โอวาทคุณครูไม่เล็ก

สิ่งที่แสดงว่าเขาขาดความจริงใจต่อเรา คือ การพูดเท็จนั่นเอง

สิ่งที่แสดงว่าเขาขาดความจริงใจต่อเรา คือ การพูดเท็จนั่นเอง . จำไว้นะลูก ใครก็ตามที่รักเรา ถ้าเราพูดเท็จกับเขา เขาก็จะหมดรักเรา . แล้วถ้าเขาพูดเท็จกับเรา เราก็จะหมดรักเขาเช่นกัน . ใครๆ ก็ต้องการความจริงใจด้วยกันทั้งนั้น . จากหนังสือครอบครัวอบอุ่น หน้า ๒๖๒ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา หนังสือครอบครัวอบอุ่น หน้า ๒๖๒

✍เมื่อมีความผิดปกติเกี่ยวกับสุขภาพ อย่าเพิ่งไปคิดพึ่งใคร ต้องคิดพึ่งตัวเองเป็นอันดับแรก

✍อยากฝากพวกเราไว้ว่า เมื่อมีความผิดปกติเกี่ยวกับสุขภาพ อย่าเพิ่งไปคิดพึ่งใคร ต้องคิดพึ่งตัวเองเป็นอันดับแรก . ฝึกสาวจากผลที่เกิดขึ้นไปหาต้นเหตุ ด้วยการสำรวจตัวเอง ด้วยการนึกทบทวนก่อนว่า . สิ่งที่เราประพฤติในวันนี้ หรือวันอื่นๆ ที่ผ่านมา มีความผิดพลาดอะไรกับตัวเราบ้าง การนึกทบทวนนี้ บางทีอาจจะผิดหรืออาจจะถูกก็ได้ . แล้วนำไปเล่าให้หมอฟัง หมอซึ่งมีความชำนาญมากกว่าเรา จะช่วยตัดสินให้เราได้ว่า สิ่งที่เราสันนิษฐานนั้นผิดหรือถูก ใช่หรือไม่ใช่ . และถ้าหมอได้ข้อมูลถูก หมอก็สามารถมุ่งไปแก้ไขรักษาที่ต้นเหตุ ไม่นานพวกเราก็หายป่วย . จากหนังสือสุขภาพนักสร้างบารมี หน้า ๕๕ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา หนังสือสุขภาพนักสร้างบารมี หน้า ๕๕

✍️ มรรคมีองค์ ๘ จุดเริ่มต้นมาจากสัมมาทิฐิ เริ่มมาจากกัลยาณมิตร เป็นองค์ประกอบภายนอก โยนิโสมนสิการเป็นกัลยาณมิตรภายใน

✍️ มรรคมีองค์ ๘ จุดเริ่มต้นมาจากสัมมาทิฐิ เริ่มมาจากกัลยาณมิตร เป็นองค์ประกอบภายนอก โยนิโสมนสิการเป็นกัลยาณมิตรภายใน . ถึงแม้ได้กัลยาณมิตรภายนอกมา แต่ไม่มีโยนิโสมนสิการก็ไปต่อไม่ได้ เพราะฉะนั้นโยนิโสมนสิการเป็นสิ่งสำคัญ . พระอานนท์ถามกัลยาณมิตรเป็นทั้งหมดของพรหมจรรย์ ตกลงโยนิโสมนสิการไม่สำคัญใช่ไหมไม่ใช่ . เพราะกัลยาณมิตรนี้เองที่ชี้ให้เห็นโทษและคิดโยนิโสมนสิการ เพราะฉะนั้นกัลยาณมิตรจึงเป็นทั้งหมดของพรหมจรรย์ . เพียงแต่ว่ามีกัลยาณมิตรที่ ๑ ๒ ๓ แต่ที่สุดของกัลยาณมิตรคือ “พระสัมมาสัมพุทธเจ้า” ๓ ม.ค.๖๒ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา

ยักษ์มาจากไหน

ยักษ์มาจากไหน❓ . เดิมยักษ์ก็เป็นคนเหมือนพวกเรา แต่มีข้อเสียตรงที่ว่า เป็นคนเจ้าโทสะ แม้จะทำบุญก็ยังทำด้วยความโทสะอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ . ตัวอย่างเช่น จะทำบุญตักบาตร ก็ด้วยความตั้งใจที่อยากจะให้ดี จึงรีบตื่นแต่เช้า รีบเข้าครัวเตรียมข้าวปลาอาหาร . ใครมาช่วยก็ไม่ถูกใจ ทำไปก็บ่นไป พอถึงเวลา ด้วยความที่เป็นคนเจ้าโทสะ ถ้าพระมาช้าไปบ้าง เร็วไปบ้าง ก็บ่น . ขึ้นมาฟังเทศน์บนศาลาก็รำคาญคนอื่น คนโน้นอย่างนั้น คนนั้นเป็นอย่างนี้ มีเรื่องยั่วให้เกิดโทสะอยู่ร่ำไป . ใจน่ะเป็นบุญแต่พื้นใจเป็นคนเจ้าโทสะ เพราะฉะนั้นจะทำบุญให้ทาน ก็ได้บุญเหมือนกัน แต่ได้แบบหกๆ หล่นๆ . พอละโลกไปแล้ว แทนที่จะได้เป็นเทวดากลับต้องไปเกิดเป็นยักษ์ . จากหนังสือบวชไม่เสียผ้าเหลือง สึกไม่เปลืองผ้าหลาย หน้า ๔๙-๕๐ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา หนังสือบวชไม่เสียผ้าเหลือง สึกไม่เปลืองผ้าหลาย หน้า ๔๙-๕๐

✍️ ในโลกนี้มีคนอยู่ ๒ กลุ่มใหญ่ คือ มิตรเทียมกับมิตรแท้

✍️ ในโลกนี้มีคนอยู่ ๒ กลุ่มใหญ่ คือ มิตรเทียมกับมิตรแท้ . มิตรเทียม ได้แก่คน ๔ ประเภท ๑.ปอกลอก ๒.ดีแต่พูด ๓.ประจบ ๔.ชวนฉิบหาย . มิตรแท้ ได้แก่คน ๔ ประเภท ๑.มิตรมีอุปการะ ๒.มิตรร่วมทุกข์ร่วมสุข ๓.มิตรแนะประโยชน์ ๔.มิตรความรักใคร่ . มิตรแท้มีลักษณะคือ มิตรอุปการะ กล้าเป็นที่พึ่งให้เพื่อน มิตรร่วมทุกข์ร่วมสุข กล้าสละชีวิตเพื่อเพื่อน มิตรแนะประโยชน์ กล้าขัดใจเตือนสติเพื่อน ขัดใจเขาก็ต้องยอม มิตรมีความรักใคร่ กล้าออกหน้าปกป้องเพื่อน โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา

✍️” หัวใจของการเผยแผ่พระพุทธศาสนา “

✍️” หัวใจของการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ” . การเผยแผ่พระพุทธศาสนาคืออะไร? คือการทำให้พระพุทธศาสนาอยู่คู่โลกต่อไปอีกนานแสนนาน เพื่อใช้ดับทุกข์ให้ชาวโลก . คำถาม เมื่อเผยแผ่เสร็จแล้ว พระพุทธศาสนาจะอยู่ที่ไหน อยู่อย่างไร ? . ตอบคือ ต้องอยู่ในใจคนให้ได้ อยู่อย่างไร คือ อยู่ด้วยความเข้าใจ แล้วนำไปทุ่มเทปฏิบัติจนกระทั่งเป็นนิสัยใจคอฝังแน่นอยู่ในใจ แล้วสุดท้ายปราบกิเลสได้หมดเลยนั่นแหละ ต้องอยู่อย่างนั้นแหละ แล้วนอกจากนั้นยังสามารถสืบทอดส่งต่อๆ กันไปได้อีกด้วย ถ้าไม่งั้นก็ไม่ได้ . 29 พฤศจิกายน 2560 โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา

✍️”คิดดี พูดดี ทำดี ให้เป็นนิสัย”

✍️”คิดดี พูดดี ทำดี ให้เป็นนิสัย” . ตั้งแต่เกิดจนกระทั่งเราต้องลาโลกไป ทุกชีวิตล้วนตกอยู่ใต้กฎแห่งกรรม ซึ่งย่อสั้นๆ ว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว . กฎแห่งกรรมนี้เป็นกฎเหล็กทีเดียว เพราะไม่ว่าจะเป็นใครก็ล้วนตกอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรมทั้งสิ้น ใครจะรู้จักกฎแห่งกรรมหรือไม่รู้ แต่ทุกอนุวินาที เขาก็ตกอยู่ใต้กฎแห่งกรรม . ปฏิเสธไม่ได้ว่ารู้หรือไม่รู้ เหมือนไฟ ที่ไม่ว่าใครจะรู้หรือไม่รู้ ไปโดนเข้าเป็นได้ร้อน เป็นได้โดนลวกกัน . ตรงนี้นี่เองที่อยากจะฝากเป็นข้อคิดของพวกเรา ข้อคิดก็คือ ในเรื่องของการคิดดี พูดดี ทำดีนั้น ต้องหมั่นฝึกให้เป็นนิสัย . ถ้าไม่ฝึกให้เป็นนิสัยแล้ว เรามีโอกาสที่จะพลาด คิดไม่ดี พูดไม่ดี ทำไม่ดีได้ ซึ่งจะกลายเป็นการสั่งสมบาปเอาไว้ในตัว นอกจากนั้นหากเกิดเป็นนิสัยไม่ดีขึ้นแล้ว ก็จะแก้ไขได้ยาก . 12 มกราคม 2558 โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา

✍️” เห็นคุณยายบ้วนน้ำลาย จึงได้รู้ว่าเจอครูแล้ว “

✍️” เห็นคุณยายบ้วนน้ำลาย จึงได้รู้ว่าเจอครูแล้ว ” . หลวงพ่อตามหาครูบาอาจารย์มาเยอะ มาเจอคุณยายอาจารย์ของเราบ้วนน้ำลายเท่านั้นล่ะ หลวงพ่อรู้เลยว่าได้เจอครูบาอาจารย์แล้ว . เพราะเวลาคุณยายจะบ้วนน้ำลาย คุณยายจะมีกระดาษประมาณเท่าแผ่น A4 ตัดเป็นสี่ส่วน วางเอาไว้ข้างๆ ตัวยาย เวลาบ้วนน้ำลายทีหนึ่งใส่แผ่น บ้วนน้ำลายทีใส่แผ่น . ถามคุณยายว่าใส่ลงไปทำไม คุณยายก็ตอบว่า ยายแก่แล้วเราทิ้งเองไม่ได้ต้องให้หลานๆ ช่วยเทกระโถน เพราะฉะนั้น ถ้าบ้วนน้ำลาย ล้างมือหรือสั่งน้ำมูกอะไรลงไป มันลอยอยู่อย่างนั้น แมลงหวี่ แมลงวันมันก็มากวน ญาติโยมที่เขามา เขาเห็นเขาก็จะรังเกียจ หลานๆ มันจะเอาไปเทมันก็จะรังเกียจ . แต่ถ้ายายใส่กระดาษไปแบบนี้ เวลามันไปเทเห็นเป็นกระดาษชื้นๆ มันก็ไม่รังเกียจ แม้หลานตัวเองก็ยังต้องคิดเยอะขนาดนี้ นี้เป็นตัวอย่างของการเอาใจเขาใส่ใจเรา เอาใจเราใส่ใจเขา . 29 พฤศจิกายน 2560 โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา

✍️”ใจที่ขุ่นมัวเป็นทางมาของกรรมชั่ว”

✍️”ใจที่ขุ่นมัวเป็นทางมาของกรรมชั่ว” . ชีวิตคนเราในแต่ละวัน ต่างมีเรื่องที่ต้องให้คิดสารพัดเรื่อง และโดยมากก็มักทำให้ใจขุ่นมัว เมื่อเป็นอย่างนี้เราในฐานะชาวพุทธจึงต้องหมั่นเตือนตัวเองว่า เราจะต้องพยายามทำใจของเราให้ผ่องใสให้ได้อยู่ตลอดเวลา ตลอดทั้งวัน . นี่เป็นหลักวิชชาที่สำคัญมาก หรือถ้ามีเรื่องอะไรมากระทบให้ใจขุ่นมัว ต้องรีบเลิกทันทีทันใด พอรู้ตัวต้องรีบหยุดตัวเอง ไม่งั้นขาดทุน . มันเรื่องอะไรเล่าที่จะปล่อยให้ใจของเราขุ่นมัวต่อไป เพราะถ้าใจขุ่นมัวใจหมองแล้ว เรื่องความดีจะคิดไม่ออก เรื่องบุญกุศล เรื่องดีๆ เรื่องสร้างสรรค์คิดไม่ออก . นอกจากนั้นทุกอนุวินาทีใจคิดไม่ยอมหยุด เพราะฉะนั้น เมื่อเราไม่หยุดตัวเอง ไม่เบรกตัวเอง เมื่อเผลอไปคิดเรื่องขุ่นมัวๆ หมองๆ เข้า ใจก็จะคิดเรื่องขุ่นมัวไม่ยอมหยุด . กลายเป็นว่าเรานี่เพิ่มบาปให้กับตัว เรานี่กำลังเพิ่มทุกข์ให้กับตัวเอง เรานี่กำลังทำลายตัวเอง ตรงนี้ต้องชัดเจน . เพราะฉะนั้น การที่จะต้องระมัดระวังตัวเองให้ใจผ่องใสอยู่ตลอดเวลา จึงเป็นหน้าที่ของทุกๆ คน . เพราะว่าต้องรู้ไว้นะ โลกนี้น่ะอยู่ใต้กฎแห่งกรรม เรื่องที่ทำให้ใจขุ่นมัวทั้งหลาย คือ ทางมาของกรรมชั่วทั้งหลาย ที่มันจะไหลมาสู่ใจของเราตามมาอีกมากมายเลย . 4 มกราคม 2559 โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา

✍️ “อบายมุข เสียเวลา เสียงาน เสียทรัพย์ เสียคน”

✍️ “อบายมุข เสียเวลา เสียงาน เสียทรัพย์ เสียคน” ❗️❗️❗️ . ดูให้ชัด อบายมุขทุกประเภท ขั้นต้น ทำให้เสียเวลาก่อน ตามมาด้วยเสียการงาน การงานที่ควรจะทำให้เกิดทรัพย์สินเงินทองอะไรเพิ่ม เสียหมด . เสียเวลา เสียการงานที่ควรจะได้ทำ เสียความดีที่ควรจะได้ทำ แล้วก็ตามมาด้วยเสียทรัพย์ แล้วก็ตามมาด้วยเสียคน คือกลายเป็นคนไม่รับผิดชอบต่อความดีใดๆ . มันเป็นสเต็ปๆ เพราะฉะนั้น อย่าได้มองผ่าน เสียเวลา เสียการงาน เสียทรัพย์ และท้ายที่สุดคือ เสียคน . . 23 สิงหาคม 2560 โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา

✍️”ใจที่ผ่องใส คือ ใจที่มีพลัง”

✍️”ใจที่ผ่องใส คือ ใจที่มีพลัง” . วันหนึ่งๆ ของคนเรา ตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมาก็มีเรื่องคิดไม่หยุดจนกระทั่งกลับเข้านอน แต่จะมีใครสักกี่คนที่ถามตัวเองว่า เรื่องที่คิดในแต่ละวันนั้น ระหว่างเรื่องที่ทำให้ใจเป็นบุญใจผ่องใสและเรื่องที่ทำให้ใจขุ่นมัว อย่างไหนมากกว่ากัน . ยิ่งไปกว่านั้น เวลาไปกระทบเรื่องอะไรที่ทำให้ใจขุ่นมัว แทนที่จะรีบเบรกตัวเอง ให้หยุดๆๆๆ กลับยิ่งหยิบยกเรื่องขุ่นมัวเหล่านี้มาวิจารณ์กันเละเทะไปหมด . เลยกลายเป็นว่า เอาความขุ่นมัวมาเพิ่มให้กับใจตัวเองกันทุกวันๆ โดยไม่รู้สึกตัว จนกระทั่งการคิดถึงเรื่องที่ทำให้ใจขุ่นมัวเหล่านี้ กลายเป็นเรื่องปกติไป ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือว่า ผิดหลักธรรมในพระพุทธศาสนาแล้วนะ เพราะว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสเตือนเอาไว้แล้วว่า หน้าที่ของมนุษย์ ถ้าจะให้มีชีวิตปลอดภัยมีแต่ความสุขความเจริญ ต้องพยายามทำใจให้ผ่องใสเข้าไว้ . ถ้าใจผ่องใสแล้วจะได้มีกำลังใจในการที่จะเลือกคิด พูด และทำในสิ่งที่ดีที่งาม เลือกคิดในสิ่งที่จะเป็นประโยชน์ต่อชีวิตตัวเองและผู้อื่นตลอดจนคนทั้งโลก โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา

✍️” อ่อนน้อมเพราะอยากดี หรือว่าเพราะอยากได้ “

✍️” อ่อนน้อมเพราะอยากดี หรือว่าเพราะอยากได้ ” . อีกสาเหตุหนึ่งที่ผู้หลักผู้ใหญ่เสียผู้เสียคน เพราะแยกไม่ออกว่า อ่อนน้อมถ่อมตนมี ๒ พวก . พวกหนึ่งอ่อนน้อมถ่อมตนเพราะอยากดี ติดใจในความดีของท่านนั้นท่านนี้ เลยอยากดีบ้าง เลยยอมอ่อนน้อมถ่อมตนมาเป็นลูกศิษย์อยากจะให้เขาฝึกให้ นั่นพวกหนึ่ง . อีกพวกหนึ่ง รู้ท่านนั้นท่านนี้ให้ยศให้ตำแหน่งเขาได้ เลยยอมอ่อนน้อมถ่อมตน แล้วพอเขาได้ยศได้ตำแหน่งเท่านั้น ก็ทำเป็นไม่สนใจไยดีเลย . ถ้าติดใจในความดีแล้ว คนอ่อนน้อมถ่อมตนเพราะอยากจะได้ความดี อย่างที่เราได้ นี่อ่อนน้อมตัวจริง แต่ว่าอยากจะได้ยศ อยากจะได้ตำแหน่ง อยากจะได้นั่นนี่ ทำมากุลีกุจอ คนพวกนี้ต้องระวังให้ดี . 29 พฤศจิกายน 2560 โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา

✍️”4 สิ่ง ที่ต้องอดทนให้ได้เพื่อความสำเร็จ”

✍️”4 สิ่ง ที่ต้องอดทนให้ได้เพื่อความสำเร็จ” . ความอดทนของมนุษย์ มีอยู่ ๔ ระดับด้วยกัน . ๑. ความอดทนต่อความลำบากตรากตรำ พูดง่ายๆ ทนแดดทนลมทนฝน ทนต่อธรรมชาติที่ไม่เอื้ออำนวย นี่เป็นความอดทนขั้นต้นที่มนุษย์จะต้องฝึก . ๒. ฝึกให้อดทนต่อทุกขเวทนา เจ็บไข้ได้ป่วยนิดๆ หน่อย ๆ ก็ไม่สำออย เมื่อถึงเวลาทำงาน ก็ทำงานที่ตนรับผิดชอบโดยไม่รู้สึกถดถอยท้อแท้ . ๓. อดทนต่อการกระทบกระทั่งกัน เพราะคนเราอยู่ตัวคนเดียวไม่ได้ ยังไงก็ต้องอยู่กับคน ของ ๒ สิ่งอยู่ในที่เดียวกันยังไงก็ต้องกระทบกระทั่งกัน คนเราอยู่ร่วมกันนิสัยใจคอไม่ตรงกันบ้าง ยังไงก็ต้องกระทบกระทั่งกัน หากขาดความอดทน คงได้ทะเลาะกัน เกิดเรื่องเสียหายตามมา . ๔. อดทนต่อความยั่วเย้ายั่วยวน คือ อดทนต่ออำนาจกิเลส อดทนต่อความหลงใหลได้ปลื้มในลาภ ยศ สรรเสริญทั้งหลาย ซึ่งเป็นเหตุให้ขาดปัญญาพิจารณาไตร่ตรองให้รอบคอบ นี่เป็นความอดทนชั้นสูงเลย ซึ่งต้องอาศัยการภาวนา การทำสมาธิเป็นหลักทีเดียว ไม่งั้นไม่ได้ . หากขาดความอดทนทั้ง ๔ ระดับนี้ ก็ยากที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต …

✍️”4 สิ่ง ที่ต้องอดทนให้ได้เพื่อความสำเร็จ” Read More »

✍️” เอาใจเราที่ใสกว่าใส่ในใจเขา “

✍️” เอาใจเราที่ใสกว่าใส่ในใจเขา ” . มีคำถามหนึ่ง ถามหลวงพ่อมาว่า เอาใจเขาใส่ใจเรา เอาใจเราใส่ใจเขานี่ทำอย่างไร ? . เอาใจเขาใส่ใจเรา ขั้นต้น อะไรที่เรานี่ไม่อยากให้คนอื่นทำกับเรา เช่น เราไม่อยากให้ใครเขามาฆ่าเรา ไม่อยากให้ใครเขามาแกล้งเรา ไม่อยากให้ใครเขามาพูดไม่ดีกับเรา ไม่อยากให้ใครทำไม่ดีกับเรา เพราะมันเป็นความทุกข์ ความเดือดร้อน ความเจ็บปวดของเรา เราเองก็อย่าไปทำอย่างนั้นกับคนอื่น เพราะว่า เขาก็คงไม่ชอบใจเช่นเดียวกัน . เอาใจเราใส่ใจเขา ในเวลาเดียวกัน เห็นใครทำอะไรไม่เข้าท่า ซึ่งเราไม่อยากให้เขามาทำกับเราอย่างนั้น และรู้เลยว่าเดี๋ยวเขาจะทำอย่างนั้น แล้วจะทำให้เราเดือดร้อน แค่เอาใจเราไปใส่ใจเขา มันไม่พอ ถ้าเราก็ใจขุ่นๆ เช่นเดียวกับเขาอย่างนั้น ไม่มีทางปราณีกัน ไม่มีทางพูดดีกันได้ รู้ว่าเขาจะทำไม่ดีกับเรา ยิ่งต้องนั่งสมาธิหรือว่าแผ่เมตตาให้ใจเราใสก่อน แล้วเอาใจใสๆ ไปใส่ในใจเขา เอาใจเราที่ใสกว่าไปใส่ไว้ในใจเขา แล้วก็พูดเหตุผลกับเขาเพราะๆ แนะนำกันดีๆ . 20 ธันวาคม 2560 . #เอาใจเขาใส่ใจเรา โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ที่มา

✍️”ครอบครัวมีสุขเพราะร่วมกันสร้างบุญ”

✍️”ครอบครัวมีสุขเพราะร่วมกันสร้างบุญ” . พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงค้นพบและสอนเรื่องของบุญไว้ ซึ่งสามารถสรุปได้ว่า ชีวิตขึ้นกับบุญกับบาปที่แต่ละคนทำ ทุกคนปรารถนาความสุข ไม่มีใครอยากได้ความทุกข์ . เพราะฉะนั้นแต่ละคนก็จำเป็นต้องสร้างบุญของตัวเอง หลีกเลี่ยงการสร้างบาปให้สุดชีวิตกัน ถ้าอย่างนี้ อนาคตก็จะสดใสด้วยกัน . ทีนี้เราอยู่กันเป็นครอบครัว อยู่คนเดียวไม่ได้ ความรู้ความสามารถของเราไม่พอที่จะอยู่คนเดียว มันต้องพึ่งๆ กัน เมื่อต้องพึ่งกัน ความสุขความทุกข์มันจึงอยู่ที่บุญและบาปของคนทั้งครอบครัวเอามารวมเอามาเฉลี่ย เอามาหารกัน มันอยู่ตรงนี้ . เพราะฉะนั้น อยากเห็นครอบครัวตัวเองมีสุข ก็ตั้งแต่ตัวเอง ปู่ย่าตาทวด พ่อแม่ พี่ๆ น้องๆ ลูกหลานของตัวเอง ก็ต้องอยู่ในบุญให้พร้อมหน้ากัน ถ้าอย่างนี้ก็เป็นหลักประกันว่า ครอบครัวเป็นสุขแน่ . ขณะมีชีวิตในโลกนี้ก็เป็นสุข แม้ต้องลาโลกไปแล้ว ด้วยบุญที่ทำเอาไว้ก็ยังไปเป็นสุขต่อในโลกหน้า จะไปเกิดเป็นมนุษย์ หรือจะไปเกิดเป็นเทวดาก็ยังมีบุญที่ทำกันไว้ในขณะเป็นมนุษย์นี้ตามส่งผลไป . ถ้าไปเกิดเป็นเทวดาเป็นนางฟ้า เมื่อพ้นจากเป็นเทวดานางฟ้าแล้วกลับมาเกิดในโลกมนุษย์ ก็ยังต้องอาศัยบุญเดิมนั่นแหละ ที่ยังมีเหลืออยู่ ก็นำมาให้เกิดในที่เป็นสุขอีก . แต่ว่าถ้าไปทำตรงข้าม มันก็เป็นทุกข์ทั้งในโลกนี้ ตายไปแล้วก็เป็นทุกข์ กลับมาเกิดใหม่ชีวิตก็เป็นทุกข์ โดยหลักการก็เป็นอย่างนี้ . ๑๔ เมษายน …

✍️”ครอบครัวมีสุขเพราะร่วมกันสร้างบุญ” Read More »