ธรรมะเพื่อประชาชน

อานิสงส์ถวายร่ม

อานิสงส์ถวายร่ม (พระพุทธเจ้าพยากรณ์กุลบุตรผู้เอาร่มกฤษณาและมะลิซ้อน บังร่มให้)      การปฏิบัติธรรม เป็นสิ่งที่มีคุณค่าที่สุดในการเกิดมาเป็นมนุษย์ ทั้งยังมีผลต่อมวลมนุษยชาติทั้งหลาย สุขทั้งหลายทั้งปวงบังเกิดขึ้นได้ถ้าใจบริสุทธิ์หยุดนิ่ง  การที่จะทำให้โลกของเราเข้าถึงยุคแห่งสันติสุขที่แท้จริงได้นั้น ต้องเริ่มต้นด้วยการปฏิบัติธรรม ทำใจหยุดใจนิ่งอยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ซึ่งเป็นทางเอกสายเดียวที่จะเข้าสู่ภายในได้  เพราะในตัวของมนุษย์ทุกๆ คนมีกายธรรมอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติศาสนาไหน  พูดภาษาอะไรหรืออยู่ส่วนใดของโลกก็ตาม สามารถที่จะเข้าถึงธรรมกายได้  ด้วยการปฏิบัติที่ถูกต้องและทำอย่างถูกวิธี      หากเรามีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะเข้าถึงธรรมกายแล้ว ก็ต้องลงมือปฏิบัติธรรมด้วยความสมัครใจ มีฉันทะและทำด้วยความวิริยะอุตสาหะมีความเพียรที่สมํ่าเสมอ ก็จะเข้าถึงพระธรรมกายได้อย่างแน่นอน มีวาระแห่งสุภาษิตปรากฏอยู่ใน สุภัททเถราปทาน ความว่า      “ผู้ใดเอาร่มกฤษณาและมะลิซ้อน บังร่มให้เราในกาลที่สุด  เราจักพยากรณ์ผู้นั้น ท่านทั้งหลายจงฟังเรากล่าว บุคคลผู้นี้  เคลื่อนจากโลกนี้แล้ว จักไปสู่หมู่เทวดาชั้นดุสิต เขาได้เสวยรัชสมบัติในชั้นดุสิตนั้นแล้ว จักไปสู่ชั้นนิมมานรดี เขาถวายดอกมะลิซ้อน  อันประเสริฐสุด ด้วยอุบายนี้แล้ว จักปรารภกรรมของตนเสวยสมบัติ บุคคลผู้นี้จักบังเกิดในชั้นดุสิตนั้นอีก เคลื่อนจากชั้นนั้นแล้ว  จักไปสู่ความเป็นมนุษย์”      ผลานิสงส์แห่งการบูชาพระรัตนตรัยนั้น มีอานิสงส์ไม่มีประมาณ  ผู้มีศรัทธาอย่างเต็มเปี่ยม สร้างบุญถูกแหล่งแห่งเนื้อนาบุญ นับได้ว่าเป็นผู้ที่โชคดีที่สุดในการเกิดมาเป็นมนุษย์ ดังถ้อยคำอันงดงามที่หลวงพ่อนำมากล่าวนี้ เป็นคาถาของพระอรหันตเถรเจ้ารูปหนึ่ง ผู้ซาบซึ้งในผลแห่งการสร้างบารมี หลังจากได้บรรลุธรรมแล้ว ท่านได้ย้อนกลับไปดูบุพกรรมที่ได้ประสบมาด้วยตัวของตัวเอง  …

อานิสงส์ถวายร่ม Read More »

อานิสงส์ถวายดอกกรรณิการ์

อานิสงส์ถวายดอกกรรณิการ์ (การตั้งความปรารถนาของพระอุปเสนเถระเอตทัคคะด้านผู้น่าเลื่อมใส)      การสร้างบารมีเป็นหน้าที่ของทุกๆ คนที่ต้องทำ และสามารถทำได้ทุกๆ วาระ หากมีจิตผ่องใสมีใจศรัทธาแล้วทุ่มเทสร้างความดีอย่างเต็มกำลัง อานิสงส์อันไม่มีประมาณก็ย่อมบังเกิดขึ้น จะทำให้เราสมปรารถนาในชีวิต  เพราะตราบใดที่ชีวิตของมนุษย์ทุกคนยังไม่หมดสิ้นอาสวกิเลส เสบียงบุญก็ยังเป็นสิ่งจำเป็นที่สุดของชีวิต  ดังนั้น เราจะต้องสร้างบารมีโดยมีใจเยี่ยงพระบรมโพธิสัตว์ ที่ทุกลมหายใจของท่านเป็นไปเพื่อการสร้างบารมีอย่างเดียว เมื่อจิตใจของเราฝักใฝ่กับการสร้างบารมีอย่างแท้จริง  ใจก็จะถูกกลั่นให้ใสสะอาดบริสุทธิ์ เหมาะสมที่จะเป็นภาชนะรองรับบุญกุศล  และมรรคผลที่สูงยิ่งๆ ขึ้นไป มีวาระพระบาลีที่ปรากฏอยู่ใน อุปเสนวังคันตปุตตเถราปทาน ความว่า                          “จริมํ วตฺตเต มยฺหํ      ภวา สพฺเพ สมูหตา                      ธาเรมิ อนฺติมํ เทหํ     เชตฺวา มารํ สวาหนํ      เมื่อชีวิตของเราในภพสุดท้ายเป็นไปอยู่ เราถอนภพขึ้นได้ทั้งหมด  ชนะมารพร้อมทั้งเสนามารทั้งหลายแล้ว ทรงไว้ซึ่งร่างกายอันมีในที่สุดไว้”      ถ้อยคำอันเป็นมงคลนี้ เป็นคำกล่าวของพระอรหันตเถระรูปหนึ่งในสมัยพุทธกาล ท่านกล่าวออกมาด้วยความโสมนัส ที่ตัวท่านเองสามารถบรรลุวัตถุประสงค์อันสูงสุดของชีวิต เป็นเสมือนเครื่องยืนยันว่า ท้ายที่สุดของทุกชีวิตที่เกิดมาแล้วสามารถเอาชนะพญามารพร้อมทั้งเสนามารทั้งหลายได้ เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต เพราะการชนะพญามารพร้อมทั้งเสนาได้  ชีวิตจะเป็นอิสระ ไร้เครื่องพันธนาการ …

