก็มีมาก . หนังสือแด่นักสร้างบารมี เล่ม ๒ (เผด็จ ทตฺตชีโว) โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา หนังสือแด่นักสร้างบารมี เล่ม ๒ (เผด็จ ทตฺตชีโว)

✍️”สิ่งที่ให้กำลังใจมนุษย์ ไม่มีอะไรเกินคำพูดที่พอเหมาะพอดีที่ถูกใจ และสิ่งที่ตัดทอนกำลังใจได้มาก ก็ไม่มีอะไรเกินคำพูดที่แสลงใจ

✍️”สิ่งที่ให้กำลังใจมนุษย์ ไม่มีอะไรเกินคำพูดที่พอเหมาะพอดีที่ถูกใจ และสิ่งที่ตัดทอนกำลังใจได้มาก ก็ไม่มีอะไรเกินคำพูดที่แสลงใจ❗️” . 18 ตุลาคม 2560 โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา

✍️”การแทนคุณอันประเสริฐ”

✍️”การแทนคุณอันประเสริฐ” . บุตรควรมีความกตัญญูกตเวที คือ รู้คุณ และตอบแทนคุณของบิดามารดา ซึ่งนอกเหนือจากการเอาใจใส่ดูแลท่านแล้ว ควรหากุศโลบายให้ท่านได้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา ได้มีโอกาสให้ทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา เพื่อเป็นทางไปสู่ความพ้นทุกข์ของท่านด้วย นี่นับว่าเป็นการแทนคุณอันประเสริฐสุด . จากหนังสือชาดก เล่มที่ ๒ (เผด็จ ทตฺตชีโว) โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา หนังสือชาดก เล่มที่ ๒ (เผด็จ ทตฺตชีโว)

✍️” หัวใจของการเผยแผ่พระพุทธศาสนา “

✍️” หัวใจของการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ” . การเผยแผ่พระพุทธศาสนาคืออะไร? คือการทำให้พระพุทธศาสนาอยู่คู่โลกต่อไปอีกนานแสนนาน เพื่อใช้ดับทุกข์ให้ชาวโลก . คำถาม เมื่อเผยแผ่เสร็จแล้ว พระพุทธศาสนาจะอยู่ที่ไหน อยู่อย่างไร ? . ตอบคือ ต้องอยู่ในใจคนให้ได้ อยู่อย่างไร คือ อยู่ด้วยความเข้าใจ แล้วนำไปทุ่มเทปฏิบัติจนกระทั่งเป็นนิสัยใจคอฝังแน่นอยู่ในใจ แล้วสุดท้ายปราบกิเลสได้หมดเลยนั่นแหละ ต้องอยู่อย่างนั้นแหละ แล้วนอกจากนั้นยังสามารถสืบทอดส่งต่อๆ กันไปได้อีกด้วย ถ้าไม่งั้นก็ไม่ได้ . 29 พฤศจิกายน 2560 โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา

✍️”คิดดี พูดดี ทำดี ให้เป็นนิสัย”

✍️”คิดดี พูดดี ทำดี ให้เป็นนิสัย” . ตั้งแต่เกิดจนกระทั่งเราต้องลาโลกไป ทุกชีวิตล้วนตกอยู่ใต้กฎแห่งกรรม ซึ่งย่อสั้นๆ ว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว . กฎแห่งกรรมนี้เป็นกฎเหล็กทีเดียว เพราะไม่ว่าจะเป็นใครก็ล้วนตกอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรมทั้งสิ้น ใครจะรู้จักกฎแห่งกรรมหรือไม่รู้ แต่ทุกอนุวินาที เขาก็ตกอยู่ใต้กฎแห่งกรรม . ปฏิเสธไม่ได้ว่ารู้หรือไม่รู้ เหมือนไฟ ที่ไม่ว่าใครจะรู้หรือไม่รู้ ไปโดนเข้าเป็นได้ร้อน เป็นได้โดนลวกกัน . ตรงนี้นี่เองที่อยากจะฝากเป็นข้อคิดของพวกเรา ข้อคิดก็คือ ในเรื่องของการคิดดี พูดดี ทำดีนั้น ต้องหมั่นฝึกให้เป็นนิสัย . ถ้าไม่ฝึกให้เป็นนิสัยแล้ว เรามีโอกาสที่จะพลาด คิดไม่ดี พูดไม่ดี ทำไม่ดีได้ ซึ่งจะกลายเป็นการสั่งสมบาปเอาไว้ในตัว นอกจากนั้นหากเกิดเป็นนิสัยไม่ดีขึ้นแล้ว ก็จะแก้ไขได้ยาก . 12 มกราคม 2558 โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา

✍️” เห็นคุณยายบ้วนน้ำลาย จึงได้รู้ว่าเจอครูแล้ว “

✍️” เห็นคุณยายบ้วนน้ำลาย จึงได้รู้ว่าเจอครูแล้ว ” . หลวงพ่อตามหาครูบาอาจารย์มาเยอะ มาเจอคุณยายอาจารย์ของเราบ้วนน้ำลายเท่านั้นล่ะ หลวงพ่อรู้เลยว่าได้เจอครูบาอาจารย์แล้ว . เพราะเวลาคุณยายจะบ้วนน้ำลาย คุณยายจะมีกระดาษประมาณเท่าแผ่น A4 ตัดเป็นสี่ส่วน วางเอาไว้ข้างๆ ตัวยาย เวลาบ้วนน้ำลายทีหนึ่งใส่แผ่น บ้วนน้ำลายทีใส่แผ่น . ถามคุณยายว่าใส่ลงไปทำไม คุณยายก็ตอบว่า ยายแก่แล้วเราทิ้งเองไม่ได้ต้องให้หลานๆ ช่วยเทกระโถน เพราะฉะนั้น ถ้าบ้วนน้ำลาย ล้างมือหรือสั่งน้ำมูกอะไรลงไป มันลอยอยู่อย่างนั้น แมลงหวี่ แมลงวันมันก็มากวน ญาติโยมที่เขามา เขาเห็นเขาก็จะรังเกียจ หลานๆ มันจะเอาไปเทมันก็จะรังเกียจ . แต่ถ้ายายใส่กระดาษไปแบบนี้ เวลามันไปเทเห็นเป็นกระดาษชื้นๆ มันก็ไม่รังเกียจ แม้หลานตัวเองก็ยังต้องคิดเยอะขนาดนี้ นี้เป็นตัวอย่างของการเอาใจเขาใส่ใจเรา เอาใจเราใส่ใจเขา . 29 พฤศจิกายน 2560 โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา

✍️”ใจที่ขุ่นมัวเป็นทางมาของกรรมชั่ว”

✍️”ใจที่ขุ่นมัวเป็นทางมาของกรรมชั่ว” . ชีวิตคนเราในแต่ละวัน ต่างมีเรื่องที่ต้องให้คิดสารพัดเรื่อง และโดยมากก็มักทำให้ใจขุ่นมัว เมื่อเป็นอย่างนี้เราในฐานะชาวพุทธจึงต้องหมั่นเตือนตัวเองว่า เราจะต้องพยายามทำใจของเราให้ผ่องใสให้ได้อยู่ตลอดเวลา ตลอดทั้งวัน . นี่เป็นหลักวิชชาที่สำคัญมาก หรือถ้ามีเรื่องอะไรมากระทบให้ใจขุ่นมัว ต้องรีบเลิกทันทีทันใด พอรู้ตัวต้องรีบหยุดตัวเอง ไม่งั้นขาดทุน . มันเรื่องอะไรเล่าที่จะปล่อยให้ใจของเราขุ่นมัวต่อไป เพราะถ้าใจขุ่นมัวใจหมองแล้ว เรื่องความดีจะคิดไม่ออก เรื่องบุญกุศล เรื่องดีๆ เรื่องสร้างสรรค์คิดไม่ออก . นอกจากนั้นทุกอนุวินาทีใจคิดไม่ยอมหยุด เพราะฉะนั้น เมื่อเราไม่หยุดตัวเอง ไม่เบรกตัวเอง เมื่อเผลอไปคิดเรื่องขุ่นมัวๆ หมองๆ เข้า ใจก็จะคิดเรื่องขุ่นมัวไม่ยอมหยุด . กลายเป็นว่าเรานี่เพิ่มบาปให้กับตัว เรานี่กำลังเพิ่มทุกข์ให้กับตัวเอง เรานี่กำลังทำลายตัวเอง ตรงนี้ต้องชัดเจน . เพราะฉะนั้น การที่จะต้องระมัดระวังตัวเองให้ใจผ่องใสอยู่ตลอดเวลา จึงเป็นหน้าที่ของทุกๆ คน . เพราะว่าต้องรู้ไว้นะ โลกนี้น่ะอยู่ใต้กฎแห่งกรรม เรื่องที่ทำให้ใจขุ่นมัวทั้งหลาย คือ ทางมาของกรรมชั่วทั้งหลาย ที่มันจะไหลมาสู่ใจของเราตามมาอีกมากมายเลย . 4 มกราคม 2559 โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา

✍️ “อบายมุข เสียเวลา เสียงาน เสียทรัพย์ เสียคน”

✍️ “อบายมุข เสียเวลา เสียงาน เสียทรัพย์ เสียคน” ❗️❗️❗️ . ดูให้ชัด อบายมุขทุกประเภท ขั้นต้น ทำให้เสียเวลาก่อน ตามมาด้วยเสียการงาน การงานที่ควรจะทำให้เกิดทรัพย์สินเงินทองอะไรเพิ่ม เสียหมด . เสียเวลา เสียการงานที่ควรจะได้ทำ เสียความดีที่ควรจะได้ทำ แล้วก็ตามมาด้วยเสียทรัพย์ แล้วก็ตามมาด้วยเสียคน คือกลายเป็นคนไม่รับผิดชอบต่อความดีใดๆ . มันเป็นสเต็ปๆ เพราะฉะนั้น อย่าได้มองผ่าน เสียเวลา เสียการงาน เสียทรัพย์ และท้ายที่สุดคือ เสียคน . . 23 สิงหาคม 2560 โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา

✍️”ใจที่ผ่องใส คือ ใจที่มีพลัง”

✍️”ใจที่ผ่องใส คือ ใจที่มีพลัง” . วันหนึ่งๆ ของคนเรา ตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมาก็มีเรื่องคิดไม่หยุดจนกระทั่งกลับเข้านอน แต่จะมีใครสักกี่คนที่ถามตัวเองว่า เรื่องที่คิดในแต่ละวันนั้น ระหว่างเรื่องที่ทำให้ใจเป็นบุญใจผ่องใสและเรื่องที่ทำให้ใจขุ่นมัว อย่างไหนมากกว่ากัน . ยิ่งไปกว่านั้น เวลาไปกระทบเรื่องอะไรที่ทำให้ใจขุ่นมัว แทนที่จะรีบเบรกตัวเอง ให้หยุดๆๆๆ กลับยิ่งหยิบยกเรื่องขุ่นมัวเหล่านี้มาวิจารณ์กันเละเทะไปหมด . เลยกลายเป็นว่า เอาความขุ่นมัวมาเพิ่มให้กับใจตัวเองกันทุกวันๆ โดยไม่รู้สึกตัว จนกระทั่งการคิดถึงเรื่องที่ทำให้ใจขุ่นมัวเหล่านี้ กลายเป็นเรื่องปกติไป ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือว่า ผิดหลักธรรมในพระพุทธศาสนาแล้วนะ เพราะว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสเตือนเอาไว้แล้วว่า หน้าที่ของมนุษย์ ถ้าจะให้มีชีวิตปลอดภัยมีแต่ความสุขความเจริญ ต้องพยายามทำใจให้ผ่องใสเข้าไว้ . ถ้าใจผ่องใสแล้วจะได้มีกำลังใจในการที่จะเลือกคิด พูด และทำในสิ่งที่ดีที่งาม เลือกคิดในสิ่งที่จะเป็นประโยชน์ต่อชีวิตตัวเองและผู้อื่นตลอดจนคนทั้งโลก โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา