โอวาทคุณครูไม่เล็ก

✍หลวงพ่อเองเมื่อถึงคราวครบรอบวันคล้ายวันเกิดของตัวเองในแต่ละปีก็ชอบที่จะนึกทบทวนถึงความหลัง รำพึงถึงตัวเอง ถามตัวเอง…

✍หลวงพ่อเองเมื่อถึงคราวครบรอบวันคล้ายวันเกิดของตัวเองในแต่ละปีก็ชอบที่จะนึกทบทวนถึงความหลัง รำพึงถึงตัวเอง ถามตัวเอง… . ว่าทำไมเราจึงได้สร้างบุญสร้างบารมีมาได้ยืดเยื้อถึงวันนี้ ทั้งๆ ที่มีอุปสรรคขวากหนามรอบด้านขนาดนั้น . โดยเฉพาะงานสร้างวัดสร้างธุดงคสถานนี่ เป็นงานใหญ่มาก . ลูกเอ๋ย อุปสรรคทำไมจะไม่รู้ว่ามาก แต่หลวงพ่อก็ไม่เคยคิดท้อถอย เดินหน้าเรื่อยไป . ที่มา : หนังสือมองอย่างนักคิดทำอย่างนักสู้ หน้า ๓ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา หนังสือมองอย่างนักคิดทำอย่างนักสู้ หน้า ๓

✍ผิด-เกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์เพราะปัญญามันหย่อน พลาด-เกิดจากความเผลอสติเพราะสติมันหย่อนไป

✍ผิด-เกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์เพราะปัญญามันหย่อน พลาด-เกิดจากความเผลอสติเพราะสติมันหย่อนไป . แต่ที่ถึงขั้นชั่วขั้นเลวนั้น เพราะรู้ว่าผิด รู้ว่าจะเกิดความเสียหายแล้วยังขืนทำ ทำผิดทั้งรู้เรียกว่าทำชั่ว-ทำเลว . ผู้ที่จะเจริญงอกงามในพระพุทธศาสนาได้ ต้องมีลักษณะอย่างหนึ่งคือ เป็นคนประเภทที่ไม่ยอมทำความชั่ว ไม่ยอมเป็นคนเลว . ผิดก็ยอมรับว่าผิด พลาดก็ยอมรับว่าพลาด แต่ว่าเมื่อผิดเมื่อพลาดแล้วครั้งหนึ่ง จะไม่ยอมให้ผิดซ้ำพลาดซ้ำอีก เพราะรู้ว่าจะกลายเป็นชั่วเป็นเลว . ถ้าพระภิกษุสามเณรรูปใดสำนึกในเรื่องนี้อยู่เสมอ ความใฝ่ใจในการศึกษาพระธรรมวินัยจะมีมาก . ใจจะยกสูงขึ้นตามลำดับ ความบริสุทธิ์กาย วาจาใจ ก็จะเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว มีกำลังใจที่จะสร้างบุญสร้างบารมีแบบเอาชีวิตเป็นเดิมพันทีเดียว จากหนังสือ มองอย่างนักคิดทำอย่างนักสู้ หน้า ๒ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา หนังสือ มองอย่างนักคิดทำอย่างนักสู้ หน้า ๒

ใจประดุจแผ่นดิน

ใจประดุจแผ่นดิน ก็คือ ใจของคนเราส่วนใหญ่ ไม่เหมือนแผ่นดิน แต่เหมือนขี้ผึ้งลนไฟ มันอ่อนปวกเปียกๆ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เคยตรัสเรื่องใจเหมือนแผ่นดิน กับพระราหุลว่า.. . “แผ่นดินนี้ ใครเอาน้ำหอมไปรดไปราดมัน มันดีใจไหม ไม่ดีใจ มันก็เฉยๆ เอาของเหม็นไปรดไปราด มันทุกข์ใจไหม มันก็เฉยๆ ราหุล…เธอทำใจให้ได้อย่างนั้นแหละ ใครมาทำอะไร เธอก็อย่าไป เอาเรื่องเอาราวกับเขา ตั้งใจปฏิบัติธรรมของเธอไป แล้วเธอจะหมดกิเลสได้เร็ว” . ถ้าทำใจเหมือนแผ่นดินได้อย่างนี้ ธรรมะต่างๆ ที่จะงอกงามขึ้นมาในใจก็อยู่แค่เอื้อม แต่เพราะคนเราใจไม่หนักแน่น เขาด่า เขาว่าเข้าหน่อย เจ็บใจ ทั้งๆ ที่มันก็แค่ลมมากระทบหู พัดลมเป่า ยังแรงกว่านั้นอีก ลมปากเป่าเบาๆ หน่อยเดียว อุ๊ย! เจ็บใจ ถ้าอย่างนี้ก็คงมีเรื่องเจ็บช้ำน้ำใจไปตลอดชาติ . เพราะฉะนั้น ใครทำใจหนักแน่นเหมือนแผ่นดินได้ ก็จะเป็นฐานรองรับคุณธรรมความดีต่างๆ ให้งอกงามในจิตใจอย่างสูงส่งยิ่งขึ้นไป พาให้ใจสงบสุขได้ เป็นชั้นที่ 4 และจะส่งต่อให้ใจสงบสุข ยิ่งๆ ขึ้นไป . ครอบครัวใดก็ตาม ที่ทั้งสามีภรรยา หรือพ่อแม่ลูกต่างก็ถือหลักร่วมกันอย่างนี้ …

ใจประดุจแผ่นดิน Read More »

“นิสัยกำกับความเสื่อมความเจริญ”

“นิสัยกำกับความเสื่อมความเจริญ” (Clip 1.54 น.) “ถ้านิสัยของคนใดดี อยู่ในครอบครัวไหนก็จะช่วยนำพาครอบครัวนั้นให้เจริญ อยู่ประเทศไหน ประเทศนั้นเจริญ นับถือศาสนาไหน ศาสนานั้นก็เจริญ นิสัยดี มีฤทธิ์อย่างนี้…” โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา

✍”ใครทำกายเหมือนผ้าเช็ดเท้าได้ ก็เป็นการลดการกระทบกระทั่งทางกาย พาให้ใจสงบสุขได้เป็นชั้นที่ ๓”

✍”ใครทำกายเหมือนผ้าเช็ดเท้าได้ ก็เป็นการลดการกระทบกระทั่งทางกาย พาให้ใจสงบสุขได้เป็นชั้นที่ ๓” . ที่ว่ากายเหมือนผ้าเช็ดเท้า ก็คือธรรมดาผ้าเช็ดเท้า เวลาใครเอาเท้าสกปรกๆ มาเช็ด มันเคยบ่นไหม ไม่เห็นมันบ่นเลย ไม่มีผ้าเช็ดเท้าบ้านไหนบ่นได้ . ปูย่าตายายใช้อุปมานี้ ท่านตั้งใจจะเตือนว่า คนเราจะทำงานอะไรก็ทำให้เต็มกำลังลงไป เป็นคนไม่ถือเนื้อถือตัว ไม่เลือกงาน และขอให้งานนั้นเป็นงานอาชีพ สุจริตก็ทำเข้าไป . คุณยายฯ ท่านพูดเสมอๆ ว่า ตั้งแต่เป็นเด็กมาแล้วถ้ามันถึงคราวจะต้องไปรับจ้างเขาเทกระโถนล้างกระโถนก็เอาเพราะมันเป็นอาชีพบริสุทธิ์ แต่จะให้ไปลักขโมยใครเขา หัวเด็ดตีนขาดยายไม่ยอมทำ . จะทำกายอย่างกับผ้าเช็ดเท้า ใครจะโขกจะสับอย่างไรก็ยอมล่ะ เพื่อให้ได้อาชีพที่สุจริต แต่จะให้ไปโกงไปกินเขา เพื่อจะได้แต่งตัวสวยๆ ไม่เอาเด็ดขาด . เพราะฉะนั้น ใครทำกายเหมือนผ้าเช็ดเท้าได้ ก็เป็นการลดการกระทบกระทั่งทางกาย พาให้ใจสงบสุขได้เป็นชั้นที่ ๓ ที่มา : หนังสือครอบครัวอบอุ่น หน้า ๓๐ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา หนังสือครอบครัวอบอุ่น หน้า ๓๐

✍️” เรื่องที่ซ่อนอยู่ใน กตัญญูกตเวที “

✍️” เรื่องที่ซ่อนอยู่ใน กตัญญูกตเวที ” . กตัญญู แปลว่า รู้คุณที่ผู้อื่นทำกับตน กตเวทีเป็นเรื่องประกาศคุณแล้วก็ตอบแทนคุณด้วย รวมแล้วมีอยู่ ๓ สเต็ป . รู้คุณเป็นเรื่องของกตัญญู กตเวทีแบ่งอีก ๒ สเต็ปอีก คือประกาศคุณแล้วก็ตอบแทนคุณ ตกลงเราพูดถึงกตัญญูกตเวทีแท้ที่จริงน่ะ มี ๓ เรื่องซ้อนกันอยู่นี่ล่ะ . บางพวกรู้คุณที่คนอื่นทำกับตน แต่ก็ไม่ได้คิดจะประกาศคุณและตอบแทนคุณ . พวกที่ดีขึ้นมาอีกคือ นอกจากรู้คุณแล้ว ก็ประกาศคุณด้วยแต่ไม่ได้ตอบแทนคุณ . แต่อีกพวกที่เจ๋งไปกว่านั้น นอกจากประกาศคุณแล้ว หาทางตอบแทนคุณ . แต่ตอนตอบแทนนี่ ไม่หมูเลย ความยากอยู่ตรงนี้ ยากมาเป็นสเต็ปๆ ตั้งแต่รู้คุณ ประกาศคุณ ตอบแทนคุณ . 29 พฤศจิกายน 2560 โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา

“คนที่ไม่เคยทำอะไรเป็นเวลา จะติดนิสัยเอาแต่ใจตัวเอง”

“คนที่ไม่เคยทำอะไรเป็นเวลา จะติดนิสัยเอาแต่ใจตัวเอง” อยู่ดีๆจะกำหนดให้ทำเสร็จภายในเวลาเท่านั้นเท่านี้ เขาจะอึดอัดทำไม่ได้ เพราะฝึกวินัยมาน้อย แต่ทำตามใจ ทำตามอารมณ์มามาก จึงยาก จะทำอะไรได้สำเร็จ ตามแผนงาน . เนื้อหาบางส่วนจากหนังสือ ครอบครัวอบอุ่น โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา หนังสือ ครอบครัวอบอุ่น

✍️”ไม่มีสิ่งใด ให้กำลังใจได้เร็วเท่าคำพูด”

✍️”ไม่มีสิ่งใด ให้กำลังใจได้เร็วเท่าคำพูด” . ผู้หลักผู้ใหญ่ได้ให้ข้อคิดไว้เตือนสติว่า “อยู่คนเดียวให้ระวังความคิด อยู่กับมิตรให้ระวังคำวาจา” . การพูดจาแม้พูดดีๆ แต่ขาดการระมัดระวัง บางทีก็อาจทำให้เกิดเข้าใจผิดกันได้ ยิ่งถ้าพูดไม่เพราะแล้ว ย่อมจะเกิดการกระทบกระทั่งกันได้ง่าย . ถ้าไม่ระวังคำพูด คนที่เคยเป็นมิตรกันก็อาจกลายเป็นศัตรูกันไปได้ แล้วความเดือดร้อนเบียดเบียนกันจะตามมา . จึงพึงระลึกไว้เสมอว่า “ไม่มีสิ่งใดที่จะทำให้คนเราเกิดกำลังใจได้เร็วเท่ากับคำพูด ในทางกลับกันก็ไม่มีสิ่งใดที่บั่นทอนกำลังใจคนได้ฉับพลันเท่ากับคำพูด” . เพราะเหตุนี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงตรัสเตือนว่า “พึงเปล่งวาจางามเท่านั้น ไม่พึงเปล่งวาจาชั่วเลย การเปล่งวาจางามยังประโยชน์ให้สำเร็จ คนเปล่งวาจาชั่วย่อมเดือดร้อน” . จากหนังสือ สิงคาลกสูตร(เผด็จ ทตฺตชีโว) หน้า ๑๐๓ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา หนังสือ สิงคาลกสูตร(เผด็จ ทตฺตชีโว) หน้า ๑๐๓

✍️”วันเกิด วันที่วิกฤติที่สุดในชีวิต”