อานิสงส์ถวายดอกกรรณิการ์ Read More »

อานิสงส์ถวายดอกบัวและธงชัย

อานิสงส์ถวายดอกบัวและธงชัย (พระปทุมเถรเจ้า)      วัตถุประสงค์หลีกในการเกิดมาของมวลมนุษย์ชาติทั้งหลาย ก็เพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง มุ่งทำใจหยุดในหยุดบนเส้นทางสายกลางภายในเข้าไปเรื่อยๆ  จนกระทั่งหมดสิ้นอาสวกิเลส เข้าถึงกายธรรมอรหัต ตัดการเวียนว่ายตายเกิด ไม่ต้องกลับมาเกิดในภพสามอีกต่อไป นี่เป็นวัตถุประสงค์หลักที่มนุษย์ส่วนใหญ่ต่างก็ลืมเลือนไป ในสมัยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังเป็นพระบรมโพธิสัตว์อยู่  เมื่อเกิดมาในโลกมนุษย์ ท่านก็สร้างบารมีตลอดจนกระทั่งหมดอายุขัย เพื่อวัตถุประสงค์หลักนี้ เพื่อนำพาสรรพสัตว์ทั้งหลาย เข้าถึงฝั่งแห่งความหลุดพ้น เราทั้งหลายก็ควรหันมายึดเอาท่านเป็นแบบอย่าง และก้าวเดินตามรอยบาทพระบรมศาสดาให้ได้กันทุกๆ คน * มีวาระแห่งภาษิตที่ปรากฏอยู่ใน ปทุมเถราปทาน ความว่า      “พระศาสดาทรงรับดอกปทุมอันอุดมด้วยพระหัตถ์อันประเสริฐแล้วประทับยืนในท่ามกลางภิกษุสงฆ์ ได้ตรัสพระคาถาเหล่านี้ว่า ผู้ใดโยนดอกปทุมนี้มาบูชาพระสัพพัญญูผู้เป็นนายกของโลก เราจักพยากรณ์ผู้นั้น ท่านทั้งหลายจงฟังเรากล่าว ผู้นั้นจักเป็นจอมเทวดาเสวยเทวรัชสมบัติตลอด ๓๐ กัป จักได้เป็นพระราชาในแผ่นดิน ครอบครองพสุธาอยู่ ๗๐๐ กัป จักถือเอาอัตภาพในภพนั้นแล้ว จักได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิในกาลนั้น สายฝนดอกปทุม จักตกจากอากาศมากมาย”      ในการทำบุญให้ทานที่เราชาวพุทธทั้งหลายมักปฎิบัติเป็นธรรมเนียมกัน จะมีสิ่งหนึ่ง คือเวลาที่เราทุกคนไปไหว้พระพุทธปฏิมากร หรือถวายปัจจัยไทยธรรม เราก็มักจะมีดอกไม้แนบติดไปกับปัจจัยไทยธรรมด้วย ดอกไม้ที่เรานำไปบูชาพระ ส่วนใหญ่แล้วก็คือ ดอกบัว  เพราะเราถือกันว่า ดอกบัวเป็นดอกไม้ที่สูงค่า เป็นดอกไม้ที่คู่มากับพระพุทธศาสนา เป็นดอกไม้ต้นกัป และยังบ่งบอกถึงจำนวนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่จะลงมาตรัสรู้ในกัปนั้นๆ …

อานิสงส์ถวายดอกบัวและธงชัย Read More »

อานิสงส์ถวายดอกไม้หอม

อานิสงส์ถวายดอกไม้หอม (พระจุนทอรหันตเถระ)      การทำตนให้พ้นจากอาสวกิเลส ให้บริสุทธิ์บริบูรณ์เข้าถึงอายตนนิพพานนั้น เป็นเป้าหมายอันสูงสุดของการเกิดมาเป็นมนุษย์ แต่กว่าที่จะเข้าถึงความเต็มเปี่ยมของชีวิตเช่นนั้นได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย  ต้องมีหัวใจของพระบรมโพธิสัตว์ ผู้มุ่งมั่นในการสร้างบารมีอย่างเต็มที่ ในใจมีเพียงการสร้างบารมีเท่านั้น เพราะนักสร้างบารมีผู้มีหัวใจเต็มเปี่ยมด้วยการสร้างบารมี ย่อมตระหนักว่า การสร้างบุญบารมี คือ ภารกิจที่สำคัญที่สุด เพราะบุญที่เราสั่งสมนี้จะเป็นเครื่องสนับสนุนให้เราบรรลุวัตถุประสงค์ของชีวิต บนเส้นทางแห่งการเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏ  ชีวิตเราจะดำเนินไปอย่างสะดวกสบาย และได้สร้างบุญบารมีต่อไปเป็นบุญต่อบุญไม่มีที่สิ้นสุด จนกระทั่งได้บรรลุถึงเป้าหมายอันสูงสุดของชีวิตได้ มีพุทธพจน์ที่พระสิทธัตถสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ว่า      “ผู้ใดได้ถวายดอกไม้มีค่า มีกลิ่นหอมฟุ้งแก่เรา เราจักพยากรณ์ผู้นั้น ท่านทั้งหลายจงฟังเรากล่าว บุคคลผู้นี้เคลื่อนจากโลกนี้แล้ว  จักแวดล้อมด้วยหมู่เทวดา เกลื่อนกล่นด้วยดอกมะลิ  จักไปสู่เทวโลก ภพของบุคคลนั้นสูงเสียดฟ้า สำเร็จด้วยทองและแก้วมณี วิมานทั้งหลายอันเกิดด้วยบุญกรรมจักปรากฏ เขาจักได้เสวยเทวรัชสมบัติ ๗๔ ครั้ง จักแวดล้อมด้วยนางอัปสร เสวยสมบัติ จักได้เป็นพระราชาในแผ่นดินครอบครองพสุธา ๓๐๐ ครั้ง จักได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๗๕ จักเป็นใหญ่กว่ามนุษย์  เสวยบุญนั้นประกอบด้วยกรรมของตน ไม่ไปสู่วินิบาตนรก”      การบูชาบุคคลที่ควรบูชา บูชาถูกเนื้อนาบุญด้วยอามิสบูชา แม้ว่าจะบูชาด้วยสิ่งเพียงเล็กน้อยในสายตาของชนทั้งหลาย  แต่เมื่อทำถูกเนื้อนาบุญอันยอดเยี่ยมแล้วไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย เป็นมหานิสงส์ที่ไม่มีประมาณ เป็นบุญใหญ่ติดตัวไปข้ามภพข้ามชาติ เหมือนพุทธพยากรณ์ของพระพุทธเจ้าองค์เก่าก่อน …

อานิสงส์ถวายดอกไม้หอม Read More »

อานิสงส์ถวายดอกอ้อ

อานิสงส์ถวายดอกอ้อ (นางกินนรีถวายดอกอ้อแด่พระปัจเจกพุทธเจ้า ชาติสุดท้ายเป็นพระอรหันต์ ปุณณาเถรี)      พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราทั้งหลาย พระองค์ได้สร้างบารมีมายาวนาน กว่าที่จะได้ตรัสรู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธองค์ทรงมีจิตใจเด็ดเดี่ยวมุ่งมั่นที่จะทำความดีอย่างยิ่งยวด ไม่มีข้อแม้ ข้ออ้าง หรือเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น ท่านสร้างบารมีจนกระทั่งบารมีเต็มเปี่ยมครบถ้วนบริบูรณ์ พวกเราทั้งหลายควรจะดูแบบอย่างของพระบรมครูของพวกเรา แล้วตั้งใจดำเนินตามรอยบาทพระศาสดาให้เต็มที่ โดยเฉพาะการนำใจของเรา ให้เข้าสู่เส้นทางสายกลาง อันเป็นเส้นทางเอกสายเดียวของพระอริยเจ้า ด้วยการหยุดใจที่ศูนย์กลางกายฐานที่เจ็ด ซึ่งเป็นฐานสำเร็จของชีวิต ที่จะนำพาชีวิตของเราให้เข้าถึงพระนิพพานได้อย่างแท้จริง * มีวาระแห่งภาษิตที่ตรัสไว้ใน ขุททกนิกาย เถรีคาถา ความว่า      “ดูก่อนนางปุณณา เธอจงเต็มไปด้วยธรรมทั้งหลาย เหมือนพระจันทร์เพ็ญวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เธอจงทำลายกองแห่งความมืด ด้วยปัญญาอันบริบูรณ์เถิด”      การเกิดมาในสังสารวัฏเป็นชีวิตที่ต้องอาศัยปัญญา เพราะหนทางแห่งชีวิตนั้นมีแต่อันตรายต่างๆ นานัปการ โดยเฉพาะอันตรายจากอบายภูมิ ซึ่งเป็นสิ่งที่ถ่วงให้เราเสียเวลาอย่างมาก ในการที่จะเข้าถึงพระนิพพาน เพราะเมื่อสรรพสัตว์ทั้งหลายพลัดตกลงไปสู่อบาย ชีวิตต้องตกอยู่ท่ามกลางความมืดที่ทุกข์ทรมาน ต้องก้มหน้าก้มตาชดใช้กรรมต่อไปจนกว่าผลแห่งบาปอกุศลนั้นจะหมดสิ้น      การทำตนให้เต็มเปี่ยมด้วยกุศลธรรมซึ่งเป็นธรรมที่สะอาดบริสุทธิ์ เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง ในการที่จะประคับประคองตนเองให้เข้าถึงฝั่งแห่งพระนิพพาน เหมือนพระดำรัสที่พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสเตือน นางสิกขมานาท่านหนึ่ง ที่มีนามว่า ปุณณา ผู้ที่เตรียมตัวสละเพศฆราวาสออกบวช มาถือศีล …

อานิสงส์ถวายดอกอ้อ Read More »

อานิสงส์ถวายทานด้วยตัวเอง

อานิสงส์ถวายทานด้วยตัวเอง (นางทาสีผู้ได้บรรลุเป็นพระโสดาบัน)      ทุกคนที่เกิดมาบนโลกนี้ จำเป็นต้องศึกษาและเรียนรู้เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับชีวิต ทั้งที่ยังมีลมหายใจอยู่และเมื่อหมดลมไปแล้ว ที่สำคัญคือ ชีวิตหลังความตายยาวนานกว่าตอนมีชีวิตอยู่อย่างคาดไม่ถึง ฉะนั้นการศึกษาในทางพระพุทธศาสนาจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องเรียนรู้เพื่อความปลอดภัยในชีวิต ตราบใดที่มีการฝึกฝนอบรมจิตใจให้สะอาดบริสุทธิ์ เพื่อให้เข้าถึงแหล่งแห่งความสุขและความรู้ที่สมบูรณ์ ตราบนั้นเราจะสามารถพ้นทุกข์ ทั้งทุกข์ในปัจจุบันและทุกข์หลังความตาย ตลอดไปจนกระทั่งถึงที่สุดแห่งกองทุกข์ มีวาระพระบาลีที่ปรากฏอยู่ใน ทาสีวิมาน ความว่า “เตสํ สหพฺยกามานํ    กตฺตพฺพํ กุสลํ พหุ ํ กตปุญฺญา หิ โมทนฺติ    สคฺเค โภคสมงฺคิโน        สำหรับผู้ปรารถนาอยู่ร่วมกับทวยเทพทั้งหลาย ควรที่จะบำเพ็ญกุศลไว้ให้มาก เพราะว่าผู้ที่ทำบุญไว้ดีแล้ว ย่อมเพียบพร้อมด้วยโภคสมบัติบันเทิงอยู่ในสุคติสวรรค์”      ผลแห่งการกระทำทุกอย่างในโลกนี้ มีผลโดยตรงต่อผู้ที่กระทำเสมอ หากทำดีก็ย่อมได้ผลดี ทำชั่วได้ผลแห่งความชั่ว ต้องประสบแต่ความเดือดร้อนในปัจจุบันและทุกข์ทรมานอย่างยิ่งในอนาคต สำหรับนักสร้างบารมีผู้มีหัวใจที่เต็มเปี่ยมด้วยคุณงามความดี จะได้รับผลตรงกันข้าม เพราะความดีงามจะส่งผลให้ได้รับแต่ความสุขและความเจริญในชีวิต ทั้งในชาตินี้ก็จะมีมหาสมบัติบังเกิดขึ้นให้ได้สร้างบารมีอย่างสะดวกสบาย และเมื่อละจากโลกนี้ไปแล้วจะเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาทั้งหลาย เป็นผู้เพียบพร้อมด้วยทิพยสมบัติมากมาย      อานิสงส์แห่งบุญ ย่อมส่งผลให้กับทุกคนโดยไม่เลือกที่รักผลักที่ชัง ไม่ใช่ผลแห่งบุญจะส่งผลให้เฉพาะพระราชามหากษัตริย์ หรือมหาเศรษฐีเท่านั้น ผู้ใดที่สร้างบุญ ผลบุญก็ย่อมจะบังเกิดแก่ผู้นั้น ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร อยู่ในสถานะเช่นไร …

อานิสงส์ถวายทานด้วยตัวเอง Read More »

อานิสงส์ถวายบัลลังก์ทองแสนตัว

อานิสงส์ถวายธูปหอม (ธูปทายกเถระ)      พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงรับสั่งด้วยพระองค์เองว่า ความไม่ประมาทเป็นยอดแห่งธรรมทั้งหลาย  ใครก็ตามที่ดำรงตนอยู่ด้วยความไม่ประมาท  ชีวิตของผู้นั้นได้ชื่อว่าเป็นอมตะไม่มีวันตายจากคุณงามความดี ใครก็ตามที่ใช้ชีวิตอย่างประมาทมัวเมา ชีวิตของผู้นั้นเสมือนผู้ที่ตายไปแล้ว เกิดมาก็เปล่าประโยชน์ ไม่มีสาระแก่นสารอะไร  ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์สุขอันใดทั้งแก่ตนและผู้อื่น ความไม่ประมาทนี้ได้ชื่อว่า ครอบคลุมไว้ซึ่งความดีทุกประการ  หากเราไม่มีความประมาท และมีความตระหนักแน่นอยู่ในใจแล้ว เราก็จะใช้ชีวิตอยู่อย่างมีคุณค่า ความไม่ประมาทจะทำให้ชีวิตของเราสมบูรณ์บริบูรณ์ได้อย่างแท้จริง ซึ่งต้นแหล่งแห่งความไม่ประมาทก็คือ การมีสติอยู่ที่ศูนย์กลางกายตลอดเวลา ใจหยุดนิ่งอยู่ในกลางพระธรรมกายทุกอนุวินาที  หากทำเช่นนี้เราจะได้ชื่อว่า เป็นผู้มีชีวิตอยู่อย่างไม่ประมาทโดยแท้จริง      มีวาระแห่งภาษิตที่ปรากฏอยู่ใน ธูปทายกเถราปทาน ความว่า      “เรามีจิตเลื่อมใส ได้ถวายธูปไว้ในพระคันธกุฎีของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าสิทธัตถะ ผู้เป็นเชษฐบุรุษของโลก ผู้คงที่  เราเข้าถึงกำเนิดใดๆ คือความเป็นเทวดาหรือมนุษย์ ในกำเนิดนั้นๆ เราย่อมเป็นที่รักของชนแม้ทั้งหมด นี้เป็นผลแห่งการถวายธูป ในกัปที่ ๙๔ แต่กัปนี้ เราได้ถวายธูปใดในเวลานั้น ด้วยผลแห่งการถวายธูปนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการถวายธูป คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้าเราได้ทำเสร็จแล้ว”      …