✍️”วันเกิด วันที่วิกฤติที่สุดในชีวิต” . บางท่านถามหลวงพ่อว่า “ในการที่จะนึกถึงพระคุณพ่อพระคุณแม่ให้ได้ลึกซึ้งมากๆ ยิ่งขึ้นนั้น หลวงพ่อพอจะมีคำแนะนำบ้างหรือไม่” . ถ้าใครไม่เคยถาม…ก็ให้ถามตัวเองว่า “วันที่วิกฤตที่สุดในชีวิตของเรา คือ วันใด” . วันที่วิกฤตที่สุดในชีวิตของเรา คือ วันเกิดของเรานั่นเอง วันเกิดนั้นเป็นวันวิกฤตที่สุดในชีวิตของมนุษย์วันหนึ่งทีเดียว และวันนี้แหละถ้าคิดให้ดี จะรักคุณพ่อคุณแม่ขึ้นมาอีกมาก . เมื่อวันเกิดของเรา เป็นวันที่อ่อนแอที่สุดในชีวิต เป็นช่วงที่อ่อนแอที่สุดในชีวิตของมนุษย์ ไม่มีช่วงไหนจะอ่อนแอกว่านี้อีกแล้ว . เรื่องช่วยตัวเองไม่ต้องพูดถึง เพราะเราไม่มีเรี่ยวมีแรง และในวันนั้น เป็นวันที่โง่ที่สุดในชีวิต เพราะไม่รู้อะไรเลย มนุษย์เวลาเกิดมานั้นเกิดมาพร้อมกับความไม่รู้ ไม่มีใครรู้อะไรเลย ทุกอย่างต้องมาเรียนรู้ในภายหลังทั้งสิ้น . เพราะฉะนั้น ในวันเกิดของเรา กำลังกายที่จะช่วยตัวเองก็ไม่มี กำลังสติปัญญาที่จะช่วยตัวเองก็ไม่มี ยิ่งไปกว่านั้นวันเกิด เป็นวันที่จนที่สุด ไม่มีสมบัติอะไรติดตัวมาเลยแม้สักชิ้น จนที่สุดในโลก . ในวันเกิดของเรานั้น ถ้าคุณพ่อคุณแม่ของเรา เพียงแค่ท่านขี้เกียจเลี้ยงเรา เราก็เป็นแค่ขยะก้อนเดียวเท่านั้น . แต่ปรากฏว่า คุณพ่อคุณแม่ของเราไม่ได้เป็นอย่างนั้น แม้ใครจะมาบอกว่า “อย่าเลี้ยงมันเลย เลี้ยงลูกคน จนไปเจ็ดปีนะ” แม้จะต้องจน …

✍️”วันเกิด วันที่วิกฤติที่สุดในชีวิต” Read More »

“จะฝึกคุณธรรมอะไรก็ตาม ต้องฝึกผ่านงาน”

“จะฝึกคุณธรรมอะไรก็ตาม ต้องฝึกผ่านงาน” . ถ้าไม่มีงาน ก็จะไม่ได้ฝึกอะไร แต่ถ้าฝึกผ่านงาน คุณธรรมอะไรที่อยากได้ ก็จะได้หมด . แล้วไม่ว่าใครก็ตามที่ฝึกผ่านงาน คุณธรรมสิ่งแรกที่จะได้มาโดยอัตโนมัติเลยคือ สัจจะ หมายถึงทำอะไรต้องดี . พอคิดว่าจะเอาดี ความจริงจังจริงใจและความตรงไปตรงมามันจะออกมา จริงคือไม่เล่น ตรงคือไม่คด ไม่มีพิษภัย แท้คือคุณภาพมันได้ สัจจะมันได้ผ่านการทำงานมาแบบนี้ . แล้วสัจจะในการทำงานนี้จะบังคับต่อให้เราต้องมี ทมะ คือต้องฝึก ไม่ฝึกไม่ได้ พอฝึกแล้วจะรู้ว่าตนเองมีทั้งข้อบกพร่องและข้อเด่น พอพบข้อบกพร่องแล้วจะรู้ตัวว่า เราต้องหยุด เพราะฉะนั้นทมะก็เลยแปลว่าหยุด . แล้วไปเจออะไรที่เจ๋งก็ฝึกให้ยิ่งขึ้นไป เมื่อเจ๋งแล้ว อย่าจองหอง อย่าอหังการ ข่มเอาไว้ด้วยว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า . จากสัจจะมาทมะ สัจจะคือ จริง ตรง แท้ ส่วนทมะคือ ฝึก หยุด ข่ม แล้วขณะที่ฝึกอยู่นี้เอง หนีไม่พ้นที่ขันติจะต้องมาคือ อดทน . ฝึกทนแดดทนฝนนั่นเรื่องเล็ก แต่ที่ต้องฝึกให้มาก คือ ฝึกทนกระทบกระทั่งกับทนกิเลส อันนี้ยากขึ้นมา …