อานิสงส์ถวายบัลลังก์ทองแสนตัว Read More »

อานิสงส์ถวายเภสัช

อานิสงส์ถวายเภสัช (ภรรยาหมอได้เกิดเป็นเทพธิดา) การปฏิบัติธรรม เป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งในการเกิดมาเป็นมนุษย์ เราเกิดมา  ในภพชาติหนึ่งๆ  มีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งแสวงหาความบริสุทธิ์ แสวงหาความหลุดพ้นจากการเป็นบ่าวเป็นทาสของพญามาร  หนทางสายกลางที่ดำเนินจิตเข้าสู่ภายในเท่านั้น คือทางรอดทางเดียว เป็นหนทางที่มีอิสระจากอาสวกิเลสทั้งปวง ดังนั้นเราควรจะดำเนินจิตของเราให้เข้าสู่เส้นทางของเหล่าพระอริยเจ้าทั้งหลายให้ได้  การที่จะดำเนินเข้าสู่ภายใน เราต้องหมั่นเจริญสมาธิภาวนา ทำใจหยุดใจนิ่งอยู่ที่ศูนย์กลางกายให้ได้ตลอดเวลา มีวาระบาลีที่ปรากฏอยู่ใน กัญชิกทายิกาวิมาน ความว่า “อภิกฺกนฺเตน วณฺเณน     ยา ตฺวํ ติฏฺฐสิ เทวเต โอภาเสนฺตี ทิสา สพฺพา   โอสธี วิย ตารกา เตน เต ตาทิโส วณฺโณ     เกน เต อิธมิชฺฌติ อุปฺปชฺชนฺติ จ เต โภคา     เย เกจิ มนโส ยา ดูก่อนเทพธิดา ท่านมีวรรณะงาม เปล่งรัศมีไปทั่วทุกทิศ ดุจดาวประกายพรึก เพราะบุญอะไร ท่านจึงมีวรรณะเช่นนี้ เพราะบุญอะไรหนอ  ผลอันนี้จึงสำเร็จแก่ท่าน และโภคะทุกอย่างที่น่ารักจึงเกิดแก่ท่าน” …

อานิสงส์ถวายเภสัช Read More »

อานิสงส์ถวายธูปหอม

อานิสงส์ถวายม้าอาชาไนย (พระโอปวุยหเถรเจ้า ผู้มีพาหนะอันเลิศ)      เวลาแห่งการปฏิบัติธรรม เป็นช่วงเวลาที่มีมีคุณค่าต่อชีวิตเราเป็นอย่างยิ่ง เพราะเราจะได้ทำใจมีโอกาสหยุดใจนิ่ง แสวงหาหนทางแห่งพระนิพพาน โดยหยุดใจเข้าไปสู่อริยมรรค เส้นทางของพระอริยเจ้าทั้งหลาย ซึ่งเป็นทางเอกสายเดียวเท่านั้นที่จะนำเราให้เข้าถึงธรรมภายใน เข้าถึงความสุขที่จะทำให้หลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง ปัจจุบันนี้ มวลมนุษยชาติส่วนใหญ่ ยังไม่รู้เป้าหมายที่แท้จริงของชีวิตกันเลยว่า เกิดมาทำไม อะไร คือสิ่งที่ชีวิตต้องแสวงหา เมื่อไม่มีโอกาสได้ฟังพระสัทธรรม ไม่ได้ประพฤติปฏิบัติธรรม ชีวิตจึงต้องตกอยู่ในท่ามกลางกระแสแห่งความทุกข์  แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ได้ลงมือปฏิบัติธรรมและได้ผลแห่งการปฏิบัติธรรมที่ถูกต้อง ก็จะเข้าใจได้แจ่มแจ้งและมุ่งทำหน้าที่ของตนให้สมบูรณ์ได้ต่อไป      มีวาระแห่งภาษิตที่ปรากฏอยู่ใน โอปวุยหเถราปทาน  ความว่า      “ชนเหล่าใดได้อุปสมบท ชนเหล่านั้นได้ดีแล้วหนอ เราพึงเข้าไปเฝ้าบ่อยๆ เมื่อพระพุทธเจ้ามีอยู่ในโลก เราได้เป็นพระราชาผู้มีพละมาก  ครอบครองแผ่นดินมีสมุทรสี่เป็นที่สุด เป็นใหญ่แห่งชนชาวชมพูทวีป ๒๘ ครั้ง ก็ด้วยอานุภาพที่ได้สร้างบุญกับพระพุทธเจ้า  ภพที่สุดย่อมเป็นไปแก่เรานี้เป็นครั้งหลังสุด เราละความชนะและความแพ้แล้ว ได้ถึงฐานะอันไม่หวั่นไหว ในกัปที่ ๓,๕๐๐ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิผู้เป็นกษัตริย์มีเดชมาก ทรงสมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ มีพละมาก ก็ด้วยอานุภาพ แห่งบุญกรรมนั้น”      คำปรารภนี้ เป็นวาจาที่เปล่งออกมาด้วยความสุขโสมนัส ในผลแห่งความดีงามที่บังเกิดขึ้นกับพระอรหันต์รูปหนึ่ง เป็นมหาปีติที่ไม่ได้หมายความว่าจะบังเกิดขึ้นได้อย่างง่ายๆ …

อานิสงส์ถวายธูปหอม Read More »