“จะฝึกคุณธรรมอะไรก็ตาม ต้องฝึกผ่านงาน” Read More »

✍️”นายทุนที่ใจดีที่สุดในโลก”

✍️”นายทุนที่ใจดีที่สุดในโลก” . ถ้าเปรียบมารดาและบิดาเป็นนายทุนออกเงินกู้ ก็เป็นนายทุนที่ใจดีที่สุดในโลก . เพราะนอกจากจะไม่คิดดอกเบี้ยเงินกู้แล้ว ยังไม่เคยอนาทรร้อนใจเลยว่า ลูกหนี้จะชำระหนี้คืนให้หรือไม่ มิหนำซ้ำเมื่อบุตรออกจากเรือนไปแล้ว ยังแถมมรดกของตน (ถ้ามี) ให้ไปทำทุนอีกด้วย . เป็นนายทุนที่ไม่หน้าเลือด แต่มีเมตตาธรรมอย่างสูงที่บุตรจะพึงหาได้ในโลกนี้ ก็มีเฉพาะบุพการีของตนเท่านั้น . นี่คือ พระคุณอันยิ่งใหญ่ของมารดาและบิดาที่มีต่อบุตรประการหนึ่ง . จากหนังสือคัมภีร์ปฏิรูปมนุษย์ หน้า ๑๑๔-๑๑๕ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา หนังสือคัมภีร์ปฏิรูปมนุษย์ หน้า ๑๑๔-๑๑๕

✍️”เวลาทำงาน อย่าเพาะนิสัยมักง่าย

✍️”เวลาทำงาน อย่าเพาะนิสัยมักง่าย❗️” . ขณะที่ทำงาน สิ่งที่น่ากลัวที่สุด คือ การเพาะนิสัยมักง่าย เพราะสิ่งที่เรามักง่ายเหล่านั้น มันจะย้อนกลับมาเป็นภัยต่อตัวเราเองในภายหลัง . 11 ตุลาคม 2560 โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา

“ใจอยู่ข้างนอกเมื่อไหร่เดี๋ยวบาปเกิด ใจอยู่ข้างในเดี๋ยวบุญเกิด”

“ใจอยู่ข้างนอกเมื่อไหร่เดี๋ยวบาปเกิด ใจอยู่ข้างในเดี๋ยวบุญเกิด” . คุณยายบอกว่า ตรวจตรามาทั้งหมดโลกแล้ว มีบุญกับบาปเท่านั้น ทั้งโลกไม่มีอะไร มีอยู่แค่บุญกับบาป . ถ้าใจอยู่ข้างนอก ใจหลุดออกไปข้างนอกเมื่อไหร่ เดี๋ยวเรื่องบาปก็จะแทรกเข้ามาได้ ถ้าใจอยู่ข้างในเมื่อไหร่ บุญเกิดเป็นสายเหมือนสายฝน บาปเกิดไม่ได้ ต้องจำเป็นหลักให้ดี . ข้างนอกกับข้างใน ใจอยู่ข้างนอกเมื่อไหร่เดี๋ยวบาปเกิด ใจอยู่ข้างในเดี๋ยวบุญเกิด อยู่ตรงนี้ . คนเราสำคัญอยู่ที่บุญกับบาป คือ บุญมากก็เป็นสุข บาปมากก็เป็นทุกข์ แต่ว่าบุญจะมาก มีข้อแม้ใจต้องอยู่ข้างในตัว . แต่สิ่งที่ไม่น่าเชื่อคือ ยิ่งตัวเราเองหรือรอบตัวสกปรกเท่าไร ใจจะไม่ยอมอยู่กับตัว วิ่งออกข้างนอกหมด . ตื่นเช้ามาใจกำลังดี ๆ อารมณ์กำลังดี ๆ ไปได้ยินคำพูดอะไรไปไม่เข้าท่า ใจวิ่งออกจะไปลุยกับเขาแล้ว ได้กลิ่นอะไรไม่เข้าท่า ใจไม่อยู่กับตัว เห็นข้าวของอะไรมันสกปรก เดี๋ยวจะออกไปลุยกันเสีย . ในทางกลับกัน เมื่อตัวเราและรอบตัวเรา อะไร ๆ ก็สะอาดไปหมด ใจจะนิ่งขึ้นมา แล้วใจรักที่จะอยู่ในตัว . แต่มีข้อแม้ สะอาดเพราะมือเรา …

“ใจอยู่ข้างนอกเมื่อไหร่เดี๋ยวบาปเกิด ใจอยู่ข้างในเดี๋ยวบุญเกิด” Read More »

✍”หัวใจของนักบริหาร อยู่ที่การตัดสินใจเมื่อพบปัญหา”

✍”หัวใจของนักบริหาร อยู่ที่การตัดสินใจเมื่อพบปัญหา” . ผู้ที่มีหลักธรรมยึดมั่นประจำใจ การมองปัญหาการแก้ปัญหาของเขา ก็จะไม่ใช้วิธีที่ส่งผลไปในทางชั่วร้าย . สมมติว่าเมื่อองค์กรเกิดภาวะขาดทุน ก็ไม่หารายได้ชดเชยด้วยวิธีการทุจริตหรือผิดศีลธรรม เช่น คดโกง หรือค้ายาเสพติดเป็นการแก้ปัญหา . ขณะคิดแก้ปัญหาก็มีสติควบคุม ไม่ใช้อารมณ์เป็นใหญ่ เช่น เกิดโทสะว่าร้าย หรือทำร้ายผู้อื่นซึ่งจะเป็นการเพิ่มปัญหาให้ยุ่งยากซับช้อนยิ่งขึ้นไปอีก . ฉะนั้นการเป็นนักบริหารที่ดี จะอาศัยความเก่งอย่างเดียวไม่พอ ต้องอาศัยหลักธรรมประจำใจ รู้ว่าอะไรดี อะไรชั่ว อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ . การที่คนเราจะมีปัญญาคิดอย่างนี้ได้ จิตใจของเขาจะต้องผูกยึดกับหลักธรรมตลอดเวลา . จากหนังสือหลักการบริหารตามพุทธวิธี หน้า ๖ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา หนังสือหลักการบริหารตามพุทธวิธี หน้า ๖

✍️” เวลาผ่านเลยไป พร้อมความแข็งแรงและโอกาส “

✍️” เวลาผ่านเลยไป พร้อมความแข็งแรงและโอกาส ” . เวลาให้ความยุติธรรมวันละ ๒๔ ชั่วโมงเท่ากันก็ดี แต่มันมีความโหดอยู่ในตัวคือ คุณจะเอาเวลานี้ไปใช้หรือไม่ใช้ มันไม่ว่าคุณ เพราะมันให้คุณมาฟรีๆ แต่พอเวลามันจากไปแล้ว . ๑. เวลามันจากไป มันไม่ย้อนกลับมาอีกนะ ไม่เคยที่จะคอยใคร ผ่านแล้วก็ผ่านไป . ๒. มันเอาความแก่ ความเจ็บ ความตายมาฝากเราด้วย ไปท้วงมันก็ไม่ได้ ยินดีจะรับหรือไม่รับ มันก็เอามายัดเยียดให้ . ๓. โอกาสจังหวะที่ดีๆ ก็หมดไปด้วย จังหวะนี้ควรจะเรียนแล้วเราไม่เรียน หมดโอกาสแล้ว จังหวะนี้ควรจะทำอะไรดีๆ แล้วไม่ทำ มันหมดโอกาสแล้ว มันผ่านแล้วผ่านเลย ตรงนี้เองก็เป็นสิ่งที่เราต้องคิดมองเวลาให้ดีว่ามันเป็นอย่างนี้ . แต่ละวันที่ผ่านไป ใครมีความสามารถในด้านความคิดในการจัดระเบียบเวลาได้ลงตัวได้ดีเท่าไร เขาก็จะบริหารเวลาจัดระเบียบในการที่จะแบ่งใช้ทำงานอันนั้น อันนี้ อันโน้นได้ดีเท่านั้น . แล้วจะเกิดผลเป็นรวยเป็นจนจากตัวเขา เกิดผลเป็นบุญเป็นบาปของตัวเขา เป็นผลปิดนรกเปิดสวรรค์ในตัวเขาได้ มันอยู่ตรงนั้นนะ พอเวลาที่เราจัดระเบียบให้ดีล่ะ มันมีผลอย่างนี้ . 6 ธันวาคม 2560 …

✍️” เวลาผ่านเลยไป พร้อมความแข็งแรงและโอกาส “ Read More »