อานิสงส์การเป็นศรีภรรยาที่ดี

อานิสงส์การเป็นศรีภรรยาที่ดี      วันเวลาที่ผ่านไปได้นำเอาความชรามาสู่ตัวเรา  ชีวิตมีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็เสื่อมสลายไป  สิ่งต่างๆ ในโลกไม่ว่าจะเป็นบุตร ธิดา ทรัพย์สินเงินทอง ญาติพี่น้อง ก็ไม่อาจติดตามตัวเราไปสู่ปรโลกได้  มีแต่กุศลผลบุญที่เราสั่งสมไว้ดีแล้วเท่านั้น ที่จะเป็นประดุจเงาติดตามตัวเราไป  ดังนั้นเราต้องตระหนักและแสวงหาหลักของชีวิต ด้วยการสั่งสมบุญบารมีให้เต็มที่ เพราะโอกาสนี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุดในชีวิตของเรา ที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ มาพบพระพุทธศาสนา ได้รู้จักหนทางแห่งความหลุดพ้น  เพราะฉะนั้น อย่าได้ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับสิ่งที่ไร้สาระ  ให้รีบประพฤติปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงที่พึ่งที่ระลึกภายใน คือพระรัตนตรัย ที่จะทำให้ชีวิตเราปลอดภัยและมีความสุขไปทุกภพทุกชาติ มีวาระพระบาลีกล่าวไว้ใน อภิสันทาสูตร ว่า   “มโหทธึ อปริมิตํ มหาสรํ พหุเภรวํ รตนคณานมาลยํ นชฺโช ยถา มจฺฉคณสงฺฆเสวิตา ปุถู สวนฺตี  อุปยนฺติ สาครํ เอวํ นรํ อนฺนทปานวตฺถทํ เสยฺยานิสชฺชตฺถรณสฺส ทายกํ ปุญฺญสฺส ธารา อุปยนฺติ ปณฺฑิตํ นชฺโช ยถา วาริวหาว สาครํ      …

อานิสงส์การเป็นศรีภรรยาที่ดี Read More »

อานิสงส์ถวายม้าอาชาไนย

อานิสงส์ถวายอาหารบิณฑบาต (อภิรูปนันทาเถรี ผู้รักสวยรักงาม บรรลุอรหันต์ด้วยอสุภภาวนา)      การเจริญสมาธิภาวนาเป็นภารกิจหลักของตัวเรา และมนุษย์ทุกๆ คนในโลก ที่จะต้องฝึกฝนใจให้หยุดนิ่ง ถ้าเราหยุดใจได้สนิท หยุดในหยุดลงตรงกลางของกลางธรรมภายในไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเข้าไปถึงที่สุดของกลาง คือ พระธรรมกายที่ละเอียดที่สุด ก็จะยิ่งเพิ่มพูนความบริสุทธิ์บริบูรณ์ขึ้นทุกๆ วัน การทำอย่างนี้เป็นวัตถุประสงค์หลักของเรานักสร้างบารมีทั้งหลาย ที่เกิดมาสร้างบารมี ในใจของเราจะต้องมีความมุ่งมั่น ที่จะทำตนให้เข้าไปถึงกายธรรมภายใน ดังนั้น ให้ขยันหมั่นเพียรในการประพฤติปฏิบัติธรรม เพื่อเป็นการสั่งสมบุญบารมีของเรา ให้ตั้งใจปฏิบัติธรรมกันให้ดี      มีวาระแห่งพระภาษิตที่ตรัสไว้ใน ขุททกนิกาย เถรีคาถา ความว่า      “ดูก่อนนันทา เธอจงเห็นร่างกายอันกระดูก ๓๐๐ ท่อน ยกขึ้นแล้ว อันกระสับกระส่าย ไม่สะอาดเปื่อยเน่า จงอบรมจิตให้ตั้งมั่น มีอารมณ์เดียว ด้วยอสุภภาวนา อนึ่ง เธอจงอบรมจิตอันหานิมิตมิได้ ละเสียซึ่งอนุสัยคือมานะ เพราะการละมานะได้นั้น เธอจักเป็นผู้สงบเที่ยวไป”      พระคาถานี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสกับสาวิกาท่านหนึ่ง ให้รู้แจ้งเห็นจริงถึงความไม่จีรังยั่งยืนของสังขารร่างกาย เพื่อที่จะคลายความยึดมั่นถือมั่น  มุ่งเข้าสู่ภายใน ทำตนให้บริสุทธิ์ผ่องใส เข้าถึงกายธรรมอรหัตที่เที่ยงแท้ถาวร เมื่อเข้าถึงอย่างนี้ได้ก็เท่ากับว่า ชีวิตได้เข้าถึงความเต็มเปี่ยมที่สมบูรณ์ที่สุด …

อานิสงส์ถวายม้าอาชาไนย Read More »

อานิสงส์ถวายน้ำอ้อย

อานิสงส์ถวายน้ำอ้อย (สุธัมมาเทพบุตรอดีตคนเฝ้าไร่อ้อย)      โลกใบนี้เป็นอาณาจักรแห่งความรู้ ที่คอยให้มนุษย์มาศึกษาค้นคว้า ใครจะศึกษาวิชาใด มากน้อยขนาดไหนก็ได้ เพราะขึ้นชื่อว่าการศึกษา ย่อมเป็นสิ่งที่มีคุณค่าต่อชีวิตเสมอ เพียงแต่ว่าจะมีสักกี่คนที่รู้ว่า สุดยอดของวิชาความรู้มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น นั่นคือวิชาความจริงของชีวิต เป็นวิชาที่หากใครยังไม่ได้มาศึกษา ต้องถือว่าตลอดชีวิตที่ผ่านมานั้น ว่างเปล่าจากประโยชน์ ทั้งประโยชน์ในปัจจุบันและประโยชน์ในสัมปรายภพ เป็นชีวิตที่น่าเสียดายที่สุด วิชาความจริงของชีวิต คือการประพฤติธรรม ฝึกใจให้บริสุทธิ์หยุดนิ่ง ให้เข้าถึงพระธรรมกายภายใน อันจะนำมาซึ่งปัญญาที่สว่างไสว และใจที่เปี่ยมด้วยพลังเปี่ยมด้วยความสุข วิชาของชีวิตเป็นวิชาที่เราต้องใส่ใจขวนขวายเรียนรู้ให้ได้เป็นอันดับรก เพราะวิชานี้ คือวิชาเพื่อการดับทุกข์นั่นเอง หากมีวิชานี้ติดตัวไป ย่อมปลอดภัยทั้งภัยในปัจจุบันและภัยในสังสารวัฏอย่างแน่นอน มีวาระพระบาลีที่ปรากฏใน ขุททกนิกาย เถรคาถา ว่า “อโมฆํ ทิวสํ กยิรา      อปฺเปน พหุเกน วา ยํ ยํ วิวหเต รตฺติ        ตทูนนฺตสฺส ชีวิตํฯ        ควรทำวันและคืนไม่ให้เปล่าประโยชน์ จะน้อยหรือมากก็ตาม เพราะวันคืนผ่านบุคคลใดไปแล้ว ชีวิตของบุคคลนั้นย่อมพร่องจากประโยชน์นั้น”      เวลาในชีวิตของมนุษย์นั้นมีอยู่จำกัด เมื่อหมดแล้วก็หมดเลย ไม่มีการต่อเวลา ชีวิตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน …

อานิสงส์ถวายน้ำอ้อย Read More »

อานิสงส์ถวายอาหารบิณฑบาต

อานิสงส์ถวายอาหารบิณฑบาต (อภิรูปนันทาเถรี ผู้รักสวยรักงาม บรรลุอรหันต์ด้วยอสุภภาวนา)      การเจริญสมาธิภาวนาเป็นภารกิจหลักของตัวเรา และมนุษย์ทุกๆ คนในโลก ที่จะต้องฝึกฝนใจให้หยุดนิ่ง ถ้าเราหยุดใจได้สนิท หยุดในหยุดลงตรงกลางของกลางธรรมภายในไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเข้าไปถึงที่สุดของกลาง คือ พระธรรมกายที่ละเอียดที่สุด ก็จะยิ่งเพิ่มพูนความบริสุทธิ์บริบูรณ์ขึ้นทุกๆ วัน การทำอย่างนี้เป็นวัตถุประสงค์หลักของเรานักสร้างบารมีทั้งหลาย ที่เกิดมาสร้างบารมี ในใจของเราจะต้องมีความมุ่งมั่น ที่จะทำตนให้เข้าไปถึงกายธรรมภายใน ดังนั้น ให้ขยันหมั่นเพียรในการประพฤติปฏิบัติธรรม เพื่อเป็นการสั่งสมบุญบารมีของเรา ให้ตั้งใจปฏิบัติธรรมกันให้ดี      มีวาระแห่งพระภาษิตที่ตรัสไว้ใน ขุททกนิกาย เถรีคาถา ความว่า      “ดูก่อนนันทา เธอจงเห็นร่างกายอันกระดูก ๓๐๐ ท่อน ยกขึ้นแล้ว อันกระสับกระส่าย ไม่สะอาดเปื่อยเน่า จงอบรมจิตให้ตั้งมั่น มีอารมณ์เดียว ด้วยอสุภภาวนา อนึ่ง เธอจงอบรมจิตอันหานิมิตมิได้ ละเสียซึ่งอนุสัยคือมานะ เพราะการละมานะได้นั้น เธอจักเป็นผู้สงบเที่ยวไป”      พระคาถานี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสกับสาวิกาท่านหนึ่ง ให้รู้แจ้งเห็นจริงถึงความไม่จีรังยั่งยืนของสังขารร่างกาย เพื่อที่จะคลายความยึดมั่นถือมั่น  มุ่งเข้าสู่ภายใน ทำตนให้บริสุทธิ์ผ่องใส เข้าถึงกายธรรมอรหัตที่เที่ยงแท้ถาวร เมื่อเข้าถึงอย่างนี้ได้ก็เท่ากับว่า ชีวิตได้เข้าถึงความเต็มเปี่ยมที่สมบูรณ์ที่สุด …

อานิสงส์ถวายอาหารบิณฑบาต Read More »

อานิสงส์ถวายพวงมาลัย

อานิสงส์ถวายพวงมาลัย      ดวงใจที่สะอาดบริสุทธิ์ หยุดนิ่งอยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ เป็นใจที่มีพลานุภาพมหาศาล สามารถที่จะยังความปรารถนาให้สำเร็จได้ และจะดำเนินเข้าสู่ชีวิตอันประเสริฐ คือ เส้นทางสายกลางได้อย่างง่ายดาย ทางสายกลางนี้เป็นเส้นทางที่พระอริยเจ้าทั้งหลาย ดำเนินเข้าไปจนกระทั่งหลุดพ้นจากกิเลสอาสวะทั้งปวง ใจที่หยุดนิ่งดีแล้วเท่านั้น จึงจะอยู่ในเส้นทางสายนี้ได้ และจะเข้าถึงความสุขที่เที่ยงแท้ถาวรอันเป็นอมตะ ไม่มีทุกข์เจือปนเลย การทำใจให้หยุดนิ่งนี้ จึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่งของมนุษย์ทุกๆคนที่จะต้องประพฤติปฏิบัติ ดังนั้นให้ทุกท่านหมั่นทำใจหยุดใจนิ่งกันทุกๆวัน มีวาระพระบาลีที่ปรากฏอยู่ใน ปภัสสรวิมาน ความว่า      “ทวยเทพผู้มีศรัทธา คือ เชื่อในพระพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ และสังฆรัตนะ  ย่อมรุ่งโรจน์กว่าดิฉัน โดยอายุ ยศ สิริ ทวยเทพเหล่าอื่นผู้มีศรัทธาก็ยิ่งยวดกว่า โดยอำนาจ วรรณะ และมีฤทธิ์มากกว่าดิฉัน”      ถ้อยคำที่หลวงพ่อนำมากล่าวอันปรากฏอยู่ในพระคาถานี้ ไม่ใช่ถ้อยคำของบุคคลธรรมดา แต่เป็นคำกล่าวของนักสร้างบารมีท่านหนึ่ง ซึ่งกล่าวออกมาในทำนองที่แสดงความเสียดายอยู่ในใจลึกๆ ที่เมื่อครั้งตนเองมีโอกาสสร้างบารมีอยู่นั้น ไม่ได้เพิ่มพูนบารมีให้กับตัวเองอย่างเต็มที่ ได้ปล่อยโอกาสให้ผ่านไปแล้วก็มาเปล่งถ้อยคำแสดงความเสียดายในภายหลัง แต่ก็เป็นคำกล่าวที่ยืนยันหนักแน่นเช่นเดียวกันว่า  ใครก็ตามที่มีศรัทธามั่นคงในพระรัตนตรัยแล้ว ผู้นั้นก็ย่อมจะรุ่งเรืองด้วยบุญบารมีอย่างไม่มีประมาณ      * เหตุการณ์ที่หลวงพ่อกล่าวถึงนี้ ได้เกิดขึ้นเมื่อครั้งสมัยพุทธกาล  ตอนนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ที่กรุงราชคฤห์ พร้อมด้วยพระอริยสาวกเป็นจำนวนมาก ก็ได้อาศัยอยู่ในกรุงราชคฤห์พร้อมกับพระบรมศาสดา ประชาชนในกรุงราชคฤห์ …

อานิสงส์ถวายพวงมาลัย Read More »

อานิสงส์ถวายประทีป

อานิสงส์ถวายประทีป (พระเอกทีปิยเถระ)      มนุษย์มีความแตกต่างกันในหลายๆสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นอุปนิสัยใจคอ สติปัญญา  ความรู้ ความสามารถ ชีวิตความเป็นอยู่ เนื่องจากตาละคนได้รับการหล่อหลอมมาต่างกัน อีกทั้งสิ่งที่สั่งสมมาในอดีตก็ไม่เหมือนกัน  เพราะมีบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ฉากหลัง ทำให้เกิดความแตกต่างกัน  สิ่งนั้นก็คือบุญและบาป ซึ่งเราจะเข้าใจหรือไปรู้ไปเห็นสิ่งเหล่านี้ได้  ต่อเมื่อเข้าถึงธรรมกาย และได้ศึกษาวิชชาธรรมกายจึงจะรู้เห็นสิ่งเหล่านี้ได้แจ่มแจ้ง นี่คือความลึกซึ้งของพระพุทธศาสนา ที่เป็นสุดยอดของความรู้ทั้งปวง จะทำให้เรารู้เห็นเรื่องภพภูมิ เรื่องกฎแห่งกรรมได้อย่างละเอียดลึกซึ้ง ความรู้ชนิดนี้  เป็นความรู้อันบริสุทธิ์ที่กำลังรอคอยผู้มีบุญให้มาพิสูจน์ ขอเพียงหยุดใจให้ได้  เมื่อหยุดใจได้ก็สามารถรู้ได้ และช่วยให้เราพ้นทุกข์ได้อีก มีพุทธพจน์บทหนึ่งที่มาในมงคลสูตรว่า  “ปูชา จ ปูชนียานํ  เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ การบูชาบุคคลผู้ควรบูชาเป็นมงคลอย่างยิ่ง”      การบูชา คือการแสดงออกในลักษณะของความเลื่อมใสศรัทธา มีการยกย่องเชิดชู ทั้งทางกาย วาจาและใจ ด้วยความนอบน้อมทั้งต่อหน้าและลับหลัง  การแสดงต่อหน้า เป็นการแสดงออกถึงความเคารพและตระหนักในคุณธรรมความดีของบุคคลที่เราบูชาอย่างจริงใจ  ส่วนการแสดงอาการบูชาลับหลัง เป็นการเตือนใจตัวเราเอง  ให้ผูกใจไว้กับคุณธรรมอันสูงส่งของท่าน ก่อให้เกิดความรู้สึกอยากจะฝึกตัวให้ได้อย่างท่าน เป็นการยกใจของเราให้สูงขึ้นเรื่อยๆ  การบูชาเป็นกุศโลบายในการฝึกฝนใจที่ยังหยาบกระด้าง  ยังไม่อาจยอมรับคุณธรรมของใคร ให้กลับกลายเป็นผู้มีอัธยาศัยอ่อนโยน  ใจละเอียดอ่อนและนุ่มนวลตามท่านด้วย      โดยเฉพาะการได้บูชาบุคคลผู้ควรบูชา  ผู้กระทำการบูชาย่อมได้รับสิ่งที่เป็นสิริมงคลเข้ามาสู่ตัว  เพราะผู้บูชาย่อมได้รับการบูชาตอบ  การเลือกนับถือและบูชาบุคคลที่ควรบูชากราบไหว้ …

อานิสงส์ถวายประทีป Read More »